“หึหึ”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหัวเราะอันแหบแห้งดังขึ้นมาทำลายความเงียบงันนี้
ชายชราชุดดำที่กำลังพยายามยืนนิ่ง ๆ อย่างสุดกำลังเนื่องจากเขากำลังควบคุมโครงสร้างเวทมนต์ที่กำลังปั่นป่วนอยู่นี้
เขาจ้องมองลูกไฟขนาดใหญ่ด้วยแววตาที่ตื่นเต้นซึ่งขัดกับสีหน้าของเขาที่ซีดเผือดมาก
“ดูเหมือนชายชราที่กำลังจะตายคนนี้ ยังสามารถช่วยพ่อมดหนุ่มคนนั้นได้สินะ”
พ่อมดฮิลล์ได้รวบรวมพลังธาตุไฟที่เหลืออยู่เอาออกมาใช้งาน จากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงในร่างกายของเขา
พ่อมดฮิลล์พยายามร่ายคาถาลูกไฟออกมาโดยไม่สนใจความไม่เสถียรของโครงสร้างเวทมนต์
*หวู่ม!!*
กลุ่มลูกไฟโผล่ขึ้นมาจากอากาศ จากนั้นเขาก็ควบคุมมันส่งไปยังที่ ๆ เมอแรงค์หายไปก่อนหน้านี้
*ตูม!!!*
ลูกไฟได้โจมตีโดนอะไรบางอย่าง จากนั้นเงาดำได้สลายออกไปและเมอแรงค์ได้ปรากฏตัวออกมา
ใบหน้าของเมอแรงค์ซีดเผอดราวกับกระดาษ ตัวเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนักเนื่องจากเขาร่ายคาถาธาตุดินเอาไว้ ตัวเขาไม่กังวลลูกไฟของพ่อมดฮิลล์มากนัก เขาสามารถรับมือได้อย่างสบาย ๆ แต่สิ่งที่เขากังวลก็คือลูกไฟขนาดใหญ่ทั้งแปดลูกที่เมอร์ลินร่ายก่อนหน้านี้ พวกมันกำลังพุ่งมาทางที่เขายืนอยู่
…
ภายในความมืดอันเป็นนิรันดร์ที่นี่ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ มันไร้เสียง ไร้รูปร่างละไร้ผู้ใด
ตอนนี้เมอร์ลินถูกขังอยู่ในโลกที่มืดมิดนี้ เขาได้แผ่พลังจิตออกไปรอบ ๆ แต่มันก็ไร้ประโยชน์ แม้เขาจะรู้ว่านี่เป็นผลของคาถาหมอกรัตติกาลแต่เขาก็ไม่รู้จะจัดการมันยังไงดี
ถึงเมอร์ลินจะไม่รู้วิธีรับมือกับมันแต่เขามั่นใจว่าเมอแรงค์ต้องอยู่ไม่ไกลจากที่อยู่ยืนอยู่แน่นอน
การที่ไม่รู้ตำแหน่งของศัตรู มันทำให้เมอร์ลินไม่แปลกใจเลยที่พ่อมดฮิลล์ถึงมีสภาพอย่างนั้นในตอนที่ออกจากหมอกรัตติกาล
*ตูม!!*
จู่ ๆ ก็มีเสียงปะทะรุนแรงดังขึ้น ทันใดนั้นเองก็มีรอยร้าวขยายออก โลกอันมืดมิดนี้มันค่อย ๆ แตกออกและแสงอันเบาบางได้ส่องเข้ามาจากนั้นโลกอันมดมิดนี้ก็ค่อย ๆ สว่าง
ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังจิตตรวจจับการเคลื่อนไหวได้แล้ว เขาได้เห็นใบหน้าของเมอแรงค์ที่กำลังตื่นตระหนก ดูเหมือนเขาจะสูญเสียสมาธิในการควบคุมคาถานี้ทำให้เมอร์ลินกลับมาในโลกแห่งความเป้นจริงได้
เมอร์ลินไปมองพ่อมดฮิลล์ ทำให้เขารู้ว่าชายชราได้ยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้เขารอดออกมาได้ ตัวเขาไม่สนว่าโครงสร้างเวทมนต์ของเขาจะพัง เขาตัดสินร่ายคาถาเพื่อช่วยเมอร์ลินออกมา
*ชิ้ง*
