ระหว่างทาง หลินจูก็ยังคงดูเป็นเด็กขี้สงสัย
“ว้าว ดูนั่นสินักเรียนซู ทะเลสาบนี้สวยมาก!”
“…นั่นคือเสี่ยวเหอโกวหรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามกลิ่นเหม็นชุยโกวจี…”
“หงส์อยู่ในทะเลสาบเสี่ยวเหอโกวหรือเปล่านะ?”
“…คุณหลินตาไม่ดีเหรอ นั่นมันถุงขยะ…”
“ห๊ะ! มันเป็นฝูงแกะที่แวบวาบผ่านมาเหรอ ทำไมพวกมันถึงแปลกจัง”
“…นั่นคือเด็กที่มาทำกิจกรรมนอกหลักสูตร…”
…
คำถามแปลก ๆ ของหลินจูและสายตาที่ไม่ดีของเธอทำให้ซูฟ่านขบขัน
เมื่อเห็นซูฟ่านล้อเลียนตัวเอง หลินจูก็หน้ามุ่ย
“ทำไมล่ะ คนเราจะสายตาสั้นไม่ได้เหรอ”
ซูฟ่านลดรอยยิ้มของเขา
“คุณสายตาสั้นมากหรือเปล่า”
เขามองไปที่ดวงตาของหลินจูและรู้สึกว่าดวงตาของหลินจูไม่เหมือนคนสายตาสั้น และเธอไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ด้วยซ้ำ
ใครจะรู้หลินจูกลับหัวเราะคิกคัก
“ตลกดีนะ ฉันตั้งใจทำเมื่อกี้นี้รู้ไหมเวลาคุณตั้งใจแก้ข้อผิดพลาดของคนอื่น ท่าทางแบบนั้นมันตลกดี ฮ่า ๆ ๆ…”
หลินจูยิ้มอย่างซุกซน
ซูฟ่านรู้ว่าเขาถูกหลินจูหลอก แต่เขาไม่ได้โกรธ
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่มีรอยยิ้ม แต่เขาก็แอบยิ้มอยู่ในใจ
ผู้หญิงคนนี้ซนจริง ๆ!
“คุณหลิน อย่าเพิ่งหัวเราะนะ ข้างหลังคุณ!”
“ข้างหลังฉัน?”
เมื่อเห็นใบหน้าประหม่าของซูฟ่าน รอยยิ้มของหลินจูก็หยุดนิ่ง
“ใช่ ลุกขึ้นเร็ว!”
หลังจากที่ซูฟ่านพูดจบ หลินจูก็คิดว่ามีแมลงอยู่ข้างหลังเธอ ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
ปัง
หัวของหลินจูกระแทกกับชั้นบน
เธอหันศีรษะกลับแต่เห็นว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างหลังเธอเลย
ซูฟ่านหัวเราะออกมาดัง ๆ
“นักเรียนซู คุณโกหกฉัน!”
หลินจูลูบหัวของเธอและพูดอย่างโกรธเคือง
“คุณหลินดูตลกมากตอนคุณกลัว…”
ซูฟ่านเอนตัวไปข้างหน้าและปิดหน้าตัวเอง
หลินจูไม่สามารถทนได้เธอจับหัวตัวเองและวิ่งไปที่ซูฟ่านก่อนจะจักจี้ซูฟ่านอย่างเมามัน
ซูฟ่านล้มลงบนเตียงแล้วร้องขอความเมตตา
หลังจากส่งเสียงดังหลินจูก็ไม่สามารถยืนนิ่งได้และตกลงไปในอ้อมแขนของซูฟ่านพร้อมร้องตกใจ
และมือของซูฟ่านก็สัมผัสลูกบอลที่นุ่มนิ่ม
ทั้งสองคนมองหน้ากันและบรรยากาศก็กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ใบหน้าแดงของหลินจูเหมือนกับตูดของลิง เธอทับซูฟ่านและรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจของซูฟ่าน
ถ้าหน้าทั้งสองคนใกล้กันกว่านี้แค่เล็กน้อยพวกเขาคงจะได้จูบกัน
แต่ตอนนี้ตำแหน่งมือของซูฟ่านค่อนข้างไม่ถูกต้อง หลินจูค่อนข้างเขินอาย
เธอผลักมือของซูฟ่านออกไปและลุกขึ้นนั่ง
“นักเรียนซู คุณ…”
“ขอโทษ…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริง ๆ…”
“ไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่อยากจะบอกว่าแฟนเก่าของฉันยังไม่เคยแตะต้องตัวฉัน…ฉันแค่เขินนิดหน่อย”
หลินจูโกหกว่าเธอจะไปห้องน้ำแล้วก็หายตัวไป
ซูฟ่านไม่กล้าที่จะไล่ตามหลินจู
เมื่อคิดถึงฉากนั้นซูฟ่านก็รู้สึกหน้าแดงเล็กน้อย
หลินจูกลับมาค่อนข้างเร็วและดูเหมือนว่าเธอได้ปรับอารมณ์ของเธอแล้ว
แต่บรรยากาศระหว่างทั้งสองยังค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย
หลินจูไม่ได้รบกวนซูฟ่านอีกต่อไป และซูฟ่านก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
ฉินเสี่ยวหยุนส่งข้อความมาทางโทรศัพท์
“หลินจูบอกว่าเธออยู่กับคุณ สถานการณ์เป็นอย่างไร?”
“เอ่อ ผมจะไปทำธุระที่นอกเมืองและผมก็เจอเธอเข้า”
ซูฟ่านตอบกลับไป
สองนาทีต่อมา
“เธอเป็นผู้หญิงไม่ดีจริง ๆ เธอบอกว่าเธอหนีออกจากบ้านแล้วไปอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง นี่น่าเป็นห่วงจริงๆ”
“ทำไม? ทำอย่างกับผมจะลักพาตัวเธอเลยนะเนี่ย!”
