[ ไร้ยางอาย ?? ]
ผมไม่รู้ว่าเธอไปเข้าใจผิดอีท่าไหนนะ
แต่ผมไม่เคยทำเรื่องไร้ยางอายกับใครเลย
ยกเว้นเหล่าพี่สาวแสนสวยเท่านั้น
อิอิ
[[ แต่ชั้นเคยได้ยินมาว่านายเคยขอดูหนองโพของ มาน่า ด้วยนินา~ ]]
[ นั้นมันไม่เหมือนกันน่า. . . เอ๊ะเดี่ยวนะ !! ]
ขณะที่ผมกำลังพูดอยู่ในหัวตัวเอง
ผมก็ได้ยินเสียงอลิเซียดังขึ้นในหัวของผม
เมื่อผมหันกลับไปก็พบกับอลิเซียกำลังจับอยู่ที่ต่างหูที่หูขวาของเธอ
[[ นี่คือหินสื่อสารนะ ที่สำคัญ นายเออ,ออ ตามให้ตรงกับเรื่องของชั้นนะ เคมั้ย ]]
เมื่ออลิเซียกล่าวออกมาอย่างงั้น ผมก็ทำได้เพียงแค่ตอบตกลงตามน้ำไปเพียงอย่างเดียว เอาล่ะ . .
[ พะ-, เพื่อที่จะทำให้นักเรียนกลายเป็น “ของของนาย” นายจึงมอบต่างหูที่เหมือนกับนายให้กับท่านอลิเซีย และนั้นเพื่อประกาศต่อคนอื่นๆว่า ท่านอลิเซียนั้น “คือของข้าคนนี้” สินะคะ !! แถมยังบังคับขู่เข็ญ ท่านอลิเซีย โดยไม่ยินยอมพร้อมใจ นะ-, นายนี่มัน เลว อุกอาจ ชั่วช้า– ไร้ยางอายที่สุด !!!!!! ]
หลายๆสิ่งในสมองของยัยผมทองม้วนนี้คิดแต่เรื่องแปลกๆออกมา . . .
แค่เรื่องใส่ต่างหูเหมือนกัน
ดันคิดเป็นตุเป็นตะได้ถึงขนาดนั้น . .
ไม่ใช่ว่ายัยนี่ไม่เต็มบาทอีกคนงั้นเรอะ !!
เอ๋ รึว่ายัยนี่ . .
อิจฉาผมอย่างงั้นเรอะ ?
[[ นี่ๆ ไม่ใช่ว่ายัยนี่ . . เป็น ” พวกนั้น ” สินะ ]]
[[ อืม ใช่แล้ว ]]
ถ้าหากสิ่งที่อลิเซียบอกออกมานั้นคือความจริงแล้วล่ะก็ . .
ยัยนี่อย่างน้อยที่สุดก็คงหลงรักอลิเซียมากกว่าแค่เพื่อนกันธรรมดาอย่างแน่นอน . .
[ ถะ-, ถ้าเป็นอย่างนี้ล่ะก็ !! ท่านอาจารย์ยาชิโระ ดิชั้นขอท้าดวลคุณโดยมี ท่านอลิเซียเป็นเดิมพัน ค่ะ !!!!!!!!! ]
ยัยยูริหัวม้วนถอดถุงมือของเธอแล้วปามาใส่ผม . .
ยัยโง่นี่ เธอไม่เข้าใจหรอกหรอว่านักเรียนคนอื่นๆที่กำลังไปโรงเรียนนั้นอยู่โดยรอบเต็มไปหมด
[ ทะ- , ท่านเฮนเรียสต้าซามะ กำลังต่อสู้เพื่อความรัก. . ช่างงดงามยิ่งนัก ~ ]
[ เดี่ยวนะนายพูดว่าเฮนเรียสต้างั้นเรอะ นายหมายถึงผู้หญิงผมบอร์นตรงนั้นคือ ท่านเฮนเรียสต้า ดี เคสโตเรียซัง ที่อยู่ห้องสอง งั้นรึ . . อ่าา ท่านช่างงดงามจริงๆ~ ]
[ พวกนาย !!! อย่าทำจมูกยืดเวลามองท่านหญิงเฮนเรียสต้านะ !! ทำไมไอ้พวกผู้ชายถึงเป็นซะอย่างนี้นะ ]
[ มะ-, ไม่จริงน่า !! ]
[ มันไม่ยืดซักหน่อย !! ]
ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นการทะเลาะกันระหว่างเหล่านักเรียนชายและนักเรียนหญิง ภาพของเหล่านักเรียนโทษอีกฝ่าย ต่อว่าอีกฝ่าย และสุดท้ายก็ทะเลาะกัน . . .
