” ท่านพ่อ!!! ทำไมท่านต้องทำแบบนี้กับข้าด้วย! ข้าแค่แกล้งพวกเขานิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง! “ลูซิเฟอร์
” อีกอย่าง- ข้าไม่ผิด! ผิดที่ไอ้มนุษย์นั่นมันมาลวนลามข้าเอง!! มันทำผิดกฏของสวรรค์! “ลูซิเฟอร์
” ลูซิเฟอร์ลูก อดัมไม่ผิดเขานั้นพึ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน เขาไร้เดียงสา และเป็นวิญญาณที่บริสุทธิ์ “พระเจ้า
” ไร้เดียงสา.. และบริสุทธิ์เนี่ยนะ!! “ลูซิเฟอร์
” กลับกัน ลูซิเฟอร์ลูกจะถูกเนรเทศลงจากอีเดนนี้ไป เพราะเจ้าใช้อำนาจโดยมิชอบโดยการรังแกเด็กน้อยที่บริสุทธิ์เช่นอดัม “พระเจ้า
” ไรนะ? “ลูซิเฟอร์
” พระเจ้า ทำไมท่านถึงไร้เหตุผลเช่นนี้กัน?! “ลูซิเฟอร์
” เดี๋ยว!?- พวก- พวกเจ้าจะทำอะไร!! ปล่อยข้า! “ลูซิเฟอร์
” ไม่- ข้าไม่อยากจบแบบนี้!! “ลูซิเฟอร์
” ข้าขอโทษ.. ท่านพี่ … “มิคาเอล
” มิคาเอล!- ช่วยข้าด้วย!!- … อ้ากก!!! “ลูซิเฟอร์
ในครานั้น ข้าถูกท่านพ่อขับไล่ลงมาจากสวรรค์ แม้แต่มิคาเอลน้องรักของข้ายังมองข้าอย่างเวทนา
เพียงเพราะว่าข้าถูกฟ้องโดยมนุษย์ผู้ชายนั่นอย่างไอ้อดัม เป็นเพราะเจ้านั่นข้าจึงถูกส่งลงมายังนรกทั้งที่ข้ายังไม่ทันได้ทำสิ่งใดที่ผิด และสิ่งที่ข้าทำคือสั่งสอนเจ้ามนุษย์นั่นให้เข้าที่เข้าทาง..
แต่ข้ากลับ.. ต้องร่วงหล่นลงมายังห้วงอเวจีนี่เพราะเจ้ามนุษย์หน้าไม่อายนั่นเนี่ยนะ.. จะบ้าตายล่ะ
… สิ่งที่ทำให้ข้าร่วงหล่นลงมายังสถานที่น่าสังเวชเช่นนี้ มันเป็นเพราะเจ้ามนุษย์นั่น
อดัม ถูกพระเจ้าสร้างขึ้น.. เจ้านั่นไม่รู้แม้แต่ผิดชอบชั่วดี เป็นวิญญาณที่บริสุทธิ์ดังที่พระเจ้าว่า ถ้าเขาไม่ทำตัวเป็นไอ้หน้าตัวเมียข้าจะไม่ว่ามันเลย..
ทั้งๆที่เจ้านั่นก็เอาแต่หว่านเสน่ห์ที่น่าคลื่นไส้นั่นใส่ยัยหนูอีฟทุกวัน ฉไนเจ้านั่นจึงต้องมายุ่งกับข้าด้วยเล่า..
ที่ข้าโกรธ ที่ข้าโมโห เป็นเพราะมันพูดจาลวนลามข้าวกไปวนมา อีกทั้งยังพยายามจะแตะต้องร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์นี้อีก ข้าไม่มีวันยอมให้มันแน่ๆล่ะ
มันจำเป็นจะต้องมีใครสักคนไปสั่งสอนมัน
แต่ถึงแม้ข้าจะทำไปแล้ว ข้าก็ยังถูกต้องโทษอยู่ดี… ทำไมชะตากรรมของข้าจึงเป็นเช่นนี้?
