บทที่ 20 สวัสดี นางนิ่งสารเลว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 20 สวัสดี นังนิ่งสารเลว

หลังจากพ่อบ้านถูกจับกุม หลานเฉินมู๋ยังสั่งให้คนตามหาสัตว์มีพิษในจวนอย่างต่อเนื่อง หลานชิวหยุนและนิ่งซือต่างกลับไปยังลานของตนเองแล้ว

หลานเยาเยายืนอยู่ในสนามหญ้าของลานเทียนหลาน ได้กลิ่นไหม้ลอยมาเป็นพักๆ นางขมวดคิ้วแล้วเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่อย่างสบายใจ

“เป็นศัตรูกับใครไม่เป็น มาเป็นศัตรูกับคนที่รู้ทักษะการแพทย์อย่างข้า เฮ้อ อีกหน่อยหากต้องล่วงเกินพวกเจ้า ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนดูได้ไหม?

จากนั้นหลานเยาเยาก็ฮัมเพลง สะบัดเท้า เตรียมตัวจะปีนขึ้นต้นไม้!

ดูท่าแล้วคืนนี้คงจะต้องนอนบนต้นไม้

คืนนี้หลานเฉินมู๋ยุ่งจนหัวหมุน ถึงแม้นางจะช่วยชีวิตเขา เขาก็ไม่แม้แต่จะคิดถึงเรื่องจัดการห้องพักให้นาง

เป็นเพราะนางคงยังไม่ได้สำคัญขนาดนั้น!

เพิ่งจะปีนถึงบนต้นไม้

“ติ๊ง……”

ในสมองคิดถึงเสียงที่น่าฟังของหุ่นยนต์ออกแล้ว: เจ้านาย ภารกิจในการอัปเกรดมาแล้ว ให้หาเลือดหยดหนึ่งของคนที่มีกรุ๊ปเลือดA3คนอื่น”

A กรุ๊ปเลือดA3?

เข้าใจผิดหรือเปล่า?

กรุ๊ป เลือด A 3

มีค่ามากว่ากรุ๊ปเลือดทองกับเลือดแพนด้าเสียอีก ในอนาคต ศตวรรษที่21 ผู้ที่ได้ครอบครองกรุ๊ปเลือดนี้ ทั้งโลกมีแค่นางเพียงผู้เดียว

หลังจากที่ข้ามเวลามาถึงที่นี่ จึงได้รู้ว่าเจ้าของเดิมก็มีกรุ๊ปเลือดA3เช่นกัน คาดว่าเป็นเพราะกรุ๊ปเลือดเช่นนี้ จึงทำให้นางสามารถเข้าไปอยู่ในร่างของนางได้!

แต่ว่า!

ตอนนี้จะให้หาเลือดหนึ่งหยดจากคนที่มีกรุ๊ปเลือดA3คนอื่นนั้น ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร

ทำยังไงดีล่ะ!

ต้องอัปเกรดระบบขึ้นอีกสามระดับ ยาและเครื่องมือแพทย์ที่อยู่ข้างใน จึงจะสามารถนำออกมารักษาอาการขององค์หญิงจาวหยางได้อย่างสมบูรณ์

แต่ตอนนี้เพิ่งจะอยู่ระดับแรก ต้องไปให้ถึงระดับสี่เลยเหรอ?

สวรรค์!

ความยากของระดับที่สองก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรอยู่แล้ว พอจะเดาได้ว่าระดับที่เหลือคงไม่ต้องพูดถึง

ขณะที่กำลังคิดอยู่ หลานเยาเยาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ……

เมื่อมองกลับไปดู ทันใดนั้น ก็เห็นเงาดำลักษณะสูงใหญ่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ฝั่งตรงข้าม รู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วร่างกาย!

“เย่ อ๋องเย่? !”

เพียงแค่เห็นหน้ากากสีเงินที่สวมอยู่บนใบหน้า ก็รู้แล้วว่าคนผู้นั้นคือใคร

ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

เห็นดวงตาที่ดูลึกซึ้งและเยือกเย็นของเขา ก็รู้แล้วว่าคงจะยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้ว

“ตอนนี้เจ้ามีความสุขมากงั้นหรือ?” เสียงที่ดึงดูดและฟังดูเยือกเย็นพูดขึ้น

มีความสุข?

มีความสุขตรงไหน?

นางแสดงละครลำบากมากต่างหาก จริงไหม?

