บทที่4ตอนที่7

 

 

「บรู้วววววววววววววววววว!!」

 

 

มีตัวหนึ่งเป็นจ่าฝูง

 

 

มันวิ่งเข้ามาหวังเที่จะกินเหยื่อตรงหน้า

 

 

โนโซมุใช้เสริมพลังกายและวิ่งอยู่

 

 

หมาป่าพยายามกระโดดเข้ามากัดคอโนโซมุแต่ดาบของโนโซมุก็กันไว้ได้

 

 

「อั่กห์…………」

 

 

ดาบที่ดึงออกมาแทงทะลุคอของหมาป่าตัวนั้นและเลือดจำนวนมากก็พุ่งราวกับน้ำพุ ตกลงมาบนหน้าของโนโซมุ

 

 

(อีก 14 ตัว……)

 

 

โนโซมุคิดเช่นนั้นง่ายๆว่ายังเหลือศัตรูที่มากกว่าตัวเองถึง 15ตัว

 

 

แม้จิตใจแห่งความวุ่นวายนี้จะยังคงลุกโชนแต่เหตุผลของโนโซมุก็ไม่ได้สูญเสียไป

 

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ อย่างไม่เคยมีมาก่อนและแรงกระตุ้นที่อกคู่นี้มันสะบัดความลังเลที่จะฆ่าศัตรูตรงหน้าให้สิ้นซาก

 

 

แม้จะฆ่าพวกของมันไปได้แล้ว แต่ว่ามันก็ยังคงล้อมโนโซมุด้วยท่าทางอันแสนสงบราวกับรอจังหวะ เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าฝูงมันคุมลูกน้องได้ดี

 

 

ดูเหมือนว่าตัวเมื่อกี้จะถูกบังคับให้เข้ามาเพื่อวัดความสามารถของศัตรู

 

 

「กรูววววว!」「บรู้วววววว!」「กาโอวววววว!」

 

 

คราวนี้บุกมาด้านหน้า 1 ตัว ด้านข้างสองตัว รวมทั้งหมด 3 ตัว มันพยายามโจมตีโนโซมุในคราวเดียว

 

 

โนโซมุถอยหลังกลับครึ่งก้าวและในขณะที่หมุนรอบตัวหนึ่งครั้งก็ชักดาบออกไปแล้วทั้งสามนั่นก็รีบถอยห่างทันที

 

 

จากนั้นก็มีอีกตัวหนึ่งโผล่มาทางด้านหลังและกระโดดโจมตีพร้อมกับตัวที่ถอยไปก่อนหน้านี้ มันพยายามเอาเขี้ยวอันแหลมคมขยำคอโนโซมุ

 

 

โนโซมุฟันดาบไปที่ศัตรูอย่างรวดเร็ว

 

 

โนโซมุตอนนี้ถูกล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าหากหยุดไม่ได้ก็จบกัน

 

 

และหากหยุดเคลื่อนไหวเมื่อไรยามนั้นก็จะถูกพวกมันกลืนกิน

 

 

◇◆◇

 

 

พวกหมาป่ามันรู้วิธีล่าศัตรูที่เก่งกว่าตัวเองใช้จำนวนเข้าว่าซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและความเสี่ยงต่ำ

 

อย่างแรกเลยคอยไล่ต้อนคู่ต่อสู้ให้เหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้ แต่สำหรับโนโซมุแล้วมันตรงกันข้ามเลย แผนนี้ใช้ไม่ได้ผล

โนโซมุไม่ได้ล่าถอยแม้แต่น้อยดังนั้นพวกนั้นจึงตัดสินใจที่จะหยุดและลุมในคราวเดียว

 

ตัวก่อนหน้านี้ถูกจัดการไป แต่ถ้าสามตัวช่วงกันเบี่ยงเบนความสนใจและอีกตัวคอยสนับสนุนทีหลัง

ในความจริงโนโซมุควรจะหยุดการโจมตีของเหล่าหมาป่า

 

 

แต่ตัวเขากลับกระโดดขึ้นไปเหนือพวกมัน

 

 

