ตอนที่ 55 ตอนที่ 56 ไม้ที่ถูกฟ้าผ่า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 55 จงทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน / ตอนที่ 56 ไม้ที่ถูกฟ้าผ่า

ตอนที่ 55 จงทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน

ฟ้าร้องกึกก้องดังที่ฉินหลิวซีว่าไว้ ฝนในฤดูใบไม้ร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง วัดร้างไม่มีประตูปิด ลมและฝนด้านนอกพัดเข้ามาพร้อมกับความชื้นทำให้พวกเขารู้สึกหนาว

หั่วหลางวางเรียงไม้ฟืนที่พวกเขาเก็บมาเตรียมไว้ก่อนหน้านี้และก่อกองไฟขึ้นมากองหนึ่ง ไอความร้อนขับไล่ความหนาวเย็นออกไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านหมอฝึกเต๋ามานานกี่ปีแล้วหรือ” ฉีเชียนหันไปมองฉินหลิวซีที่นั่งขัดสมาธิอยู่ทางด้านหนึ่ง แสงไฟส่องใบหน้าซีกหนึ่งอาบย้อมให้เป็นสีแดงพร่างพราว มันทำให้เขาแยกแยะไม่ออกว่าคนตรงหน้าเป็นบุรุษหรือสตรีกันแน่

“ข้าเข้าสู่ลัทธิเต๋าตอนอายุห้าขวบ”

“เร็วถึงเพียงนั้น ท่านหมอฉินดูเหมือนยังไม่ถึงวัยสวมหมวกด้วยซ้ำ”หั่วหลางถอนหายใจ

ฉินหลิวซี “แน่นอน ปีนี้ข้าอายุแค่สิบห้า”

มีเสียงดังเกรียวกราว

เด็กขนาดนั้นเลย

“การฝึกเต๋านอกจากจะขับไล่ปีศาจความชั่วร้าย ยังต้องช่วยให้คนพ้นเคราะห์ภัยและความทุกข์ยาก ดูตำแหน่งสุสานกำหนดฮวงจุ้ย และต้องมีวิชาแพทย์สูงส่งเหมือนกับท่านหมอฉินด้วยหรือ” ฉีเชียนเอ่ยถามอย่างลองเชิง

ฉินหลิวซีหันไปมองเขาด้วยท่าทีคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คุณชายฉีถามตรงไปตรงมาจริงๆ”

“ข้าเพียงแต่อยากรู้จริงๆ เท่านั้น หากท่านหมอฉินลำบากใจที่จะตอบ ก็ถือเสียว่าเชียนไม่ได้ถาม”

“ก็ไม่ใช่เรื่องที่เอ่ยไม่ได้หรอก โบราณว่าไว้สิบเต๋าเก้าวิชาแพทย์ คนที่ฝึกเต๋าส่วนใหญ่จะรู้วิชาแพทย์ อยู่ที่ว่าจะเชี่ยวชาญหรือไม่เท่านั้น” ฉินหลิวซีเอ่ย “สิ่งที่ผู้ฝึกเต๋าต้องการในท้ายที่สุดก็ไม่พ้นการมีอายุยืนยาวเป็นอมตะ รู้จักรักษาสุขภาพย่อมรู้วิชาแพทย์ รู้จักบำเพ็ญเพียรจึงบรรลุเซียนได้”

อิงหนานที่นั่งยองๆ อยู่ไม่ไกลและปิดปากเงียบอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแทรก “ในโลกนี้มีเทพเซียนที่ไม่แก่ไม่ตายจริงๆ หรือขอรับ”

“ไม่มี ถ้ามีก็แปลว่าหลอกท่านอยู่ ใครเชื่อก็โง่!”

อิงหนาน “?”

ก็เมื่อครู่นี้ท่านพูดออกมาเอง!

