บทที่ 38 – อดีตหรืออนาคตที่สำคัญ?

 

“อ่า… ไม่ ไม่ ไม่”

มิวพึมพำด้วยความสับสนจับเอาร่างที่หายใจโรยรินใกล้ตายของคางาริเอามาไว้ในแขนตัวเองเธอพยายามจับประคองสติของอีกฝ่ายเอาไว้

แต่ว่าคางารินั้นไม่ได้สติไปเพราะหัวกระแทกอย่างพื้นรุนแรง ในทางตรงกันข้ามแม้มิวจะไม่มีซึ่งพลังอะไรเลยแต่ก็ตกจากที่สูงได้โดยไม่บาดเจ็บอะไรมาก

นั่นเป็นเพราะร่างของคางารินั้นได้รับเอาไว้.. หากไม่มีคางาริมารับเอาไว้คนที่จะตายแทนก็คงเป็นมิวในตอนนี้หาใช่คางาริ

มิวยกดาบในมือของตัวเองขึ้นพยายามจะฟันใส่ร่างของคางาริเพื่อรักษา แต่ทว่าเธอก็หยุดยั้งแขนเอาไว้..

เธอรู้ตัวดีว่าหากฟันไปทั้งแบบนี้.. สิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่การรักษา เพราะการเชื่อมต่อกับดาบเล่มนี้มันหายไปแล้ว

ความรู้สึกที่เหมือนกับควบคุมทุกอย่างในมือได้มันหายไปหมดแล้ว.. หายไปพร้อมกับพลังที่ถูกตัดออกจากตัวเธอไปด้วยความสามารถของดาบเอง

ดังนั้นหากมิวฟันไปทั้งแบบนั้น.. คางาริคงตายตรงนี้ทันที ภายใต้ลมหายใจของตัวเองที่โรยรินตรงหน้า

แขนทั้งสองข้างของมิวสั่น.. ทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามากลายเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง.. เหมือนกับว่าการที่เธอต้องย้อนเวลานั้นเป็นสิ่งที่ควรจะเกิด

เธอต้องย้อนเวลามาเพื่อฆ่าตัวเอง.. ทำให้ตัวเองในอนาคตมีชีวิตอยู่.. หรือพูดอีกอย่างก็คือตัวของเธอที่เป็นคางาริต้องเดินทางมาตายเพื่อให้มิวได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

เหมือนกับว่าทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่กำหนดไว้.. เป็นสิ่งที่มิวต้องตาย.. ดวงตาของมิวสั่นเครือ อันที่จริงเธอสังเกตเห็นตั้งแต่ที่เรนะโทรหาคางาริแล้วโกรธ

ซึ่งมันน่าจะเป็นเพราะเรนะโกรธที่เห็นมิวผู้หญิงปริศนาในห้องของคางาริ แฟนตัวเอง เพราะงั้นในคืนนั้นเธอเลยโทรมาด่ามิว

ไม่ใช่แค่คางาริในตอนนี้.. แต่ในความทรงจำของมิวมันก็เคยเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น มิวรู้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว เธอรู้แล้ว

แต่ถึงแบบนั้น.. เธอยังคิดว่าสามารถแก้ไขได้ ถ้าหากเธอเร็วกว่านี้ แข็งแกร่งกว่านี้.. ถ้าไม่ติดขัดโดยไอ้ผู้คุมเวลาบ้านั่นทุกอย่างคงจะเปลี่ยนไป..

ในขณะที่มิวกำลังอุ้มร่างที่ใกล้ตายของคางาริขึ้น.. ประตูลึกลับขนาดใหญ่ก็โผล่พรวดขึ้นมาจากพื้นดินต่อหน้ามิว

ประตูบานใหญ่ที่มีลวดลายเหมือนกับสถาปัตยกรรมอันโบราณโผล่พรวดออกมาโดยไม่สนทั้งสิ่งก่อสร้างหรือวัตถุใดๆ

ซึ่งผลที่ตามมาก็คือทำให้ตึกราวบ้านช่องที่อยู่ในระยะที่ประตูโผล่ขึ้นมา ต่างถล่มทลายเสียงกรีดร้องของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากดังขึ้น

มิวอุ้มร่างของคางาริพร้อมกับวิ่งไปทางที่นัดกับเรนะด้วยความสับสน แม้แต่พละกำลังของมังกรมิวยังถูกลบให้หายไปด้วย

แม้จะลำบากแต่ก็ต้องขอบคุณที่ตัวเธอในอดีตค่อนข้างผอม.. เธอไม่มีทั้งพลังพิเศษหรือโทรศัพท์มือถือ

สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือพาคางาริไปโรงพยาบาลโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้.. แต่คนอื่นก็แตกตื่นเพราะการปรากฏตัวของสิ่งปริศนา

