พลังธาตุไฟในตัวพ่อมดฮิลล์ ตอนนี้ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ทำให้เปลวไฟเล็กได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของเขาเป็นช่วง ๆ
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่วิกฤติของเขา หากเขาขาดสมาธิไปเพียงแวบโครงสร้างเวทมนต์ในร่างกายของเขาจะพังทลายทันที
โชคดีที่เขามีพลังจิตที่สูงกว่านักเวทย์ระดับเริ่มต้น เลยทำให้เขาสามารถคงโครงสร้างเวทย์มนต์ไว้ได้และตอนนี้อาการของเขาทรงตัวแล้ว
“พ่อมดฮิลล์ คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรมั้ย?” เมอร์ลินถามด้วยความกังวล
เขารู้สึกไม่ค่อยดีในเรื่องนี้เนื่องจากพ่อมดฮิลล์ได้ฝืนใช้พลังของตัวเองเพื่อช่วยเขา หากไม่ได้พ่อมดฮิลล์ช่วยตัวเขาต้องแย่แน่นอน
ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้ว่า เขาเป็นหนี้ชีวิตของพ่อมดฮิลล์
เมอร์ลินรู้สึกได้ถึงพลังธาตุที่ผันผวนของพ่อมดฮิลล์ค่อย ๆ สงบลงในที่สุด จากนั้นเขาก็เงยหน้ขึ้นมามองเมอร์ลิน ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาได้แสดงสีหน้าที่เหนื่อยล้าออกมาชัดเจน
“มีอยู่หลายครั้งที่ข้าคิดว่าตัวเองจะไม่รอด…แต่สุดท้ายข้าก็หายเป็นปกติ เมอร์ลิน เจ้าเป็นคนที่ฆ่าเมอแรงค์ ดังนั้นเจ้าจึงมีสิทธิ์ที่จะเก็บของของเมอแรงค์ได้ แต่ถ้าหากของของเมอแรงค์มีพวกยาหรือสูตรปรุงอยู่ในนั้น ข้ายินดีที่จะแลกกับมันโดยที่จะแลกกับอะไรก็ได้”
จากนั้นพ่อมดฮิลล์ได้พยุงตัวเองขึ้นมาและเดินไปทางเคานต์เซลินและพูดด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง
“ท่านเคานต์ ข้าขอตัวไปรักษาบาดแผลของข้าก่อนแล้วก็อย่าลืมสิ่งที่ท่านสัญญาไว้กับข้าด้วย”
เคานต์เซลินได้ฟื้นสติขึ้นมา เขากระแอมเล็กน้อยและตอบไปว่า
“ไม่ต้องกังวล พ่อมดฮิลล์ ข้าจะสั่งให้คนนำดอกซีเจนให้ท่านโดยเร็วที่สุด”
พ่อมดฮิลล์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยเดินออกจากปราสาท
เมอร์ลินเหลือบไปมองร่างไร้วิญญาณของเมอแรงค์ ตอนนี้การต่อสู้ได้สิ้นสุดแล้วและวิกฤติของเคานต์เซลินก็ได้รับแก้ไขด้วยเช่นกัน เขาจับแหวนของเคานต์เซลินไว้แน่น เขาอยากที่ค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในตอนนี้เลย
ดังนั้นเขาจึงไปหาเคานต์เซลินและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายว่า
“ท่านเคานต์ ตอนนี้เมอแรงค์ตายไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีอันตรายใด ๆ อีก ผมขอตัวกลับก่อนนะขอรับ”
สายตาของเคานต์เซลินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความขอบคุณและความเคารพมองไปที่เมอร์ลิน ช่วงเวลาก่อนหน้านี้เขาได้พบกับความสิ้นหวังและเขาพร้อมที่จะยอมรับมันแต่เมอร์ลินได้พลิกสถานการณ์ทำให้เขาและผู้คนปราสาทสามารถรอดชีวิตไปได้
“พ่อมดเมอร์ลิน ท่านคงจะเหนื่อยล้าจะการต่อสู้อันยาวนาน เชิญท่านกลับไปพักผ่อนก่อน หากทุกอย่างเรียบร้อยข้าจะแสดงความขอบคุณอีกครั้งเป็นการส่วนตัว”
ทางด้านเคานต์เซลินก็เหนื่อยล้าเช่นเดียวกัน แม้เหตุการณ์ทุกอย่างจะจบด้วยดีแต่คูกได้รับบาดเจ็บและปราสาทบางส่วนถูกทำลาย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาสักพักถึงทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง
เมอร์ลินพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็หันไปมองเชลลี่ เด็กสาวคนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและตัวเธอค่อนข้างน่ารัก มันค่อนข้างดึงดูดสายตาของเมอร์ลินมาก จากนั้นเขาก็เบนหน้าไปทางอื่นและค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินตรงไปและหายไปในความมืด
…
“!! นั่นใครน่ะ!” ทหารยามนอกปราสาทได้ถามขึ้นมาเนื่องจากเขาเห็นเงาดำกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
“นี่ฉันเอง” เงาดำตอบ
ด้วยเสียงที่คุ้นเคยทำให้ทหารยามนึกออกทันทีว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
“คุณชายเมอร์ลินกลับมาแล้ว!! เดี๋ยวผมจะไปแจ้งให้ท่านบารอนทราบ”
เมื่อพวหทหารยามเห็นเมอร์ลิน พวกเขาก็โล่งอก พวกเขารู้ว่าเพียงว่าเมอร์ลินได้ไปที่ปราสาทของเคานต์เซลินและหายไปสองสามวัน พวกเขาไม่ได้ข่าวอะไรเลยจึงทำให้รู้สึกเป็นห่วง
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจะไปหาท่านพ่อเอง” เมอร์ลินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เดินเข้าไปในปราสาท เมื่อเขาเดินเข้าไปด้านใน เขาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลารับประทานอาหารค่ำ ทุกคนที่ร่วมรับประทานอาหารบนโต๊ะต่างประหลาดใจกับการปรากฏตัวของเมอร์ลิน
“เมอร์ลิน!!”
“คุณชายเมอร์ลิน!”
สายตาของเลห์แมนกับบารอนเพอร์แมนนั้นได้มองมาที่เมอร์ลินด้วยความคาดหวัง
“เมอร์ลิน ลูกมากับพ่อสิ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
จากนั้นเลห์แมนได้ลุกขึ้นจากเก้าอรี้และมุ่งหน้าขึ้นไปชั้นบน บารอนเพอร์แมนได้ตามไปด้วย เมอร์ลินรู้ว่าพ่อของเขาอยากจะพูดเรื่องอะไร เขาได้เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง เลห์แมนก็รีบถามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เมอร์ลิน ปัญหาของเคานต์เซลินได้รับการแก้ไขแล้วใช่มั้ย?”
แม้ว่าเลห์แมนจะไม่รู้ว่าปัญหาของเคานต์เซลินคืออะไรแต่มันต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่อย่างนั้นเคานต์เซลินไม่มีทางขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแน่นอน
เมอร์ลินมองไปที่เลห์แมนและบารอนเพอร์แมนพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
“ท่านพ่อครับ ตอนนี้ปัญหาของเคานต์เซลินได้รับการแก้ไขแล้วครับแล้วจากนี้ไป พวกเราสามารถตั้งถิ่นฐานในเมืองปรากาซได้อย่างถาวรแล้วขอรับ”
ทั้งสองได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดพวกเขาก็สามารถเริ่มต้นการตั้งถิ่นฐานได้อย่างเป็นทางการซะที
“เอาล่ะเมอร์ลิน ลูกไปพักผ่อนก่อนนะ”
เลห์แมนสังเกตเป็นความเหนื่อยล้าในแววตาของเมอร์ลิน เมื่อกล่าวจบเขาก็จากไปพร้อมกับบารอนเพอร์แมนอย่างรวดเร็ว
เมอร์ลินเข้ามาในห้องของเขา ไม่นานสาวใช้ก็เข้ามาพร้อมกับน้ำอุ่น
เขาหันไปมองสาวใช้ มันก็ทำให้เขานึกถึงลูเซีย สาวใช้ของเขาจากปราสาทวิลสัน ลูเซียนั้นไม่สามารถหลบหนีมาจากการไล่ฆ่าในครั้งนั้นได้ ตัวเธอได้ถูกสังหารโดยอัศวินของทีรอธ
เมอร์ลินได้สลัดความเศร้าหมองออกมาไป จากนั้นเขาได้ถอดเสื้อผ้าและลงไปในอ่างน้ำอย่างเงียบ ๆ
หลังจากที่เขาทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว เขาก็หยิบแหวนที่ได้มาจากเมอแรงค์ขึ้นมา จากนั้นเขาก็ใช้พลังจิตสำรวจสิ่งที่อยู่ในข้างในอย่างรวดเร็ว