ไม่ว่าโลกไหนๆภาพแบบนี้ก็มีให้เห็นสินะ. .
หือ ? คุณจะถามว่าช่วงวัยเรียนของผมเป็นอย่างไรหรอ ?
ผมน่ะ เป็นที่นิยมที่สุด(ด้านถูกเกลียด)ในหมู่สาวๆอยู่แล้ว
แน่นอนผมไม่มีทางแบ่งความนิยม(ด้านถูกเกลียด)ให้พวกผู้ชายคนอื่นหรอก
ผมเลยแบกรับ(ด้านถูกเกลียด)มันไว้คนเดียว
ผมมันช่างเท่จริงๆ . .
ตับ ตับ ๆ
เสียงตบมือที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เหล่านักเรียนชายหญิงที่ทะเลาะกันหันไปตามเสียงนั้น
[ หยุดเดียวนี้นะ !! รู้บ้างรึปล่าว การทะเลาะบนถนนแบบนี้ เป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยสักนิด ]
เป็นฝีมือของยัยยูริหัวม้วน พลังในการตบมือนั้นสามารถเรียกทุกคนจนเธอกลายเป็นจุดสนใจ
การที่หยุดเหล่านักเรียนทะเลาะกันนั้นช่างเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเหล่านักเรียนจริงๆ
แต่ว่า ยัยนี่กับมาท้าดวลผมกลางถนน. . . .
ผมขอคืนคำพูดนั้นแล้วกัน
[ พะ-, พวกเราขอโทษจริงๆค่ะ ท่านเฮนเรียสต้าซามะ ]
[ ขะ- , ขอโทษครับ ]
[ คิคิ ถ้าทำผิดแล้วรู้จักยอมรับผิดก็ดีแล้วล่ะค่ะ ]
เหล่านักเรียนชายหญิงต่างพากันขอโทษยัยยูริหัวม้วน และยัยยูริหัวม้วนนี้ก็ได้ยิ้มและตอบกลับไป
[ มะ- , มันเป็นความผิดของผมเอง ]
[ ไม่จริงหรอกค่ะ พวกเราผิดกันทั้งคู่แหละค่ะ ]
พวกเขาต่างพากันขอโทษซึ่งกันและกัน บรรยากาศแห่งความสุขเริ่มปกคลุมเหล่าเด็กนักเรียนที่คืนดีกันและต่างพากันเดินไปโรงเรียนกันต่อ
เมื่อผมมองดูภาพเหล่านั้น ผมละเกิดอยากจะโยนแมงมุมหรือแมลงสาบลงกลางวงเพื่อทำลายบรรยากาศเหล่านั้นจริงๆ . .
แต่ในเมื่อผมน่ะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ผมควรสนับสนุนที่เห็นเด็กๆรักกัน
ผมจึงได้แต่อดทนมันเอาไว้ . . .
[ เอ๊ะ เดี่ยวนะ นี่ไม่ใช่เวลาที่ดิชั้นต้องมาสนใจเรื่องอื่นนิคะ !! ใช่แล้ว ท่านอาจารย์ยาชิโระ คำตอบของคุณละคะ ]
[ ไม่มีทาง ]
[ ตอบมาในทันที!! ตะ-,ตอบมาในทันทีเลยหรือคะ !! — อ่า อ้อ เป็นอย่างนี้เองสินะคะ คิกคิก . . คุณกลัวสินะคะ กลัวที่จะถูกดิชั้นจัดการ และพรากท่านอลิเซียไปจากคุณสินะคะ ]
ยัยยูริหัวม้วนนี้ชี้นิ้วถากถางผมฉอดๆ
ผมควรจะพูดอะไรออกไปดี กับ เด็กสาวที่สวยเสียของขนาดนี้ . .
