บทที่ 1 ลงเขาไปลูกสาว (รีไรท์)

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 1 ลงเขาไปลูกสาว (รีไรท์)

บทที่ 1 ลงเขาไปลูกสาว (รีไรท์)

สายลมหนาวพัดผ่าน หิมะโปรยปรายไปทั่วท้องฟ้า

ร่มกระดาษน้ำมันสีเหลืองคันโทรมปรากฏขึ้นที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปินในเมืองจินหลิง คนที่ถือร่มเป็นชายหนุ่มผมยาวยุ่งเหยิงและคิ้วรูปทรงดาบ

เขามีรูปร่างทั้งสูงและผอมเพรียว สวมชุดเสื้อคลุมจีนโบราณ ถือไม้เท้ามังกรทองแดงอยู่ในมือ และสะพายเป้ใบใหญ่

ริมฝีปากได้รูปกำลังคลี่ยิ้ม

เมื่อมองไปที่ป้าย ‘โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปิน’ ฟันที่ขาวสะอาดของเขามีประกายเล็กน้อยภายใต้รอยยิ้มสดใส

“สหาย ความสงบคือสิ่งสำคัญที่สุด ทำไมคุณต้องทำเช่นนี้” โจวอี้ถอนสายตาพลางเหลือบมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งทั้งสี่ที่ขดตัวอยู่ในหิมะรอบตัวเขา และเก็บเข็มเงินสองเล่มที่เหลืออย่างเงียบเชียบ

เขาออกจากภูเขาชางหลาง และหมู่บ้านวัดโจวที่เขาอาศัยอยู่มา 22 ปี

มันเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน…

เขามาที่นี่เพื่อตามหาลูกสาว

แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่เคยเห็นลูกสาวของตัวเองมาก่อน แต่เมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับเธอเมื่อสองสามวันก่อนและได้รูปถ่ายของเธอมา รอยยิ้มอ่อนโยนและสดใสของเธอก็หลอมละลายหัวใจของเขา

“ผมจะถามคุณอีกครั้ง ลูกสาวของผมเรียนที่นี่หรือเปล่า” โจวอี้ยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่กลับหยิบเข็มอีกเล่มหนึ่งออกมา

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่ตัวสั่นสะท้านเมื่อเห็นเข็ม

เข็มเงินสองสามเล่มสามารถแสดงทักษะอันโหดร้ายราวกับปีศาจได้อย่างไร?

แม้ว่าการถูกทิ่มแทงจะเจ็บปวด แต่ก็น่าสยดสยองมากกว่าหากสูญเสียการควบคุมร่างกาย!

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เกษียณจากการต่อสู้พร้อมกับทหารที่ยอดเยี่ยมในกองทัพทำได้เพียงนอนแน่นิ่งหมดสภาพอยู่ในหิมะ เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถามด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เราไม่รู้ว่าลูกสาวคุณเป็นใคร เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอเรียนที่นี่รึเปล่า”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวอี้ตบหัวของตัวเอง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหุบลง เอ่ยขอโทษและพูดเบา ๆ ว่า “ผมขอโทษจริง ๆ อาจารย์ของผมมักจะบอกว่า ผมเป็นคนฉลาดและสับสนอยู่ช่วงหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงยอมรับผมเป็นลูกศิษย์ของเขา ผมคิดว่าประโยคนี้ค่อนข้างเหมาะสมที่จะอธิบายตัวตนของผม”

ขณะที่เขาพูดก็กระแอมในลำคอ และจากนั้นเปลี่ยนท่าทางให้ดูเคร่งขรึมลงเล็กน้อย แต่คำพูดยังแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจอันแรงกล้า “ลูกสาวของผมชื่อว่าถังเหมียวเหมี่ยว”

“อะไรนะ?!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาวุโสตกตะลึง และใบหน้าของอีกสามคนก็มืดลง

ถังเหมียวเหมี่ยว?!

ลูกสาวของเขา?!

ชายคนนี้กำลังล้อเล่นหรือเปล่า?! หรือสมองของเขาจะกระทบกระเทือน?!

ทุกคนในโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปินรู้ว่าถังเหมียวเหมี่ยวเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของดาราดังอย่าง ‘ถังหว่าน’ เธอเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่ทุกคนชื่นชอบที่สุดในโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปิน!

โจวอี้ส่ายเข็มเงินตรงหน้าแล้วถามเคล้ารอยยิ้มว่า “หูหนวกหรือเปล่า ไม่เป็นไร ผมเป็นแพทย์แผนจีน การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาหูที่ดีที่สุดเลยนะครับ”

“อ่า ใช่ครับ! ใช่ครับ! ถังเหมียวเหมี่ยวเป็นนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลของเรา”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่งตะโกนด้วยความตกใจ

“โอ้เยี่ยม! ผมมาถูกที่แล้ว”

โจวอี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว และทันใดนั้น ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก จึงหันกลับมาหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ขณะเดินเข้าไปข้างในก็พึมพำเสียงเบาว่า “เราจะทำกระเป๋าหายได้ แต่จะลืมของขวัญที่นำมาให้ลูกสาวไม่ได้ ถุงที่นี่เต็มไปด้วยความรักของพ่อ…”

“เสี่ยวหลี่ โทร…แจ้งตำรวจ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาวุโสกระซิบ

โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ นอกจากอาคารสี่ชั้นแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงทุกประเภทล้วนครบครัน

หลังจากโจวอี้เข้ามาก็เห็นเด็ก ๆ หลายคนใบหน้ายิ้มแย้มวิ่งไล่กัน และเด็ก ๆ หลายคนก็ออกกำลังกายและเต้นตามการนำของคุณครู

“กฎข้อที่ 3 ในการออกจากภูเขาของตระกูลโจว ‘อ้าปากแล้วถามถ้าไม่รู้’”

“กฎข้อที่ 4 ในการออกจากภูเขาของตระกูลโจว ‘เมื่อคุณสื่อสารกับผู้อื่น คุณควรยิ้มก่อน แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล พูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ และแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนใจดี’”

โจวอี้ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว เขากวาดสายตามองหาครูคนหนึ่ง และในที่สุดก็จับจ้องไปที่ครูหญิงสาวคนหนึ่ง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นเดินไปหาเธอ

“สวัสดีครับ ครูคนสวย ผมเป็นผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง ขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหมครับ?”

“สวัสดีค่ะ สวัสดี…” ฉู่ซีซีหันกลับมาและเห็นหน้าโจวอี้ หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาและหวานละมุ่น

เดี๋ยว!

เขาพูดว่าอะไรนะ?

เขาเป็นผู้ปกครองเด็กงั้นเหรอ?!

แต่งงานแล้ว?!

ฉู่ซือซือไม่รู้ว่าหมูตัวดีตัวนี้ถูกล่อลวงด้วยกะหล่ำปลีชนิดใด และในขณะที่รู้สึกสับสนเล็กน้อย ก็พูดอย่างเงียบ ๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้น คุณช่วยพูดใหม่อีกครั้งได้ไหมคะ”

“ผมเป็นพ่อของถังเหมียวเหมี่ยว คุณช่วยยผมได้ไหมว่าเธออยู่ที่ไหน” โจวอี้ ถามด้วยรอยยิ้ม

“ด้านในสุดของชั้นสองของอาคารนั้นเป็นชั้นของถังเหมียวเหมี่ยว!” ฉู่ซือซือ ยกแขนขึ้นและใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีที่เธอพูดจบ

พ่อของถังเหมียวเหมี่ยวเหรอ?

ถังเหมียวเหมี่ยวมาจากครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ใช่เหรอ?

พ่อคนนี้มาจากไหน?

ฉู่ซือซือจ้องไปที่โจวอี้ด้วยดวงตาเบิกกว้าง พยายามค้นหาว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงหรือไม่

“คุณผู้หญิง ขอบคุณนะครับ!” ดวงตาของโจวอี้ เป็นประกาย และเขาก็พุ่งไปที่บันไดด้วยความเร็วสูง

ปัง…!

