บทที่ 11 อวสานชีวิตการแต่งงานสองปี

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

“นี่คือเหตุผลที่ทำร้ายคุณน้อยที่สุด” สือเพ่ยหลินพูดด้วยน้ำเสียงประนีประนอม

“หึ อันตรายน้อยที่สุดงั้นหรือ?” หลานเสี่ยวถางยิ้มพร้อมกับกลั้นน้ำตา“เหตุผลที่ฉันแต่งงานกับคุณเป็นเวลาสองปีโดยไม่มีลูก คุณน่าจะรู้สาเหตุดีที่สุด?”

“นี่เธอจะไร้ยางอายเกินไปแล้วนะ พี่เพ่ยหลินไม่สนใจในตัวเธอแล้ว เธอกลับมาพูดแบบนี้ จะโทษเขาที่ไม่แตะต้องตัวเธองั้นหรือ?” เฉินจื่อโร่วมองหลานเสี่ยวถางอย่างดูถูก

“สรุปก็คือทำตามข้อตกลงนี้ นอกจากนี้ในช่วงบ่ายของวันนี้ผมจะเตรียมการให้ตระกูลสือและตระกูลหลานไปทานอาหารร่วมกันที่อวิ๋นไห่ฮวาเฉิงเพื่อฉลองการหย่าร้างของเราสองคน” เมื่อเห็นว่าหลานเสี่ยวถางดูเหมือนจะคัดค้านอะไรบางอย่าง สือเพ่ยหลินจึงพูดเบาๆ ว่า “อย่าลืมสิ วันมะรืนที่จะถึงนี้ตระกูลหลานยังต้องประมูล……”

สีหน้าของหลานเสี่ยวถางเรียบนิ่ง ไม่มีการแสดงสีหน้าใดๆ ออกมา เธอกำมือแน่น “โอเค ฉันสัญญา”

“เซ็นชื่อเถอะ” สือเพ่ยหลินพูดจบก็หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่ออย่างมีความสุข จากเขาก็ยื่นปากกาให้หลานเสี่ยวถาง

หลานเสี่ยวถางรับปากกามาเซ็นชื่อ มือของเธอสั่นเล็กน้อย เธอไม่อยากร้องไห้ แต่ก็มีน้ำตาซึมบ้าง

เธอเซ็นชื่อตัวเอง หลานเสี่ยวถาง

เขารับเอกสาร ตรวจสอบลายเซ็นของเธอ แล้วพยักหน้า“เอาล่ะ พวกเราไปที่สำนักงานเขตกับทนายกันเถอะ”

“เอ่อ งั้นฉันไม่ไปด้วยนะคะ” เฉินจื่อโร่วขยับร่างที่สมส่วนของเธอ“สามีคะ ฉันจะเก็บของที่บ้านและรอคุณกลับมานะคะ!”

เธอยังไม่ได้หย่าอย่างเป็นทางการ แต่หญิงชั่วคนนั้นก็เรียกเขาว่าสามีซะแล้ว หลานเสี่ยวถางระงับอาการคลื่นไส้เพราะรังเกียจ ลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากเธอออกไปสือเพ่ยหลินก็ก้มศีรษะลงไปจูบริมฝีปากของเฉินจื่อโร่ว”เป็นเด็กดีนะ ผมจะรีบกลับมาหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง! ในช่วงตอนบ่ายผมจะพาคุณไปงานเลี้ยงการหย่าร้างด้วยกัน!”

เขาเพิ่งหย่ากับเธอก็รีบพาผู้หญิงใหม่ไปเปิดตัวทันที! หลานเสี่ยวถางรู้สึกโดนตบหน้าอย่างไร้ความปรานี

เธอถอนหายใจ อดทนต่อแรงกระตุ้นที่อยากจะฉีกทั้งสองคนให้เป็นชิ้นๆ

ในตอนนี้เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่สือมูเฉินพูดเมื่อคืนนี้

เขาบอกว่าบางครั้งคนอื่นอาจช่วยเธอไม่ได้ เลี่ยงไม่ได้ที่เธอต้องสู้คนเดียว ในเวลานี้ต้องคิดให้ละเอียดว่าต้องการอะไรมากที่สุด และอย่าปล่อยให้อารมณ์มาเผาผลาญความรู้สึก

เธอต้องการอะไร?

ตอนนี้เธอไม่มีอะไรนอกจากหวังว่าตระกูลหลานจะไม่มีส่วนเกี่ยวพันด้วย เพราะเมื่อตอนที่เธออายุสิบเอ็ดขวบบังเอิญได้ช่วยคุณหญิงหลานไว้ครั้งหนึ่ง คุณหญิงหลานก็เลยพาเธอกลับมาที่บ้านตระกูลหลานด้วยกัน และได้ส่งเสียเธอเข้าเรียนจนจบ มอบครอบครัวที่สมบูรณ์ให้แก่เธอ

กว่าสิบปีของการเลี้ยงดู เธอไม่สามารถทำลายตระกูลหลานเพียงเพราะเกลียดผู้ชายคนหนึ่งได้!

