อ่าาา ก้อนเมฆขาวงามมม ฟ้าสีครามสดใส~
นี่มันอากาศดีเหมาะแก่การเดินเล่นชิวๆมาก ตั้งแต่ถูกอัญเชิญ(อีกครั้ง)มาที่โลกรูนเบิร์กแห่งนี้ มันก็ผ่านไป 1เดือนครึ่งแล้ว แต่ผมแน่ใจได้เลยว่าอากาศใน ณ ขณะนี้นั้นยอดเยี่ยมที่สุดแล้วว
[ [ [ โว้วววววววววว ] ] ]
แล้วก็ ตั้งแต่ผมมาถึงที่เมือง Lizwadia แห่งนี้นั้นผ่านไปยังไม่ถึง 5 วันเลยด้วยซ้ำ
ส่วนตอนนี้ ผมไม่ได้อยู่กับเบอร์นาเดสหรอกนะ ดูเหมือนว่าเธอจะไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆในเมือง. . .
ดีจังเลยน้าา
แล้วก็ ที่โรงเรียน Lizwadia นั้นจะมีนโยบายที่ขายอาหารที่ถูกแถมอร่อยด้วยสำหรับนักเรียน ส่วนเมนูนั่นมีให้เลือกอย่างมากมาย …
เฮ้อ ถ้าได้เดินเที่ยวชมเมืองพร้อมกับกินของอร่อยๆไปด้วยมันยอดเยี่ยมที่สุดแล้วว น่าอิจฉาจัง. . .
[ ท่าน เฮนเรียสต้า ซาม่าาาา ~ ]
[ กรี้ดดดดดด ]
[ วันนี้ท่านเฮนเรียสต้าช่างงดงามเหลือเกินคร๊าบบบ ~ ]
หรือบางทีผมควรชวนเบอร์นาเดสไปเที่ยวด้วยดีนะ? . . .
แต่ถ้าพาเธอไปด้วยล่ะก็
ได้เสียเงินเลี้ยงเธอมหาศาลแน่นอน
แต่ช่างเถอะ
วันนี้อากาศดี ถ้าไม่เที่ยวเยอะๆล่ะก็คงเสียโอกาสแน่เลย
[ ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี !! ขอบคุณสำหรับการรอคอย ขณะนี้ก็มาถึงพิธีหลัก การประลองเวทย์มนตร์ของกรมนักศึกษาที่ 2 ระหว่าง [[ เจ้าหญิงอัศวิน ]] ท่านเฮนเรียสต้า เดอร์ เคสโทเรีย กับ อาจารย์ผู้ช่วยชั่วคราว ท่านอาจารย์ ยูยะ ตอนนี้การประลองใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เชิญทุกท่านประจำที่นั่งและเตรียมตัวรับชมการประลองที่กำลังจะมีขึ้นด้วยครับ ]
อ่าา ,
ผมต้องขึ้นไปบนเวทีแล้วสินะ . . .
[[ นายจะหนีความจริงได้นานแค่ไหนกันเชียว ตายูบ้า ]]
[ เฮ้อ . . ผมล่ะไม่ชินกับเจ้านี่จริงๆ ]
เสียงที่โผล่มาอย่างกระทันหันในหัวของผมคือเสียงของอลิเซีย บอกได้ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่จริงๆ ผมจึงจับไปที่ตุ้มหูมรกตที่เจาะอยู่ที่หูซ้ายของผม
[ ก็จริงอยู่ที่ผมอยากจะหนีความจริง ณ ตอนนี้ , , , อย่างแรกเลย ทำไมผมต้องมาเข้าร่วมการประลองนี้ท่ามกลางผู้ชมมากมายขนาดนี้ด้วยนะ ]
เมื่อมองไปรอบๆ สิ่งที่ปรากฎต่อสายตาผมขณะนี้คือเหล่าผู้ชมที่นั่งอยู่มากมายรอบๆราวกับอยู่ใน โครอสเซียมในอิตาลี่ (เดี่ยวนะใช่อิตาลี่ป่าววะ??)
และทุกคนนั้นต่างสวมผ้าคลุมสีขี้เถ้าเหมือนๆกัน
ผมต้องขอบคุณจริงๆที่แห่มาชมกันจนตั๋วขายหมดเต็มทุกที่นั่งขนาดนี้. . .
ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ได้ฟร่ะเนี้ย
สถานที่ ที่ผมอยู่ ณ ขณะนี้ คือลานประลองทรงกลมโดยที่มีเหล่าผู้ชมรายล้อมอยู่รอบๆสูงขึ้นไป
และเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วลานประลองตอนนี้ มันเป็นเสียงของเหล่าเด็กหนุ่มตะโกนเชียร์ออกมา . . .
