ตอนที่ 32 เจอเพื่อนเก่า

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 32 เจอเพื่อนเก่า

วันนี้สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางก็ยังคงให้ความสนใจกับการแข่งขันความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนเช่นเคย

เหลียงหย่งเอ่ยขึ้น “หากกล่าวว่าการสอบรอบคัดเลือกครั้งก่อนนั้นเป็นการคัดผู้เข้าแข่งขันเบื้องต้น เช่นนั้นการสอบรอบระดับมณฑลนี้ก็คงเป็นทางการมากขึ้นนะครับ อีกอย่าง ทั้งความรู้และความยากในรอบนี้ก็เพิ่มขึ้นจากรอบก่อนมาก เพราะฉะนั้นนี่คงไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับผู้เข้าแข่งขันเท่าไหร่นะครับ”

ฉีปิงพยักหน้า “และในครั้งนี้ กรรมการตรวจข้อสอบก็มาจากการคัดเลือกโดยสำนักงานการจัดการแพทย์แผนจีนแห่งชาติ ซึ่งจะถูกสุ่มให้ไปยังมณฑลต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างกันของแต่ละเขตการสอบ ทำให้ผลคะแนนมีความน่าเชื่อถือและตรงกันมากที่สุดค่ะ และจะประกาศผลคะแนนภายในหนึ่งวัน ซึ่งก็คือบ่ายวันพรุ่งนี้นั่นเองค่ะ ทั้งสะดวกและรวดเร็วจริงๆ นะคะ ผลคะแนนของทุกคนจะถูกประกาศ พอถึงตอนนั้น เราก็จะเห็นชื่อของตนเองบนลำดับรายชื่อผู้เข้าแข่งขันรอบระดับประเทศค่ะ”

เหลียงหย่งหันมาพยักหน้าบ้าง “แน่นอนครับ ตอนนี้ ‘คุณ 0055’ ไอดอลตัวน้อยของคุณก็คงกำลังสอบอยู่ รู้สึกเครียดไหม”

ฉีปิงเบ้ปากหนีแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่เครียดค่ะ ฉันเชื่อในพลังของไอดอลฉัน เขาจะต้องโดดเด่นมากแน่ๆ”

เหลียงหย่งหัวเราะ “ทุกท่านน่าจะทราบกันแล้วว่าหมายเลข 0055 ผู้ลึกลับนั้นมีชื่อว่า ‘ไป๋เยี่ย’ ปีนี้เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ปี เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ห้าจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซี ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าเขาจะกลายเป็นผู้โดดเด่นในการแข่งขันระดับประเทศด้วยอายุแค่นี้ ต้องบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ารอบนี้เขาจะทำออกมาได้เป็นอย่างไรบ้างนะครับ เขาจะเป็นแค่อัจฉริยะชั่วข้ามคืนตามที่ชาวเน็ตบอกหรือจะเป็นปลาที่กระโดดข้ามประตูมังกรไปกันแน่ พวกเรามารอดูกันเถอะครับ!”

เมื่อเริ่มสอบ ไป๋เยี่ยก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ

[ติ๊ง! เริ่มภารกิจ ติดสิบอันดับแรกในรอบระดับมณฑล และเป็นตัวแทนของมณฑลจิ้นซีในรอบระดับประเทศ

รางวัลสำเร็จภารกิจ: 1. ค่าประสบการณ์จำนวนมาก 2. โอกาสจับรางวัล 3 ดาว 1 ครั้ง 3. แต้มสมาชิก 20 แต้ม]

ไป๋เยี่ยรับภารกิจมาและเริ่มทำข้อสอบทันที เขารู้สึกไม่ผ่อนคลายเท่าไหร่ เพราะว่าข้อสอบรอบนี้มีจำนวนข้อเยอะและรูปแบบข้อสอบที่ค่อนข้างหลากหลาย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว!

ตอนนี้เวลาสอบผ่านไปแล้วสามสิบนาที แต่ไป๋เยี่ยยังทำปรนัยไม่เสร็จ ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะมันยากเกินไปต่างหาก!

หนึ่งข้อมีสี่ตัวเลือก ซึ่งทั้งสี่ตัวเลือกนั้นใกล้เคียงกันมาก อ่านผ่านๆ ก็ดูเหมือนจะถูกทั้งหมด แต่พอคิดดูดีๆ มันกลับดูเหมือนไม่ถูกเลยสักข้อ!

