“ยางั้นเหรอ?” พ่อมดฮิลล์ได้มองเหลือบไปมองเมอร์ลินและพยัดหน้าเบา ๆ ก่อนจะตอบว่า “ใช่แล้ว ด้วยสูตรยาอันนั้นทำให้โครงสร้างเวทมนต์ของข้าเสถียรเป็นครั้งแรก อันที่จริงที่ข้ายอมให้ความร่วมมือกับเคานต์เซลินก็เพราะว่าเขามีส่วนผสมหลักอย่างดอกซีเจน เนื่องจากดอกซีเจนหายากมากและข้าก็ไม่ได้กินยามาเป็นเวลานานแล้ว อาการของข้ากลับมากำเริบอีกครั้ง…”
ชายชราหยุดพูดชั่วขณะ เมอร์ลินรู้ว่าชายชราต้องการถามอะไร เขาส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า
“ในแหวนของเมอแรงค์ ผมไม่เจอยาหรือสูตรปรุงยาเลยขอรับ”
ชายชราไม่พูดอะไรแต่สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน เขาได้พูดออกมาอย่างตัดพ้อ
“ยิ่งคาดหวังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น เมอแรงค์เป็นถึงนักเวทย์จากหอคอยอเวจี ขนาดเขาไม่มีมัน ข้าก็คงไม่รู้จะหามันจากที่ไหน”
พ่อมดฮิลล์สามารถหาสูตรยาได้เพียงสูตรเดียวเท่านั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันแสดงให้เห็นว่าของพวกนี้มีค่ามากถึงเพียงใด พวกมันส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือขององค์กรนักเวทย์หรือพ่อมดที่ทรงพลัง
เป็นเรื่องที่ยากมากที่พ่อมดพเนจรจะมีสูตรยาที่มีค่าเหล่านี้
อันที่จริงนอกจากสูตรปรุงยาแล้ว พวกโครงสร้างเวทมนต์หรืออุปกรณ์เวทมนต์ พวกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พ่อมดพเนจรจะได้ครอบครองง่าย ๆ ดังนั้นพ่อมดที่มีประสบการณ์และความสามารถอย่างพ่อมดฮิลล์กลับต้องทนทุกข์ทรมานกับโครงสร้างเวทมนต์ที่พร้อมจะแตกสลายเป็นเวลาหลายปี
ผิดกับเมอแรงค์ที่เข้าร่วมหอคอยอเวจีเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น เขาก็เป็นนักธาตุสี่ธาตุที่ทรงพลังแล้ว ความต่างนี้เห็นได้อย่างชัดเจนมาก
เมอร์ลินที่เข้ามาในอาณาจักรแบล็กมูนเพื่อแสวงหาความแข็งแกร่งของพ่อมด ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมองค์กรนักเวทมนต์แห่งเพื่อเพิ่มความสามารถของเขา
ชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาน่าจะรู้เรื่องพวกนี้ดี เขาจึงเปิดปากถามเขา
“พ่อมดฮิลล์ คุณพอจะรู้มั้ยว่ามีองค์กรนักเวทย์ต่าง ๆ ในอาณาจักรองค์กรไหนบ้างที่ผมสามารถเข้าร่วมได้”
“องค์นักเวทย์งั้นเหรอ?” ชายชราได้เหลือบไปมองเมอร์ลิน เขารู้ว่าเมอร์ลินอยากรู้อะไรแต่เขาได้ส่ายศีรษะและพูดว่า “ข้าก็ไม่เรื่องนี้มากนักแต่ข้าพอจะรู้เกี่ยวกับองค์กรนักเวทย์ที่ใกล้เคียงในพื้นที่นี้ องค์กรที่อยู่ใกล้เมืองปรากาซมากที่สุดเป็นองค์กรที่มีชื่อว่าดินแดนมนต์ดำและก็มีหอคอยอเวจีที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีอีกองค์ในเมืองแห่งอัคคีที่เมืองนี้มีองค์กรที่ชื่อว่าแคว้นแห่งธุลีและองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ถึงจะมีหลากลหายองค์กร ใช่ว่าพวกเขาจะยอมรับให้ใครเข้ามาง่าย ๆ โดยคนอย่างพวกเราต้องผ่านการทดสอบถึงพวกเขาจะยอมรับพวกรา
นอกจากจะใช้วิธีการทดสอบปแล้วยังมีมีทางหนึ่งก็คือ ได้รับการแนะนำจากสมาชิกขององค์กรแบบเดียวที่มอแรงค์ได้รับการคัดเลือกเข้าไป นอกจากสองวิธีนี้แล้วข้าก็นึกไม่ออกว่าจะเข้าร่วมองค์กรนักเวทย์ได้ยังไง”