ฉินหลิวซียิ้ม “ขึ้นชื่อว่านักพรต โบราณว่าเทพกำมะลอหลอกเจ้ามานานปีก็มี ความจริงแล้วคนที่ว่าบรรลุเต๋าก็มีแต่คนที่ตายไปแล้ว เหลือไว้แต่กายเนื้อ วิญญาณกลับคืนสู่สวรรค์ เมื่อมาจุติเป็นมนุษย์อีกครั้งย่อมอุดมด้วยทรัพย์สมบัติและพรนับพันอันเนื่องมาจากบุญและคุณงามความดีที่สั่งสมไว้ในชาติก่อน อ้อ ส่วนที่มีบุญและบำเพ็ญมามากก็อาจจะอายุยืนยาวกว่าปุถุชนทั่วไป”

ทุกคนต่างตกตะลึงอึ้งไป

ฉินหลิวซีเอ่ย “ดังนั้น อย่าได้เชื่อเรื่องความเป็นอมตะ ไม่มีความเป็นอมตะบนโลกนี้ ทุกคนจะต้องตายในที่สุด”

ล้อเล่นอะไรกัน ถ้าหากมีความเป็นอมตะอยู่จริงๆ นางก็จะบอกว่าไม่มีอยู่ดี ไม่อย่างนั้นหากมีใครเอาเรื่องนี้ไปกราบทูลฮ่องเต้เข้า นางก็จะต้องถูกจับตัวไปหลอมยาอายุวัฒนะอะไรนั่น ไม่เท่ากับเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองหรอกหรือ

ฉินหลิวซีป้องกันตัวเองอีกชั้นหนึ่ง “คำพูดวันนี้ออกมาจากปากของข้าและเข้าสู่หูของพวกท่าน แค่ฟังไว้ แต่อย่าพูดไปเด็ดขาดว่าข้าพูด ข้าไม่ยอมรับ ใครทำวจีกรรม เฮอะ…”

นี่คือคำเตือน

ฉีเชียนเหลือบมองคนของเขา ทุกคนพากันแสดงท่าทีอย่างรวดเร็ว “ท่านหมอฉิน ไม่ต้องกังวล เราจะไม่เอ่ยเรื่องนี้ออกไปส่งเดช”

“เอ่ยออกไปส่งเดชก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรคนที่จะโชคร้ายและได้รับผลกรรมก็คือพวกท่าน” ฉินหลิวซียิ้ม

“เช่นนั้นท่านหมอฉิน ไม่มีความอมตะ แล้วอายุยืนเล่า?”

“อายุยืนยาวมีแน่นอน รักษาสุขภาพของเจ้า สั่งสมบุญกุศลให้มากขึ้น ทำความดีให้กว้างขวาง แล้วจะมีประโยชน์ต่อตัวเจ้าเอง” ฉินหลิวซียกมือข้างหนึ่งแล้วเอ่ย “มีคำกล่าวในลัทธิเต๋าว่า จงทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน แล้วจะดีเอง”

จงทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ทุกคนพึมพำคำเหล่านี้และจดจำไว้ในใจ

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังโครมครามราวกับว่ามีอะไรถล่มลงมา

“นายท่าน หรือว่าให้ข้าน้อยออกไปดูสักหน่อย” หั่วหลางลุกขึ้นยืนด้วยคิดจะออกไปตรวจสอบดู

ฉีเชียนหันมองฉินหลิวซีโดยสัญชาตญาณ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดเห็นอย่างไร

ฉินหลิวซีเอ่ย “ไม่ต้องไปหรอก ข้างนอกฝนตกหนัก คาดว่าเป็นภูเขาถล่ม รอให้ฝนหยุดค่อยออกไปดูก็ไม่สาย”

“เช่นนั้นก็รอก่อน” ฉีเชียนราวกับว่าตามนาง

เปรี้ยง ครืน

“ต้นพุทราต้นนั้นถูกฟ้าผ่า!” องครักษ์ที่นั่งหันหน้าไปทางหน้าต่างที่สามารถมองเห็นต้นพุทราได้ร้องตะโกนออกมาทันใด

ตอนที่ 56 ไม้ที่ถูกฟ้าผ่า

ต้นพุทราถูกฟ้าผ่าแล้ว!

