บทที่ 14 การประมูล

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 14 การประมูล

“แฮ่ก แฮ่ก หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้นะ!” ฉู่เหินคิดว่าตัวเองวิ่งเร็วมากแล้วนะ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกตามมาได้ทันซะอย่างงั้น ว้าก! เขาตะโกนแล้วรีบวิ่งต่อ

ลูกชายคนรองตระกูลหวังที่กำลังเคี้ยวหญ้าเล่นอยู่นั้นเอง เมื่อได้ยินเสียงของหลิวเสี่ยวเฟิง เขารีบคายหญ้าทิ้งก่อนจะวิ่งตามฉู่เหินไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความหวาดกลัวเขาจึงพลาดเตะถังอาหารปลาจนล้มลง แต่เขาก็รีบยืนขึ้นอีกครั้งแล้วรีบวิ่งไปข้างหน้าทันที

ทั้งสองคนวิ่งอยู่ข้างหน้าโดยมีเสี่ยวเฟิงไล่ตามหลัง ดูจากความเร็วแล้วเธอไม่แพ้ผู้ชายทั้งสองคนเลย! หลิวเสี่ยวชิงที่ขับรถยนต์ตามมาด้านหลัง เธอเองก็ค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นความเร็วในการวิ่งของพี่สาว

จากนั้นเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สาวไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูง เพราะหากใส่รองเท้าส้นสูงและพบกับเหตุการณ์นี้อย่างฉับพลัน คุณจะไม่สามารถวิ่งได้แม้ว่าคุณต้องการวิ่ง! หลังจากคิดถึงเรื่องนี้หลิวเสี่ยวชิงก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นฉู่เหินและลูกชายคนรองบ้านตระกูลหวังที่กำลังวิ่งด้วยความตื่นตระหนก

หลังจากวิ่งไปสักพัก ลูกชายคนรองตระกูลหวังก็หมดแรงอย่างเห็นได้ชัด เพื่อที่จะไม่ให้ฉู่เหินรู้เขาจึงแสร้งทำเป็นไม่วิ่งต่อ! เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินเองก็หยุดวิ่งด้วยความเหนื่อยพวกเขาทั้งสองจึงล้มตัวนอนบนพื้นหญ้าโดยไม่พูดอะไรเลย

“วิ่งสิ! วิ่งต่อไปสิ! ดูว่าพวกนายสองคนจะวิ่งหนีไปได้ถึงเมื่อไหร่?” หลิวเสี่ยวเฟิงที่วิ่งตามมาพูดด้วยความโมโห ก่อนที่เธอจะดึงพวกเขาให้ลุกขึ้น และลากตัวพวกเขาสองคนกลับไปทางหมู่บ้าน

“พี่สาว พี่ต้องการอะไร! มันเจ็บนะอย่าดึงผมแบบนี้! ถ้ายังไงปล่อยผมก่อน! เดี๋ยวผมจะบอกให้เขาตามคุณกลับไปดี ๆ” ขณะที่พูด ฉู่เหินก็ผ่อนตัวตามแรงดึงของหลิวเสี่ยวเฟิงแต่โดยดี เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาเชื่อฟังเธอ!

หลิวเสี่ยวเฟิงไม่ได้คิดอะไรมากเธอปล่อยฉู่เหินทันที แต่เธอไม่คิดว่าภายใต้สายตาของเธอ หลินเสี่ยวชิงผู้เป็นน้องกลับขับรถเข้ามารับฉู่เหินซะอย่างงั้น เมื่อเห็นฉากนี้เข้าหลิวเสี่ยวเฟิงก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

“สวัสดีค่ะ พี่เหิน ฉันขอบคุณพี่มากจริง ๆ ที่ช่วยฉันบนรถบัสวันนั้น” หลังจากได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้ ฉู่เหินก็มองอย่างละเอียดก่อนที่จะจำเธอได้ในทันที

“อ๊าา เธอนั่นเอง บ้านเธออยู่แถวนี้งั้นเหรอครับ?” ฉู่เหินไม่รู้จักหลิวเสี่ยวชิง เพราะถึงแม้ว่าเขาและหลิวเสี่ยวชิงจะอายุต่างกันไม่กี่ปีก็ตาม แต่ด้วยความที่เขาลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปช่วยงานพี่ชายดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นเลยแม้แต่คนเดียว

