กลับมาที่ห้องหลานเสี่ยวถางยังคงดูเหมือนอยู่ในหมอก เธอมองไม่เห็นหนทาง
จะพูดไปแล้ว เธอกับสือมูเฉินได้เจอกันก่อนที่จะเจอสือเพ่ยหลิน
อีกอย่าง การแต่งงานระหว่างตระกูลหลานและตระกูลสือ เป็นสัญญามิตรภาพระหว่างย่าของตระกูลหลานกับปู่ตระกูลสือ
ตอนนั้น สือมูเฉินได้แต่งงานกับหลานเล่อซินลูกสาวคนโตของตระกูลหลาน โดยทางผู้ใหญ่เป็นคนหมั้นหมายให้ ดังนั้นสือมูเฉินและตระกูลหลานจึงติดต่อกันมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้คุณย่าตระกูลหลานยังอยู่ แต่คุณปู่ตระกูลสือได้ล่วงลับไปแล้วหลังจากสือมูเฉินเกิดได้ไม่กี่ปี
แม้คุณปู่จะจากไป ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
แต่ก่อนวันหมั้นของสือมูเฉินกับหลานเล่อซิน หลานเล่อซินก็หายตัวไป หลานเสี่ยวถางเคยได้ยินเพื่อนบ้านหลายคนพูดว่า ดูเหมือนว่ามูเฉินเขาไม่มีหุ้นใน Times Group เธอจึงหนีไปกับผู้ชายคนอื่น
แต่แล้วเธอยังได้ยินเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากแต่งงานกับสือเพ่ยหลิน เธอบังเอิญได้ยินว่าคุณปู่ทิ้งหุ้นไว้ให้สือมูเฉินตั้งแต่แรก แต่เพราะสือมูเฉินยังเด็ก คุณปู่จึงมอบให้พี่ชายของเขาดูแลแทน แต่แล้วหุ้นก็ค่อยค่อยหายไป
หลังจากที่หลานเล่อซินหายตัวไป สือมูเฉินก็เลิกติดต่อกับตระกูลหลานและหลานเสี่ยวถางไม่เคยเห็นเขาอีกเลย
ต่อมา การหมั้นหมายก็ตกเป็นหน้าที่ของหลานเสี่ยวถาง และหลังจากนั้นเธอก็แต่งงานกับสือเพ่ยหลิน
อันที่จริงเธอก็มีคำถามที่ติดอยู่ในใจ ทำไมพ่อแม่ของสือเพ่ยหลินถึงไม่ชอบเธอมาโดยตลอด แต่พวกเขาก็ยังทำตามสัญญาให้แต่งงานจากรุ่นสู่รุ่น เป็นไปได้ไหมว่ามีอะไรมากกว่านั้น?
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการแบ่งหุ้นของสือมูเฉิน เขาจึงไม่ลงรอยกับสือเพ่ยหลินเท่าไหร่ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำในวันนี้ ก็เพื่อจุดประสงค์บางอย่างหรือไม่?
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากหลานเสี่ยวถางตื่นนอนแล้ว สือมูเฉินนั่งอยู่ในห้องครัวอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ที่เพิ่งจัดส่งในวันนี้
เขาเห็นเธอเข้ามาจึงชี้ไปที่อาหารเช้าบนโต๊ะ “กินแล้วค่อยไป ”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกประหลาดใจ “คุณอาทำเองเหรอ?”
“คุณคิดว่าไง” สือมูเฉินถามกลับ
หลานเสี่ยวถางนึกถึงอาหารทั้งหมดในตู้เย็นที่ทำกินสำหรับเมื่อวานนี้ ยังพอมีอาหารสดเหลืออยู่บ้าง เวลานี้ เธอได้รู้เกี่ยวกับสือมูเฉินเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ” ไม่คิดเลยว่าคุณอา จะทำอาหารเป็น ”
“ อีกหน่อยจะได้รู้มากขึ้น ” สือมูเฉินมีบางอย่างอยู่ในคำพูดของเขา
สิบนาทีต่อมา หลานเสี่ยวถางเดินไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านมีรถแท็กซี่จอดอยู่
เธอเห็นทิวทัศน์ที่เล็กลงจากหน้าต่างรถ และเข้าใกล้บ้านหลังใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ จะบอกว่าไม่กังวลเลยก็คงจะเป็นการโกหกแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของสือมูเฉินเมื่อคืนนี้หรือเปล่า หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าอนาคตดูไม่น่ากลัวและสิ้นหวังอย่างที่คิด
ตอนที่เธอเดินออกมา เธอไม่ได้เอากุญแจบ้านคฤหาสน์มาด้วย ดังนั้นหลานเสี่ยวถางจึงเอื้อมมือออกไปกดกริ่ง
ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว และเป็นเฉินจื่อโร่วที่เปิดประตู
ในตอนนี้ ดูเหมือนนายหญิงมีความ สูง 173 เซนติเมตร และมองดูหลานเสียวถางที่มีความสูง 164 เซนติเมตรเมตร ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก “ มาแล้วเหรอ ? งั้นก็ขึ้นไปคุย ”
หลานเสี่ยวถางเกลียดที่ฐานะของเธอเปลี่ยนไป แต่ว่าเธอก็รู้ว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นเธอจึงตามเฉินจื่อโร่วไปที่ห้องรับแขก
สือเพ่ยหลินขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเธอสวมเสื้อเชิ้ตผู้ชายเพราะมันใหญ่เกินไปและไหล่ของเธอเลื่อนลงมาเล็กน้อย ” เสื้อผ้านี้มาจากไหน? ”
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขาในตอนนี้ หลานเสี่ยวถางรู้สึกอยากจะแก้แค้นให้หัวใจของเธอ ” ทำไม ? กำลังจะหย่ากันอยู่แล้ว ฉันจะใส่อะไร มันก็เรื่องของฉัน !”