[ เกี่ยวกับต่างหูนั้น ดิชั้นเป็นคนมอบให้เองค่ะ ]
[ — เอ๋? ]
เพราะคำพูดของอลิเซีย
ยัยยูริหัวม้วนจึงหยุดหัวเราะถากถางผม . . .
ที่จริงควรจะหยุดตั้งนานแล้วนะ
[ ต่างหูนั้นเป็นของขวัญที่ดิชั้นมอบให้ท่านอาจารย์ยาชิโระค่ะ เป็นการแสดงความยินดีของดิชั้นที่มีต่อท่านอาจารย์ค่ะ ดังนั้น ที่ท่านเคสโตเรียพูดออกมานั้นจึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดและ— ]
[. . . ยู , ยู ยาชิโระ !!! ]
ยัยยูริหัวม้วนพูดแทรกขึ้นมาพร้อมน้ำตาคลอจ้องมาที่ผม . .
และเธอก็ถอดถุงมือของเธอออก และปามันมาที่ผม
[ ฝากไว้ก่อนเถอะค่ะ !! ]
ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ยัยยูริหัวม้วนก้อวิ่งไปทางโรงเรียนอย่างรวดเร็ว . .
—————-
[ เอ่ออ . . อย่างแรกนะครับ สิ่งที่เรียกว่า ภาษาเวทย์มนตร์นั้น ]
หลังจากเรื่องเมื่อตอนนั้น ผมก็ได้มาถึงโรงเรียน และมุ่งตรงไปที่ห้องพักอาจารย์เพื่อรับผ้าคลุมมาสวม แม้จะเจอกับ กับดัก ที่นักเรียนวางไว้ แต่ผมก้อทำลายมันและเริ่มการสอนบทเรียน
สำหรับกับดักที่เหล่านักเรียนวางไว้สำหรับผมนั้น การที่จะหลบกับดับเหล่านั้นได้หมดนี้จะต้องใช้การเคลื่อนไหวที่เหนือมนุษย์เลยนะ !! นี่มันคิดจะฆ่ากันจริงๆเลยนะ เฮ้ย . .
พวกแกเข้าใจความหมายอะไรผิดไปรึปล่าว. . .
ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกเจ็บ . .
เริ่มสอนต่อเลยดีกว่า
[ มันมีต้นกำเนิดมาจากภาษา Selmekia โบราณ , เอาล่ะ มีใครบอกได้มั้ยว่า ภาษา Selmekia โบราณคืออะไร ]
โอ้ โอ้ , เดี่ยวนะ นักเรียนกว่าครึ่งห้องต่างยกมือขึ้นกันหมดเลย เมื่อผมมองไปรอบๆผมก็พบกับเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งที่ยกมือขึ้นมาด้วยความกะตือรือร่นราวกับพยายามจะบอกว่า [ ผมอยู่นี้ ผมรู้ เลือกผมสิ !! ]
ไหนดูสิ . .
หมอนั้นนั่งอยู่โต๊ะเบอร์ เอ่อ . .
ผมดูสมุดรายชื่อนักเรียนที่ยืมมาจากท่านอาจารย์โดโตเรกเก้
เพื่อหาชื่อเด็กนักเรียนชายคนนั้น . .
[ มันดีนะที่เธอมีความกระตือรือล้นดี เคทคุง ไหนลองตอบมาซิ ]
[ ครับผม !! ท่านอาจารย์มีคนรักรึยั—โอ้ยยยย ]
ผมจัดการเคทคุง ที่ลุกขึ้นตอบด้วยความกระตือรือล้น ให้นั่งลงด้วยกระสุนยางลบ
. . . . เกี่ยวกับคนต่อไป
ผมมีลางสังหรณ์ชอบกล แต่ผมยังจะขอเลือกเด็กผู้ชายอีกรอบ
[ เอาละ แม๊กคุง ไหนลองตอบมา— ]
[ ท่านอาจารย์แต่งงาน—โอ้ยย ]
มันเป็นเพราะผมเอง ที่ผมไม่เปิดโอกาสให้เหล่านักเรียนถามคำถามในวันพิธีแนะนำตัว
และนั้นคือเหตุผลที่แววตาของเหล่านักเรียนลุกโชนไปด้วยเปลวไฟแห่งความอยากรู้
[ . . . . .]