…
รู้สึกตัวอีกทีข้าก็ถูกเจ้าซาตานชวนเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์ซะแล้ว
ข้าได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นออกมาทั้งหมดในการสังหารพระเจ้า และทำลายอีเดน
ส่วนเจ้าซาตานกับปีศาจตนอื่นๆก็นำทัพของตนไปทำลายล้างโลกมนุษย์ กัดกินเลือดเนื้อของพวกมันจนไม่เหลือซาก ขณะที่ข้านั้น.. กำลังทำลายสวรรค์และสังหารเหล่าทูตสวรรค์ไปนับพันตน
ทุกๆสิ่งก็แปลกไป อยู่ๆพวกทูตสวรรค์ที่เข้ามาปะทะกับข้าก็หายไปทีละคน จนเหลือแค่มิคาเอล เช่นเดียวกับพวกปีศาจที่ในตอนนี้เหลือเพียงแค่ข้า กับพวกที่ผุดขึ้นมาจากนรกบางส่วน
ราวกับว่าเป็นการแบ่งแยกมิติออกอย่างกระทันหัน.. เวลาผ่านไปวันแล้ว วันเล่า นานเป็นปี เป็นทศวรรษ ศตวรรษ และในที่สุดก็มาถึง สหัสวรรษ ในเวลานั้นประตูมิติขนาดใหญ่ได้เปิดออก
พร้อมๆกับกลิ่นโชยที่หอมหวาน หากเป็นพวกเฮลบอร์น คงจะทนไม่ไหวจนมุ่งหน้าตรงเข้าไปข้างในประตูมิติปริศนากันเป็นโขยง จนทำเอาข้าแปลกใจ
ไม่นานนักก็มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งเข้ามา ข้าไม่ได้แปลกใจเท่าไรที่เจ้านั่นมากับผู้หญิง แต่ที่ข้าแปลกใจคือ ในหัวของเจ้าหมอนี่มันมีแต่เรื่องการปกป้องเพียงอย่างเดียว
และความคิดนั้นมันก็เหมือนกับพวกทูตสวรรค์ที่ข้าจงเกลียดจงชังนักหนา ทำเอาสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องเข้าไปฆ่าในทันทีเลยล่ะ…
… แม้ว่าสุดท้ายแล้วข้าก็ต้องถูกจูบอย่างดูดดื่มที่ริมฝีปากอย่างฝืนใจก็เหอะ.. เจ้าหมอนั่นนี่ก็นะ ทำไมไม่จูบที่หน้าผากฟระ ข้าก็อายเป็นนะเห้ย
” …. “ลูซิเฟอร์
และนั่นก็คือเรื่องราวก่อนที่ข้าจะมาอยู่ในที่ที่โลกสวยเช่นที่นี่ไงล่ะ
ยังดีที่ข้าสามารถใช้จินตภาพได้อย่างอิสระจึงสามารถเปลี่ยนสถานที่เช่นนี้ให้กลายเป็นห้องนอนประจำของข้าได้ แล้วข้าจะมายังพื้นที่ส่วนกลางเมื่อไหร่ก็ได้เลยด้วย
” ตื่นสายอีกแล้วหรอ? ลูซี่ “
ทันทีที่ข้าลุกจากเตียงทำไมจะต้องเจอเจ้านี่เสมอเลยนะ ข้าล่ะไม่เข้าใจ
[ 1 วันก่อนเปิดเรียน ]
” แกจะเข้ามาในนี้ทำไมบ่อยๆ ว่างนักรึไง “ลูซิเฟอร์
” ก็สุดยอดอาจารย์คนเดียวของฉันอยู่ในนี้นี่นา “
” ยอเก่งซะจริงนะบี๋ “ลูซิเฟอร์
ดูเจ้านี่ทำท่าสบายใจอย่างงั้นสิ น่าหมันไส้ชะมัด
” น้ำชาไหมคะท่านพี่? “มิคาเอล
” ขอบใจ “ลูซิเฟอร์
อย่างน้อยในทุกวันที่ข้าอยู่ที่นี่ก็มีช่วงเวลาดีๆ อย่างเวลาที่ข้าต้องดื่มชาล่ะนะ เป็นช่วงเวลาที่ข้าสามารถเพลิดเพลินไปกันบรรยากาศที่สดใสของอีเดนได้อย่างรื่นรมณ์
” เอาพายแอปเปิ้ลด้วยป่ะ? “
” … ขอบคุณ “ลูซิเฟอร์
..ถึงข้าจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ แต่เจ้าหมอยนี่มันก็ทำของหวานออกมาได้ถูกปากข้าจริงๆ หากว่าเวลาที่ข้าต้องทานอาหารช่วงไหนขาดอาหารของเจ้านี่ไป ข้าคงจะรู้สึกตะหงิดๆล่ะนะ
