ตอนที่ 34 แขกคุนหลุน

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 34 – แขกคุนหลุน

“ในเมืองมีเสาไฟคลาวน์ ถ้าพวกคุณต้องออกจากเมืองล่ะครับ” ชิ่งเฉินถามเรื่องอื่น

“ในสถานการณ์ปกติออกจากเมืองค่อนข้างยุ่งยาก สามารถออกไปได้ แต่ต้องการวีซ่าผ่านด่าน” เจียงเสวี่ยตอบกลับมา “เหมือนกับว่าเพราะการขนของเถื่อนแพร่ระบาดเกินไป หน่วยงานเก็บภาษีเลยตั้งด่านตรวจ หน่วยงานเก็บภาษีของโลกภายในกล้าแข็งเป็นพิเศษ เป็นกลไกระดับประเทศที่เทียบได้กับกองทัพของกลุ่มการเงินเลย”

“หน่วยงานเก็บภาษีร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอครับ” ชิ่งเฉินอึ้งไป

“ใช่ ไม่ใช่แค่มีแผนกดำเนินงานที่กล้าแข็ง ถึงขนาดยังมีแผนกข่าวกรองของตัวเองด้วย ไม่เหมือนกับโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง” เจียงเสวี่ยตอบ

“งั้นถ้าผ่านด่านไปก็จะออกไปนอกเมืองจริง ๆ เลยเหรอครับ” ชิ่งเฉินถาม

“ได้ยินว่าสองข้างทางถนนในป่าก็มีเสาไฟคลาวน์กระจัดกระจาย” เจียงเสวี่ยอธิบาย “อวัยวะจักรกลก็มีอันที่ความจุแบตเตอรี่ใหญ่กว่า ก็เหมือนกับที่พวกเราที่โลกภายนอกซื้อมือถือมี 64g, 128g, 256g นั่นล่ะ อันที่จุได้นานกว่าก็แพงกว่า ในสถานการณ์ทั่วไปทุกคนล้วนไม่มีความกังวลเรื่องความจุ ดังนั้นล้วนเลือกอันที่ถูก ๆ”

“อ้อ ก็คือให้คนเลือกซื้อเอา” ชิ่งเฉินพยักหน้า

“ที่โลกภายใน วัยรุ่นมากมายไล่ตามอวัยวะจักรกลก็เหมือนกับที่โลกภายนอกเด็กบางคนไล่ตามสนีกเกอร์กับมือถือใหม่นั่นล่ะ” เจียงเสวี่ยอธิบาย “ไม่แค่เท่านี้ คนมากมายยังจะประดับประดาบนอวัยวะจักรกลของตัวเอง อย่างเช่นฝังลายเส้นทองคำสวย ๆ เลี่ยมขอบทอง หรือว่าฝังเพชรพลอย”

ชิ่งเฉินทอดถอนใจ “อันนี้ผมเข้าใจ ก็คือสกินในเกม……”

เจียงเสวี่ยคิด ๆ ดู “อธิบายอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้……”

ทันใดนั้น ชิ่งเฉินย้อนนึกถึงนักโทษในเรือนจำหมายเลข 18

คล้ายกับว่าบนอวัยวะจักรกลของคนไม่น้อยเลยที่มีการประดับสีทอง เพชรพลอยเห็นไม่เยอะ แต่สีทอง ๆ ยังมีเยอะมาก อย่างเช่นลู่ก่วงอี้ก็ใช่!

ชิ่งเฉินถามหยั่งเชิงว่า “เส้นทองก้อนทองที่ฝังไปพวกนั้นเป็นทองจริง ๆ ไหมครับ”

“ใช่” เจียงเสวี่ยพยักหน้า

“งั้น……ทองคำของโลกภายในกับของโลกภายนอกเหมือนกันไหม” ชิ่งเฉินถามอีกครั้ง

“น่าจะเหมือนกันนะ” เจียงเสวี่ยกล่าว “ธนาคารกลุ่มการเงินใหญ่ทั้งห้าของโลกภายในล้วนใช้ทองคำสำรองในการผลิตเงินตรา”

ตอนนี้ ในที่สุดชิ่งเฉินก็รู้แล้วว่าตนเองควรจะทำเงินจากโลกภายในได้อย่างไร!

เขาถึงขนาดจดจำได้อย่างชัดเจนว่าบนตัวของใครมีทองคำมากน้อยเท่าไหร่!