ทุกคนหันไปมองโดยสัญชาตญาณ และก็เห็นว่าต้นพุทราที่เห็นผ่านหน้าต่างนั้นเกิดไฟลุกไหม้ในทันทีหลังจากถูกฟ้าผ่า แต่ก็ดับลงไปอย่างรวดเร็วเพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

ฉินหลิวซีขยับตัวลุกขึ้นและวิ่งไปที่หน้าต่างเพื่อมองดู เรื่องน่ายินดีที่ไม่คาดคิด เรื่องน่ายินดีที่ไม่คาดคิดจริงๆ!

ฉีเชียนและคนอื่นๆ รู้สึกแปลกใจ ก็เพียงแค่ต้นไม้ถูกฟ้าผ่ามิใช่หรือ ท่าทางนางมีความสุขราวกับได้เห็นทองคำสักหมื่นตำลึงกระนั้น

เฉินผีเองก็มีความสุขมากเช่นกัน เขากำลังจะอ้าปากเอ่ยอะไร แต่เมื่อหางตาเห็นว่ามีผู้คนมากมายเช่นนี้ จึงเปลี่ยนคำพูดเป็น “คุณชาย ต้นไม้ต้นนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ!”

“ใช่ น่าสงสารมาก เดี๋ยวเราต้องไปช่วยมันสักหน่อยแล้ว” ฉินหลิวซีพยักหน้าอย่างจริงจัง

ทั้งสองมองหน้ากัน เผยรอยยิ้มที่ค่อนข้างไม่บริสุทธิ์ออกมา

ฉีเชียน “!”

เขายิ่งรู้สึกแปลกๆ มากขึ้นทุกที!

ฝนตกอยู่ครึ่งชั่วยามก็หยุดลง ท้องฟ้าก็เริ่มมืด หากพวกเขายังไม่ออกเดินทางอีก คืนนี้คงต้องนอนในป่าหรือไม่ก็ต้องหาบ้านชาวนาพักแรมแล้ว

พวกหั่วหลางทำการเก็บกวาด ส่วนฉินหลิวซีกลับยืมดาบและคนจากฉีเชียน แล้ววิ่งไปทางด้านหลัง

“ให้ข้าช่วยท่านเถิด” หั่วหลางขันอาสา เขายังนึกถึงคำชมของฉินหลิวซีและต้องการทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เป็นการตอบแทนบ้าง

ฉินหลิวซีไม่ได้คิดอะไรมาก นำเฉินผีและอีกฝ่ายเดินออกไป

ฉีเชียนนึกอยากรู้จึงตามออกไปด้วย

ฉินหลิวซีไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่สั่งให้หั่วหลางตัดไม้พุทราที่ถูกฟ้าผ่าไหม้เกรียมเล็กน้อยนั้นลงมา

“ท่านหมอฉิน นี่มัน?”

ฉินหลิวซีมองหั่วหลางปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ในใจก็คิดว่าถึงอย่างไรเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหั่วหลางจึงเอ่ยตอบ “ไม้พุทราที่ถูกฟ้าผ่าสำหรับพวกท่านแล้วไม่มีค่าอะไร สำหรับพวกเราชาวเต๋า ไม้ที่ถูกฟ้าผ่าเป็นของดีสำหรับป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่หาได้ยากนัก สามารถปราบภูติผีปีศาจกำจัดความชั่วร้ายได้” หยุดไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณชายฉีคงจะไม่แย่งข้าหรอกกระมัง”

ตนเองรู้สึกระแวดระวังอยู่บ้าง

ฉีเชียนกระแอมเบาๆ “ไม่อย่างแน่นอน แต่ในเมื่อมันสามารถปราบภูติผีปีศาจกำจัดความชั่วร้ายได้ หากข้าได้สักชิ้นเล็กๆ ไว้เป็นยันต์คุ้มครองตัวคงจะดีไม่น้อย”

แปลว่าไม่แย่ง แต่ขอสักหน่อย

หั่วหลางตัดไม้ที่ถูกฟ้าผ่ายาวประมาณครึ่งแขนลงมา แล้วยื่นส่งให้ฉินหลิวซี แต่เฉินผีกลับชิงรับไปก่อน