เมื่อผมมองไปทางอลิเซีย
ก็พบกับเธอที่กำลังหัวเราะคิกๆอยู่
. . . ฝีมือยัยนี่สินะ ที่แนะนำพวกนี้ให้ถามคำถามแบบนี้กับผม
[ เฮ้อ . . เฮนเรียสต้า ดี เคสโตเรียคุง เชิญครับ ]
เมื่อผมกำลังมองหาคนที่จะไม่ถามคำถามกวนประสาทผม ผมก็พบกับ ยัยยูริหัวม้วน ภาพของเธอที่ยกแขนขอตอบนั้น มันช่างให้ความรู้สึกปลอดภัยจริงๆ
[ ค่ะ ภาษา Selmekia นั้นเป็นภาษาเก่าแก่ที่คงอยู่มานานนับ 1000 ปีแล้วค่ะ ]
เธอตอบออกมาอย่างราบเรียบ . . .
หุหุ สงสัยคำถามจะง่ายไปหน่อย
[ แล้วเธอสามารถบอกลักษณะของมันได้มั้ยครับ ]
[ ค่ะ . . .ภาษา selmekia นั้นเมื่อเทียบกับภาษา Ishrel ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ภาษา selmekia จะมีข้อความที่ยาวกว่า เช่น [[apple]] เมื่อแปลงเป็นภาษา selmekia จะได้ [[ shurenruule ]] หรือมีความหมายว่า” ผลไม้ที่มีสีแดงสดอยู่ล้อมรอบ ” ค่ะ]
[ ถูกต้องครับ สมกับเป็น [[เจ้าหญิงอัศวิน]] แห่งอาณาจักร เคสโตเรีย ]
สมกับเป็นนักเรียนที่อยู่ชั้นเดียวกับอลิเซียจริงๆ ตอบคำถามได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
[ . . .ท่านอาจารย์ ดิชั้นขอถามอะไรบางอย่างได้มั้ยคะ ]
[ หือ? ได้สิ อะไรล่ะ ]
มีอะไรที่เธอไม่รู้อีกรึไงกันนะ ? ในเมื่อคำตอบที่เธอตอบมามันก็ยอดเยี่ยมแล้วนะ
เอ๊ะ รึว่าจะเป็นไอ้นั้น ??
คงจะเป็นเรื่องทำไมภาษาอิสเรียวในปัจจุบันถึงไม่นำภาษาเซลมีเคียมาใช้ในคำร่ายเวทย์มนตร์
หึหึ ผมละตกใจจริงๆที่เธอคืดคำถามนี้ออกมาได้ แต่ถามหากเธอลองมองมันดีๆแล้วจะเห็นว่า ภาษา เซลมีเคียนั้นมันตกยุค—-
[ กรุณาบอกดิชั้นให้รู้เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของท่านอาจารย์และท่านอลิเซียทีค่ะ !!!! ]
[ . . . !? ]
ยะ,ยัยนี่ ผมอุตส่าคิดว่าเธอตอบคำถามได้ดีแท้ๆ . .
แต่เธอเล่นใช้แผน ” เมื่อชั้นตอบคำถามคุณแล้ว ดังนั้นคุณต้องตอบคำถามชั้นบ้าง ”
ที่สำคัญ ยัยนี่ดันเน้นคำว่า”ความสัมพันธ์กับท่านอลิเซีย” ซะเสียงดังเชียวนะ
[ ความสัมพันธ์กับอลิเซียซัง ?? ]
[ เอ๊ะ หมายความว่าไงกัน ]
[ เห้ยๆ ดูที่หูของท่านอาจารย์ยาชิโระสิพวกเรา มันเป็นต่างหูแบบเดียวกับอลิเซียเลยเว้ยเห้ยย!!! ]
[จริงด้วย!! ที่สำคัญ พวกมันอยู่คนละข้างกันด้วยนะ ]
[ ระ- ,รึว่า !! อาจารย์ยาชิโระกับท่านอลิเซียจะเป็นคู่หมั้นกัน !!]