และการโจมตีนั่นก็ประสบความสำเร็จ

หมาป่าเหล่านั้นโดนตัดออกเป็นชิ้นๆและหล่นลงพื้นเสียงดังตุบ

 

สิ่งที่แปลกก็คือโนโซมุไม่ได้เคลื่อนไหวที่จะโจมตีโดนเหล่าหมาป่าได้เลย และเขาเองก็ไม่ได้ชักดาบออก

โดยทั่วไปแล้วการต่อสู้นั่นควรจะเป็นตัวต่อตัว แต่กรณีนี้มันไม่ใช่

 

ความจริงโนโซมุไม่ได้ใช้ดาบฟันออกไป

 

 

ดาบของโนโซมุส่องแสงจางๆเป็นข้อพิสูจน์

อันที่จริงโนโซมุใช้วิชาก่อนหน้านี้แล้ว

 

 คิ“คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”

 

เป็นวิชาคิที่ใช้พลังของคมดาบที่คมอย่างมากและสร้างภาพลวงตาออกมาเป็นใบมีดเพื่อฟาดฟันศัตรู

และวิชานั่นเป็นแบบฉบับปรังปรุงคือ “หวนกลับ” ซึ่งเป็นการทำให้คมดาบเหล่านั้นเปรียบเสมือนเกราะรอบกายของตัวเอง เป็นวิชาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

 

อย่างไรก็ตามเทคนิคนี้ที่ถูกยกระดับขึ้นกลายเป็นระดับแฟนท่อม

 

เดิมทีแล้ว “คมดาบผ่ามายา” เป็นวิชาง่ายๆที่ใช้ตัดหินและถ้าใส่มันลงไปในดาบมันก็เหมือนกับดาบเวทย์ได้แม้จะใช้กับมีดสั้นธรรมดาก็ตาม

 

 

ยังไงก็ตามการที่ใช้ “คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”ในครั้งก่อน ผมใช้คมดาบเพื่อลบคมดาบของอาจารย์ แต่ว่าครั้งนี้ผมใส่พลังลงไปในดาบไม่ได้ปล่อยมันทิ้งไว้ในอากาศ

 

 

ยังไงก็ตามโนโซมุก็ยังเหลือคมดาบภายในอากาศที่มีความคมสูงเอาไว้อยู่ และอากาศที่อยู่ตรงนั้นแม้แต่ฝุ่นก็เข้ามาไม่ได้

 

 

โนโซมุป้องกันการโจมตีของศัตรูด้วยดาบเล่มนี้ ทำให้พวกเหล่าหมาป่าโดนคมดาบลวงตาที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นลดจำนวนไปเรื่อยๆ

 

 

คำถามก็คือวิชาคิเหล่านี้สามารถบีบอัดจนมีความเข้มข้นสูงมากพอจะรักษาได้งั้นเหรอ?

 

 

ในขั้นต้นวิชา “คมดาบผ่ามายา” เดิมทีก็ใช้เทคนิคการควบคุมคิในระดับสูงอยู่แล้ว

 

 

แม้ว่าจะเป็นวิชาแสนยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่พวกแรงค์ A ทำกันเล่นๆได้ ไม่ใช่เพียงแค่เปิดใช้งานเท่านั้น แต่ต้องคงสภาพมันไว้ด้วย

 

 

นอกจากนี้โนโซมุที่ผ่านสนามรบแห่งความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

 

 

วิชาของโนโซมุ “คมดาบผ่ามายา -หวนคืน-” ก็ไม่ใช่ของที่สร้างขึ้นมาด้วยความครึ่งๆกลางๆ

 

อย่างไรก็ตามภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมีความสามารถในการฆ่าสูงมากและการปล่อยมันให้คงอยู่ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมากเช่นกัน ทำให้โนโซมุไม่ได้ใช้เทคนิคนี้ที่โรงเรียน

 

 

นอกจากนี้ไม่ว่าโนโซมุจะควบคุมมันได้ดีแค่ไหน แต่การรักษาวิชานี้มันก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก โนโซมุไม่ค่อยอยากจะใช้เทคนิคนี้เท่าไรในการสู้ที่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะถ้าเสียสมาธิไปแม้แต่นิดเดียว วิชาที่จะพังทลายลงและอาจทำให้เขาถึงแก่ความตาย

แต่ตอนนี้มันต่างออกไปโนโซมุที่กำลังอยากจะอาละวาด ไม่สนใจซึ่งความเสี่ยงอีกต่อไป

 

 

ตอนนี้ผมปล่อยตัวไปตามอารมณ์เหล่านี้ก็เท่านั้นเอง

 

 

◇◆◇

「บรู้ววววววววววว!」

 

หมาป่าทั้งสามที่กำลังโจมตีก่อนหน้านี้นั้น

 

 

เขาฟันดาบที่ใช้ “คมดาบมายา-หวนคืน-”ฟันใส่พวกมัน

 

 

โนโซมุใช้ก้าวพริบตาทันทีไปทางทิศตรงข้ามและจัดการอีกสองตัว

 

 

คมดาบทั้งสองที่ฟาดฟันออกไปปาดคอของหมาป่าออกอย่างสวยงาม

 

สองตัวนั้นล้มลงไปและเลือดจำนวนมากก็พุ่งออกมา

 

 

เลือดที่ไหลออกมาจากลำคอของมันประสานการเต้นกับหัวใจของโนโซมุ ราวกับกำลังตื่นเต้น

 

 

ในที่สุดความตื่นเต้นก็เริ่มจางหายและกลับมาสงบลง

 

(อีก 10 ตัว……)

 

 

ในเวลานั้นโนโซมุไม่สนว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตามถ้ามันจะฆ่าเขามันก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกฆ่าเช่นกัน

 

หมาป่าที่ล้อมรอบโนโซมุพยายามเปลี่ยนวิธีการโจมตี เพราะมันตระหนักได้ว่าโนโซมุเป็นตัวอันตรายที่จัดการพวกตัวเองไปถึง 5 ตนแล้ว

 

พวกมันไม่พุ่งเข้ามา ยังคงรักษาระยะห่างและจ้องไปที่โนโซมุ

 

 

ปรากฏว่าเหยื่อตรงหน้าดันแข็งแกร่งจนเกินไปแม้พยายามจะจบศึกในระยะสั้นแต่ก็ทำไม่ได้

 

 

นอกจากนี้ มันพยายามจะทำให้โนโซมุต้องเหนื่อย

 

 

แต่ว่าเขานั้นก็ไม่ได้หลบการโจมตีทำให้ไม่เกิดความเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย มันเป็นช่องว่างระหว่างผู้แข็งแกร่งที่ไม่ต้องขยับกลับผู้อ่อนแอที่พยายามดิ้นรนล่าผู้แข็งแกร่ง

 

 

แต่ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งสักเท่าไรแต่ก็มีตัวคนเดียว ไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว

 

 

 

นั่นคือสิ่งที่พวกหมาป่าคิดได้ขณะที่เอาชีวิตรอดภายในป่าแห่งนี้

 

 

วิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าตัวเอง

 

 

หมาป่าพยายามจะ “ฆ่า” ศัตรูของพวกมันด้วยพลังทั้งหมด

 

 “ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า”

 

นี่เป็นสิ่งเดียวที่โนโซมุและพวกหมาป่าคิดเหมือนกันในตอนนี้

 

 

◇◆◇

 

 

หมาป่าพยายามเข้าหาและออกห่างจากโนโซมุเป็นครั้งคราว

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุเข้าใจจุดประสงค์ของพวกมัน เพราะการตอบสนองของโนโซมุนั้นไว

 

“ถ้าสถานการณ์มันไม่ดีขึ้นเลยจะมัวอยู่เฉยก็ไม่ได้ยังไงก็ตามต้องพลิกสถานการณ์นี้ให้ได้แม้จะต้องฝืนก็ตาม”

 

เมื่อคิดอย่างนั้นโนโซมุก็พยายามจะเข้าโจมตีฝูงหมาป่าที่ล้อมรอบเขา

 