หย่ากันไปก็ดี เธอแข็งแรงและสุขภาพดี เธอหาทางเลี้ยงตัวเองได้เสมอ ไม่มีทางที่จะอดตายข้างถนน!

หลังจากคิดได้หลานเสี่ยวถางก็รู้สึกใจเย็นมากขึ้น เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปที่สถานที่ที่เธออาศัยอยู่เป็นเวลาสองปีเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ก้าวขาเดินออกไป

ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากด้านหลัง รถหยุดนิ่ง กระจกหน้าต่างรถลดลง สือเพ่ยหลินสั่งให้เธอขึ้นรถ”ขึ้นรถ”

ตอนนี้หลานเสี่ยวถางไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีก เธอจึงส่ายหัว “ฉันจะออกไปเรียกแท็กซี่เอง”

“หลานเสี่ยวถางคุณกำลังเล่นตลกอะไรอยู่?”สือเพ่ยหลินรู้สึกรำคาญ“คุณจะเปลี่ยนใจกะทันหันงั้นหรือ พอออกไปก็เล่นเกมหายตัวไป?!”

เมื่อหลานเสี่ยวถางได้ยินสิ่งที่เขาพูด ในใจของเธอรู้สึกว่าไม่สามารถหาคำไหนมาอธิบายได้ นอกจากคำว่าไร้สาระ เดิมทีแล้วในสายตาของเขาเธอไม่มีเกียรติเลย ทำไมถึงดูถูกเหยียดหยามคนอื่นได้ขนาดนี้?!

เธอจ้องมองไปยังคนที่ตัวเองอาศัยอยู่ด้วยมาสองปีแล้ว แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง เธอพูดกับเขาอย่างใจเย็นว่า “ตกลง ฉันจะขึ้นรถ”

เห็นได้ชัดว่าสือเพ่ยหลินไม่ได้คาดหวังว่าหลานเสี่ยวถางจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เขาถูกผงะไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ละสายตาไปทางอื่น

สือเพ่ยหลินนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนหลานเสี่ยวถางเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะหลัง

ระหว่างเดินทางไปสำนักงานเขต หลานเสี่ยวถางนั่งเงียบตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับสือเพ่ยหลินที่รู้สึกไม่คุ้นชินกับความเงียบของเธอ ดังนั้นเขาจึงชวนเธอคุย “เอกสารทั้งหมดเตรียมเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม?”

“อืม” หลานเสี่ยวถางตอบอย่างแผ่วเบา

“ผมเตือนคุณไว้ก่อน ถึงเวลานั้นอย่ามาเล่นกลอุบายอะไรกับผม!” สือเพ่ยหลินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลานเสี่ยวถางไม่ตอบอะไร ราวกับว่าคำพูดของเขาไม่มีค่าอะไร

ผ่านไปครู่หนึ่ง คนขับรถหยุดรถที่หน้าประตูสำนักงานเขต หลานเสี่ยวถางและสือเพ่ยหลินเดินเข้าไปข้างใน เขาทั้งสองคนเดินห่างกันหนึ่งเมตร

วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่ดี มีคู่รักหลายคู่พูดคุยหัวเราะจับมือกันมาจดทะเบียนสมรส

หลานเสี่ยวถางนึกถึงเมื่อสองปีที่แล้ว สือเพ่ยหลินได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นขอให้ทนายความช่วยดำเนินการเรื่องจดทะเบียนสมรสให้กับเขาทั้งสองคน

ดังนั้นจึงถือว่าวันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอและสือเพ่ยหลินมาที่สำนักงานเขต มันก็แค่การจดทะเบียนหย่าร้างเท่านั้น

วันนี้มีคนมาจดทะเบียนหย่าร้างมีไม่เยอะ ข้างหน้ามีเพียงสองคู่เท่านั้น และไม่นานพวกเขาก็ถูกเรียกเข้าไป

“สือเพ่ยหลินและหลานเสี่ยวถางพวกคุณมาที่นี่เพื่อจดทะเบียนหย่าร้างใช่หรือไม่? ทั้งสองฝ่ายยินยอมใช่หรือไม่?” เจ้าหน้าที่พนักงานถาม

“พวกเราทั้งคู่ยินยอมครับ” สือเพ่ยหลินไม่สามารถรอคำตอบได้จึงหันศีรษะมองไปที่หลานเสี่ยวถาง

เธอเห็นสัญญาณเตือนในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน ราวกับว่ากลัวเธอจะพูดผิดพลาดแล้วจะหย่าไม่ได้ หลานเสี่ยวถางพบว่ามันช่างไร้สาระสิ้นดี

เธอเมินเฉยต่อสือเพ่ยหลิน แต่ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่พนักงานแล้วกล่าวว่า “อืม ฉันยินยอมค่ะ”

สือเพ่ยหลินตกใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่ยินยอมที่จะหย่ามาโดยตลอด แต่เพราะข้อตกลงเมื่อคืนนี้เธอจึงยินยอมที่หย่า?

ตอนนี้เธอกลับตอบอย่างตรงไปตรงมาแถมยังยิ้มออกมาได้?!