หนวกหูจริงๆ
[[ นั้นเป็นเพราะความนิยมในตัวของ ((เจ้าหญิงอัศวิน)) ท่านเคสโตเรียยังไงล้าา~ รู้มั้ย ความนิยมในตัวของเธอค่อนข้างสูงทีเดียวน้า~ ]]
และอีกครั้งที่เสียงของ อลิเซียดังขึ้นในหัวของผม อาจจะมีบางคนรู้แล้ว ที่เสียงของอลิเซียดังขึ้นนั้น เพราะต่างหูที่หูซ้ายของผม
[ ถึงแม้นี่จะฟังดูแรงไปหน่อยนะ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบที่คริสโทเรียใช้ชื่อที่ 2 เหมือนกับซิลเวีย พี่สาวของเธอสินะครับ ]
ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์ที่ดังกึกก้อง แต่คำพูดของอลิเซียนั้นก็เข้ามาสู่ในหัวของผมอย่างชัดเจน
[[ มะ-, มันไม่ใช่นะ บากะ ยู !!!!!!! ]]
[ ไม่ต้องอายไปเลยน่า . . เธอเองก็เป็นพวกซิสค่อนเหมือนกันสินะ ]
[[ ไม่ใช่นะ . . .ยู- คนบ้า !! ]]
เสียงของอลิเซียได้ขาดหาย. .
ยัยนั้นตัดการเชื่อมต่อเวทย์มนตร์เรอะ?
เจ้าต่างหูมรกตที่เสียงอยู่ที่หูซ้ายของผมเป็นอุปกรณ์เวทย์มนตร์ที่ถูกเรียกว่ากับหินสื่อสาร และเมื่อเราส่งพลังเวทย์มนตร์เข้าไปยังหินสื่อสารนั้น มันจะทำให้เราสามารถส่งข้อความโดยที่ไม่ต้องพูดคุยได้ เราเรียกการติดต่อแบบนี้ว่า การส่งข้อความแบบกระแสจิต
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีข้อจำกัดในด้านของระยะทางและมันไม่สามารถใช้ได้ถ้าหากไม่ได้ส่งพลังเวทย์มนตร์เข้าไป
เพราะผมนั้นไม่มีพลังเวทย์จึงไม่สามารถที่จะทำให้หินสื่อสารทำงานได้ ดังนั้นผมเลยทำใด้แค่รออย่างเดียว เพราะอดสวนกลับหลังจากที่ถูกด่าว่าบ้าผมจึงใช้ตาของผม(ที่ถูกเพิ่มพลังโดยดาบศักดิ์สิทธ์) มองหาอลิเซียที่คาดว่าน่าจะอยู่ท่ามกลางผู้ชม
[ ทั้งๆที่มีชั้นคนนี้เป็นคู่ต่อสู้แท้ๆ แต่นายยังคงใจเย็นอยู่ได้อีกหรือคะ. . ]
แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องแต่
ก็มีเสียงๆหนึ่งดังเข้ามาในหูของผม
[ เฮ้ออ . . ]
[ ถ้าหากนายคิดว่าชั้นคนนี้เป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆแล้วล่ะก็ . . เปลี่ยนความคิดซะใหม่เถอะนะคะ ]
ผมสีทองและดวงตาสีม่วงที่อาจทำให้คุณเข้าใจผิดเป็นพลอย ทรงผมสุดฮิตในหมู่คุณหญิงคุณนาย ทรง Vertical Roll (ดัดเป็นลอนๆมั้งนะ) แม้ว่าเธอจะอายุเพียงแค่ 12 ปี แต่เธอค่อยข้างสูงเลยทีเดียว แม้ว่าเธอจะอยู่ชั้นเดียวกับอลิเซียและคนอื่นๆ แต่ด้านความสูงของเธอนั้นถือได้ว่าสูงที่สุดในชั้น และไม่มีข้อยกเว้น เธอเองก็สวมผ้าคลุมนั้นเหมือนกัน
[ นี่นายได้ฟังที่ชั้นพูดบ้างมั้ยเนี้ย ]
[ เอ๊ะ . .อ่าๆ โทดทีๆ ผมได้ยินแล้ว ]
[!! . . . ดี เพราะชั้นคนนี้จะเป็นคนอัดนายให้น่วมเอง !! ]
พร้อมกับคำพูดของเธอ เฮนเรียสต้าดึงดาบเล็กๆของเธอออกมาจากภายใต้ผ้าคลุม
หือ. ราเปีย งั้นรึ
นอกจากนั้น ยังมีอัญมณีอีกหลายเม็ดที่ถืออยู่ในมือของเธอ. .