สิ่งของอื่นอาจจะยังแลกเปลี่ยนไม่ได้ เปิดเผยตัวตนได้ง่ายดาย แต่ทองคำไม่มีปัญหานี้เลย

ณ ขณะนี้ ลู่ก่วงอี้อาจจะยังไม่รู้ว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวอะไร

ชิ่งเฉินถามว่า “วิธีการเดินทางในป่าคืออะไรครับ ก็เป็นรถไฟฟ้าเหรอ”

“ถ้าเป็นทางทหารจะใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล” เจียงเสวี่ยตอบ

เครื่องยนต์ดีเซล สันดาปพลังงานได้มาก ความเร็วต่ำ แรงบิดกำลังสูง เหมาะสมกับการใช้งานทางทหารที่ทนต่อการออฟโร้ดอย่างหนักหน่วงมากกว่า

แถมเครื่องยนต์ดีเซลยังแทบจะไม่มีวงจรไฟฟ้าเลย การสตาร์ทสามารถอาศัยมือหมุนและผลักดันได้ทั้งหมด ยิ่งเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศอันโหดร้าย

ชิ่งเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าโลกภายในถึงกับยังใช้เครื่องยนต์ดีเซลอยู่……

เจียงเสวี่ยเอ่ยเสริมว่า “แน่นอนว่ากองทัพก็มียานบินที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า สิ่งที่ใช้คือออกซิเจนเหลวมี……มีอะไรฉันลืมแล้ว คนมีเงินในเมืองก็ใช้รถลอยฟ้าเป็นวิธีการเดินทาง สิ่งที่ใช้ก็คือเชื้อเพลิงอันนี้”

“ออกซิเจนเหลวมีเทน?” ชิ่งเฉินถาม

“ใช่ ก็คืออันนี้” เจียงเสวี่ยดวงตาเจิดจ้าขึ้นมา

“เชื้อเพลิงอวกาศ” ชิ่งเฉินทอดถอนใจอีกแล้ว “สิ่งที่จรวด spacex ของเทสลาของมัสก์ใช้ก็คือของเล่นนี้”

เจียงเสวี่ยกล่าวกับหลี่ถงอวิ๋นว่า “เสี่ยวอวิ๋น ลูกต้องเอาอย่างพี่ชิ่งเฉินเล่าเรียนให้ดี ๆ นะ ลูกดูสิ แม่พูดเรื่อยเปื่อยไปครึ่งคำ เขาก็สามารถเดาได้แล้วว่าแม่คิดจะพูดอะไร”

เกี่ยวกับคุณลักษณะเด็กเรียนเทพของชิ่งเฉิน แม้แต่เจียงเสวี่ยก็ค่อย ๆ รับรู้ได้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการตีความเกี่ยวกับการชาร์จไฟไร้สายเมื่อครู่นี้ หรือว่าการที่ตอนนี้เข้าใจในพริบตาว่าสิ่งที่เธออยากพูดคือออกซิเจนเหลวมีเทน ที่ถ้าไม่มีคลังความรู้ที่เต็มเปี่ยมจะทำไม่ได้แน่นอน

นี่เป็นความรู้สึกอันมีเอกลักษณ์มากอย่างหนึ่ง คล้ายกับว่าไม่มีอะไรที่เด็กหนุ่มนี้จะไม่รู้

ทว่าสำหรับชิ่งเฉิน การปรากฏตัวของสองผู้ทะลุมิติเจียงเสวี่ยและหลี่ถงอวิ๋นได้เสริมช่องว่างความรู้บางส่วนของเขาได้แล้ว

ในเรือนจำหมายเลข 18 เขาเพื่อที่จะไม่เปิดเผยตัวตนผู้ทะลุมิติ ดังนั้นไม่สามารถถามมาก

หลังกลับถึงโลกภายนอก ข่าวสารที่ครึกโครมพวกนั้นยากที่จะแยกแยะจริงเท็จ

ตอนนี้ได้ฟัง “โลกภายใน” ที่แท้จริงจากเจียงเสวี่ย ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว

ในคลินิกอวัยวะจักรกลของเจียงเสวี่ยมีผู้คนทุก ๆ ประเภท เป็นสถานที่ที่ดีในการรับฟังข่าวสาร

ชิ่งเฉินเหมือนว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ ถามขึ้นอย่างปุบปับว่า “งั้น……เสี่ยวอวิ๋นเรียกฉัน คือคิดจะให้ฉันช่วยอะไรเหรอ”

หลี่ถงอวิ๋นกล่าวว่า “มือแม่หนูยกไม่ขึ้นแล้ว จะรบกวนพี่ช่วยดูแลแม่หนูสักวันได้ไหมคะ”

ขณะนี้ แขนทั้งคู่ของเจียงเสวี่ยตกอยู่ข้างลำตัว ชิ่งเฉินสามารถดูออกว่าอีกฝ่ายเช้าวันนี้ยังไม่ได้ล้างหน้าด้วยซ้ำ หัวตายังมีขี้ตา ผมไม่ได้หวีเป็นทรงหางม้าตามปกติ แล้วก็ไม่ได้เตรียมข้าวเช้าให้หลี่ถงอวิ๋น อเนจอนาถขั้นสุด

ต้องพูดว่าอวัยวะจักรกลแบตหมดแล้วมันยุ่งยากมากจริง ๆ ที่โลกภายในยังสามารถชาร์จไฟได้ทุกที่ทุกเวลา แต่มาถึงโลกภายนอกจะต้องใช้ประหยัดสักหน่อย

เวลานี้ชิ่งเฉินยังคิดขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้เมืองลั่วยังมีผู้ทะลุมิติคนหนึ่ง เพื่อที่จะสลัดหลุดจากการถ่ายคลิปได้กระโดดขึ้นหลังคาตึกหลายชั้นไปตรง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่ภายหลังเป็นอย่างไร จะอัมพาตลงบนพื้นดื้อ ๆ เลยรึเปล่า……

แต่อย่างนี้ก็ดี อย่างน้อยคนที่ดัดแปลงอวัยวะจักรกลอยู่ที่โลกภายนอกแล้วก็จะได้มีความหวาดหวั่นกันบ้าง

เขามองดูแววตาคาดหวังของหลี่ถงอวิ๋น จากนั้นมองไปที่ท่าทางน่าอนาถของเจียงเสวี่ยอีก ถอนหายใจเอ่ยว่า “แต่ฉันดูแลคนไม่เป็นนะ”

วันนี้วันอาทิตย์ไม่ต้องเรียน เวลามีเยอะแยะ แต่ชิ่งเฉินแค่ดูแลตัวเอง ยังไม่เคยดูแลคนอื่นจริง ๆ

เจียงเสวี่ยรีบกล่าวว่า “ไม่ต้อง ๆ ไม่ต้องดูแลฉัน แค่ว่าวันนี้ฉันไม่อาจทำอาหารให้เสี่ยวอวิ๋น คุณสามารถช่วยดูแลเธอสักหน่อยได้ไหม”

สามารถดูออกว่าเจียงเสวี่ยรู้สึกผิดมากจริง ๆ

ทว่าหลี่ถงอวิ๋นกล่าวด้วยสีหน้าคับข้องใจอยู่ข้าง ๆ ว่า “พี่ชิ่งเฉิน พี่ทำอาหารให้พวกเราหน่อยเถอะนะ หนูหิวแล้ว”

ชิ่งเฉินยิ้ม “ทำอาหารอันนี้ไม่มีปัญหา”

คำพูดเพิ่งเปล่งออกมา ข้างนอกกลับมีเสียงเคาะประตูก๊อก ๆๆ ดังขึ้น “สวัสดีครับ มีคนอยู่บ้านไหมครับ”

ชิ่งเฉินเดิมยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาเหลือบมองไปนอกหน้าต่าง พบเห็นรถออฟโร้ดขององค์กรเร้นลับด้วยความตื่นตะลึง

“เสี่ยวอวิ๋น เธอไปเปิดประตูรับแขก ฉันจะเข้าครัวไปทำอาหารให้พวกเธอ” ชิ่งเฉินพูดจบแล้วก็มุดเข้าครัว แล้วยังสวมผ้ากันเปื้อนให้ตัวเอง เหลือเพียงแผ่นหลังให้ข้างนอก

เสี่ยวอวิ๋นเปิดประตู ชายหนุ่มสวมสูทสีดำสองคนเดินเข้ามา กล่าวกับเจียงเสวี่ยว่า “สวัสดีครับ ผมคือลู่หยวน พวกเราเคยเจอกันแล้ว คนของคุนหลุน”

คุนหลุน? ชิ่งเฉินนิ่งอึ้งอยู่ในครัว ที่แท้องค์กรของอีกฝ่ายเรียกว่าคุนหลุน

เพียงได้ยินเจียงเสวี่ยกล่าวว่า “เชิญนั่งค่ะ เสี่ยวอวิ๋น รีบไปเอาน้ำมาให้แขก”

สมาชิกคุนหลุนสงสัยว่า “แขนของคุณเป็นอะไรครับ”

“อวัยวะจักรกลไม่มีพลังงานแล้วค่ะ” เจียงเสวี่ยอธิบาย

“จำเรื่องนี้เอาไว้นะ” ชายหนุ่มพูดกับสหายที่อยู่ข้างกาย เขาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของอวัยวะจักรกลจากเจียงเสวี่ย ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่รู้ว่าอวัยวะจักรกลยังจะไม่มีพลังงานกันด้วย

ชิ่งเฉินที่แอบฟังอยู่ในครัวคาดเดาว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นอย่างที่เจียงเสวี่ยพูดจริง ๆ ก็คือเพิ่งจะก่อตั้งองค์กรไม่นาน ดังนั้นก็ไม่ได้เข้าใจโลกภายในมากนัก

เจียงเสวี่ยถามว่า “พวกคุณสองคนมาเพื่อ?”

“อ้อ พวกเราอยากจะถามเรื่องหนึ่งครับ” สมาชิกคุนหลุนกล่าว “เมื่อคืนมีนักเลงสองคน หนึ่งในนั้นหลังจากหนีออกจากที่พักของคุณแล้วถูกคนลอบโจมตีกระดูกหน้าแข้งหักในเขตที่พัก คุณรู้ว่านี่ใครทำไหมครับ ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ได้จะไล่หาความรับผิดทางกฎหมาย ก็แค่อยากจะทำความเข้าใจ”

หัวใจของชิ่งเฉินกระดอนขึ้นมา

………………………

ตอนที่ 35 – ตามหาชิ่งเฉิน