“ตอนนี้คุณยังไม่ได้หย่ากับผมแต่อย่างใด ให้เกียรติผมหน่อย!” สือเพ่ยหลินทำหน้าไม่พอใจ
“สิ่งที่คุณทำไม่ได้ แต่คุณต้องการให้ฉันทำมัน นี่คือตรรกะอะไร!” หลานเสี่ยวถางเย้ยกลับ
เฉินจื่อโร่วมองดูหลานเสี่ยวถงอย่างสงสัย เขารู้สึกว่าวันนี้เธอดูแตกต่างจากเมื่อวานนี้ที่ดูเป็นผู้หญิงขี้ขลาดและอ่อนแอ
“หลานเสี่ยวถาง เพราะคุณบังคับผม !” หลังจากสือเพ่ยหลินฟังคำพูดของเธอจบ เปลวไฟในดวงตาเขาก็รุกโชย “ ที่จริงว่าจะแบ่งทรัพย์สินให้คุณเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ต้องการ !”
“พี่เพ่ยหลิน จะเถียงเรื่องนี้กับเธอทำไม ? ” เฉินจื่อโร่วกล่าวและนั่งลงที่ตักของสือเพ่ยหลิน “ พวกเราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ”
เมื่อสือเพ่ยหลินเห็นเธอ เขาจึงใจเย็นลงและพูดกับเฉินจื่อโร่วอย่างอ่อนโยนว่า “เอาล่ะโร่วโร่วไม่ต้องกังวล อีกไม่นานคุณจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ เราจะจัดงานแต่งกัน ”
จัดงานแต่ง ? ! เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินคำนี้ เธอก็กำหมัดแน่น
ตอนที่เธอมาเป็นสะใภ้บ้านนี้ ไม่มีงานแต่ง ไม่มีชุดแต่งงาน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
ตอนนั้น เธอเห็นเขาที่นอนอยู่บนเตียงและไม่ขยับ ทำอะไรไม่ได้ไปกว่านี้นอกจากยอมรับและทำทุกอย่างตามที่ภรรยาควรทำอย่าง
แต่แล้วในชั่วพริบตา เมื่อเขาได้รับการรักษา เขาหายเป็นปกติ เขากลับจะไปแต่งงานกับคนอื่น
เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือของเธอ ความเจ็บปวดเข้ามาแทน เธอใช้อารมณ์ออกมาเล็กน้อย แต่หลานเสี่ยวถางมีสติ เธอระงับความโกรธในใจและทำให้ตัวเองสงบลง
“นี่คือข้อตกลงการหย่าร้างที่ผมร่างขึ้น ลองดูสิ” สือเพ่ยหลินยื่นเอกสารให้
หลานเสี่ยวถางอ่านไปที่ข้อความ แล้วเธอก็หยุดอยู่ที่บรรทัดหนึ่ง
ข้างบนเป็นกระดาษขาวเขียนด้วยหมึกสีดำ ” ผู้หญิงคนนี้ หลานเสี่ยวถางที่ตรวจพบว่ามีบุตรยาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้สือเพ่ยหลินต้องเสียเวลา ทั้งสองจึงยุติความสัมพันธ์และหย่าร้างกันอย่างสันติ”
ความรู้สึกในใจเธอตอนนี้ น่าขัน ไร้สาระ เศร้าโศก หรืออะไรกันนะ ?
เธอเงยหน้าขึ้นมองสือเพ่ยหลิน “ฉันมีลูกให้ไม่ได้ นี้เป็นเหตุผลของการหย่า ?”