“ฉันชื่อหลิวเสี่ยวชิงค่ะ เสี่ยวเฟิงเป็นพี่สาวของฉันน่ะ” ขณะพูด หลิวเสี่ยวชิงก็อดยิ้มไม่ได้

เมื่อถึงตอนนี้ฉู่เหินก็หันไปมองหญิงสาวข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เธอคนนี้สวยเหมือนพี่สาวของเธอแต่เธอผอมกว่าเล็กน้อย ส่วนผิวของเธอขาวเรียบเนียนมาก ใบหน้าที่น่ารักนั้น มีดวงตาเรียวเหมือนเมล็ดแตงโม คิ้วโก่งเหมือนใบหลิวจับคู่กับดวงตาที่ใสบริสุทธิ์ เมื่อเธอยิ้มก็จะมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ สองอันที่ข้างแก้ม

หญิงสาวร่างเล็กคนนี้เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ฉู่เหินเคยเห็น ฉู่เหินรู้ได้เลยว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หญิงสาวคนนี้จะต้องสวยขนาดที่ว่าแม้แต่พี่สาวของเธอเสี่ยวเฟิงก็คงสู้ไม่ได้แน่นอน!

หลังจากหลิวเสี่ยวชิงพาเขามาส่งถึงบ้าน เธอก็อาสาช่วยเขาทำความสะอาด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ฉู่เหินทำตัวไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าหลิวเสี่ยวชิงเองก็รู้ตัวว่าฉู่เหินกำลังมองตนเอง แต่เธอกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ยกเว้นก็แต่ใบหน้าที่เปล่งประกาย เมื่อมองดูหญิงสาวคนนี้ทำความสะอาดห้องของเขาอย่างเรียบร้อยนั่นก็ยิ่งทำให้ฉู่เหินผู้ที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่ตอนนี้ได้แต่แอบถอนหายใจออกมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ‘เธอคนนี้ย่อมเป็นภรรยาและแม่ที่ดีได้แน่นอน’

“อาเหิน พวกเธอสองคนกำลังทำอะไรอยู่ในบ้าน ฉู่เหินนายห้ามแกล้งน้องสาวฉันนะ!” หลังจากได้ยินเสียงคำรามนี้ ฉู่เหินก็รีบขยับตัวออกห่างจากหลิวเสี่ยวชิง ตลกน่า มีพี่สาวแบบนี้ใครจะกล้าลืมมันไปได้เลย ในอนาคตเขาจะพยายามอยู่ห่างจากหญิงสาวคนนี้อีกหน่อยท่าจะดีกว่า

ก่อนที่ฉู่เหินจะทันได้ตอบอะไร หลิวเสี่ยวเฟิงและพี่รองก็เดินเข้ามาแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็ได้เข้ากับเห็นภาพที่แทบทำให้ตาของเขาหลุดออกมา พี่รองผู้ที่มักทำตัวสูงส่งกว่าพวกเขาอยู่เสมอ ตอนนี้เพียงแค่หลิวเสี่ยวเฟิงพยักหน้าเขาก็ลนลานทันที ไหนเลยจะยังมีความสง่างามเหลืออยู่

สิ่งนี้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย และยิ่งเขาได้รู้ว่าสองพี่น้องมาที่บ้านวันนี้ ก็เพื่อมาขอบคุณเขา แต่ตัวเขากลับเอาแต่วิ่งหนีซะนี่ นั่นก็ยิ่งทำให้ฉู่เหินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ

เมื่อสองพี่น้องได้ยินว่าฉู่เหินกำลังจะเปิดการประมูลในบ่ายวันนี้ เธอก็ต้องการจะช่วย ตอนแรกฉู่เหินทำท่าโบกมือ และปฏิเสธไป แต่แล้วเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าการประมูลเล็ก ๆ ที่จะจัดขึ้นในบ่ายวันนี้ ถ้าเสี่ยวเฟิงเป็นพิธีกรก็คงจะดีน่าดูฉู่เหินก็เลยเปลี่ยนใจ

เสี่ยวเฟิงผู้ไม่เคยกลัวอะไร เมื่อได้ยินฉู่เหินเสนอให้เธอเป็นพิธีกรในการประมูลครั้งนี้ เธอไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธแต่กลับยังกระตือรือร้นเป็นอย่างมากมาก เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเฟิงยังอยู่ พี่รองก็ไม่กล้าจากไป และตัดสินใจไปช่วยฉู่เหินตั้งเวทีเล็กที่นอกบ้านแทน

พวกเขาตั้งโต๊ะและกำลังต้องค้อนเล็ก ๆ มาอันหนึ่งสำหรับเคาะประมูล แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ บ้านของฉู่เหินก็พบแค่ขวานเท่านั้น สุดท้ายพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกได้แต่ใช้ขวานนี้แทนบางทีมันอาจจะเป็นขวานประมูลอันแรกในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้!