หินเวทย์มนตร์สินะ
ช่างเป็นปัญหาเสียจริง
เธอเองก็เป็นจอมเวทย์แบบเดียวกับ ซิลเวียสินะ
เป็น . (( อัศวินเวทย์มนตร์ ))
[ เฮ้อออออ . . . . ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ละเนี้ย ]
คำถามของผมนั้นได้จางหายไปพร้อมกับเสียงเชียร์
————-
เมื่อ 2 วันก่อน
มันเป็นหลังจากที่จบพิธีแนะนำตัวไป ในความหมายก็คือวันนี้คือวันที่ผมต้องไปสอนนั้นเอง ผมออกจาโรงแรมน้องหมาบ๊อกๆก่อนเวลานิดหน่อยและมุ่งตรงไปยังโรงเรียน
แม้มันจะยังค่อนข้างเช้ามากอยู่ (สำหรับผมนะ) แต่ที่เมืองนี้กลับพลุกพล่านไปด้วยผู้คน
และเหล่านักเรียนชายหญิงที่ต่างสวมผ้าคลุมมากมายกำลังเดินไปยังโรงเรียน
แม้ที่นี่จะเป็นที่ต่างโลกก็ตาม แต่วิธีการเดินทางไปโรงเรียนช่างเหมือนกันจังเลยน้าา
และในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น. .
[ ยูยยยย !! ]
[ อุ ว้าา ]
แรงกระแทกบางอย่างเกิดขึ้นที่ด้านหลังเอวของผม
และผมรู้ได้ในทันที ฝีมือของอลิเซียชัว
[ อูยยย . . .อลิเซีย เธอเข้าใจจุดยืนของเธอบ้างมั้ยเนี้ย . . ]
เมื่อผมหันกลับไป ก็พบกับ อลิเซียที่ตอนนี้เธอรวบผมสีเงินของเธอไว้ข้างหนึ่ง หรือที่เรียกว่าทรง side tail
แม้ว่าผมจะแอบดีใจเล็กๆ ที่เห็นอลิเซียกลับมาไว้ผมทรงนี้อีกครั้งหลังจากไม่ได้เห็นมานาน แต่ผมก็ยังทำเสียงดุ
[ ชั้นร่ายเวทย์ปิดกั้นการรับรู้และมิติแห่งความเงียบเอาไว้แล้วน้า~ เพราะฉนั้นไม่มีผู้คนสังเกตุเห็นหรอกนะ ~ ]
ขณะที่เธอพูดออกมาอย่างนั้น เธอก็เข้ามากอดที่แขนของผม
แม้รอบๆพวกเรา ผู้คนต่างเร่งรีบกัน ราวกับว่าพวกเรากลายเป็นเสาโทรศัพท์ เหล่าผู้คนต่างเดินหลบพวกเราโดยไม่มีมีใครสนใจ
เธอไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านมาแล้ว 3 ปี
อีกอย่าง ศัพท์ที่เธอพูดออกมาว่า มิติแห่งความเงียบนั้น มันคือการร่ายเวทย์หลายๆอย่างให้ทำงานพร้อมกัน แต่ มันค่อนค้างยากมากที่จะทำ แต่ที่จริงก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครทำได้หรอกนะ
ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝน แม้ว่าเกือบทุกคนจะทำได้เหมือนกัน
แต่โดยปกติแล้ว การร่ายเวทย์มนตร์นั้นไม่ควรที่จะใช้พร้อมๆกัน และถ้าหากเราร่ายเวทย์มนตร์พร้อมๆกันนั้น ความยากนั้นก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากทีเดียว แม้ในหมู่เหล่าสัตว์ประหลาดจอมเวทย์องครักษ์ทั้ง 4 ของอาณาจักรลีซาเรี่ยน มีเพียง 2 คน เท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้ แต่สำหรับอลิเซียแล้วเธอกลับทำได้อย่างง่ายดาย
[ ชิ . . เจ้าหญิงคนนี้ ]
แม้ว่าเธอจะพึ่งอายุเพียง 12 ปี แต่ความเป็นอัจฉริยะทางด้านเวทย์มนตร์ของเธอนั้นเหนือกว่ายายแก่ซะอีก
[ อ่าา ใช่แล้ว ชั้นมีของขวัญจะให้ ยู ด้วย ล้า~ ]
สิ่งที่เธอดึงออกมาจากใต้ผ้าคลุมของเธอนั้น คือกล่องเล็กๆกล่องนึง ราวกับกล่องใส่อัญมณี
เมื่อผมเปิดกล่องเล็กๆนั้น ก็พบกับต่างหูคู่หนึ่งที่มีมรกตติดอยู่
[ เฮ, พวกมันสวยดีนะ ]
[ คิคิ เดี่ยวชั้นจะใส่ให้เอง เอาล่ะ นั่งลง !! ]
[ ไม่ๆ , ผมไม่มีรสนิยมทางแฟชั่นในการเจาะๆ ]
[ ไม่เอาน้า ยูโตเป็นผู้ใหญ่อก 3 ศอกแล้วนะ และนี่จะทำให้เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆด้วยนะ ]
ก็จริงอยู่ ไอ้พวกหน้าหล่อมักจะใส่ของพวกนี้สักชิ้น
[ เดี่ยว , โอ๊ยยย ]
รู้สึกตัวอีกทีหูของผมก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มเจาะเข้าให้แล้ว
[ โอ้ย เวลาเจาะหูทำไมมันเจ็บจังอะ ]
[ ชิ อย่าร้องไห้น่า~ นายเป็นผู้ชายนะ . . เอาล่ะดูสิ , ยูเจาะหูแล้วน่ารักจัง ชั้นชอบนะอิอิ ]
อย่ามาพูดยั่วให้โมโหทั้งๆที่เธอเป็นแค่เด็กนะ !!
[ เอาเถอะๆ ขอบคุณสำหรับของขวัญนะ พวกเราควรจะออกเดินทางไปโรงเรียนกันสักทีได้แล้ว ]
แม้ผมจะยังรู้สึกเจ็บๆ จั๊กจี้ที่หูของผม แต่ผมก็ทำเพียงแค่เกาๆและกล่าวขอบคุณ
[ คิคิ ไม่เป็นไรจ้า~ ]
เธอยิ้มกว้างออกมาให้กับคำขอบคุณของผม ,
แต่หลังจากนั้น ท่าทีของอลิเซียก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เพราะท่าทีที่เธอแสดงออกมานั้นมันดูราวกลับไม่ใช่เด็ก
[ อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านอาจารย์ยาชิโระ วันนี้คือวันแรกในการสอนของท่านอาจารย์ ดิชั้นคาดหวังในการสอนของท่านอยู่นะคะ ]
และแล้วเสียงรอบๆข้างกลับมาได้ยินอีกครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะปลดการปิดกั้นการรับรู้มิติแห่งความเงียบแล้วนะ
[ อ่า, ครับ ]
สำหรับอลิเซียแล้ว ในหมู่พี่น้องของเธอด้วยกัน เธอเป็นคนที่แกล้งทำเป็นไร้เดียงสาได้อย่างไร้ที่ติที่สุด ถ้าหากคนอื่นไม่รู้ธาตุแท้ที่จริงของเธอมาก่อนแล้วล่ะก็คงถูกหลอกจนซะสนิท ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยกเลิกเวทย์มนตร์ของเธออย่างกระทันหัน คิดไปก็ปวดหัวปล่าวๆ ผมจึงได้แต่ตามน้ำไป
และการสนทนาก่อนหน้านี้คือบทสนทนาที่ควรจะกล่าวทักทายกันระหว่างอาจารย์กับนักเรียน
อย่างไรก็ตาม ผมเพิ่งจะนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แบบนี้ผมก็ต้องเป็นคนสอนอลิเซียสิ? และผมจะเอาอะไรไปสอน -*- . . .ก็ทุกๆสิ่งในความรู้เวทย์มนตร์ของผมนั้นอลิเซียเธอรู้หมดแล้ว แต่สิ่งที่ยัดอยู่ภายในหัวของเธอนั้นมันมากมายเกินกว่าผมจะรู้ แม้ผมรู้สึกอยากจะชื่นชมเธอนะ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของเธอนั้นมันอยู่ในระดับที่ทำให้ความเป็นจุนนิเบียวของผมพ่ายแพ้ไปเลย
และแน่นอน ผมเองไม่ได้สอนเพียงแค่อลิเซีย ผมเองก็กังวลในความสามารถในการสอนของผมว่าจะสอนคนอื่นๆได้หรือไม่ แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุดในกา——-
[ อร่า~ . . ท่านเคสโตเรีย อรุณสวัสดิ์ค่ะ เรามาทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันเถอะนะคะ ]
[ โอ้? ]
ดูเหมือนว่าอลิเซียจะมองไปยังที่ด้านหลังของผม เมื่อผมหันหลังกลับไป ก็พบกับเด็กสาวผมบอร์นเป็นลอนกำลังยืนชี้นิ้วมาทางพวกเราพร้อมด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋
[ ชะ- , ช่างไร้ยางอายอะไรอย่างนี้ ]
ดูเหมือนว่าเวทย์มนตร์ของอลิเซียจะไม่มีผลกับเธอนะ
นั้นคือเหตุผลเดียวที่ผมคิดออกให้กับคำพูด ไร้ยางอาย ของเธอ . .