ทันใดนั้น ร่างอันเยือกเย็นของเย่แจ๋หยิ่ง ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้านาง คางของนาง ถูกมือใหญ่บีบเอาไว้แน่น เพียงออกแรงนิดเดียว ก็สามารถดึงคางของนางให้หลุดออกไปได้

หวาดกลัวจนแทบจะยืนไม่ติด รีบส่ายหัวและสะบัดมือออกทันที แล้วกล่าวด้วยความโศกเศร้า:

“อ๋องเย่ ท่านไม่รู้หรอกว่า ข้าไม่ใช่คนประเภทที่รับเงินแล้วไม่ทำงาน และไม่ใช่คนประเภทที่ไม่จริงจังกับงาน แต่เพื่อที่จะรักษาองค์หญิงจาวหยางได้ดีขึ้น ท่านจะต้องไม่เปิดโปงข้า”

หลานเยาเยาคิดออกแล้วว่า ก่อนที่หลานเฉินมู๋จะนำคนเข้าไปถึงลานเทียนหลาน นางถูกปลุกด้วยเสียงๆหนึ่งที่ดัง อีกทั้งตอนที่นางปีนขึ้นไปถึงบนต้นไม้ เงาดำที่นางเห็นแวบผ่านไปนั้น ดูเหมือนว่าอ๋องเย่จะอยู่ด้วยตลอด!

แย่แล้วๆ

“เมื่อไหร่จะรักษาจาวหยาง?”

เสียงอันเยือกเย็นของเย่แจ๋หยิ่งแฝงความหมายถึงการถามหาความรับผิดชอบ และขู่

“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะรักษาให้ทันที แต่ว่าติดปัญหาเล็กน้อย” ขอแค่อ๋องเย่ไม่เปิดโปงนาง ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะรับปาก ต่อให้ต้องการให้นางไปรักษาเดี๋ยวนี้ นางก็จะไปให้ทันที

“นั่นมันเรื่องของเจ้า สิ่งที่ข้าต้องการคือผลลัพธ์เท่านั้น!”

เสียงที่ฟังดูเย็นชาพูดจบ อ๋องเย่ก็หายไป

เชอะ!

ไหนว่ามีปัญหาอะไรก็ให้ไปหาจวนอ๋องเย่ไง? ตอนนี้นางกำลังเจอกับปัญหาใหญ่ อ๋องเย่มีทั้งพลังอำนาจ จะต้องช่วยได้อย่างแน่นอน แต่กลับมาจากไปแบบนี้

ใจร้ายจริงๆ!

เช้าวันรุ่งขึ้น หลานเยาเยานอนซึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนต้นไม้ ถูกปลุกด้วยเสียงดังอึกทึกคึกโครม นางค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้น แล้วมองลงมาจากต้นไม้

เฮ้……

ใต้ต้นไม้ มีสาวใช้สี่คนกำลังมองนางอยู่ แต่ละคนดวงตาเบิกกว้าง มีท่าทีที่เต็มไปด้วยความกังวล

“พวกเจ้ามาทำอะไรอยู่ใต้ต้นไม้?

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วอย่างนั้นหรือ?

ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีแต่คนมองนางด้วยสายตาดูถูก แต่ตอนนี้กลับเป็นห่วงนาง

หึ!

นางพอจะเดาออกแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“คุณหนูหก ท่านรีบลงมาเร็วเข้า บนต้นไม้อันตราย หากได้รับบาดเจ็บ ข้าน้อยคงจะต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ”

“ใช่แล้วคุณหนูหก ท่านนอนอยู่บนต้นไม้มาคืนหนึ่งแล้ว ข้าน้อยจึงเตรียมซุปไว้ให้ เพื่อช่วยให้ท่านร่างกายอบอุ่น”

“ห้องอาหารยังเตรียมของอร่อยไว้อีกมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นของที่คุณหนูหกชอบทั้งสิ้น คุณหนูหกรีบลงมาเถอะ!”

“……”

คนเหล่านั้นแย่งกันแสดงความเป็นห่วงและกังวลที่มีต่อนาง แต่ก็ไม่อาจแอบซ่อนความรู้สึกดูถูกและรังเกียจที่แฝงอยู่ในสายตาได้

หลานเยาเยายักไหล่ และลงมาจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นจึงได้รู้จากปากของสาวใช้เหล่านั้นว่า เมื่อคืน หลังจากพ่อบ้านถูกทรมานอย่างหนัก ก็ยอมพูดความจริงออกมา สุดท้ายก็ถูกประหาร แม้แต่ศพก็ถูกโยนลงไปในหลุมดินธรรมดา

หลานชิวหยุนถูกขังอยู่ในโถงบรรพบุรุษ ห้ามไม่ให้เข้าเยี่ยมทั้งนั้น

แม้แต่จื่อหนิงก็เข้าไม่ได้!