คู่ต่อสู้ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับมัน แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

 

 

ทักษะและประสบการณ์มากมายที่สั่งสมมาจากการร่ำเรียนกับชิโนะ

 

เพียงแค่ทุ่มทุกอย่างไปกับการกระทำของตนเอง

 

 

ซึ่งแน่นอนมันช่างน่าเกลียดและน่าขบขันกับท่าทางอันแสนสง่างามของเธอ

 

 

◇◆◇

 

 

ผมฟันดาบออกไปทั้งๆที่มี “คมดาบมายา-หวนคืน-”ห่อหุ้มอยู่ ร่างถูกตัดเป็นสองส่วนจนไส้ทะลัก เหลือศัตรูอีก 9 ตัว……。

 

ผมไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวและฟันดาบกับศัตรูใกล้ๆ

 

 

ดาบนั่นเฉือนโดนมันเข้าจนขาขาดไปหนึ่งข้าง บาดแผลนั่นน่าจะทำให้เลือดไหลจนหมดตัว เหลืออีก 8 ตัว

 

「「บรู้ววววววว!!」」

 

คราวนี้มีสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง แต่ผมเองก็ดักรอไว้อยู่แล้ว

 

 

ขณะที่หมุนตัวก็เอาด้ามเหล็กกระแทกไปที่จมูกของมันและฟันดาบไปที่อีกตัวหนึ่งและอีกตัวก็โดนคมดาบลวงตาฟันไป

 

 

ร่างของพวกมันที่ถูกผ่าเป็นสองท่อนและตัวที่โดนด้ามเหล็กตอกไปที่จมูกเองก็โดนทุบจนหัวบี้

 

 

เมื่อผมฟาดดาบลงไปที่คอของตัวที่ล้มลงและจ้อง 6ตัวที่เหลือ…………。

 

 

จำนวนของมันถูกลดลงต่ำกว่าครึ่งในพริบตามันกำลังครวญครางเบาๆ เพราะกลัวอยู่

 

 

ตัวผมสลัดคราบเลือดเสร็จก็รีบจะทำให้มันจบๆในคราวเดียว

 

 

「บรู้ววววววววววววววว!!」

 

เสียงหอนนั่นปลุกจิตวิญญาณแห่งป่ารอบๆตัว

 

เมื่อมองไปที่เสียง ก็เจอหมาป่าตัวใหม่ปรากฏขึ้นอีกประมาณ 3 ตัว

 

 

ในหมู่พวกนั้นมีหมาป่าที่ร่างกายใหญ่โตน่าจะเป็นจ่าฝูง

 

 

หมาป่าที่รอดตายรีบกลับไปหาหัวหน้าฝูงและจ้องมาทางเขาอีกครั้ง

 

หมาป่าทั้ง9ตัวรวมกับจ่าฝูงเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งภายใต้การควบคุมของจ่าฝูงมันจัดแถวอย่างเป็นระเบียบ

 

 

เมื่อรวมกับจ่าฝูงผู้ทรงอำนาจทำให้พวกมันไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ แต่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่

 

 

ทันทีที่หัวหน้ามันพยายามส่งสัญญาณ-ผมก็ตัดคอของมันเรียบร้อยแล้ว

 

 

◇◆◇

 

 

เวลาของหมาป่าหยุดลงชั่วครู่

 

 

พวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

มันดูบ้าบอมากๆ

 

 

จังหวะที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีศัตรูพร้อมกันร่วมกับหัวหน้า หัวของจ่าฝูงก็หายไปเสียแล้ว

 

 

นั่นคือตอนที่ผมปล่อย “แฟนท่อม”ออกไป

 

 

ใบมีดที่ถูกบีบอัดจนเข้มข้นฟันผ่านหัวของจ่าฝูงจนดับดิ้น

 

เลือดที่กระเซ็นย้อมพวกมันทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงสด กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว กลิ่นของซากศพเน่าๆที่ตลบอบอวล ดวงตาของผมที่แดงก่ำเพราะจิตวิญญาณหรือความกระหายเลือดหรือไม่นั้น ผมรีบวิ่งไปหาศัตรูที่เหลืออยู่อย่างไม่รีรอ