ถ้าว่ากันตามตรงแล้ว การถูกผนึกมันก็เหมือนกับเป็นนรกของทูตสวรรค์ หรือทูตตกสวรรค์ ที่ไม่รู้ว่าพวกตนจะได้ตื่นขึ้นเมื่อได้
กลับกัน หากลืมตาตื่นได้ตลอดเวลาก็คงจะมีสภาพแบบนี้ล่ะมั้ง และมันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
” หนาวไหม? ให้กอดป่ะ? “
” …. หยี๋ “ลูซิเฟอร์
” ฮ่าฮ่าฮ่า~ อย่าทำหน้าแหยงงั้นดิ มันตลกนะ “
” เห็นข้าเป็นเพื่อนเล่นรึไง “ลูซิเฟอร์
เจ้าบ้านี่นี่ก็นะ หยอกข้าได้ตลอดเวลาเลย ไม่เบื่อรึไงยะ
“ จริงสิลูซิเฟอร์ มันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ไปอยู่ในโลกที่ล่มสลายแบบนั้นได้อ่ะ? ”
“ ข้าไม่จำเป็นต้องตอบ ”ลูซิเฟอร์
ข้าไม่ยอมบอกว่าเรื่องที่ข้าไปทักทายเจ้าอย่างรุนแรงนั่นเพราะว่าข้าเหงาหรอกนะ อีกอย่างข้าไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับสถานที่เช่นนั้นอยู่แล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นต้องตอบ
ทุกสิ่งอย่างที่มันลงเอยเช่นนั้นมันเป็นเพราะซาตาน ยัยบ้าจอมวางแผน วางระเบิดปั่นหัวเขาไปทั่วจนมนุษย์เริ่มทำลายกันเอง ทันทีที่มนุษย์นั้นอ่อนแอยัยนั่นก็ยกทัพเฮลบอร์นขึ้นมาบุกโลกมนุษย์ทันที
สำหรับข้าแล้วข้าไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับยัยนั่นเลย พวกเรารู้จักกันเพียงเพราะว่าเป็นตัวตนที่เสมอกันเพียงแค่นั้น ที่โลกนั้นข้าไม่ได้เป็นคนทำลายมันและไม่ชอบการทำลายธรรมชาติด้วย ที่ข้าเข้าร่วมแผนการของมันก็เพราะสิ่งเดียวที่ข้าแค้น
อีเดน พระเจ้า และทูตสวรรค์ ข้าทำลายพวกมันทั้งหมดจนไม่เหลือซาก แม้ว่าจะมีพวกที่เหลือรอดไปบ้าง ข้าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะพวกนั้นมันไม่ได้อยู่ในเป้าหมายในการฆ่าของข้าตั้งแต่แรกแล้ว
สำหรับยัยมิคาเอล ที่มันรอดมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าข้าไม่คิดเอาเรื่องมันอีกแล้ว เมื่อข้าได้สังหารพระเจ้าลงไป ความรู้สึกของข้าหลังจากนั้นมันว่างเปล่าไปหมด ไม่มีจุดหมายอะไรเลยในชีวิต
จากตอนนั้น จนถึงตอนนี้ ก็ไม่ต่างจากเดิม
เพียงแต่ตอนนี้ข้ามาอยู่ในร่างผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสในการขืนข่มข้าอย่างไม่เต็มใจก็แค่นั้น
“ มันจะซวยอะไรขนาดนี้กันนะ ”ลูซิเฟอร์
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชีวิตของข้ามันจะซวยบรมขนาดนี้ เฮ้อ ว่าแล้วก็ขอซดชาแอปเปิ้ลอีกสักแก้วก็แล้วกัน-
“ อุ- หวาน!! ”ลูซิเฟอร์
อะไรกันเนี่ยเจ้านี่!! มันหวานสุดๆไปเลย! แถมยังสดชื่นอีกต่างหาก! เหมือนข้าได้กลับไปเป็นทูตสวรรค์เหมือนอย่างเคยเลย!