ข้อสอบแบบนี้เป็นการทดสอบที่หินจริงๆ ทุกตัวเลือกมีหลักฐานให้อ้างถึง แถมยังหยิบมาจากหนังสือหลากหลายเล่มอีกด้วย

ดังนั้นไป๋เยี่ยจึงทำมันได้ช้าสุดๆ!

ไม่ใช่แค่ไป๋เยี่ยคนเดียว แต่ทั้งห้องสอบก็ไม่มีใครพลิกข้อสอบไปมาอย่างรวดเร็วเลยสักคน ทุกคนต่างเลือกคำตอบอย่างใจเย็น

ถ้าสัปดาห์ที่แล้วไป๋เยี่ยได้ทำข้อสอบชุดนี้ล่ะก็ เขาอาจจะหยุดอยู่แค่รอบระดับมณฑลก็เป็นได้ คงผ่านเข้ารอบระดับประเทศไม่ไหว ทว่าครั้งนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

วิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนและวิชายาจีนของไป๋เยี่ยอยู่ที่เลเวลสี่ ซึ่งเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสนามสอบนี้จะมีสักกี่คนเชียว แต่พอนึกถึงคนที่ทำข้อสอบถูกร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ไป๋เยี่ยก็กระวนกระวายใจเล็กน้อย ก็ในนั้นมีแต่เทพนี่นา!

อันที่จริงไป๋เยี่ยคิดในใจว่าที่ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ทำถูกเยอะขนาดนั้นก็เพราะว่าเขาทำไม่ได้ตั้งหลายข้อ!

ข้อเลือกตอบหนึ่งตัวเลือกเป็นอะไรที่ยากมาก เมื่อต้องมาทำข้อเลือกตอบหลายตัวเลือก ไป๋เยี่ยก็ยิ่งพูดไม่ออก มันซับซ้อนเกินไป!

หนึ่งข้อมีห้าตัวเลือก แถมคำตอบยังตอบได้หลายตัวเลือกอีก แทบไม่มีโอกาสเดาถูกเลย ไป๋เยี่ยส่ายหัวและตั้งใจทำข้อสอบต่อไป

มีหลายข้อที่มาจากตำรา และผู้เขียนตำราแต่ละเล่มก็ให้คำอธิบายยาจีนชนิดเดียวกันไม่เหมือนกัน

อย่างเช่นตานเซิน ในตำรา ‘เสวียอีซินอวี่’ อธิบายไว้อย่างหนึ่ง แต่ใน ‘เสินหนงเปิ๋นเฉ่า’ ให้นิยามอีกอย่างหนึ่ง ใน ‘เปิ๋นเฉ่ากังมู่’ บรรยายไว้แบบหนึ่ง ไหนจะ ‘เย่าเตี่ยน’ ที่แนะนำไว้อีกแบบหนึ่งอีก ต้องเลือกของตำราไหนถึงจะถูก!

ถ้าคุณไม่เคยอ่านหนังสือพวกนี้มาก่อน หรือเคยอ่านแต่ไม่จำ คุณจะไปตอบได้ไง!

ไป๋เยี่ยความจำดีเป็นเลิศ ตัวช่วยอย่างระบบก็ยิ่งทำให้เขาลืมสิ่งที่ท่องไปได้ยาก จึงพอจะผ่อนคลายลงได้บ้าง

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้อสอบข้อหลังๆ ก็ยังยิ่งยากขึ้นไปอีก

ไป๋เยี่ยใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงกว่าจะทำข้อเลือกตอบหนึ่งตัวเลือกและหลายตัวเลือกเสร็จ เขาพลิกข้อสอบไปอีกสามหน้า ไปยังส่วนอธิบายคำศัพท์

ไป๋เยี่ยไม่กล้าการันตีว่าเขาจะทำถูกทุกข้อ แต่อย่างน้อยก็ยังพอมั่นใจได้อยู่บ้าง

เขาลงมือทำข้อสอบต่อไป ซึ่งโดยรวมแล้วส่วนข้ออธิบายคำศัพท์มีความยากที่เหมาะสม ไม่ยากจนเกินไป

ข้อที่หนึ่ง บำรุงหยาง ควบคุมหยิน คือการรักษาอาการหนาวโดยการกระตุ้นหยางในร่างกายให้ไปกดปริมาณหยินไว้ ใช้วิธีปรับสมดุลหยินหยางในการรักษาโรค

ส่วนเรื่องสารน้ำและเลือดจากแหล่งเดียวกัน ชี่จากสารอาหาร อาการบวมน้ำจากภาวะตับและไตพร่องนั้นมาจากความรู้หลากหลายแขนง