◇◆◇

ความเงียบกลับคืนสู่ป่าโนโซมุยืนอยู่ตรงนั้น

 

 

ซากศพของหมาป่ากระจายอยู่รอบๆตัวเขา มันเป็นปรากฏที่ทำให้ผมต้องเหลียวตามองว่าผมนั้นชินชากับเลือดเนื้อแค่ไหน

 

 

ศพทั้งห้าที่นอนอยู่บนพื้น ที่ทั้งส่วน หัว ขา ขาดหาย และ ชิ้นส่วนบางอย่างต่างหายไป

 

กลิ่นของเลือดและกลิ่นศพที่ปล่อยออกมาจากซากพวกนั้นมันกระจายไปทั่วและมันเข้าไปจนทั่วจมูกของโนโซมุจนจมูกเขาด้านชา

 

 

บางทีอวัยวะภายในที่กระจัดกระจายมันยังคงอุ่นๆอยู่มันสัมผัสกับไอน้ำข้างนอกที่เย็นยะเยือก

 

「…………………」

 

โนโซมุกำลังจ้องมองไปยังจุดหนึ่งภายในป่าอันแสนมืดมิดในความคิดของเขา ไม่ได้คิดถึงพวกหมาป่าเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่เสียงเตือนตัวเองว่าตัวเองเข้าป่ามาลึกมากแล้ว

 

 

ในที่สุดก็ได้ยินเสียงดั่งฉ่า เหมือนไอร้อนแต่สักพักก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนอยู่เนืองๆ

 

 

ในที่สุดแล้ว “มัน”ก็โผล่ออกมาจากความมืดมิด

 

 

ยักษ์ที่ใหญ่กว่าคนเกือบสามเท่า

 

 

ขาที่ค้ำยันร่างนั้นหนาและหยั่งรากลึกเหมือนต้นไม้ที่ยืนยาว

 

 

เอวที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยหนัง และลำตัวมีกล้ามเหมือนกับเกราะเหล็กกล้า

 

 

แขนของมันหนากว่าลำตัวของเด็กและถือกระบองไว้ในกำมือซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับผู้ใหญ่โตเต็มวัย

 

 

และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงตาทั้งสามที่อยู่บนใบหน้าของมัน

 

 

 ไซคลอปส์

 

 

สัตว์อสูรอันแสนทรงพลังที่อยู่แรงค์ A เป็นยักษ์ที่หาที่เปรียบมิได้กับศัตรูก่อนหน้านี้

 

 

◇◆◇

 

 

「โอววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!」

 

เสียงคำรามของยักษ์นั่นทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือน

 

 

บางทีมันอาจจะตามมาเพราะการต่อสู้และกลิ่นเลือด

 

「………………ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ」

 

โนโซมุเห็นยักษ์ตรงหน้าก็ถือดาบพร้อมกับรอยยิ้ม

 

 

เขาคงจะถอยหนีทันทีถ้าเป็นในยามปกติ

 

 

นอกจากนี้แม้ว่าจะรอดกลับไปได้แต่โนโซมุก็คิดว่าน่าจะเจอสัตว์อสูรตัวอื่นๆดักรออยู่

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวโนโซมุกำลังหาที่ระบายอารมณ์

 

 

เขาปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เลิกคิดที่จะหนีและเผชิญหน้ากับศัตรูตรงหน้า

 

 

เขารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้เจอกับศัตรูอันแสนทรงเกียรติเหมาะแก่การระบายอารมณ์จากจิตใจอันแหลกสลาย

 

 

(……………หนอยนะแก)

 

มีบางอย่างกำลังพึมพำอยู่ในใจของเขา

นอกจากนี้เขากำลังได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังโหมกระหน่ำ

 

 

เสียงและการเต้นของหัวใจมันช่างเร้าอารมณ์และยั่วยวนยิ่ง ตามปกติเขาจะปฏิเสธมันทุกครั้งแต่ว่าเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่ยอมรับฟัง