ฉินหลิวซีมองดูไม้ที่ถูกฟ้าผ่าที่ยังคงสมบูรณ์นั้นด้วยความตระหนี่เล็กน้อย “ดูแล้วน่าจะมีมุมที่สามารถตัดเอาไปแกะสลักเป็นของวิเศษชิ้นเล็กๆ ให้ท่านได้”

ฉีเชียนยิ้มออกมาทันที ประสานมือพลางเอ่ย “เช่นนั้นข้าก็ต้องขอบคุณท่านหมอฉินสำหรับความเอื้อเฟื้อแล้ว!”

ฉินหลิวซีย่นจมูกพลางมองไปยังหั่วหลางด้วยท่าทางลังเลว่าเขาควรจะได้ด้วยหรือไม่ ผู้รู้เห็นก็ควรจะได้ส่วนแบ่งด้วยมิใช่หรือ

หั่วหลางโบกมือและเอ่ยอย่างใจกว้าง “ท่านหมอฉินสามารถนำสิ่งนี้ไปใช้ได้อย่างดี ข้าคงไม่ต้องการหรอก แต่ถ้าท่านมียันต์คุ้มครองให้ปลอดภัยอะไรพวกนั้น ข้าก็อยากจะขอสักแผ่นไปให้ภรรยาของข้า”

ฉินหลิวซีเลิกคิ้วและมองดูโหงวเฮ้งของเขาอย่างละเอียด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าหั่วกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วนี่”

หั่วหลางดีใจทันที “แค่มองแวบเดียวท่านก็รู้เลยหรือ”

ตอนที่เขาออกเดินทางมากับเจ้านายของเขา ภรรยาของเขาเพิ่งจะตั้งครรภ์ได้สองเดือน และเขาก็ไม่ได้บอกกับใครเลย ท่านหมอฉินสามารถมองออกได้ ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

“เรือนของบุตรธิดาแวววาวเต็มอิ่มและชุ่มชื้น มีสีเหลืองอ่อน จุดเหรินจง[1]มีสีม่วง เจ้าจะได้ลูกแฝด!” ฉินหลิวซีหยิบยันต์คุ้มครองให้ปลอดภัยสองแผ่นจากอกเสื้อออกมายื่นให้เขา “ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนที่ท่านช่วยตัดไม้ที่ถูกฟ้าผ่านี้ลงมาให้ข้า เมื่อใต้เท้ากลับไปแล้ว ค่อยให้ที่บ้านจัดห้องทำคลอดไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แม่และลูกก็จะปลอดภัย ดาวมงคลจะส่องสว่าง”

หั่วหลางอดดีใจไม่ได้ รับไว้ด้วยท่าทางเคร่งขรึมและกล่าวขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ขอบคุณท่านหมอฉิน ขอบคุณมากขอรับ”

“ไม่ต้องขอบคุณข้า มันเป็นวาสนา” ฉินหลิวซีโบกมือและเรียกเฉินผี นายและบ่าวทั้งสองกอดไม้ที่ถูกฟ้าผ่าเดินออกไปอย่างมีความสุข

หั่วหลางมองส่งอีกฝ่ายไปไกลแล้วจึงค่อยหันกลับมามองฉีเชียน “นายท่าน ท่านได้ยินแล้วใช่หรือไม่ขอรับ ปรมาจารย์บอกว่าข้าน้อยจะได้ลูกแฝด!”

ฉีเชียนเหลือบตามองยันต์คุ้มครองให้ปลอดภัยในมือเขา “ยินดีกับเจ้าด้วยจริงๆ”

หั่วหลางเกาศีรษะตนเองและยิ้มอย่างไร้เดียงสา เพิ่งจะรู้สึกได้ว่าเจ้านายของเขาดูเหมือนจะอิจฉาอยู่ใช่หรือไม่

[1]จุดเหรินจง บริเวณกึ่งกลางระหว่างจมูกและริมฝีปาก