เมอริ์ลนกลับมาจ้องมองเมอแรงค์พร้อมกับควบคุมลูกไฟยักษ์ทั้งแปดลูกอีกครั้ง พลังของพวกมันในแต่ละลูกเทียบเท่ากับคาถาระดับหนึ่งและพวกมันจะระเบิดพร้อมกันทีเดียว ด้วยพลังที่ทรงพลังนี้มันก็เพียงพอที่จะทำลายการป้องกันทุกชนิดได้แล้ว
*ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!!*
เสียงระเบิดได้ดังขึ้น คลื่นกระแทกกระจายออกมาอย่างรุนแรง ลมกรรโชกที่ออกมันแทบจะทำให้ทรงตัวไว้ไม่อยู่ ด้วยพลังของลูกไฟทำพื้นที่โดยรอบเมอแรงค์ในรัศมี 10เมตร ได้กลายเป็นทะเลเพลิง
อานุภาพของพวกมันทำให้เกิดแสงจ้าทั่วปราสาท ทุกคนต่างจ้องมองมันด้วยความหวาดกลัว
*แฮ่ก แฮ่ก*
เมอร์ลินเหนื่อยหอบอย่างมาก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าของเมอร์ลิน เขาได้เอามือลูกจี้เบา ๆ แม้ว่าตัวจี้จะยังคงเหมือนเดิมแต่เมอร์ลินรู้ว่าอุปกรณ์เวทมนต์ชิ้นนี้ใช้การไม่ได้แล้ว
ตอนนี้หิมะโดยรอบได้ละลายกลายเป็นแอ่งน้ำ เมอร์ลินได้ก้าวผ่านพื้นที่เปียกโชกตรงไปยังใจกลางของทะเลเพลิง
เขารอให้เปลวเพลิงค่อย ๆ สงบลงและในที่สุดมันก็มอดดับลงไป
เขาเห็นร่างของเมอแรงค์ที่นอนอยู่บนพื้น สภาพของเขาไหม้เกรียมจนจำไม่ได้
“เขาตายแล้วใช้มั้ย” เคานต์เซลินถาม
เห็นได้ชัดว่าเคานต์เซลินยังไม่หายจากอาการตกใจ ตัวเขาในตอนแรกเตรียมพร้อมที่จะรับความตายแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะพลิกพันได้ขนาดนี้
ทางด้านเมอร์ลิน เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าชัยชนะครั้งนี้จะเป็นเรื่องเขาคาดการณ์ไว้แล้ว เนื่องจากตัวเขาที่มีคาถาที่เทียบเท่าคาถาระดับหนึ่งซึ่งไม่เหมือนเมอแรงค์ที่ไม่มีแบบเขา
แต่อย่างไรก็ตามหากเขาไม่มีจี้อันนี้หรือพ่อมดฮิลล์ยื่นมือมาช่วย สถานการณ์คงจะเลวร้ายกว่านี้
เมอร์ลินเดินไปที่ศพของเมอแรงค์และคลำหาของมีค่าจากศพ ด้วยพลังไฟอันรุนแรงทำให้เผาเส้อหาของเมอแรงค์ไหม้เป็นธุลี
หลังจากค้นหาไปสักพักเขาก็สะดุดตากับแหวนสีดำบนนิ้วของเมอแรงค์
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงแหวนที่ชายชราอีธานได้มอบใหเขามาก่อนหน้านี้ มันต้องเป็นแหวนมิติที่เขาเคยได้มาก่อนแน่นอน
เขาจึงรูดมันออกมาอย่างรวดเร็ว เขาเช็ดฝุ่นแตรวจสอยมันอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ใช้พลังจิตตรวจสอบแหวน
“มีของอยู่ข้างใน!!” เมอร์ลินดีใจมาก
เมอร์ลินได้ดึงพลังจิตกลับมา เขาตั้งใจจะตรวจสอบของข้างในในภายหลัง
เขาได้เอาแหวนเก็บไว้ในกระเป๋าของเขาและหันไปมองรอบ เขาหันไปมองเห็นพ่อมดฮิลล์ที่นอนอยู่บนพื้น สภาพของเขาไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก