ตอนที่ 39 เฉินหลิงฉือ ปะทะ พระเอก (3)

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

“ ว้าว….”นัมกุงยู

 

 

ทุกคนที่นั่นต่างก็ได้เห็นกันหมด ถึงความอลังการของพลังของทั้งคู่ ทั้งฟินิกส์เอย งูที่มีหงอนเอย ทุกอย่างล้วนเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากกว่าที่ทุกคนคิดเอาไว้ในการต่อสู้รอบแรกมาก

 

 

มาคราวนี้ก็เป็นหลิงฉือในร่างของฮาฟดราก้อน(¼) ที่ร่างกายของเธอจะปรากฏเกล็ดสีทองคล้ายเกล็ดมังกรให้ได้เห็นตามจุดต่างๆบนตัว โดยเฉพาะที่แก้ม และที่สำคัญเลยคือทั้งขาและแขนของเธอกลายเป็นแขนของมังกรไปแล้ว

 

 

แต่ก็ยังไม่ได้ปรากฏหางหรือเขาให้ได้เห็นอะไร มันเป็นรูปร่างที่ดูเหนือมนุษย์มาก แต่มันก็เท่ห์ไปในเวลาเดียวกัน

 

 

ขณะเดียวกันที่อีกฝากหนึ่งนั้น ก็ปรากฏเป็นโครงร่างของพญานาคราชภายใต้รูปร่างของสายฟ้าฟาดที่มีจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองศัตรูของพวกมันอย่างหลิงฉืออย่าใจจดใจจ่อ แม้พวกมันจะมีร่างเป็นสายฟ้าก็ตาม แต่ดวงตาของพวกมันก็ยังเป็นสีแดงก่ำ ทั้งในเวลาที่หมองมัวแบบนี้แล้วมันยิ่งเรืองแสงมากกว่าเดิมอีก

 

 

เปรี๊ยง!!

 

 

เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ทั้งคู่หยั่งเชิงซึ่งกันและกันผ่านการจ้องมอง

 

 

และฝ่ายที่ออกตัวก่อนก็คือบี๋ ประกายสายฟ้าที่อยู่บนร่างของเขาไม่เพียงแต่ให้แสงสว่างและการโจมตีที่แรงขึ้น มันยังให้ความรวดเร็วที่เทียบเท่ากับแสง แน่นอนว่าสายฟ้านั้นแสงมาก่อนเสียง

 

 

และตัวเขาเองก็เช่นกัน ความเร็วของเขาในตอนนี้มีมากพอที่เสียงจะตามมาไม่ทันจนดีเลย์ไปชั่วครู่หนึ่งเลยล่ะ

 

 

ถึงกระนั้นแล้วก็ใช่ว่าหลิงฉือจะมองตามไม่ทันเพราะหนึ่งในสิ่งที่เธอได้รับมาหลังจากใช้ทักษะทายาทจักรพรรดิคือสกิลดวงตา ที่ทำให้เธอเห็นการเคลื่อนไหวของศัตรูช้าลงถึง 10 เท่าจากความเร็วปัจจุบันของศัตรู

 

 

นั่นทำให้เธอสามารถต่อกรทั้งบี๋ และอนันตนาคราชร่างสายฟ้าของเขาทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน

 

 

“ แม้ว่าหลิงฉือจะสามารถใช้ได้เพียงแค่ร่างครึ่งมังกร แต่แค่ความสามารถของมันที่ปลดล็อคมาก็มากพอที่จะสามารถต่อกรได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนแล้ว ”เฉฺินจือหนาน

 

 

“ ซึ่งการชะลอความเร็วผ่านการมองเห็นแบบนั้นเป็นจุดอ่อนของบอสเลยล่ะ ”เฉินจือหนาน

 

 

หลังจากที่บี๋ได้เข้าปะทะกับหลิงฉือมันมาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาลที่สามารถทำให้ พื้นที่ในแถบนั้นแทบทั้งหมดเกิดรอยร้าวได้ ความเร็วของทั้งคู่ไล่เลี่ยกันจนพวกคนดูมองเห็นพวกเขาเป็นเพียงแค่แสงสีทองและแสงสีฟ้าที่พุ่งเข้าหากันเป็นระยะๆก็เท่านั้น

 

 

ทุกๆครั้งที่แสงทั้งสองได้พุ่งเข้าปะทะกัน แรงกระแทกก็จะส่งผลกระทบมายังรอบข้างเสมอ

 

 

“ ขอโทษนะ แต่นายแพ้แล้วล่ะ! ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ ฉันไม่เชื่อว่าเธอสามารถอยู่ในร่างนั้นได้นานนักหรอกนะหลิงฉือ!! ”

 

 

“ อย่ามาเรียกชื่อชั้นห้วนๆนะ!! ”เฉินหลิงฉือ

 

 

ART – ราชามังกร

 

 

กรงเล็บราชันย์

 

 

หลิงฉือชกหน้าบี๋จนชะงักแล้วใช้ท่ากรงเล็บที่จะทำให้เกิดโครงร่างของกรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ขึ้นมา ตบบี๋สุดแรงลงไปที่พื้นก่อนจะตามไปขยี้จนพื้นแหลกบนผืนดิน อีกทั้งยังใช้ท่ากรงเล็บเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งข้างแล้วทำการข่วนเขาอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

 

จนเลือดจำนวนมากเริ่มกระเซ็นออกมาจากร่างของบี๋ที่กองอยู่กับพื้น แต่ถึงแม้มันจะดูเป็นเช่นนั้น ร่างที่หลิงฉือกำลังค่อมอยู่ตอนนี้นั้นก็ยังคงตั้งการ์ดขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองอยู่ ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ถึงไฟฟ้าสถิตที่ร่างของเขาอีกครั้ง

 

 

หลิงฉือรีบถอยออกมาทันทีก่อนที่บี๋จะทำการโจมตีด้วยซ้ำ

 

 

เปรี๊ยะ- เปรี๊ยะ-

 

 

โฮกกก!!!!

 

 

โครม!!

 

 

บี๋ใช้ร่างของพญาอนันตนาคราชพุ่งโจมตีไปที่จุดที่เธออยู่ก่อนหน้านี้ หรือก็คือเหนือร่างของเขา แต่พอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็ไปปรากฏตัวอยู่อีกที่หนึ่งแล้ว

 

 

นี่เธอหลบได้ทันงั้นหรอ?

 

 

ไม่สิ มันเหมือนกับว่าหลิงฉือรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่า

 

 

“ เป็นความสามารถที่น่ารำคาญจริงๆ … แต่ว่า เหมือนทางนี้เองก็จะถึงขีดจำกัดแล้วล่ะนะ..”

 

 

“ ก็.. ถ้านายใช้ทักษะแบบตอนแรกไม่ได้ตามที่เราตกลงไว้ ฉันก็ได้เปรียบไงล่ะ ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ ทีนี้.. ก็มให้ฉันซัดซะดีๆ!!! ”เฉินหลิงฉือ 

 

 

บี๋พยุงตัวเองขึ้นมาแล้วยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ดอีกครั้ง เหล่าเศียรของพญานาคทั้งหลายก็หดเล็กลงแล้วเลื้อนมาตามร่างของเขา แล้วมาบรรจบกันอยู่ที่มือคล้ายเชือกสำหรับคาดมือ มันคล้ายคลึงกับมวยไทยอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด

 

 

ดูเหมือนว่าเขาไม่ยอมจะถอยง่ายๆเลยสินะ งั้นที่เธอต้องทำก็มีแค่การที่จะทำให้หมอนั่นสลบลงได้ก็เท่านั้น

 

 

เอาล่ะ ตอนนี้มาถึงตอนที่ทั้งคู่เริ่มเหนื่อยกันแล้ว ทางหลิงฉือเธอไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะเธอไม่ได้ใช้พลังงานไปมากเท่าไร และตัวของเธอก็แทบจะไม่โดนโจมตีเลย มันเหมือนกับว่าบี๋เลี่ยงที่จะโจมตีมาที่เธอมากกว่า

 

 

ส่วนทางด้านบี๋.. เนื่องจากเขาใช้พลังไปเยอะมาก ทั้งการนำหอกนรกออกมา ใช้อาร์ตประจำหอกที่กินพลังงานสูง อีกทั้งยังใช้ท่าที่พึ่งพัฒนาขึ้นได้ไม่นาน ทำให้เขาอ่อนล้ามากจนถึงที่สุดเลยในตอนนี้