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับไป๋เยี่ยเลย เพราะว่าการท่องจำและทำความเข้าใจนั้นเป็นจุดแข็งของเขามาโดยตลอด การอธิบายคำศัพท์จึงไม่ยากเท่าไหร่นัก

ข้อที่สามเป็นข้อตอบคำถามสั้นๆ มีห้าข้อ ข้อละห้าคะแนน แต่มันกลับไม่ง่ายขนาดนั้น

แค่ข้อแรกก็ทำเอาไป๋เยี่ยช็อกแล้ว

คำถามง่ายมาก

‘ความสัมพันธ์ระหว่างจุดเซวี่ยไห่และประจำเดือน’

ไป๋เยี่ยแค่นหัวเราะ นี่เป็นกับดัก เพราะว่าจุดเซวี่ยไห่นี้เป็นจุดฝังเข็ม เป็นจุดธรรมดาจุดหนึ่งบนเส้นลมปราณม้ามซึ่งอยู่บริเวณต้นขาด้านหน้า อยู่เหนือขอบในของกระดูกสะบ้าขึ้นไปสองชุ่น หลักๆ ใช้กับการรักษาโรคทางสูตินรีเวชและโรคเลือดออกทางผิวหนัง โดยวิธีการฝังเข็มคือฝังเข้าไปลึกประมาณหนึ่งชุ่นถึงหนึ่งชุ่นครึ่ง

แต่คำตอบคงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะในวิชาฝังเข็ม เส้นลมปราณชงซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดจะช่วยปรับสมดุลของเส้นลมปราณทั้งสิบสองเส้น เรียกได้ว่าเป็นจุดรวมของเส้นลมปราณทั้งสิบสอง หรือ ‘จุดเซวี่ยไห่’ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับประจำเดือนในเพศหญิง

ดังนั้น ข้อนี้คงต้องใช้มุมมองสองด้านมาวิเคราะห์

ข้อหลังๆ เป็นข้อยากทั้งนั้น แถมยังเป็นโจทย์หลอกด้วย มีกับดักทุกย่างก้าว!

เช่น เรื่องการไหลเวียนของลมปราณ (ชี่) แต่ละชนิด ไป๋เยี่ยเขียนการไหลเวียนเข้าออกของทั้งจงชี่ จิงชี่ อิ๋งชี่ และ เว่ยชี่ ออกมาได้ละเอียดมาก!

ข้อสอบทุกข้อเป็นแบบนี้หมด ไป๋เยี่ยจึงวิเคราะห์ลึกลงไปอีกขั้นหนึ่งเพื่อหาคำตอบ ทว่าเวลาก็ผ่านไปรวดเร็ว

เสียงกริ่งดังขึ้นขณะที่ไป๋เยี่ยวางปากกาลงโดยที่ยังไม่ทันได้ตรวจสอบคำตอบ เขาเก็บข้อสอบพลางหันหัวไปมาและลุกขึ้น

จางจี๋เซียนผู้นั่งอยู่ด้านหลังได้เห็นข้อสอบที่เต็มไปด้วยตัวอักษรของไป๋เยี่ยแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับส่งยิ้ม

ไป๋เยี่ยยิ้มตอบอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็รู้กันดีอยู่แล้ว

ไป๋เยี่ยออกมารอพ่างจื่อที่ด้านนอกสนามสอบ และเห็นว่าพ่างจื่อพาพ่างจื่อที่ร่างใหญ่กว่ามาด้วย ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีสนิทสนมเหมือนรู้จักกันมานาน

ทันทีที่พ่างจื่อเห็นไป๋เยี่ยก็รีบวิ่งมาหาพร้อมกับลากอีกคนหนึ่งมาด้วย “นี่ๆ แนะนำตัวกันหน่อย เยี่ยจื่อ นี่คือเพื่อนใหม่ที่ฉันเพิ่งผูกมิตรมาแหละ เขามีชื่อว่าหวังเหมิ่ง! มานี่ๆ เหมิงจื่อนี่เพื่อนฉันเยี่ยจื่อ ฮ่าๆ”

พ่างจื่อหัวเราะจบก็พูดต่อ “ฉันจะบอกอะไรให้นะ เยี่ยจื่อ เดี๋ยวชีวิตก็นำพาโชคชะตามาเอง นายรู้ไหม เจ้าหมอนี่น่ะก็คือคนที่ทำข้อสอบไปสองพันสองร้อยยี่สิบสองข้อไงล่ะ! ฮ่าๆ ยอดมนุษย์ปะทะยอดมนุษย์นี่หว่า!”

ไป๋เยี่ยเงียบ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง