ตอนที่ 15 ท่านปู่ตอนที่ 16 ดอกบัวขาว (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 15 ท่านปู่

หากเขาสามารถกลับเข้าไปในสนามรบได้ ต่อให้มีสำนักชิงอวิ๋นหนุนหลังอยู่ก็เถอะ ฮ่องเต้ก็คงไม่ปฏิบัติกับจวนหลินอ๋องแบบนี้

หลายปีที่ผ่านมา ด้วยจวินเสี่ยนกลัวว่าทหารของตนจะเกินหน้าเกินตา จึงได้ทำการลดทอนกองกำลังทหารจากกองทัพรุ่ยหลินไป ยามที่เพิ่งสร้างรัฐชีขึ้นใหม่ ขณะนั้นทหารของรัฐชีเจ็ดส่วนล้วนเป็นทหารจากกองทัพรุ่ยหลินทั้งสิ้น แต่พอมาวันนี้ ความจริงที่ว่าจวินเสี่ยนเองก็ถดถอยลงทุกวัน เขาจึงเหลือกำลังเพียงแค่ห้าส่วนเท่านั้น หากจวินเสี่ยนมีใจคิดอยากชิงบัลลังก์จริง ราชวงศ์รัฐชีคงเปลี่ยนจากคนแซ่มั่วไปตั้งนานแล้ว

การที่จวินเสี่ยนยอมถอยให้ ไม่ได้ทำให้ฮ่องเต้ซาบซึ้งพระทัยแต่อย่างใด แต่กลับกัน มันกลับทำให้ฮ่องเต้ทรงหวาดกลัวจวนหลินอ๋องมากขึ้นกว่าเก่า

“ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายอู๋เสียได้เป็นอันขาด ตราบเท่าที่ข้ายังมีลมหายใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามแตะต้องหลานสาวข้า!” มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่จวินเสี่ยนไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

เขาเสียบุตรชายไปคนหนึ่งแล้ว จะเสียหลานสาวอีกคนไม่ได้

ในขณะที่สองพ่อลูกกำลังพูดคุยถึงอนาคตอันมืดมนของจวนหลินอ๋อง ก็มีเงาคนสองคนปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู

จวินอู๋เสียได้แต่มองจ้องทะลุเข้าไปในบานประตูที่ลงกลอนอยู่ คำพูดที่จวินเสี่ยนกับจวินชิงพูดเมื่อสักครู่นี้ นางล้วนได้ยินหมดทุกคำ ดวงตาที่เป็นประกายของนางหรี่ลงเล็กน้อย คิดถึงผู้ที่อยู่ด้านในแล้วเด็กสาวก็ขมวดคิ้วมุ่น

ท่านปู่…

ในชาติที่แล้ว คนที่ได้ชื่อว่า ‘ปู่’ นี่แหละที่กักขังนางไว้ตลอดสิบกว่าปี

อะไรที่เรียกว่าความบ้าคลั่ง อะไรที่เรียกว่าความสุดโต่ง ในสิบปีนั้นนางล้วนได้ลิ้มรสมันมาหมดแล้ว

‘คุณปู่’ สองพยางค์นี้ ก่อนหน้าที่จวินอู๋เสียจะหนีออกจากที่นั่นได้ มันเปรียบเสมือนฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนนางอยู่ตลอดเวลา พอได้เกิดใหม่ ญาติที่นางเจอเป็นคนแรกก็ยังเป็น ‘ท่านปู่’ ของเจ้าของร่างเดิมอีก

ไม่เหมือนกับตาแก่ปีศาจที่กักขังนางไว้เมื่อชาติที่แล้ว จวินเสี่ยนใส่ใจจวินอู๋เสียเสมอ ไม่ว่าเขาจะได้ของดีอะไรมา สิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือส่งมันมาให้นางที่ห้อง สิ่งนี้ทำให้นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมจวินเสี่ยนถึงได้โอ๋เอ็นดูนางมากขนาดนี้

จวินอู๋เสียไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต การกระทำที่เกิดจากความรักของจวินเสี่ยนทำให้นางทำตัวไม่ถูก

นางมักจะหลบหน้าจวินเสี่ยนอยู่บ่อยๆ เพราะนางไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรกับการที่จวินเสี่ยนใส่ใจนางดี จวินเสี่ยนเป็น ‘ท่านปู่’ ที่แสนจะแตกต่างจากในความทรงจำของนางเหลือเกิน

แต่…นางคิดไม่ถึงว่าชายชราคนนี้จะทำเพื่อนางได้มากขนาดนี้!

แม้จวนหลินอ๋องจะถูกราชวงศ์จับจ้องมาโดยตลอด แต่จวินเสี่ยนก็ยังจงรักภักดีต่อฮ่องเต้เสมอมา พอมาวันนี้ หอกของฮ่องเต้ได้ชี้มาที่หลานสาวของเขา ผู้เฒ่าที่จงรักภักดีมาตลอดทั้งชีวิตย่อมต้องโกรธเป็นธรรมดา

เพื่อหลานสาวของเขาแล้ว เขายอมแลกทุกอย่าง

ความเจ็บปวดในหัวใจนั้น ทำให้จวินอู๋เสียต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอก

“’ปู่’ ทุกคน เป็นแบบนี้เองหรือ” จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว รับรู้ถึงความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในหัวใจ

จวินอู๋เย่ายืนอยู่ข้างๆ นางก้มลงไปมองจวินอู๋เสียที่หน้าเริ่มขาวซีด ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงเกิดอาการเช่นนี้ได้

“ยังจะเข้าไปอยู่หรือไม่”

“ไม่แล้ว” จวินอู๋เสียส่ายหน้า ใบหน้าที่เฉยชาเป็นนิจเผยความรำคาญออกมาให้เห็นเสียที จริงๆ แล้วนางอยากจะมาปรึกษาเรื่องที่นางจะรักษาตัวเองกับจวินเสี่ยน แต่คิดไม่ถึงว่านางจะมาได้ยินอะไรแบบนี้

ความเชื่อมั่นที่นางเชื่อมาตลอดถูกลบล้างไปในพริบตา จิตวิญญาณที่ไร้ความรู้สึกตลอดชาติภพที่ผ่านมา กลับโดนความอบอุ่นของความเป็นมนุษย์ทำให้มีความรู้สึกกับเขาขึ้นมาบ้างแล้ว

จวินอู๋เสียหมุนตัวเดินออกไปจากห้องหนังสือ นางจำเป็นต้องสงบจิตใจลงก่อน

เห็นจวินอู๋เสียเดินจากไปไกล จวินอู๋เย่าก็หรี่ตาลง ดวงที่สีดำคู่นั้นกะพริบแสงสีม่วงอันตรายออกมา

“ฮ่องเต้เมืองมนุษย์เอ๋ย ช่างน่าขันสิ้นดี น่า…ฆ่าทิ้งเสียให้หมด” คำพูดของจวินเสี่ยนและจวินชิงทำให้เขาอยากหัวเราะแทบบ้า

แสงไฟที่น่ากลัวได้จุดติดขึ้นในเบื้องลึกของดวงตาเปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น ความโง่เขลาเบาปัญญา ความสิ้นคิดนั่น แค่กำมือเบาๆ ก็สามารถลบมันให้มันหายไปจากโลกใบนี้ได้ตลอดกาล

ไม่มีอะไรง่ายดายไปกว่านี้อีกแล้ว

“แต่หากเป็นเช่นนี้ มันจะเดือดร้อนถึงอู๋เสียน้อยของข้าน่ะสิ” เปลวเพลิงร้ายกาจในดวงตาสีเข้มลึกของเขาจางหายไป แค่กำจัดมดบางตัวยังทำให้อู๋เสียต้องแบกรับความอัปยศใหญ่หลวงถึงเพียงนี้

หากเขาปลงพระชนม์ฮ่องเต้เล่า…

“อืม รอดูไปก่อนก็แล้วกัน…”

………..

ตอนที่ 16 ดอกบัวขาว (1)

เมื่อจวินอู๋เสียกลับถึงห้อง เจ้าแมวดำก็ปรากฏตัวออกมาแล้วกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของนาง ใช้หัวถูแก้มนางอย่างออดอ้อน

“แท้จริงแล้วปู่ทุกคนควรเป็นเช่นนี้หรือ” จวินอู๋เสียนั่งตรงหน้ากระจกทองแดง มองใบหน้าแปลกตาที่คุ้นเคยในกระจก

ว่ากันตามความสัมพันธ์ของคนปกติทั่วไป มันก็ควรจะเป็นแบบนี้แหละ! แมวดำแกว่งหางที่มีขนหนานุ่มของมันไปมา ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกที่จวินอู๋เสียมีต่อคำว่า ‘ปู่’ ได้ดีไปกว่ามันอีกแล้ว

“จริงหรือ” ดวงตาของจวินอู๋เสียหรี่ลง นางยกมือขึ้นลูบอกด้านซ้ายของตัวเองเบาๆ คำพูดของจวินเสี่ยนทำให้หน้าอกของนางร้อนฉ่า นางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย

มีทั้งความเฝื่อนฝาด แต่ก็อบอุ่นเล็กน้อย

นางชอบมันเหลือเกิน

ครั้งหนึ่งจวินอู๋เย่าเคยถามนางว่าโกรธไหมที่ต้องเผชิญหน้ากับการดูถูกของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียน

คำตอบของนางคือเหตุใดต้องโกรธ

เพราะสำหรับจวินอู๋เสียแล้ว การจากไปของคนผู้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับนางเลย กระทั่งจวนหลินอ๋องเองก็ไม่ได้ผูกพันกับนางมากนัก

ดังนั้นนางไม่มีทางโกรธ

อย่างไรก็ตาม ยามนี้กลับมีบางสิ่งที่แตกต่างออกไป

คำพูดของจวินเสี่ยนยังคงดังก้องอยู่ในหูของจวินอู๋เสียไม่หยุด ความรู้สึกผูกพันที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชาติที่แล้วทำให้จวินอู๋เสียทำตัวไม่ถูก

“เขาคือท่านปู่ของข้า” ใบหน้าน้อยในกระจกทองแดงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น ซึ่งรอยยิ้มนั้นมันก็อบอุ่นมากพอทำให้น้ำแข็งหลอมละลายได้

สวรรค์ได้เติมเต็มและชดเชยส่วนที่ขาดหายไปในชาติที่แล้วของนาง ทำให้นางได้รับความรักจากครอบครัวอีกครั้ง ดังนั้นนางจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายมันเป็นอันขาด

“ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องกับจวนหลินอ๋อง ตัวข้า หรือว่ากับท่านปู่แน่”

ในอดีตนางแทบไม่เคยแยแสสนใจต่อสิ่งใด แต่บัดนี้จวินอู๋เสียตัดสินใจแล้วว่านางจะใส่ใจเรื่องของจวินเสี่ยนและจวินชิงให้มาก

บัดนี้จวนหลินอ๋องกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ อำนาจภายนอกเองก็ไม่รู้ว่าจะสลายหายไปวันใด ถือว่าเสี่ยงอย่างมาก หากจวินอู๋เสียคิดอยากปกป้องจวนหลินอ๋องจริง นางก็จำเป็นต้องเด็ดขาดให้มากกว่านี้ ทว่าทุกสิ่งไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น

“ภูติดอกบัวของข้า…คือสิ่งใดกันแน่” จวินอู๋เสียพูดพลางไล้นิ้วเรียวขาวราวกับหยกของนาง แสงสีอ่อนสะท้อนออกมาจากนิ้วนางข้างขวา และดอกบัวสีขาวก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง

เหมียว…ลองดูดีหรือไม่ เจ้าแมวดำแกว่งหางรัวด้วยความตื่นเต้น มันเอียงคอมองดอกบัวตรงหน้าตาไม่กะพริบ

จวินอู๋เสียรับเจ้าดอกบัวสีขาวมาวางไว้บนฝ่ามือ ปลายนิ้วไล่ไปตามกลีบบัว กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็กระจายออกมาจากดอกบัวคละคลุ้งไปทั่วห้อง

“หอมจริง” ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองหรือเปล่า จวินอู๋เสียรู้สึกว่ากลิ่นหอมนั้นทำให้เลือดลมในกายของนางไหลเวียนดีขึ้น ครั้งก่อนด้วยเพราะรีบร้อนเกินไปนางจึงไม่ได้ตั้งใจศึกษาเจ้าดอกบัวนี้ให้ดี

กลิ่นของดอกบัวนี้พิเศษมาก ราวกับสามารถส่งผลต่อเลือดของมนุษย์ได้ หากเป็นเช่นนี้จริง ดอกบัวนี้อาจมีประโยชน์ด้านอื่นอีก

จวินอู๋เสียเอื้อมมือจับไปที่กลีบดอกบัว หวังจะเด็ดมันลงมาเพื่อศึกษา

แต่ขณะที่ขยับกลีบเบาๆ ยังไม่ทันได้เด็ด ดอกบัวในมือนางก็เริ่มสั่นไหว มีเสียงร้องดัง โอ๊ย! ออกมา จากนั้นดอกบัวสีขาวก็เริ่มปล่อยควันโขมง!

“เจ็บ เจ็บ เจ็บ” เสียงเล็กๆ ราวกับเสียงของเด็กดังขึ้น กลุ่มควันกระจายออกแล้วไปจับตัวกันเป็นก้อนอยู่ตรงหน้าเตียง

เมื่อควันค่อยๆ สลายไป เด็กผู้ชายตัวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วนั่งกอดแขนตัวเองร้องไห้อยู่บนพื้น เขามองมาที่จวินอู๋เสียอย่างกล่าวโทษ

เหมียว!!! การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเด็กน้อย ทำให้เจ้าแมวดำตกใจจนต้องดีดตัวขึ้นไปบนไหล่ของจวินอู๋เสีย พองขนขู่ฟ่อ

“…” จวินอู๋เสียมองดูเด็กน้อยที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นและพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เด็กชายตัวจ้ำม่ำผิวสีน้ำนมในชุดเอี๊ยมตัวเล็กสีขาวมีลายดอกบัวสีเงินปักอยู่ด้านหน้า รูปเสมือนจริงนั่น มองอย่างไรก็เหมือนกับภูติดอกบัวของนางไม่ผิดเพี้ยน!

………….