ตอนที่ 31 ไม่เอาถึงตาย!

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของจางผิงก็ถึงกับเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าฉินเสี่ยวยู่จะกล้าทำอะไรเปิดเผยเช่นนี้!
ในขณะที่หลินหนานซึ่งจู่ๆ ก็ถูกดึงเข้าไปร่วมในเกมเช่นนี้ ก็ถึงกับบ่นอุบอิบอยู่ในใจ..
ฉินเสี่ยวยู่ทำบ้าอะไรกัน? ทำไมต้องลากผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย?
ผมเป็นผู้ชายที่แต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ!
จะให้ผมทำเรื่องที่ผิดต่อภรรยาแบบนี้ได้ยังไงกัน?
แต่หลังจากที่ความรู้สึกผิดประเดประดังมาได้ไม่นานนัก หลินหนานก็ตัดสินใจได้ทันที!
เขารีบโอบร่างที่มีกลิ่นหอมของฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับเอนใบหน้าซบลงบนหน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว และแนบแน่น
ในเมื่อคุณอยากให้ผมแสดงละคร.. ผมก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!
แทบไม่ต้องบรรยาย.. ฉินเสี่ยวยู่เพิ่งจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวมาใหม่ และดูเหมือนเธอจะฉีดน้ำหอมมาเต็มที่ ร่างกายของเธอจึงได้มีกลิ่นหอมอย่างมาก
อีกทั้งเธอเองก็เป็นหญิงสาวร่างอวบ สัมผัสที่หลินหนานได้รับนั้นจึงทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียว
หลินหนานได้โอบกอบแนบชิดเช่นนั้น แทบไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะมีความสุขมากเพียงใด..
ฉินเสี่ยวยู่ได้แต่นิ่งไปด้วยความตกตะลึง และได้แต่รู้สึกว่า หมอนี่ช่างฉวยโอกาสเก่งนัก!
ฉันแค่ขอให้นายเล่นเป็นแฟนฉัน แต่ไม่จำเป็นต้องเล่นสมจริงสมจังขนาดนี้ก็ได้
ทำไมต้องกอดฉันซะแนบแน่นขนาดนี้ด้วย?
นายนี่มันช่างฉวยโอกาสจริงๆ!
ฉินเสี่ยวยู่อยากจะเอื้อมมือไปแกะอ้อมแขนที่เหนียวเป็นปลาหมึกของหลินหนานออก แต่ก็กลัวว่าความจริงจะเปิดเผยออกมา เธอจึงได้แต่ปล่อยให้หลินหนานแนบชิดเช่นนั้นต่อไป ในขณะที่เธอเองก็หน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึง
และเพียงแค่การแสดงเพียงเล็กๆน้อยของฉินเสี่ยวยู่กับหลินหนาน ก็ได้กลายเป็นภาพคู่รักที่หวานดูดดื่มในสายตาของจางผิงแล้ว
จางผิงหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ภายในใจของเขานั้นรุ่มร้อนราวกับถูกเปลวไฟแผดเผา!
ฉินเสี่ยวยู่.. นางผู้หญิงใจง่าย!
ตอนที่เราสองคนคบกัน เธอไม่ยอมให้ฉันจับแม้แต่มือ เรื่องจูบหรืออะไรที่มากกว่านั้น จึงแทบไม่ต้องพูดถึง!
แล้วนี่อะไร?!!
ไม่เพียงสองคนกอดกันกลมต่อหน้าฉัน แต่สีหน้ายังดูมีความสุขมากด้วย แค่มองด้วยหางตาก็รู้แล้วว่าเธอมันง่ายแค่ไหน
นางผู้หญิงสำส่อน!
จางผิงพยายามระงับโทสะที่พุล่งพล่านของตนเองไว้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ที่แท้ก็เป็นแฟนของคุณนี่เอง ขอโทษด้วยที่เมื่อครู่ผมเสียมารยาท สวัสดีครับ.. ผมชื่อจางผิง”
จางผิงเป็นฝ่ายยื่นมืออกไปทักทายหลินหนานตามธรรมเนียมตะวันตก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลินหนานไม่เพียงไม่ยอมจับมือทักทายเขา มิหนำซ้ำยังแกล้งถามเขากลับว่า
“อะไรนะ?! เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไร พอดีผมแก่มากแล้ว หูก็เลยไม่ค่อยดี..”
จางผิงคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายตรงหน้าเขาจะไร้มารยาทได้ถึงเพียงนี้ เขาจึงได้แต่ชักมือกลับด้วยท่าทีเก้อเขิน
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้ว เชิญพวกคุณสองคนตามสบาย..”
จากนั้น จางผิงก็เดินหน้าบูดบึ้งออกไปพร้อมกับอ้ายเฉวี่ยแฟนสาว และเดินไปนั่งที่โต๊ะถัดจากทั้งคู่ไปอีกสองสามโต๊ะ
หลังจากที่มั่นใจว่าจางผิงไม่สนใจพวกตนสองคนแล้ว ฉินเสี่ยวยู่จึงรีบกระซิบบอกหลินหนานว่า
“หลินหนาน ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันหายใจไม่ออก!”