ประตูห้องเรียนถูกผลักเปิดออกอย่างแรงโดยโจวอี้ เมื่อเขาเห็นว่ามีเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ บอบบางนั่งอยู่ในแถวที่สองของห้องเรียน และอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่หัวใจของเขาก็บีบรัด

มันคือเธอ!

เธอเป็นลูกสาวของเขา!

เหมือนมาก!

ร่างกายของโจวอี้สั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาดูเหมือนจะถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็ก สายตาจับจ้องไปที่ลูกสาวซึ่งเกือบจะเหมือนกับในภาพที่ได้มา ลำคอของเขาถึงกับตีบตัน และริมฝีปากของเขาเผยอออก แม้ว่าเขาจะเตรียมใจมานับพันครั้ง แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ในเวลานี้

“คุณคือใคร?” ถังเหมียวเหมี่ยวเงยหน้าพูดกับเขา

“เหมียวเหมี่ยว พ่อคือพ่อของหนูไง” โจวอี้เดินไปที่ถังเหมียวเหมี่ยวทีละก้าว เขาวางร่มและกระเป๋าเป้ลงย่อตัวนั่งลงช้า ๆ

นี่คือลูกสาวของฉัน!

เธอดูเหมือนเขา แต่เหมือนแม่ของเธอมากกว่า เป็นเด็กหญิงที่มีใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตา

“คุณโกหก พ่อของหนูเรียนอยู่บนภูเขา เขาจะไม่มาหาเหมียวเหมี่ยวจนกว่าหนูจะโต” ถังเหมียวเหมี่ยวขมวดคิ้วและส่ายหัว

“เหมียวเหมี่ยว พ่อเรียนรู้ทักษะล่วงหน้าเลยมาพบลูกเร็วขึ้น ให้พ่อกอดหน่อยได้ไหม?” โจวอี้พูดอย่างมีความหวัง

“คุณเป็นพ่อของหนูจริง ๆ เหรอคะ? คุณจะพิสูจน์อย่างไร?” ถังเหมียวเหมี่ยวถามอย่างไร้เดียงสา

“พ่อมีรูปถ่ายของลูก แม่ของลูกชื่อถังหว่าน อ้อ พ่อมีบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน พ่อจะโชว์ให้หนูดู” ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขา โจวอี้ดึงเอกสารออกมาแล้วยื่นให้ ถังเหมียวเหมี่ยว

“คุณชื่อโจวอี้? ถ้าคุณเป็นพ่อของหนู แล้วทำไมแซ่ของหนูคือถัง และแซ่ของคุณคือ โจว?” ถังเหมียวเหมี่ยวเอียงศีรษะและถามด้วยความสงสัย

“เพราะหนูใช้แซ่ของแม่ เมื่อพ่อเจอลูกแล้ว พ่อจะให้ลูกใช้นามสกุลของพ่อ… ไม่สิ ลูกควรใช้นามสกุลของพ่อ” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“จริงเหรอ?” ถังเหมียวเหมี่ยวถามด้วยความสงสัย

“ใช่ มันเป็นความจริง” โจวอี้พยักหน้าอย่างจริงจัง

ถังเหมียวเหมี่ยวจู่ ๆ ก็หัวเราะคิกคัก แม้ว่าเสียงจมูกของเธอจะหนักและเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นหวัด แต่เธอก็มีความสุขมาก เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณลุง หนูไม่ใช่เด็กแล้ว อย่าโกหกหนู!”

โจวอี้พูดไม่ออก ปรากฏว่าคำอธิบายของเขาไร้ประโยชน์เสียแล้ว

ในเวลานี้ ครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลได้ทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกคนทำร้ายพร้อมกับบุกเข้ามาให้โรงเรียน และต้องการจะพบกับถังเหมียวเหมี่ยว

ดังนั้น ขณะที่เธอจัดเตรียมครูชายหกหรือเจ็ดคนในโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เธอจึงกดหมายเลขโทรศัพท์ของดาราชื่อดังถังหว่านอย่างรวดเร็ว