“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันวางใจได้ถ้าเธอตามคุณแต่หลินจูจะสร้างปัญหาให้คุณจุดการแน่ เมื่อคุณกลับมาก็บอกฉันเดี๋ยวฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำคุณเอง”
ฉินเสี่ยวหยุนตอบกลับมา
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็หยุดคุยกัน
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากไป๋ซู่ชิงสร้างปัญหาใหญ่ให้กับทีมงาน ทีมงานจึงเปลี่ยนนักแสดงใหม่
ดังนั้นฉากทั้งหมดจึงต้องถ่ายทำอีกครั้ง และชูหยุนซีก็ยิ่งยุ่งมากขึ้นไปอีก
นอกจากคำว่าอรุณสวัสดิ์และราตรีสวัสดิ์ เธอก็ไม่ได้ส่งข้อความใด ๆ ถึงซูฟ่านอีก
คราวนี้นักแสดงนำชายคือเฉินเหอฉินซึ่งเป็นดาราที่ได้รับความนิยมในแผ่นดินใหญ่
ซูฟ่านก็ชอบเฉินเหอฉิน
และซูฟ่านก็คิดว่าคน ๆ นี้ไม่เลว
นอกจากนี้ตอนนี้ทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับชูหยุนซีแล้ว และซูฟ่านก็ไม่ต้องกังวลว่าชูหยุนซีจะถูกรังแก
ระยะทางไกลนี้เป็นสิ่งที่เจ็บปวดจริง ๆ แม้ว่าซูฟ่านจะมองออกไปนอกหน้าต่างครู่หนึ่ง ปัดโทรศัพท์ของเขาชั่วขณะหนึ่ง และสนทนากับหลินจูพักหนึ่ง
แต่เวลาก็ยังคงยาวนานมาก
ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกอีกครั้ง
ซูฟ่านตั้งตารอค่ำคืนนี้เพราะองค์กรลึกลับควรจะลงมือในคืนนี้
มาเลยยังไงก็ดีกว่าต้องกังวลตลอดเวลา ซูฟ่านกำลังรอการมาถึงของพวกเขา
เมื่อถึงเวลาปิดไฟ พนักงานรถไฟก็เดินไปช่วยดึงผ้าม่านและผู้โดยสารก็กลับมายังตำแหน่งของตนหลังจากทำธุระเสร็จแล้ว
ภายใต้แสงสลัว หลินจูก็หลับไปอีกครั้ง
ซูฟ่านยังคงไม่ง่วง
แต่ด้วยความตาค้างและผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ แม้ว่าคนจากองค์กรลึกลับจะปรากฏตัวเขาก็ไม่กล้ารีบไปหาพวกนั้น
เพื่อล่อองค์กรลึกลับ ซูฟ่านจึงหลับตาและรออย่างช้า ๆ
แต่หูของเขาไม่ได้ปล่อยผ่านแม้แต่เสียงเดียว
สามชั่วโมงต่อมา หลินจูที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้ลุกไปห้องน้ำ
หลังจากกลับมา เธอนอนไม่หลับและมองออกไปนอกหน้าต่าง
ซูฟ่านรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของหลินจูและลืมตาขึ้น
“เป็นอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ฉันนอนไม่หลับแล้ว”
“คุณกังวล?”
“ไม่หรอก แต่คุณพาฉันไปที่โบกี้กลางเพื่อสูดอากาศหน่อยได้ไหม? ที่นี่มันอบอ้าวเกินไป”
หลินจูเสนอ
“ได้สิ”
ซูฟ่านสวมเสื้อกันลมเสร็จแล้วและเดินตามหลินจูไปที่โบกี้กลาง
ก่อนลุกไปซูฟ่านจงใจแตะเพชรที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ยืนอยู่ในที่อากาศที่ถ่ายเทสีหน้าของหลินจูดีขึ้นมาก
“นักเรียนซูมีอะไรอยู่ในอ้อมแขนของคุณหรือเปล่า ฉันคิดว่าคุณสัมผัสมันมาหลายครั้งแล้ว”
หลินจูกระพริบตาทันทีและถามด้วยความสงสัย
“ไม่…”
“โกหกไม่ดีหรอกนะนักเรียนซู”
หลินจูมองไปที่ซูฟ่านด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่ได้โกหก”
“จริงเหรอ แต่ฉันเห็นเพชรสีแดงที่อยู่ในกระเป๋าหน้าอกของคุณนะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินจูนั้นแปลก และซูฟ่านก็ขนลุกตามร่างกายของเขา
ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ หลินจูก็ได้เหยียดมือออกเพื่อพุ่งไปที่กระเป๋าหน้าอกของเขาและเพชรสีแดงก็ตกไปอยู่ในมือของหลินจู!
มีดแทงหน้าอกของซูฟ่านไปด้วย!
การเคลื่อนไหวของหลินจูเร็วมากจนซูฟ่านไม่ทันตอบสนองเลยเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
เมื่อเขาตอบสนองหน้าอกของเขาก็ถูกฟันไปแล้ว และหลินจูก็หายตัวไปจากอากาศ
มีอาการเจ็บหน้าอกอย่างกะทันหัน แต่ซูฟ่านไม่สนใจความเจ็บปวดของเขา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อหลินจูขโมยเพชรของเขาและหายตัวไป?!
ความเร็วของการหายตัวไปนี้ใกล้เคียงกับทักษะการเทเลพอร์ตของเขามาก
ตึง ตึง…
ซูฟ่านจับเสียงฝีเท้าเหนือหัวของเขาได้