ไม่คิดเลยว่าชาที่ข้าพึ่งมาได้ลิ้มลองรสชาติมันจะอร่อยได้มากถึงเพียงนี้.. ข้าชอบมันสุดๆไปเลยล่ะ!!
“ ดูท่านพี่จะชอบนะคะ แผนของคุณที่จะทำให้ท่านพี่อารมณ์ดีเนี่ยได้ผลดีมากเลยล่ะค่ะ ”มิคาเอล
“ ฉันคิดว่าพวกทูตสวรรค์ไม่น่าจะได้กินอะไรที่มันมีรสชาติกันสักเท่าไหร่น่ะนะ แบบว่า.. ไม่ปรุงน่ะ เลยคิดว่าสีสันในชีวิตของยัยนั่นจะจืดชืดเหมือนกับรสชาติของอาหารรึเปล่า ”
“ และหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของยัยนั่นมาจากเธอแล้ว.. มันก็น่าสงสารอยู่นะ ที่ไม่มีใครเข้าข้างเลย ”
“ ขอบคุณนะคะที่ท่านให้ท่านพี่กลับมาอารมณ์ดีได้ ข้าไม่ได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของท่านมานานแล้วล่ะค่ะ ”มิคาเอล
“ นั่นสิน้า ก็ดูสิเธอถึงกับกระพือปีกไปมาเลยล่ะ ”
ปีกของพวกทูตสวรรค์มันก็เหมือนกับตัวแสดงความรู้สึกนั่นแหละ คล้ายๆกับพวกหางของแมวอะไรพวกนี้ ถ้าหากว่าสังเกตดูดีๆ ในตอนที่พวกทูตสวรรค์พวกนี้อารมณ์ดี พวกหล่อนจะกระพือปีกเบาๆล่ะ ซึ่งมันค่อนข้างจะน่ารักตะมุตะมิเลยทีเดียว
” จริงสิคะ เกี่ยวกับเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์สู่ก้นบึ้งแห้งห้วงทมิฬ ที่ท่านพูดถึง ข้าคิดว่ามันเหมาะมากที่จะเอาไปใช้ทั้งตอนที่ท่านใช้หอก กับไม่ใช้เลยล่ะค่ะ “มิคาเอล
” วิธีการมันก็ไม่ได้ต่างกันมากนักนะคะ ท่านเองสามารถใช้การขัดขวางพลังงานของหอกนรกได้เช่นเดียวกัน หากรู้หลักการทำงานของมัน “มิคาเอล
” ข้าคิดว่า ทักษะล่าวิญญาณของท่านนั้นเหมาะมากที่จะใช้ก่อกวนศัตรู แล้วค่อยปิดฉากด้วย ทลายพิสุทธิ์ค่ะ”มิคาเอล
” งั้นหรอ- ขอบคุณนะ นี่แนะนำ “
” ไม่มีปัญหาค่ะ! “มิคาเอล
” พวกเจ้า! ของว่างของข้าหมดแล้วนะ! “ลูซิเฟอร์
” จะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้แหละ! รอแปป!! “
“ให้ไวเลย! “ลูซิเฟอร์
ให้ตายสิ ชอบทำให้ข้าต้องขึ้นเสียงอยู่เรื่อยเลยเจ้านั่น แต่ก็นะ วิธีการของเขาได้ผลกับข้าทีเดียว
” คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องปล่อยวางบ้างแล้วล่ะนะ “ลูซิเฟอร์
” มาแล้วๆ! “
” อันนี้คือ? “ลูซิเฟอร์
” สตอเบอรี่ช็อตเค้ก! ฉันภูมิใจกับอันนี้มากเลยนะ!”
” อึ่ก…- “ลูซิเฟอร์
หม่ำ-
” เป็นไง? “
” มัน-.. มันนุ่มฟู.. ละลายในปาก.. หวานจัง.. อ- อร่อย!! “ลูซิเฟอร์
ดูเจ้าตัวจะชอบมันมากเลยนะนั่น ..งั้นก็ ไม่ขอขัดความสุขละกัน
” ถ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ “
ว่าแต่.. เค้กละลายในปากเนี่ยนะ? เกิดมาพึ่งเคยได้ยินเลยแฮะ
…
ART – ความศักดิ์สิทธิ์สู่ก้นบึ้งแห่งห้วงทมิฬ
” ทลายพิสุทธิ์!!! “
‘ พิสุทธิ์ หรือว่าบริสุทธิ์นั่นก็คือพลังงานสะอาดนั้นเองค่ะ! หมายความว่าทักษะทลายพิสุทธิ์ของห้วงทมิฬนั้นสามารถบังคับให้คู่ต่อสู้ของท่าน หลุดจากสภาวะที่ถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์ได้ชั่วคราวค่ะ! ‘ มิคาเอล
” อีกแล้ว!! โคจรลมปราณไม่ได้อีกแล้วหรอเนี่ย!!?? “เฉินหลิงฉือ
‘ และนอกจากที่จะทำให้ศัตรูสับสนแล้ว ท่านสามารถใช้ช่วงเวลานั้นสร้างเป็นจังหวะในการโจมตีได้ค่ะ ‘มิคาเอล
หลังจากที่บี๋ใช้ทลายพิสุทธิ์ต้านร่างวิหคเพลิงของหลิงฉือแล้ว ร่างนั้นของหลิงฉือพร้อมทั้งปราณที่รวบรวมมาก็พลันหายไปทันที
มันเหมือนกับตอนที่เขาใช้หอกเล่มนั้นไม่ทีผิดเลยสักนิด ความสับสนชั่วครู่ของเธอนั้น ทำให้เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะโจมตีต่อเนื่องมาเป็นการถีบ
” อึ่ก!- “เฉินหลิงฉือ
ด้วยแรงถีบที่รุนแรงนั้น ทำเอาร่างของเธอปลิวจนกระเด็นไปไกลกว่า 200 เมตร เธอสามารถทรงตัวได้แม้ว่าจะอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะมายืนคิดทบทวนการต่อสู้นี้ดูอีกที ในเมื่อเธอเสียเปรียบเพราะพึ่งทำลังภายในมากเกินไป ฉะนั้นในครั้งต่อไปที่เธอบุก เธอจะมุ่งใช้เพียงแค่ร่างกายกับกระบวนท่าเท่านั้น
หลิงฉือไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถชนะเขาได้ แต่ที่เธอเชื่อคือเธอสามารถจัดการเขาได้แม้ว่าตัวของเธอจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่สุดก็ตาม
” ว้าว!! อลังการมาก!! “ราม
” แข็งแกร่งด้วย “นัมกุงยู
” อื้อ ทั้งสองคนยอดเยี่ยมมากเลย “นัมกุงบยอล
” การสะท้อนกลับพลังที่ไม่คาดคิดของชายคนนั้นทำให้หลิงฉือชะงักไปชั่วครู่หนึ่งเลย “นัมกุงยู
” ก่อนที่จะถูกโจมตีต่อเนื่องเพราะควาทประมาทสินะคะ! “นัมกุงบยอล
” ใช่! “นัมกุงยู
ขณะที่เหล่านักเรียนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ของทั้งสองคนนั้น ผู้เป็นอาจารย์อย่างมอร์แกนก็ตั้งใจดูอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน
‘ ขณะที่คนหนึ่งกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลังที่มี ส่วนอีกคน.. ก็สู้โดยยั้งพลังของตัวเองไว้ จากที่ดูแล้วคงจะมีมากกว่านี้มากแน่นอน นี่เจ้าเด็กนั่นตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? ’มอร์แกน
