ตอนที่ 38 ไปกับฉันหนึ่งคืน!

“นี่ครับคุณลูกค้า.. ราคาค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าเครื่องดื่ม ทั้งหมดก็ 189,365 หยวนครับ!”
บริกรร้องบอกราคา พร้อมกับยื่นบิลให้กับหลินหนานที่ลุกขึ้นมาพอดี
“ห๊ะ?!! แพงขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
สีหน้าของหลินหนานบ่งบอกถึงความตกใจสุดขีด จะเรียกว่าเข้าขั้นช็อคก็ได้เมื่อรับบิลมาดู!
“คุณลูกค้าครับ รายละเอียดต่างๆได้ระบุไว้ในบิลแล้ว เป็นรายการที่ลูกค้าสั่งทั้งหมดจริงๆ ทางคลับของเราไม่มีนโยบายชาร์จลูกค้าเกินราคาแน่ครับ!” บริการอธิบายให้หลินหนานฟังด้วยความอดทน
“แต่มันแพงเกินไป!” ฉินเสี่ยวยู่เองก็ช่วยพูดเข้าข้างหลินหนาน
เธอเป็นเพียงแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆของจิงเฉิงกรุ๊ป เงินเดือนก็แค่เจ็ดพันกว่าหยวน ไหนเลยจะมีเงินมาจ่ายค่าอาหารเกือบสองแสนแบบนี้
นี่ค่าห้องกับค่าอาหารในคลับคืนนี้แค่คืนเดียว ยังมากกว่าเงินเดือนของเธอรวมกันทั้งปีเสียอีก นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของเธอ และเป็นสิ่งที่เธอเองก็ไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อนว่าจะมีอะไรที่แพงหูฉี่ขนาดนี้
“แต่ในเมนูก็จะมีราคากำกับไว้นะครับ ลูกค้าสามารถตรวจสอบดูได้ ทางร้านไม่ได้ชาร์จเกินราคาแน่นอนครับ!” บริการพยายามอธิบายอีกครั้ง
เมื่อบริกรเริ่มเห็นความผิดปกติ เขาจึงรีบหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา และพร้อมที่จะกดเรียกคนมาทันทีหากเกิดข้อผิดพลาด
คนพวกนี้กินแล้วคิดจะชักดาบงั้นเหรอ?
เสียใจด้วย.. ไม่มีทาง!
หลินหนานตีหน้าเศร้าพร้อมกับหันไปมองจางผิง “นี่คุณจาง คุณเป็นคนชวนผมมาที่นี่เองไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมผมต้องเป็นคนจ่ายด้วยล่ะ?”
“นี่คุณหลิน.. พูดจาเพ้อเจออะไรกัน? ผมแค่บอกว่าจะพาคุณไปเปิดโลก ไม่ได้บอกว่าจะเป็นคนจ่ายค่าอาหารให้ซะหน่อย!” จางผิงรีบปฏิเสธทันที
เขารู้สึกสะใจอย่างมากที่ได้เห็นสีหน้าที่สลดลงอย่างเห็นได้ชัดของหลินหนานเวลานี้ เขาดีอกดีใจจนเนื้อเต้น..
นี่ล่ะ.. ที่เขาเรียกว่ากรรมสนอง!
นี่เพียงแค่เริ่มต้นโว้ย!! รออีกประเดี๋ยวจะสนุกตื่นเต้นยิ่งกว่านี้อีก!
“ใช่ว่าผมจะไม่อยากจ่าย แต่ราคามันแพงเกินไป..” หลินหนานตีหน้าเศร้า และน้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาทั้งสองตา
“คุณหลิน.. ทั้งหมดเป็นความผิดของคุณเองนะ จะโทษใครได้! ถ้าคุณไม่มีปัญญาจ่าย ก็ไม่ควรมาสถานที่แบบนี้!” จางผิงแกล้งส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกผิดหวัง
จากนั้นจึงพูดต่ออย่างไร้ยางอายสิ้นดี “แล้วนี่คุณจะทำยังไง?”
หลินหนานยกมือขึ้นทาบอก พร้อมกับส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..”