ทางเดียวที่มิวจะช่วยคางาริ.. หรือช่วยตัวเองได้ในตอนนี้คือรีบวิ่งไปหาเรนะที่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่มากนัก

เพราะมิววิ่งไปถึงจัตุรัสก็เห็นเรนะยืนอยู่ตรงนั้น เธอเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ปริศนานี้เหมือนกัน

“ช่วยเรียก.. รถพยา..บาลที”

มิววิ่งเหนื่อยหอบด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก เรนะที่เห็นหน้ามิวเธอก็ขมวดคิ้วทันที

“เธอ…”

แต่เมื่อสายตาที่ก้มลงไปนั้นมองเห็นแฟนหนุ่มของตัวเองหน้าตาของเรนะก็เปลี่ยนสี

“คางาริ..!”

เมื่อมองไปยังสภาพที่เลือดไหลท่วมหัวของแฟนหนุ่มเรนะไม่มีเวลามาคิดเรื่องยิบย่อยของมิวหรือของประตูปริศนาอยู่แล้ว

เธอรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที.. แต่อาจจะเป็นเพราะประตูบานใหญ่ที่ปรากฏขึ้นทำให้สายที่โรงพยาบาลใกล้เคียงต่างก็วุ่นกันหัวหมุนเหมือนกัน

ทำให้กว่ารถพยาบาลจะมารับคางาริได้.. ทั้งมิวและเรนะต่างพากันยืนกังวลอยู่ตรงนั้น.. ทั้งสองคนไม่ได้พูดหรือแนะนำตัวอะไรกัน

ในหัวของทั้งสองคิดเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือกังวลว่าคางาริจะตาย.. ใช้เวลาพอสมควรกว่ารถพยาบาลจะมารับคางาริ

แน่นอนว่ามิวเองก็ขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน..

แต่ทว่าไม่ว่าจะแบบไหน.. ผลลัพธ์ก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดมาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว บนรถเข็นในโรงพยาบาลคางาริถูกพาเข้าห้อง ICU ทันที

เรนะเดินตามรถเข็นด้วยสีหน้าที่กังวล..ดวงตาของคางาริที่เปิดขึ้นมองเห็นใบหน้าอันเจ็บปวดของเรนะนั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา..

เครื่องจับอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นช้าลงนั้น.. มันหยุดลงก่อนที่มิวจะได้เข้าถึงห้องด้วยซ้ำ..

แน่นอนว่าแม้คุณหมอจะพยายามกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นเพียงใด ร่างกายของคางาริ ร่างกายของเขาก็ไม่มีดวงวิญญาณของคางาริเหลืออยู่อีกต่อไป

แน่นอนว่าเรื่องนั้นคุณหมอในโลกนี้ไม่สามารถรับรู้ได้… เรนะนั่งรออยู่หน้าห้องที่คุณหมอพยายามกระตุ้นหัวใจของมิวให้กลับมาเต้น

มิวที่มองทุกอย่าง.. เธอเห็นแม้แต่ดวงตาของคางาริที่มองเห็นเรนะแสดงสีหน้าเจ็บปวด และตัวของคางาริในตอนนั้นเองก็ดูเหมือนไม่อยากให้แฟนตัวเองทำสีหน้าแบบนั้น

….มันเหมือนกับเธอไม่มีผิด.. เหมือนกับมิวตอนที่จำความเรื่องก่อนจะหมดลมหายใจ..

“หลังจากนั้น.. วิญญาณของฉันก็ลอยข้ามดินแดนไปเข้าสิง..เทพมังกรอะไรนั้นสินะ”

มิวพึมพำกับตัวเองพร้อมกับกำหมัด… เวลาผ่านไปเรนะที่ได้รับรู้ผลของความตายคางาริเธอก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา

เธอลืมแม้แต่จะโทรไปบอกครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวของคางาริด้วยซ้ำ.. ยังดีที่ระหว่างทางเรนะโทรไปบอกพี่สาวของคางาริ ชิโอริแล้วว่าน้องชายเธอประสบอุบัติเหตุ

อีกไม่นานชิโอริก็คงมาถึงที่นี่.. มิวที่มองเรนะดวงตาของเธอแข็งค้าง.. หมายความหากมิวไม่ย้อนมาแต่แรก

ทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้นน่ะสิ.. ถ้าเธอไม่ข้ามเวลามาเพื่อแก้ไขบางอย่างบางทีสิ่งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เธอก็จะไม่ตาย

อีกทั้ง.. มิวจะได้ไม่ต้องเห็นสีหน้าที่ร้องไห้เหมือนกับตายทั้งเป็นของเรนะอีกด้วย ความพยายามตลอดทั้งคืนองมิวมันกลั่นเป็นความรู้สึกอันยากจะบรรยาย

ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องรอยยิ้มของเรนะ.. ความรู้สึกที่ไม่อยากให้ยัยนี่ต้องร้องไห้ ความรู้สึกที่อยากจะปกป้องเอาไว้

ความรู้สึกเหล่านี้มันยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อพบถึงความปรารถนาที่ตัวเองพยายามมาทั้งคืนด้วยความเจ็บปวดเกือบตายมันยังไม่สำเร็จ

เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปหาเรนะที่กำลังร้องไห้.. มิวไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยื่นบางอย่างให้หญิงสาวตรงหน้า

“มันควรจะเป็นของเธอ”

มิวยืนกล่องสีแดงที่ชุ่มเลือดให้กับเรนะ

มันคือแหวนที่มิว.. ที่คางาริเตรียมมาให้เรนะ ใช่แล้ว คางาริอยากจะขอเรนะแต่งงานในวันครบรอบ อันที่จริงคางาริวางแผนจะขอนานแล้ว

แต่ไหนๆ จะขอแต่งงานแล้วทั้งที คางาริจึงอยากจะให้มันเป็นเรื่องที่น่าจดจำ ในเช้าวันใหม่ที่มิวรีบตื่นแต่เช้าเตรียมตัวก็เพราะอยากจะพาแฟนไปเดท

พาเธอไปเดทแล้วปิดท้ายด้วยการขอแต่งงานแบบโรแมนติก.. ตามภาษาคู่รักทั่วไป แน่นอนสาเหตุที่เลือกของขวัญนานเพราะคางาริอยากจะให้แหวนแต่งงานเป็นแหวนที่ดูเข้ากับแฟนตัวเองมากที่สุด

สำหรับคางารินั้นแม้เขาจะชอบพูดว่าตัวเองสวยกว่าแฟน แต่ถึงแบบนั้นเธอก็เป็นคนที่คิดว่าแฟนตัวเองสวยที่สุดในโลก

เธอจึงอยากจะเลือกแหวนให้เรนะแบบประณีต.. เช้าวันรุ่งขึ้นคางาริออกจากบ้านด้วยอารมณ์ที่ดีกว่าปกติ

เดินทางไปหาคนรักของตัวเอง… จนกระทั่งมีบางอย่าง.. บางอย่างร่วงลงมาก ใช่ สิ่งที่ร่วงลงมาก็คือตัวเธอในอนาคต

เพื่อที่ตัวเองในอนาคตจะได้มีชีวิตอยู่ต่อ ตัวเองในอดีตเลยต้องตาย

เหมือนกับจะบอกว่า.. อดีตนั้นจะมาสำคัญเท่าอนาคตได้อย่างไร

“เรนะรับกล่องนั้นมาพร้อมกับมองหน้ามิว…”

สายตาของคนทั้งสองมองกันและกัน

ก่อนที่มิวจะหันหลังแล้วเดินจากไป

ทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังให้สายตาของเรนะมอง

ซึ่งมิวไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้.. เรนะกำลัง

รู้สึก…อะไรอยู่..?

 

……….

[ขยายความเพิ่มเติม]

สำหรับมิวนั้นการที่เธอมายังที่แห่งนี้เป็นเพียงเพราะเธอต้องมาทำให้ตัวเองในอดีตตายโดยแลกกับอนาคตของเธอ หากคางาริไม่ตายแทนมิวในตอนนี้ตัวมิวในอนาคตก็จะไม่มีอนาคต แล้วตัวคางาริที่ไม่ตายก็จะไม่มีมิวที่ไปเกิดใหม่เพื่อย้อนเวลามาสร้างอนาคตของตัวเองโดยการฆ่าตัวเองในอดีต

Time paradox เหมือนในกรณีของถ้าย้อนเวลาไปฆ่าปู่ตัวเองแล้วไม่มีพ่อเรา ก็จะไม่มีเรา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะถ้าไม่มีเรา ปู่เราก็ไม่ตายสิ

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าคางาริไม่ตาย มิวก็จะไม่มีตัวตน ถ้ามิวไม่มีตัวตนก็จะไม่สามารถมาทำให้ตัวเองที่เป็นคางาริรอดได้ และถ้าเป็นแบบนั้นก็จะช่วยคางาริจากใครในเมื่อคนที่ฆ่าคางาริก็คือตัวมิวเอง

ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความไม่แน่นอน มันเกิดขึ้นเพราะความแน่นอน ต้องเป็นแบบนั้น ขณะที่กำลังคิดว่าจะทอยลูกเต๋า แต่ลูกเต๋านั้นถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะอยู่ในหน้าไหน

ทุกสิ่งที่คุณทำไปในตอนย้อนเวลาไปนั้นไม่ใช่การแก้ไข แต่กำลังเติมเต็มอดีตแบบที่มันควรจะเป็นเท่านั้น

เพราะว่าพระเจ้านั้นไม่ทอยลูกเต๋า