หลินหนานคลายอ้อมแขนของตนเองออกอย่างไม่เต็มใจนัก พร้อมกับตอบไปว่า “ต่อไปถ้าอยากให้ผมร่วมทำอะไรแบบนี้อีก กรุณาบอกผมล่วงหน้าด้วย กะทันหันแบบนี้ผมคิดบทไม่ทัน ไม่อย่างนั้นจะแสดงให้แนบเนียนกว่านี้อีก”
ฉินเสี่ยวยู่ได้แต่อึ้งไป..
คิดบทเพิ่ม และแสดงให้แนบเนียนกว่านี้อย่างนั้นเหรอ?
เมื่อครู่ยังไม่แนบเนียนพอหรือยังไง?
ฉันว่านายสมควรได้รับรางวัลออสการ์มากกว่า เมื่อครู่กอดฉันจนแทบหายไม่ออก!
“รีบๆกินเข้าไปได้แล้ว!” ฉินเสี่ยวยู่ตอบหลินหนานกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ
หลินหนานเห็นฉินเสี่ยวยู่เอาแต่ใช้ตะเกียบเขี่ยผักในจานไปมา จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า
“เป็นอะไรไป? อย่าบอกนะว่าเห็นแฟนเก่ามากับแฟนใหม่ คุณก็เลยกินอะไรไม่ลง..”
“ผู้ชายกากๆ!” ฉินเสี่ยวยู่ทำกร่นด่าหลินหนานทันที
หลินหนานถึงกับตกใจ และได้แต่คิดในใจว่า ฉินเสี่ยวยู่เป็นหญิงสาวที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว เขาเพิ่งจะช่วยแกล้งเป็นแฟนให้กับเธอ แต่เธอกลับมาด่าว่าเขาเป็นผู้ชายกากๆอย่างนั้นเหรอ?!
“ฉันจะบอกอะไรให้.. เมื่อสองปีก่อนฉันเป็นคนบอกเลิกจางผิงเอง ไม่ว่าเขาตามง้อขอคืนดียังไงฉันก็ไม่ใจอ่อนต่างหากล่ะ” ฉินเสี่ยวยู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ายังโกรธอยู่
“ก็แค่ผู้ชายกากๆจริงๆ!” หลินหนานช่วยด่า
แต่ในใจของเขากลับคิดว่า ‘จางผิงนะจางผิง.. ถ้าไม่มีปัญญาจัดการผู้หญิงในฮาเร็มของตัวเองให้ดีได้ ก็ไม่น่าริที่จะเจ้าชู้!’
“แล้วคุณเปลืองตัวให้ไอ้ผู้ชายกากๆนั่นหรือยัง?” หลินหนานเอ่ยถามออกไปตามตรง
“ไม่อยู่แล้ว! ฉันจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับผู้ชายห่วยๆนั่นได้ยังไง? แม้แต่มือของฉันเขายังไม่ได้แตะน้อง!” ฉินเสี่ยวยู่ส่ายหน้าพร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็ง
“เยี่ยมมาก! คุณไม่ควรทำตัวง่ายๆกับผู้ชายเส็งเคร็งพรรณนี้!” หลินหนานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“หลินหนาน.. ฉันอิ่มแล้ว! พวกเรากลับกันดีกว่า” ฉินเสี่ยวยู่บอกกับหลินหนาน
“ไม่ได้! พวกเรายังไปไหนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคุณจะกลายเป็นผู้แพ้ในสายตาของผู้ชายห่วยแตกนั่น!” หลินหนานส่ายหน้า
“ฉันไม่เข้าใจ?”
ฉินเสี่ยวยู่จ้องมองหลินหนาน และไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันแน่?
“นี่คุณ!! หมอนั่นจงใจควงแฟนใหม่มาแนะนำให้คุณรู้จัก ก็เพราะมันต้องการอวดว่า ตอนนี้มันมีชีวิตที่ดี แล้วก็มีความสุขมากขนาดไหนยังไงล่ะ?”
หลินหนานยังคงวิเคราะห์ให้ฉินเสี่ยวยู่ฟังอย่างจริงจัง “ในเมื่อหมอนั่นต้องการแบบนั้น คุณก็อย่าให้มันสมหวัง คุณต้องแสดงให้หมอนั่นเห็นว่าคุณมีชีวิตที่ดีกว่า และมีความสุขมากกว่าหลายเท่า..”
“แล้วฉันควรทำยังไง?” ฉินเสี่ยวยู่ขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ
และแน่นอนว่า.. หากผู้หญิงคิดที่จะเอาคืน มันจะน่ากลัวมากกว่าหลายเท่านัก!
ฉินเสี่ยวยู่เองก็ไม่ต้องการเห็นจางผิงแสดงท่าทางยะโสโอหังกับเธออีก เธอรู้แล้วว่าหลินหนานไม่ใช่พวกมือใหม่ทำอะไรไม่เป็น จึงได้เปิดใจฟังคำแนะนำของเขาอย่างเต็มที่
“ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก..”
หลินหนานทำตัวเหมือนเป็นคนนอก และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นแฟนกัน กับผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นเพื่อนกัน คุณว่าการแสดงออกจะแตกต่างกันมั๊ย?”