สุดท้ายพวกนางบอกว่า หลานเฉินมู๋ได้จัดเตรียมที่พักใหม่ให้แก่นาง เป็นลานที่ใหญ่และเงียบสงบที่สุดในจวนแม่ทัพ

สาวใช้ แม่นม ก็จัดเตรียมไว้ให้สิบกว่าคน แม้แต่องครักษ์ก็ถูกย้ายมาจำนวนหนึ่งเพื่อมาดูแลลานให้แก่นาง

“ท่านพ่อล่ะ?” หลานเยาเยาเดินไปพลางถามไปพลาง

ถูกรายล้อมไปด้วยสาวใช้หลายคน นางก็เดินมาถึงยังลานที่มีดอกไม้ละลานตา

“เรียนคุณหนูหก นายท่านไปเข้าเฝ้าแล้ว!” สาวใช้คนหนึ่งที่มีคางแหลมๆตอบ

“ที่นี่คือที่พักใหม่งั้นหรือ?”

คิดว่านางโง่อย่างนั้นหรือ?

เห็นได้ชัดว่านี่คือลานของนิ่งซือ ถึงแม้ตอนเด็กจะเคยมาเพียงครั้งสองครั้ง แต่ก็ยังจำได้

เชอะ!

พ่อบ้านตายแล้ว

หลายชิวหยุนถูกขังอยู่ในห้องโถง

ในใจของนิ่งซือจะต้องเกลียดชังนาง จึงให้พวกสาวใช้หลอกนางมาที่นี่ ยิ่งนางเข้ามาใกล้ที่ที่นิ่งซือยู่เท่าไหร่ น้ำเสียงของพวกนางก็ยิ่งไม่มีความเกรงใจ

“คุณหนูหก ที่นี่คือลานของคุณหญิง ท่านคงจะจำได้ใช่ไหม! หึ!”

พูดจบ

หนึ่งในนั้นก็ผลักนางเข้าไป แล้วจึงไปบอกกับองครักษ์ว่า: คุณหญิงสั่งแล้วว่า ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามปล่อยนางออกมา”

“ขอรับ!”

หลานเยาเยาไม่พูดอะไร เพียงแค่เหลือบตาไปมองพวกสาวใช้หนึ่งครั้ง หลังจากนั้นก็เอาเศษดินที่อยู่บนพื้น โรยลงบนหัวบรรดาสาวใช้

ทำให้บรรดาสาวใช้ร้องกรี๊ด

เหล่าองครักษ์จะเข้าไปจับหลานเยาเยา แต่กลับถูกหลานเยาเยาจัดการด้วยสายตา หลังจากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า:

“มาสิ เข้ามาจับข้า ถ้าพวกเจ้าคิดว่าจะจับข้าเพื่อสาวใช้เพียงไม่กี่คน ก็เข้ามาเลย! แต่อย่าลืมนะว่าความโกรธของท่านพ่อยังไม่สงบลง”

เวลาท่านแม่ทัพโกรธ ใครไม่กลัวบ้าง?

มองดูพวกองครักษ์ที่ทำท่ากล้าๆกลัวๆ หลานเยาเยาก็ยิ้มเยาะ

เชอะ!

หลังจากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องของนิ่งซือโดยไม่หันกลับมามอง เดินไปอย่างร่าเริงพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย

ทำให้พวกคนใช้และองครักษ์โกรธจนปากสั่น แต่ก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่หวังว่าคุณหญิงจะช่วยสั่งสอนหลานเยาเยาแทนพวกเขา

ภายในห้อง!

หลานเยาเยาไม่ได้เคาะประตู ก็ดันประตูเปิดเข้าไปเลย พบนิ่งซือนั่งอยู่บนเก้าอี้ แววตาแสดงออกถึงความรังเกียจต่อพฤติกรรมที่หยาบคายของหลานเยาเยา

“นิ่งซือ สวัสดี!”

อย่างไรก็ตาม นิ่งซือให้คนหลอกนางมาที่นี่ คงจะไม่มีทางมองนางด้วยสีหน้าแววตาที่ดีแน่ ดังนั้นคนที่คิดอยากจะให้นางตาย ทำไมนางจะต้องมองคนผู้นั้นด้วยสีหน้าแววตาที่ดีด้วยล่ะ?

จริงๆแล้ว!

แค่ได้ยินการทักทายที่ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ของนาง ในใจของนิ่งซือก็รู้สึกไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก

“หลานเยาเยา ข้าเป็นคุณหญิงแม่ทัพที่นายท่านตบแต่งเข้ามาอย่างออกหน้าออกตา ไม่เหมือนกับแม่ที่เป็นเมียน้อยของเจ้า ดังนั้นเจ้าควรเรียกข้าว่าคุณหญิง” นิ่งซือขมวดคิ้ว มือที่ถือน้ำชาบีบถ้วยน้ำชาไว้แน่น

“สวัสดี นังสารเลวนิ่งซือ เจ้าหาข้ามีเรื่องอะไร?”