 

 

แต่ว่า.. เขาก็ยังไม่ยอมจบเพียงเท่านี้หรอก ถึงจะตั้งใจมาแพ้โดยเฉพาะก็เถอะ

 

 

แฮ่ก- แฮ่ก- 

 

 

“ ฟู่ว- ”

 

 

ทว่า จากที่โดนซัดไปเมื่อสักครู่ก็เล่นเอาซะเขาแย่เหมือนกัน ภาพมันเริ่มมองไม่ชัดสักเท่าไหร่เนื่องจากเลือดของตัวเองที่กระเด็นมาเข้าตา แถมยังความเหนื่อยล้าสะสม เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นจะอยู่ได้จนถึงเมื่อไหร่ แต่เขาคิดแค่ว่าเขาจะอยู่ในถึงที่สุดก็เท่านั้น

 

 

‘ หมอนั่น.. หอบแล้วหรอ?  ’ เฉินหลิงฉือ

 

 

“ เสร็จฉันล่ะ ”เฉินหลิงฉือ

 

 

หลิงฉือร่นระยะห่างระหว่างทั้งสองด้วยความเร็วสูง โจมตีเข้าไปที่กระบังลมด้านซ้ายของบี๋ด้วยการเตะ แม้ว่าเข้าจะพยายามยกหมัดขึ้นมาสวนกลับ แต่มันช้ากว่าก่อนหน้านี้มากเมื่อเอามาเทียบกัน

 

 

ตัวของหลิงฉือเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนในตอนนี้มันเหมือนกับว่าเธอทำการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งการต่อยหมัดซ้ายเข้าหน้าบี๋จนกระดูกแทบหัก สกัดขาให้ล้มลงแล้วใช้เข่าขวากระแทกขึ้นมาจนลอยขึ้นไปบนฟ้า

 

 

อั่ค!!-

 

 

จากนั้นร่างของเธอก็เรืองแสงสีทองขึ้นมาก่อนที่จะหายไป ปรากฏเป็นตัวหลิงฉือมากกว่าสิบร่างที่ห้อมล้อมด้วยออร่าสีทองทำการโจมตีบี๋ซ้ำไป ซ้ำมาอยู่กลางอากาศ สภาพของเขาตอนนี้ดูไม่ดีนัก ทั้งร่างที่โชกไปด้วยเลือด รอยฟกช้ำต่างๆ สุดท้ายแล้วหลิงฉือก็จะจบด้วยการใส่แรงเข้าไปให้สุดในการเตะครั้งสุดท้ายกลางอากาศ

 

 

เปรี๊ยง!!-

 

 

หลิงฉือใช้เทคนิคควบคุมสายฟ้าของบี๋ในการทำให้ส้นเท้าของตัวเองปกคลุมไปด้วยสายฟ้าพิฆาต 

 

 

“ ขอโทษทีนะ แต่มันจำเป็นในการพิสูจน์เส้นทางของฉันให้ท่านพ่อได้เห็น ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ อ่ะ.. ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ….ขอโทษทำไมกัน ในเมื่อเลือกที่จะสู้แล้ว ก็อย่าลังเลสิ … ”

 

 

“ … ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ นายเป็นคนพูดเองนะ!!!!!!! ” เฉินหลิงฉือ

 

 

เธอตอกส้นเท้าเข้าเบ้าหน้าของเขาอย่างสุดแรงกลางอากาศ ความรุนแรงจากการโจมตีนั่นถึงกับทำให้อากาศสั่นสะเทือนและสายฟ้าสีเหลืองก็ได้กระจัดกระจายไปทั่ว

 

 

ร่างของบี๋กระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง ถึงขั้นที่ว่าพื้นยุบเป็นหลุม เป็นรอยแตกร้าวไปมากกว่าสองถึงสามชั้น เธอคิดว่าเขาในตอนนี้ไม่สามารถสู้ได้แล้ว จึงแลนดิ้งลงมาจากอากาศ ก่อนที่จะมองร่างของเขาที่อยู่ในหลุมขนาดใหญ่ 

 

 

เธอรู้สึกได้ว่าก่อนหน้านี้มีอะไรบางอย่างมารับแรงกระแทกจากส้นเท้าของเธอไว้ทำให้ดาเมจมันไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่ ซึ่ง.. เธอเห็นเป็นมือพร้อมกับพญานาคตัวเล็กๆนับพัน.. 

 

 

ใช่ เขายกมือขวาขึ้นมารับส้นเท้าได้ทันในการโจมตีครั้งสุดท้าย แต่นั่นมันก็ไม่เปลี่ยนเรื่องที่เขาพ่ายแพ้ไปอยู่ดี

 

 

“ … ”เฉินหลิงฉือ

 

 

เธอมองร่างของเขาพร้อมกับคำถามมากมายภายในหัวที่อยากจะถาม ก่อนที่จะได้เห็นว่าเขายกมือขึ้นเธอชะงักไปครู่หนึ่ง บี๋ชูนิ้วโป้งให้กับหลิงฉือก่อนที่จะแน่นิ่งไป หลิงฉือถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ร่างของเขา

 

 

“ เฮ้อ นายนี่ก็น้า ”เฉินหลิงฉือ

 

 

เธอย่อตัวลง ใช้นิ้วชี้ของตัวเองที่เล็บค่อนข้างจะยาวจิ้มไปที่แก้มของเขา

 

 

“ บ้าซะไม่มี ”เฉินหลิงฉือ

 

 

การต่อสู้จบลงแล้ว!!

 

 

ผู้ชนะ เฉินหลิงฉือแห่งราชวงค์เฉิน!!!

 

 

“ หน่วยแพทย์เข้าไปดูคนเจ็บเร็ว!! ”มอร์แกน

 

 

เมื่อการต่อสู้ได้จบลง คนทั้งห้องก็ปรบมือให้กับทั้งคู่ เสียงเฮดังลั่นสนั่นไปทั่วอาคารเลยล่ะ

 

 

“ .. หลิงน้อย ”เฉินจือหนาน

 

 

“ พี่หนาน.. ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ ข้า- ข้าขอโทษนะที่ทำให้เจ้านายของพี่เจ็บน่ะ แฮะๆ ”เฉินหลิงฉือ

 

 

( ไม่ใช่แค่เจ็บแหละ โคม่าเลยล่ะมั้งดูทรง )

 

 

“ ไม่เป็นไร.. น้องไม่เจ็บมากก็ดีแค่ไหนแล้ว …. แต่กับบอสน่ะมันคนละเรื่อง ”เฉินจือหนาน

 

 

จือหนานเข้ามากอดน้องสาวของตน ก่อนที่จะได้แสดงสีหน้าอำมหิตออกมาอย่างน่ากลัว

 

 

“ อ่า.. ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่า… ”เฉินหลิงฉือ

 

 

“ แต่วันนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า เพราะบอสต้องการผลลัพธ์แบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ”เฉินจือหนาน

 

 

เธอตบบ่าน้องสาวของตน ก่อนที่จะเดินเข้าไปหามาสเตอร์ของเธอที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น ในขณะที่หน่วยแพทย์ใช้เวทรักษา รักษาเขาอยู่นั้นอาการของเขามันก็ยังไม่ดีขึ้นเลยสักนิด จนกระทั่งจือหนานได้เขามาพร้อมกับโพชั่นระดับสูงขวดหนึ่ง

 

 

“ นี่เธอ! ”มอร์แกน

 

 

‘ หลังจากนี้เจ้านายของลูกหนานจะได้ใช้บ่อยๆเลยล่ะจ้ะ เพราะงั้นเก็บเอาไว้ให้มากๆเลยนะ~ ’วิเวียน

 

 

“ จริงอย่างที่ท่านวิเวียนพูด ”เฉินจือหนาน

 

 

“ เวทรักษาใช้กับบอสไม่ได้ผล ”เฉินจือหนาน

 

 

จือหนานย่อตัวลง แล้วกรอกโพชั่นขวดนั้นใส่ปากของเขา.. ซึ่งถ้ากรอกให้เปล่าๆเขาต้องสำลักแน่นอน เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากต้องอมโพชั่นแล้วค่อยส่งต่อให้เขาทางปากอีกทอดหนึ่งน่ะนะ