ระหว่างนั้น นักเรียนคนหนึ่งที่เป็นนักบวชของลัทธิโด่งดังเช่นเดียวกับมีชาร์ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างจากบี๋เช่นกัน
[ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งออกมาจากร่างเด็กนั่นมีมากเลยทีเดียว ] อิกนิส
“ ม- หมายความว่ายังไงหรอคะท่านเทพี?.. ”อิกนิส
[ หมายความว่าเจ้าเด็กนั่นมีพลังของเทพคุ้มครองอยู่ไง.. แต่พลังนั่น มันไม่ได้มาจากข้า ] อิกนิส
[ ระหว่างข้ากับอิกนอร์แล้ว.. ก็จำไม่ได้ว่ามีเทพระดับสูงองค์ใดเหลืออยู่หลังจากศึกครั้งนั้นเลยนะ? ] อิกนิส
[ แล้วก็… ข้ารู้สึกได้ถึงเศษเสี้ยวของบุคคลที่คุ้นเคยจากชายคนนั้น.. มันน่ากลัว พูดมาซะ ข้าเริ่มจะหนาวแล้วสิ ] อิกนิส
‘ ท่านอิกนิสน่ะหรอกลัว? คนแบบนั้น.. มันมีอยู่จริงด้วยหรอ?? ’อิกนิส
ความสนใจของนักเรียนในห้องพุ่งเป้าไปที่บี๋ซะเป็นส่วนมาก เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่เคยแสดงตัวออกมาบนโลกนี้มาก่อน หากว่าเขาแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วอย่างน้อยๆก็ควรจะมีข่าวลือแว่วมาตามลมบ้าง
ทว่าตัวเขาดันปรากฏตัวขึ้นมาจากความมืดราวกับผี มันจึงเป็นเรื่องน่าสนใจเป็นอย่างมากที่คนเขาจะเอามาพูดถึงกันน่ะนะ
“ นายมันขี้โกง! ชอบเล่นสกปรก! ”เฉินหลิงฉือ
“ โทษทีน้า ก็อาร์ตของฉันน่ะ มันขี้โกงนี่นา ”
บี๋พูดออกมาอย่างไม่อายใครว่าพลังของเขามันขี้โกง ทั้งหอกสุดโกง และวิชาสุดโกง ทั้งหมดนี่นั้นทำให้หลิงฉือไม่สามารถเข้ามาสู้กับเขาในระยะประชิดได้เลย
มาในตอนนี้ หลิงฉือชี้หน้าบี๋ก่อนจะพูดขึ้น
“ มาตกลงกัน! ”เฉินหลิงฉือ
“ ตกลง? กฏงั้นหรอ? ”
“ เอาสิ! ”
“ นายห้ามใช้ท่าขี้โกงพวกนั้นในการต่อสู้นี้เด็ดขาด!! ”เฉินหลิงฉือสินะ
อ้อ.. เธอไม่อยากจะแพ้เพราะใช้พลังได้ไม่เต็มที่สินะ มันทำให้เธอหงุดหงิดเวลาที่ต้องการจะรีดเค้นปราณของตัวเอง ก็เอาสิ ฉันเองก็มีวิธีสู้ของฉันอยู่เหมือนกันนะ
“ ได้! ”
“ พูดแล้วห้ามคืนคำนะยะ! (ปราณกลับมาแล้ว!) ”เฉินหลิงฉือ
พูดจบ หลิงฉือก็เริ่มที่จะออกท่าต่อเลยในทันทีที่เธอรวบรวมปราณมาได้ในระดับหนึ่ง
ร่างของเธอปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน ก่อนที่สะเก็ดไฟจากไฟพวกนั้นจะสร้างรูปขึ้นมาเป็นหงส์ไฟที่มีหางอยู่เจ็ดหาง ในคราวนี้คงจะเป็นการต่อสู้จริงๆของเธอที่ไม่ถูกอะไรมาขัดจังหวะให้หงุดหงิด
เธอตั้งท่าพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่ ในเวลานั้นเปลวไฟสีชาตที่ลุกท่วมร่างของเธอก็พลันลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรงราวกับโทสะของเธอ ที่กำลังจะได้ปลดปล่อยมันออกมา
หลิงฉือกระโดดขึ้นพร้อมร่ายรำกลางอากาศ ก่อนที่เธอจะชี้ฝ่าเท้ามาที่บี๋
ฟิสิกส์ของเธอมันเหนือจินตนาการมาก เพราะว่าเธอนั้น.. ลอยอยู่กลางอากาศเลยล่ะ
ART – ระบำวิหคเพลิงอมตะ
กรงเล็บจ้าวนภา!
“ รับไปซะ!!! ”เฉินหลิงฉือ
ท่าโจมตีของเธอ ถ้าให้พูดก็คงเหมือนกับไรเดอร์คิ๊กของมาสไรเดอร์โอสร่างฟินิกส์ เพียงแต่ว่าเทียบกับความเร็วและความรุนแรงนั้น ของหลิงฉือดูจะทรงอนุภาพมากกว่า
ในขณะเดียวกัน บี๋ก็ไม่ได้นิ่งดูดายอะไร เขาเริ่มรวบรวมพลังแล้วร่ายรำเป็นท่าเตะ หมุนตัว ตีลังกา อะไรก็ว่ากันไป ในการวาดฝ่าเท้าลงบนพื้นในแต่ละครั้งจะปรากฏร่างของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับมังกรจีนบางอย่าง เผยให้เห็นในรูปแบบของออร่าสีทอง
เขาร่ายรำไปเรื่อย มันก็ม้วนตัวไปตามการวาดฝ่าเท้าของเขา หลายคนไม่แน่ใจว่ามันคือตัวอะไร เพราะมันดูไม่คล้ายมังกรเลย มันดูเหมือนกับงูที่มีหงอนมากกว่า หากว่ามีคนไทยอยู่แถวนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็คงจะเข้าใจสิ่งนั้นได้เป็นอย่างดี
“ พญานาค… ” ???
ทันทีที่หลิงฉือพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง บี๋ก็ถีบสูงกลับหลังในช่วงเวลาเดียวกัน
ART – พญานาคราชร่ายรำ
ระบำพญานาคกัมปนาท
“ ไม่ยอมหรอกน่า!! ”
ทั้งหงส์เพลิงของหลิงฉือ และพญานาคของบี๋ ก็ได้พุ่งเข้าปะทะกันจนเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงในครั้งที่สอง แต่การต่อสู้มันก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น
มั้งจากที่ทั้งคู่ได้ปะทะกันแล้วก็ถอยหลังกลับมาตั้งหลัก แล้วเข้าปะทะกันไปมา จนดูๆไปแล้วระดับความสามารถของทั้งสองคนนี่มันกินกันไม่ลงจริงๆ
สุดท้ายแล้ว หลิงฉือจำเป็นจะต้องงัดวิชาที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา
เธอเปลี่ยนท่าร่างของตนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง มันดูสงบและเยือกเย็นมาก
ความอันตรายกำลังใกล้เข้ามา บี๋รู้สึกได้ดังนั้นจึงคิดที่จะใช้ท่าที่ดีที่สุดของตนเช่นกัน
ART – ราชามังกร
ทายาทจักรพรรดิ!!
ระดับออร่าของหลิงฉือต่างไปจากเดิมอย่างมาก มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ อีกทั้งปราณรอบตัวที่เป็นเปลวเพลิง ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นออร่าสีทองเป็นประกายแล้ว
เธอลืมตาขึ้นแล้วมองไปที่บี๋ เพื่อมุ่งเป้าที่จะใส่สุดในทีเดียว
การโ๗มตีในรอบนี้แม้ว่ามันอาจจะทำให้สนามนี้หายไปถึงครึ่งหนึ่ง มันก็คุ้มค่าที่จะจัดการกับเจ้าคนที่มันอึด ถึก ทน คนนั้น
บี๋รู้ได้ว่าตัวเองกำลังจะโดนเล่นแล้ว จึงใช้ท่าของตัวเอง ก้าวขาขวามาข้างหน้าแล้วย่อตัวลง
ทันใดนั้นท้องฟ้าพลันหมองมัน และเต็มไปด้วยพายุฝนฟ้าคะนองในทันที สายฟ้าฟาดจำนวนหลายสิบ หลายร้อยเส้นมาสถิตอยู่ที่ขาของเขา ไม่นานนักสายฟ้าพวกนั้นที่สถิตลงมาก็แตกแขนงออกเป็นพญานาคราช
ที่มีนับไม่ถ้วน
ART – พญานาคราชร่ายรำ
อนันตนาคราชประทับอินทร์
แม้ว่าการต่อสู้มันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครคนไหนที่จะเข้าไปหยุดการต่อสู้ในครั้งนี้เลย เพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะรู้ความสามารถสูงสุดที่ทำได้ในตอนนี้ของทั้งสองคน แล้วที่สำคัญที่สุด คือการต่อสู้นี้มันสนุกจนหยุดดูไม่ได้เลยล่ะ
การปะทะกันจะเริ่มในอีกไม่กี่อึดใจนับจากนี้
แล้วก็…
ตัดจบตอน
ตอนหน้าสรุปผลนะครับ5555