ลานหน้าบ้านของฉู่เหินค่อนข้างกว้างพอตัวกะ ๆ แล้วน่าจะสามารถรองรับคนหลายร้อยคนที่นี่ได้เลยทีเดียว ตอนนี้ลูกชายคนรองตระกูลหวังกำลังทำความสะอาดอยู่ที่ลานบ้าน โต๊ะและเก้าอี้จำนวนมากถูกย้ายออกมาวางสำหรับให้ผู้สูงอายุนั่ง เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว มันก็เป็นเวลาบ่ายโมงตรงพอดี

ตอนนี้ฉู่เหินกำลังส่งเจ้ามังกรทะเลตัวน้อยทั้งสามให้หลิวเสี่ยวชิงช่วยดูแล ถึงแม้ว่าอันที่จริงแล้วเจ้าตัวน้อยพวกนี้จะไม่ต้องการการดูแลเลยก็ตาม แต่เป็นเพราะว่าหลิวเสี่ยวชิงชอบพวกมันมาก เขาจึงมอบให้เป็นหน้าที่ของเธอ

หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนเดินทางมาถึงบ้านของฉู่เหิน คนที่มาถึงก่อนส่วนใหญ่นั้นเดินทางมาไกล คนเหล่านี้จะจอดรถไว้ที่หน้าหมู่บ้าน! ดังนั้นถึงแม้จะมีคนมากมายแต่ไม่ก็ทำให้แออัดซักเท่าไหร่

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ฉู่เหินรอคอย! ในเวลานี้มีคนอยู่สามร้อยถึงสี่ร้อยคนรอกันอยู่เต็มหน้าบ้าน ส่วนพวกเขาจะเป็นใครบ้างนั้นฉู่เหินไม่ได้สนใจ

เมื่อการประมูลเริ่มขึ้นทุกคนก็มารวมกัน ยกเว้นศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาและผู้สูงอายุอีกไม่กี่คนที่นั่งอยู่ คนอื่น ๆ ต่างก็กำลังยืนสิ่งนี้ทำให้คนที่มาประมูลบางคนไม่ค่อยพอใจ แต่เมื่อพวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ พวกเขาก็เลือกที่จะไม่เรียกร้องอะไรอีก

หลังจากที่ทุกคนเงียบสนิท หลิวเสี่ยวเฟิงก็เดินไปที่โต๊ะประมูลอย่างช้า ๆ มีเสียงอุทานดังขึ้นมากมายเมื่อพวกเขาเห็นเธอ คนเหล่านี้ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ในหมู่บ้านชาวประมงที่ห่างไกล ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างแปลกใจและมองหลิวเสี่ยวเฟิงด้วยความชื่นชม

หลิวเสี่ยวเฟิงดูเหมือนจะเพลิดเพลินไปกับสายตาของฝูงชนเป็นอย่างมาก หลังจากมองไปที่ฝูงชนเธอก็พูดช้า ๆ ว่า “ฉันชื่อ หลิวเสี่ยวเฟิง จะมาเป็นพิธีกรงานประมูลวันนี้ค่ะ ฉันเคยแต่ดูการประมูลทางทีวีแต่ไม่เคยทำมาก่อนจริง ๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็โปรดให้อภัยด้วยนะคะ”

“การประมูลครั้งนี้ รับเฉพาะเงินสดและการโอนเงินผ่านธนาคารหรือการโอนผ่านวีแช็ตเท่านั้น ไม่รับบัตรเครดิต ขอความร่วมมือด้วยนะคะ” หลังจากพูดจบ เธอก็กำมือหมัดทั้งสองข้างยกขึ้นมาประสานกันเพื่อคารวะผู้ชม

Next