 

 

ซึ่ง.. การกระทำของเธอ ทำให้ผู้คนที่อยู่แถวนั้นช็อคกันไปเลยล่ะ เพราะไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าถึงขนาดนั้น ไม่เว้นแม้แต่น้องสาวของเธอเอง

 

 

“ อ่า-.. บอส ท่านนี่ขี้เซาจังเลยนะคะ ท่านควรจะรู้ไว้นะว่าเมื่อไรที่ข้าผู้งดงามมาปลุกท่าน ท่านก็ควรตื่น(กระซิบข้างหู)”เฉินจือหนาน

 

 

“ … จ- จือหนาน!!! ”

 

 

เสียงกระซิบของเธอมันทำให้ผมขนลุกจึงต้องตื่นขึ้นมาในทันทีเลยล่ะ จริงๆผมไม่คิดว่าเธอจะขี้แกล้งขนาดนี้เลยนะ… แล้วนี่จะมาปลุกทำไมในตอนที่คนเขากำลังเจ็บกันอยู่เนี่ย!

 

 

“ ดีขึ้นแล้วหนิบอส แต่มันก็ยังไม่ดีพอหรอก- ไปห้องพยาบาลกัน ”เฉินจือหนาน

 

 

อยู่ๆจือหนานก็อุ้มผมขึ้นมาในท่าอุ้มเอ่อ.. เขาเรียกว่าไรนะ? ท่าอุ้มเจ้าหญิง?? เอ่อ.. นั่นแหละเธฮอุ้มผมในท่านั้นก่อนที่จะมุ่งตรงไปที่ห้องพยาบาลที่อยู่ส่วนกลางของโณงเรียนด้วยความเร็วสูงทันที

 

 

ผมก็ดีใจอยู่หรอกน้าที่เธอเป็นห่วงผมขนาดนี้น่ะ.. แต่ไม่ต้องทำกันถึงขนาดนี้ก็ได้มั้ง ก็มันน่าอายนี่นา…

 

 

 

 

 

 

พักเที่ยงแล้ว เราต้องไปหาอะไรกินกันมั่ง

 

 

จากเมื่อประมาณ 4 ชั่วโมงที่แล้วที่ฉันได้สู้กับยัยวิกตอเรีย บอกได้คำเดียวเลยว่าแข็งแกร่งมาก แต่เธอก็มีบางจุดที่แปลกอยูาเหมือนกัน นั่นก็คือเธอมักจะใส่เกราะอยู่ตลอดเวลา ไม่ใครเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ

 

 

แม้ภายนอกจะดูน่ากลัว และดูน่าเกรงขาม แต่ภายในของหล่อนมันน่ารักมากกว่าที่คิด จริงๆแล้ววิกตอเรียมันก็เป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนคนหนึ่ง ก็ว่าล่ะทำไมบี๋มันถึงรับมาเป็นอัศวิน นี่คือสงสารใช่ไหมนั่น?

 

 

แต่ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ฉันก็ดีใจนะที่เจ้านั่นพอจะรู้จักคนเยอะมากขึ้นแล้ว หลังจากนี้จะได้ไม่เหงาเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว อืม.. ใช่ จะได้มีคนที่สามารถนึกถึงได้ตลอดเวลาเลยล่ะนะ

 

 

“ โรงอาหารเจ้าเดิม ”เมเดียร์

 

 

“ อาหารเดิมๆ ”เร็กซ์

 

 

“ เบื่อหรอคะ? ”ลูอิส

 

 

“ ไปคาเฟ่ต์ข้างนอกกันไหม? ”พานาร์

 

 

“ ไป!!!!!! ” เมเดียร์/เร็กซ์/ลูอิส

 

 

“ …. อื้อ ” วิกตอเรีย

 

 

ก็นะกองทัพแล้วปัญญามันก็ต้องเดินด้วยของหวานนี่นา งั้นพวกฉันไปหาเค้กกินกันนอกโรงเรียนดีกว่า

 

 

แล้วก็…

 

 

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

 

 

ฉากสู้แต่ละฉากนี่มัน.. จะฆ่ากันให้ตายอย่างเดียวเลยนิ555