“แล้วคนที่เป็นแฟนกัน พวกเขาต้องทำยังไงกันเหรอ?” ฉินเสี่ยวยู่เอ่ยถามด้วยท่าทีเขินอาย
และเวลานี้เธอก็ดูถ่อมเนื้อถ่อมตัวกับหลินหนานอย่างมาก..
“ขอเวลาผมคิดแป๊บ..” หลินหนานเชิดหน้าขึ้นทำท่าทางครุ่นคิด โดยมีฉินเสี่ยวยู่นั่งจ้องมองอย่างตั้งอกตั้งใจ
“เอางี้!! คุณป้อนอาหารให้ผม..” หลินหนานกระซิบบอกทันที
“ห๊ะ?!!” ฉินเสี่ยวยู่จ้องมองด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
นายไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วก็ไม่ใช่ผู้ป่วยที่นอนแน่นิ่งเป็นผักสักหน่อย มือก็ไม่ได้พิการ ทำไมฉันต้องป้อนนายด้วย?
“ยังจะสงสัยอีก? ไม่เคยเห็นหรือยังไง.. คนที่เป็นแฟนกันเค้าก็ป้อนอาหารให้กันทั้งนั้นล่ะ!” หลินหนานกระซิบบอก
ต้องทำถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?
หมอนี่ท่าทางอยากจะก่อสงครามจริงๆ!
“ก็ได้ๆ ลองดูก็ได้!”
ฉินเสี่ยวยู่กลัวหลินหนานจะไม่พอใจ จึงรีบใช้ตะเกียบคีบผักในจานป้อนใส่ปากของเขาทันที
หลินหนานรีบอ้าปาก และทำสีหน้าท่าทางเคี้ยวอาหารอย่างมีความสุข..
ผู้หญิงก็สวย อาหารก็รสชาติล้ำเลิศ!
ห๊ะ?!!
ระหว่างที่กำลังเคี้ยวผักที่ฉินเสี่ยวยู่คีบให้นั้น หลินหนานก็เริ่มรู้สึกเผ็ดขึ้นมากจนผิดปกติ!
ผักอะไร?! ทำไมเผ็ดขนาดนี้?!
หลินหนานถึงกับเผ็ดร้อนไปทั้งปากจนใบหน้าแดงก่ำ และรีบร้องขอน้ำทันที
“น้ำ.. ขอน้ำให้ผมที!”
ฉินเสี่ยวยุ่รีบส่งขวดน้ำเปล่าให้ หลินหนานรีบเปิดขวดออก แล้วกระดกเข้าปากทันที ความเผ็ดร้อนในปากจึงค่อยเบาบางลงไปบ้าง
“นี่คุณคีบอะไรให้ผมกิน?!!” หลินหนานกระซิบถามทันที
ฉินเสี่ยวยู่รีบก้มลงมองทันที แล้วเธอก็ถึงกับหน้าแดง เมื่อพบว่าเมื่อครู่เธอคีบพริกใส่เข้าไปในปากของหลินหนาน
อาหารจานนี้เป็นอาหารหูหนานที่ขึ้นชื่อเรื่องของรสชาติที่จัดจ้าน และเมนูนี้ก็คือ ‘เนื้อผัดพริกปีศาจ!’ และพริกที่นำมาใช้ปรุงอาหารจานนี้ ก็เป็นพริกชนิดที่มีความเผ็ดอย่างมาก
“ฉันขอโทษ..” ฉินเสี่ยวยู่รีบเอ่ยขอโทษหลินหนานทันที
หลินหนานถึงกับพูดไม่ออก และล้มเลิกความคิดที่จะให้อีกฝ่ายป้อนอาหารตนเองอีกเลย..
เฮ้อ.. ให้ผู้หญิงป้อนอาหารให้นี่อันตรายชะมัด!
ฉินเสี่ยวยู่ อาหารที่คุณกินเข้าไปคงจะไปบำรุงหน้าอกหน้าใจหมดสินะ ถึงไม่เหลือไปเลี้ยงสมองเลย!
แต่นับว่าได้ผล.. เพราะจางผิงที่นั่งอยู่ห่างไปสองสามโต๊ะนั้นมองเห็น และนั่นทำให้เขาโกรธมากจนถึงกับต้องกระแทกตะเกียบในมือลงกับโต๊ะ
ไอ้เวรเอ๊ย!!!
หมาขี้เรื้อนกับหญิงสาวกำลังพรอดรักกันอย่างเปิดเผย!!
ฉันไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!
ใบหน้าของจางผิงบูดบึ้ง เขาอารมณ์เสียอย่างมาก จนทำให้อาหารตรงหน้ารสชาติเสียหมด!
จางผิงหันไปเห็นเหล้าที่มีแอลกอฮอล์บริสุทธิ์สูงมากยี่ห้อหนึ่ง เขาจึงคิดแผนการอะไรบางอย่างขึ้นได้ และถึงกับแสยะยิ้มออกม
แกเสร็จฉันแน่!
แต่ฉันจะไม่เอาแกถึงตายหรอกนะ!