“เฮ้อ.. ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ควรทำหน้าใหญ่นี่นา” จางผิงถอนหายใจพร้อมกับตำหนิหลินหนานเสียงดัง
“จางผิง นายมันไร้ยางอายสิ้นดี นายเป็นคนชวนหลินหนานมาที่นี่แท้ๆ แต่กลับให้หลินหนานเป็นคนจ่ายค่าอาหารคนเดียวทั้งหมด นายทำอย่างนี้ได้ยังไง?” ฉินเสี่ยวยู่ตวาดใส่หน้าจางผิงด้วยความโมโห
“อย่ามากล่าวหากันแบบนี้สิ! เธอมีหลักฐานเหรอว่าฉันเป็นคนชวน?” จางผิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ฉันนี่ไงล่ะหลักฐาน! ฉันเป็นพยานได้ ฉันได้ยินเต็มสองหู! นายเป็นคนร้องตะโกนเรียกหลินหนาน มิหนำซ้ำยังคะยั้นคะยอให้เขามาที่คลับแห่งนี้กับนายด้วย!” ฉินเสี่ยวยู่ตอบโต้กลับทันที
“นี่.. น้อยๆหน่อย! ใครๆก็รู้ว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน เธอก็ต้องพูดเข้าข้างเขาอยู่แล้ว!” จางผิงเองก็ย้อนกลับคืนเช่นกัน
“นี่นาย..” ฉินเสี่ยวยู่ไม่สามารถโต้เถียงได้อีก
เธอไม่สามารถบอกทุกคนได้ว่า เธอกับหลินหนานเพียงแค่เล่นบทเป็นแฟนกันเท่านั้น!
“จะจ่ายหรือไม่จ่ายก็พูดออกมาตรงๆ อย่ามาโยกโย้เล่นลิ้นอยู่แบบนี้ คนอื่นเขาจะดูถูกพวกเธอเอา!” จางผิงพูดเย้ยหยันฉินเสี่ยวยู่พร้อมกับยิ้มหยันให้
ฉินเสี่ยวยู่ถึงกับหายใจถี่แรงด้วยความโมโหอย่างที่สุด หน้าอกของเธอจึงกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง และได้แต่คิดว่าที่ผ่านมาเธอตาบอดคบผู้ชายห่วยแตกชาติชั่วแบบนี้เข้าไปได้ยังไง!
บรรยากาศภายในห้องเริ่มบีบคั้น และตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ!
“แต่.. ผมไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น!” หลินหนานพึมพำเสียงเบา
บริกรที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ครู่ใหญ่ เริ่มหมดความอดทนจึงได้พูดขึ้นว่า “คุณลูกค้าครับ จะจ่ายหรือไม่จ่าย? ถ้าไม่จ่าย ผมจะวิทยุเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาแล้วนะครับ!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ ทำงานดียิ่งกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียอีก!
เจ้าของคลับแห่งนี้ได้จ้างชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ และมีความสามารถในเรื่องการต่อสู้ ให้มาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลับ จึงแทบไม่ต้องพูดถึงความโหดเหี้ยมดุดัน เพราะแม้แต่ลูกพี่หมาป่ายังไม่ต้องการที่จะมีเรื่องด้วย
“เดี๋ยวก่อน ขอเวลาให้พวกเราปรึกษาหารือกันสักห้านาที เธอออกไปก่อน อีกหน้านาทีค่อยเข้ามา..” จางผิงหันไปบอกบริกรด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ครับ อีกห้านาทีผมจะเข้ามาใหม่!” บริกรตอบกลับไปพร้อมกับก้าวเดินออกจากห้องไปทันที
หลังจากบริกรออกไปแล้ว จางผิงก็เดินไปปิดประตู แล้วจึงหันไปบอกกับหลินหนานว่า “หลินหนาน นายเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้านายไม่จ่ายเงิน ก็อย่าหวังว่าจะออกไปจากที่นี่ได้!”
หลินหนานเงยหน้าขึ้นมองจางผิง พร้อมตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “แต่นายเองก็ออกไปไม่ได้เหมือนกัน!”
จางผิงและคนอื่นๆต่างก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที ทุกคนหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง บางคนก็น้ำหูน้ำตาไหล
“ฮ่าๆๆๆๆ นี่นายแกล้งโง่ หรือว่าโง่จริงๆกันแน่! อย่าลืมว่าญาติของฉันทำงานอยู่ที่นี่!”
จางผิงเช็ดน้ำตาที่หางตาออกพร้อมกับพูดต่อว่า “ถ้านายไม่เชื่อ ฉันจะแสดงให้ดู..”
พูดจบ.. จางผิงก็หันไปส่งสัญญาณให้กับหมาป่าและพวก จากนั้นทั้งหมดก็เตรียมตัวที่จะก้าวเดินออกจากห้องทันที
“เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งไป!”
หลินหนานร้องตะโกนเรียกทุกคนไว้ด้วยสีหน้าที่ดูหวาดกลัว..
จางผิงหันมาทางหลินหนานพร้อมกับแกล้งถามออกไปว่า “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณหลินยังมีอะไรจะคุยกับผมอีกเหรอครับ?”
“พี่จาง.. ได้โปรดช่วยผมสักครั้งเถิดนะครับ! แค่ครั้งเดียว..”
หลินหนานตีหน้าเศร้าพร้อมกับเอ่ยปากอ้อนวอนจางผิง เขาปล่อยให้จางผิงและพวกออกไปจากห้องนี้ไม่ได้แน่ ไม่อย่างนั้นการแสดงของเขาก็คงไม่สมบูรณ์
“ความจริงก็พอมีทางอยู่บ้าง แต่มีเพียงพี่หมาป่าเท่านั้นที่จะช่วยนายได้” จางผิงตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“พี่หมาป่า! ได้โปรดช่วยผมสักครั้ง!” หลินหนานหันไปพูดกับหมาป่าอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว
หมาป่าเดินกลับไปนั่งบนโซฟา พร้อมกับยกเท้าทั้งสองข้าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะหินอ่อน เขาหรี่ตาลงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมอง ในขณะที่หมาใหญ่ก็ได้แต่ยืนพิงกำแพงจ้องมองด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ส่วนเสือดาวก็เอาแต่มองหลินหนานด้วยรอยยิ้มหยัน
“ความจริง ฉันก็พอมีทางที่จะช่วยนาย!” หมาป่าพูดยิ้มๆ
“นี่พี่หมาป่ามีทางช่วยผมจริงๆเหรอครับ?”
หลินหนานทำหน้าราวกับคนที่ได้เห็นรุ่งอรุณอันสดใส เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขในขณะที่ถามออกไปว่า
“ทำยังไงเหรอครับ?”
“ฉันเองก็ไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาอะไรนัก! ช่วยใครก็ย่อมต้องการสิ่งตอบแทน การช่วยเหลือของฉันย่อมมีราคาที่นายต้องจ่าย นายฟังให้ดีล่ะ!” หมาป่ายิ้มกว้างจนเห็นฟันทองซี่หน้า
“เชิญพี่หมาป่าบอกมาได้เลย..” หลินหนานพยักหน้าพร้อมกับร้องบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
“เงินแค่แสนกว่าหยวน ฉันให้นายยืมได้ทันที แต่ฉันต้องคิดดอกเบี้ยร้อยละสิบต่อเดือน..” หมาป่าบอกกับหลินหนาน
“ร้อยละสิบต่อเดือน? นี่มันไม่ขูดรีดขูดเนื้อกันไปหน่อยเหรอ?” หลินหนานดวงตาเบิกโพลง พร้อมกับร้องตะโกนออกมา
“นายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนัก! นี่ฉันช่วยนายมากแล้วนะ..” หมาป่าเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
หลินหนานได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ คนพวกนี้ช่างชั่วช้าจริงๆ ถึงกับตั้งตัวเป็นแก๊งขูดรีด และหากินกับการเก็บดอกเบี้ย!
พวกเดนสังคมที่คอยเอารัดเอาเปรียบรีดไถคนที่ด้อยกว่า!
สีหน้าของหลินหนานยังคงนิ่งเรียบ คล้ายกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่หมาป่าเองก็ไม่ได้รีบร้อนนัก เขาเชื่อว่าหลินหนานไม่มีทางเลือกอื่นแน่ และบทละครนี้ก็ได้เขียนขึ้นมาเพื่อให้เขาเล่นอยู่แล้ว..
“หลินหนาน ไม่จำเป็นต้องไปเอาเงินของเขา!”
ฉินเสี่ยวยู่ร้องห้ามหลินหนานทันที นั่นเพราะเธอเองก็รู้ดีว่า หากหลินหนานไม่มีเงินมาชดใช้คืน เขาจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง หากหลินหนานตกหลุมพรางในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจากนี้จะต้องทุกข์ระทม และน่าเศร้ามากเพียงใด
“แล้วจะให้ผมทำยังไง?” หลินหนานหันไปถามฉินเสี่ยวยู่ด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“อย่างมาก.. ฉันก็ขายรถทิ้งไป!” ฉินเสี่ยวยู่กัดฟันตอบกลับไป
หลินหนานรู้สึกประทับใจและอบอุ่นใจยิ่งนัก..
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่รักความถูกต้องได้มากขนาดนี้!
“ไม่ได้! คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้ ผมจะปล่อยให้ผู้หญิงมาชดใช้หนี้แทนตัวเองได้ยังไงกัน? ผมทำไม่ได้!” หลินหนานกัดฟันกรอดพร้อมกับปฏิเสธทันที
ดวงตาของหมาป่าเป็นประกายขึ้นมาทันที..
ในที่สุดปลาก็กินเหยื่อแล้วสินะ!
“นายพูดแบบนี้ แสดงว่านายตกลงจะกู้เงินฉันใช่มั๊ย?” หมาป่าเอ่ยถามขึ้นทันที
“ผมคงไม่มีทางเลือกอื่น..” หลินหนานตอบกลับเสียงเศร้า
“แต่.. ฉันยังมีข้อเสนออื่นอีก” หมาป่าหัวเราะออกมาเสียงดังในขณะที่บอกกับหลินหนาน
“ข้อเสนออะไร? พี่หมาป่าพูดมาได้เลย!”
หมาป่ายกมือขึ้นชี้ไปทางฉินเสี่ยวยู่พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ก็แค่ให้เธอมาอยู่กับฉันหนึ่งคืนเท่านั้น..”