[ กรี้ดดดด ! สะ-,ใส่ต่างหูคู่กันแบบนี้ภายในโรงเรียน !!! ช่างไม่อายเลยค่าาาา ]
บ้าเอ้ย นี่มันชักจะลุกลามไปกันใหญ่แล้ว ที่สำคัญ อย่าว่าคนอื่นช่างไม่อายทั้งๆที่ตัวเองทำหน้าตามีความสุขขนาดนั้นสิฟร่ะ
[ ท่านอาจารย์ยาชิโระ !! คำตอบของคุณละคะ !! ]
ยัยยูริหัวม้วนชี้นิ้วมาทางผมพร้อมตะโกนออกมาเสียงดัง . . .
* ครืดด * ( เสียงเลื่อนเก้าอี้ )
เมื่อผมกำลังคิดว่าจะจัดการกับยัยยูริหัวม้วนนี้ยังไงดี ก็มีเสียงคนเลื่อนเก้าอี้เพื่อที่จะลุกขึ้นดังขึ้นในห้องเรียน
[ อลิ. . .เซีย ? ]
เป็นอลิเซีย เธอลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอและมุ่งตรงมาที่โต๊ะอาจารย์ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ไม่สิต้องบอกว่ามุ่งตรงมาที่ผมต่างหาก
[ . . . พวกเรากำลังจะหมั้นกันฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ค่ะ ]
และเธอก็ได้เข้ามาสวมกอดผม . .
ยะ,ยัยตัวร้ายนี่ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ดันพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง—-
[ [ [ [ กรี๊ดดดดด~! ] ] ] ]
พร้อมกับเสียงเชียร์ที่ดังขึ้น ถ้าคนอื่นที่ไม่รู้อาจคิดว่าในห้องนี้มีระเบิดหรือเกิดอะไรบางอย่าง
. . .และเสียงกรี๊ดส่วนใหญ่มาจากนักเรียนหญิง
[ อลิเซีย . . ธะ-,เธอ เธอทำมันไปจนได้นะ ]
[ คิกๆ แบบนี้ชั้นจะได้คล้องแขนกับยูในโรงเรียนได้ไงล้า ~ แถมไม่เกิดข่าวลือแปลกๆด้วย เยี่ยมเนอะ ~ ]
ขณะที่ผมกำลังตกตะลึงกับคำพูดของอลิเซียอยู่นั้น
ก็มีถุงมือลอยมาแปะที่หน้าของผม(รอบที่3ของวัน) พอมาคิดๆดูแล้วก็คงมีคนเดียวแหละที่ปามา
[ ยู ยาชิโระ !!! ดิชั้นขอท้าดวลกับนาย !!! ]
ยัยยูริหัวม้วนตะโกนออกมาทั้งที่ใบหน้าเลอะไปด้วยน้ำมูกและน้ำตา. . .
เพราะว่าผมกำลังเอ๋อๆอยู่ เลยเผลอพยักหน้ากลับไป
_________
และแล้ว 2 วันผ่านไป ก็มาถึงปัจจุบัน . .
ที่มันใช้เวลาตั้ง 2 วันกว่าจะได้ประลอง เป็นเพราะว่า ข่าวลือเรื่องของผมแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทางสถานักเรียนจึงเล็งเห็นควรจะจัดเป็นงานใหญ่โตไปเลย . .
[ บ้าเอ้ย . . ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของยัยอลิเซียทั้งนั้น ]
ที่จริงวันนี้เป็นวันหยุดของทางโรงเรียน ผมเลยวางแผนไว้ว่าจะไปขอให้คนรู้จักที่เป็นอารัคเน่ออกแบบชุดเครื่องแบบนักเรียนที่เคยพูดถึงเอาไว้
แต่ . . .
วันนี้จับผลัดจับผลูจนต้องมาประลองเนี้ย
จบกัน. .
แผนที่ผมวาง
บ้าเอ้ย
[ คุณเตรียมตัวพร้อมรึยังคะ ]
ที่ข้างหน้าของผมตอนนี้ ผู้ที่สวมผ้าคลุมสีเดียวกับผม
คือยัยยูริหัวม้วนที่กำลังยกดาบสั้นของเธอขึ้นเหนือหัว
[ เฮ้อ . . เธอจะเริ่มตอนไหนก็ได้เลยครับ ]
ผมตอบรับคำพูดของเธอพร้อมกับดึงดาบของผมออกมาจากในผ้าคลุม