หลังจากที่เมอร์ลินได้ฟังข้อมูล เขาก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่อง ตามที่ชายชราบอกองค์กรนักเทย์มีจำนวนมากแต่การที่จะเข้าไปได้นั้นเป็นเรื่องยากมาก ไม่อย่างนั้นพ่อมดฮิลล์คงจะอยู่ในองค์กรสักแห่งมาตั้งนานแล้ว
พ่อมดฮิลล์ได้มองไปที่เมอร์ลิน เขารู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงกระแอมขึ้นมาและพูดด้วยเสียงอันแหบแห้ง
“พ่อมดเมอร์ลิน เจ้ายังหนุ่มมาก เจ้ายังมีโอกาสอีกมากมายที่จะได้เข้าร่วมองค์กรนักเวทย์สักแห่งในอนาคต”
พยักหน้าทำได้เพียงพยักหย้าเบา ๆ จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมามองพ่อมดฮิลล์และพูดว่า
“พ่อมดฮิลล์ แม้ว่าภายในแหวนจะไม่มีสูตรปรุงยาแต่ข้างในก็มีส่วนผสมมากมาย บางทีมันอาจจะมีของที่คุณต้องการก็ได้”
เมื่อเห็นเมอร์ลินดึงส่วนผสมของยาออกมา ชายชราก็ดูมีความหวังขึ้นมาทันที แม้ว่าจะไม่มีสูตรยาแต่มันก็เป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ส่วนผสมที่มีประโยชน์และหายากจะแหวนของเมอแรงค์
ในขณะที่เมอร์ลินกำลังวางส่วนผสมลงบนพื้นทีละอย่าง สายตาที่งงงวยก็ปรากฏขึ้นมาในดวงของชายชรา เนื่องจากพวกมันส่วนใหญ่เป็นของที่เขาก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าองค์ความรู้ของพ่อมดพเนจรนั้นมีน้อยมาก ผิดกับพวกพ่อมดในองค์กรที่ศึกษาองค์ความรู้ที่ส่งต่อหมุนเวียนภายในเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพ่อมดทั้งสองกลุ่ม
ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดชายชราก็หาดอกซีเจนเจอซะที โดยส่วนที่มีประโยชน์ของดอกซีเจนนั้นไม่ใช่กลีบดอกแต่เป็นส่วนลำต้นสีม่วง
เมอร์ลินได้มอบพวกมันทั้งหมดให้ชายชราแต่อย่างไรก็ตามดอกซีเจนในแหวนของเมอแรงค์นั้นมีจำนวนน้อยเกินไป ดูเหมือนเขาจะค่อยไม่สนใจในพืชชนิดนี้
“ไม่เป็นไรพ่อมดเมอร์ลิน แค่นี้ก็เพียงให้ข้าปรุงยาได้เป็นจำนวมากแล้ว เท่านี้โครงสร้างเวทมนต์ของข้าก็จะคงที่ซะที”
จากนั้นชายชราได้เรียกสาวใช้เข้ามา เขานำดอกไม้ซีเจนให้เธอไปเก็บพร้อมกับกำชับว่าให้นำออกไปอย่างระมัดระวัง
เมอร์ลินที่เงียบอยู๋พักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจพูดว่า “พ่อมดฮิลล์จริง ๆ แล้วผมอยากจจะขอความช่วยเหลือจากคุณ”
“พ่อมดเมอร์ลินไม่ต้องเกรงใจหรอก ข้ายินดีจะช่วยเหลือเจ้าทุกอย่างตามที่กำลังของชายแก่คนนี้จะช่วยได้”
บางทีการที่ดมอร์ลินมอบดอกซีเจนในเขา ทำให้ทัศนคติของพ่อมดฮิลล์ที่มีต่อเมอร์ลินได้เปลี่ยนไป
“ตอนนี้ผมกำลังมองหาคาถาระดับศูนย์อยู่และคาถาธาตุดินที่คุณมีก็ตรงกับที่ผมต้องการดังนั้นผมจึงขอแลกเปลี่ยนกับคาถาแช่แข็งของผมกับคาถาธาตุดินของคุณ”
หลังจากกล่าวจบสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่พ่อมดฮิลล์ ก่อนหน้านี้เขาผิดหวังที่ภายในแหวนของเมอแรงค์ไม่มีคาถาอะไรเลยแต่โชคดีที่ชายชรามีคาถาอยู่สามอย่าง นั่นก็คือคาถาธาตุไฟ ลมและดิน
ซึ่งคาถาธาตุไฟกับธาตุลมนั้นไม่ได้มีประโยชน์กับเขา โดยคาถาธาตุลมของพ่อมดฮิลล์ มันมีความคล้ายคลึงกับคาถาลมกรดของชายชราอีธาน ดังนั้นเขาจึงตัดพวกมันทิ้งโดยไม่ลังเล
สำหรับคาถาธาตุดินของพ่อมดฮิลล์นั้น มันมีความคล้ายคลึงกับคาถาธาตุดินของเมอแรงค์ซึ่งเป็นคาถาที่เมอร์ลินต้องการเป็นอย่างมาก
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงยื่นข้อเสนอนี้ไป ผ่านไปพักหนึ่ง พ่อมดฮิลล์ก็ได้พยักหน้าเห็นด้วย เขายอมรับข้อเสนอของเมอร์ลิน