“ยังไม่ได้ระบุอาการป่วย ท่านไม่ควรเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

ผู้ช่วยแพทย์หนุ่มรู้สึกหวาดกลัวซูมู่เกอ และเขาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

“บอกที่ปรึกษาหลี่ทำความสะอาดห้องหลายๆห้องและจัดแยกผู้ป่วยตามอายุและเพศของพวกเขา”

“ขอรับ”

ตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่ายาทั่วไปจะกลายเป็นสารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับหนอนเหล่านั้น ดังนั้น ซูมู่เกอจึงไม่ได้เขียนใบสั่งยาให้กับคนเหล่านี้

เมื่อนางออกมา เซี่ยโฮวโม่ก็จากไปแล้ว

“ที่ปรึกษาหลี่ ไปและค้นหาให้เจอว่ามีคนที่มีอาการป่วยเหมือนกันของโรคนี้มาจากที่เดียวกันไหม”

ที่ปรึกษาหลี่ยังคงพูดไม่ออกสักพักและเกาหัวด้วยความสับสน ขณะเฝ้าดูร่างของซูมู่เกอจากไป “ทำไมใต้เท้าเซี่ยและใต้เท้าซูถึงพูดเหมือนกัน? มีความเกี่ยวพันระหว่างคนที่ป่วยหรือ?”

หลังจากขบคิด ที่ปรึกษาหลี่ก็ส่งคนไปตรวจสอบทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

การสอบสวนมีความคืบหน้าและที่ปรึกษาหลี่รู้สึกประหลาดใจ

ผู้ลี้ภัยทั้งหมดที่เป็นโรคเดียวกันมาจากหมู่บ้านต้าหวัง!

ที่ปรึกษาหลี่รับฟังรายงานจากคนของเขาด้วยใบหน้าที่มืดมนและเศร้าหมอง หมู่บ้านต้าหวังแห่งนี้ทำให้เขาประทับใจอย่างมาก!

ผู้พิพากษาประจำเขตถูกน้ำท่วมพัดหายไปเมื่อเขาไปเยี่ยมหมู่บ้านต้าหวัง!

มันบังเอิญหรือมีอย่างอื่น? ที่ปรึกษาหลี่ไม่กล้ารออีกต่อไป และกลับไปหาซูมู่เกอและเซี่ยโฮวโม่เพื่อเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง

เมื่อเทียบกับความสงสัยของที่ปรึกษาหลี่แล้วอารมณ์ของซูมู่เกอนั้นซับซ้อนกว่ามาก นางไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาได้

นางมองดูหนอนในจานกระเบื้อง ซึ่งไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไปและไร้คำพูด

เมื่อคืนที่ผ่านมาหนอนเหล่านี้ถูกนางแช่ในยาเพื่อเป็นการทดลอง นางแค่อยากจะดูว่ายาสามารถฆ่าพวกมันได้หรือไม่

นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าหนอนจะฆ่าตายได้!

ซูมู่เกอมองไปที่หนอนที่ตายแล้วลอยอยู่ในยาด้วยคีมของนางและหนอนสีขาวก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดงของเลือด

“มันจำเป็นจริงๆหรือที่จะต้องใช้ยาพิษเพื่อให้หนอนตาย?”

เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของการทดลอง ซูมู่เกอวางแผนที่จะใส่ส่วนอื่นๆของหนอนลงในยาเดียวกันกับเมื่อวาน แต่ยานั้นเก็บไว้ที่ที่พักในหย่าเหมิน และนางต้องกลับไปเอามัน

……………

ชายและม้ากลุ่มหนึ่งหยุดที่ประตูเมืองโจว

ชายในเครื่องแบบเรียบร้อยขี่ม้าอยู่ด้านหน้ากลุ่มหยุดม้าลง และวิ่งไปที่รถม้าตรงกลางขบวน

“องค์ชายสอง เรามาถึงประตูเมืองแล้วพะย่ะค่ะ”

“เข้าไปกันเถอะ” เสียงผู้ชายที่ดูสุขใจดังออกมาจากรถม้า

“พะย่ะค่ะ” ผู้คุ้มกันของจักรพรรดิกลับขึ้นม้าของเขาอีกครั้งและออกเดินหน้าต่อ “ออกเดินทาง”

ทันทีที่เซี่ยโฮวโม่กลับไปที่ที่พักหย่าเหมิน มีข้อมูลใหม่จากค่ายหยานเซี่ย

“ใต้เท้า มีการกระทำที่ผิดปกติอีกอย่างหนึ่งในดินแดนของพวกตะวันตกขอรับ เมื่อคืนจู่ๆ พวกเขาก็ส่งกองกำลังออกมาโจมตีค่ายหยานเซี่ย” ตงหลินพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

โจวฉิ่วตะคอกอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกตะวันตกที่บ้าบิ่นและตาบอด! พวกมันคิดว่าพวกมันกำลังเล่นกับแมวรึ?!”

………………….

เมื่อซูมู่เกอมองไปที่รถม้านอกเขตหย่าเหมิน มีแววสับสนในดวงตาของนาง ไม่ใช่รถม้าของเซี่ยโฮวโม่

นางกระโดดลงจากรถม้าและเดินไปข้างหน้า ที่ปรึกษาหลี่กำลังพูดบางอย่างกับคนบนรถม้า และเขาทำตัวพินอบพิเทาและอย่างเคารพยิ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน ม่านบนรถม้าก็เปิดออก และมีร่างสีขาวปรากฏอยู่ตรงหน้านาง

ชายผู้นั้นเจิดจรัสและหล่อเหลา ผมสีดำมัดเป็นมวยสูงพร้อมมงกุฎหยกบนศีรษะ เสื้อคลุมสีขาวของเขาสะท้อนแสงสีทองของดวงอาทิตย์ และเขาเต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับการชื่นชมและเป็นที่ยอมรับในทุกการเคลื่อนไหวของเขา

ที่ปรึกษาหลี่อยู่ด้านข้างเขา โดยที่เอวของเขาแทบจะโค้งจรดพื้น

ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี!

ไม่นานชายคนนั้นก็สังเกตเห็นซูมู่เกอ เมื่อนางใกล้เขาเข้ามา

ชายคนนั้นมองนางอย่างพิจารณาด้วยความสงสัย ซึ่งทำให้นางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“องค์ชายสอง หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระองค์จะเสด็จมา หม่อมฉันขออภัยที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับพระองค์ล่วงหน้า….” ที่ปรึกษาหลี่กล่าวด้วยริมฝีปากอันสั่นเทา

“ที่ปรึกษาหลี่”

ที่ปรึกษาหลี่เงยหน้าขึ้นมองซูมู่เกอ “ตะ ใต้เท้าซู ท่าน ท่านกลับมาแล้ว ข้ากำลังจะส่งคนไปหาท่าน”

ซูมู่เกอมองชายในชุดขาว “นี่คือ….”

“เจ้ากล้าดียังไง! เจ้าไม่คุกเข่าที่พื้นเพื่อถวายบังคมองค์ชายสองได้อย่างไร!”

องครักษ์ของจักรพรรดิต่อว่าซูมู่เกอ แต่นางยืนนิ่งด้วยความตกใจ

อะไรนะ?

องค์ชายสอง!

ลูกชายอีกคนขององค์จักรพรรดิ์?!

มีเงินมีทองซ่อนอยู่ในภูเขาเขตเมืองโจวรึไง? ทำไมลูกชายของจักรพรรดิถึงมาที่นี่ทีละคนๆ?!

ซูมู่เกอมองลงไปที่แผ่นหยกลายมังกรที่เอวของชายคนนั้น ในแคว้นฉู่นอกจากองค์จักรพรรดิที่แท้จริงแล้ว มีเพียงลูกหลานของมังกรโดยแท้เท่านั้น จักรพรรดิ มีคุณสมบัติในการใช้รูปมังกรเป็นสัญลักษณ์

เนื่องจากเซี่ยโฮวโม่ผู้ที่มีอำนาจมาก อยู่ในเขตหย่าเหมิน ซูมู่เกอไม่กลัวแม้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้านางจะเป็นคนปลอมตัวมา

“ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบท่านองค์ชายสอง”

มีรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของเซี่ยโฮวคุณซึ่งทำให้ซูมู่เกอรู้สึกขนลุก “นี่คือใต้เท้าซูจากเมืองชุนหยาง?” เขาถาม

ซูมู่เกอเผชิญหน้ากับเขาอย่าสงบเหมือนปกติและตอบว่า “ขอรับ”

“ข้ามาที่นี่เพื่อบรรเทาภัยพิบัติตามรับสั่งขององค์จักรพรรดิ ข้าได้รับแจ้งว่าในเมืองนี้ ใต้เท้าซูได้จัดเตรียมเรื่องต่างๆ หลังเกิดภัยพิบัติได้อย่างเหมาะสม”

“พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในงานของข้า”

หลังจากทักทายแลกเปลี่ยนกันไม่กี่ครั้ง เซี่ยโฮวคุณเข้าไปในหย่าเหมิน

ที่ปรึกษาหลี่ติดตามซูมู่เกอด้วยเหงื่อเย็นเพราะความกลัวและความตึงเครียด

“ใต้เท้าซู มี มีที่นั่นเพียงห้องเดียวที่เหลืออยู่ในเขตหย่าเหมิน…” และห้องนั้นก็คือห้องเอนกประสงค์! ถ้าเซี่ยโฮวคุณจะอยู่ที่หย่าเหมิน

ซูมู่เกอเหลือบมองเขา “แล้วจะไล่ท่านออกไปแล้วให้ท่านกลับบ้านไปอยู่กับภรรยาตอนกลางคืนได้อย่างไร?” ที่ปรึกษาหลี่ยังอาศัยอยู่ในเขตหย่าเหมินในทุกวันนี้เพื่อความสะดวกในการจัดการเรื่องต่างๆ

“ใต้เท้า ได้โปรดอย่าล้อเล่นกับข้าน้อยเลย” ตอนนี้เขามีพลังใจมากกว่าช่วงใดในชีวิตของเขา จักรพรรดิส่งใต้เท้าเซี่ยมาที่นี่ก่อน แล้วก็ยังส่งลูกชายของเขามาอีก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของเมืองโจวในความคิดของจักรพรรดิ คืนนี้เขาคงตื่นเต้นจนแทบจะนอนไม่หลับ!

“เนื่องจากเหลือห้องเดียว ยังต้องทำความสะอาด มันเป็นทางเลือกที่สองขององค์ชายที่จะอยู่ต่อหรือไม่?”

“ได้ ได้สิ”

เซี่ยโฮวคุณไม่ได้ไปที่ห้องหนังสือ เขาตรงไปที่ห้องของเซี่ยโฮวโม่

โจวเหว่ยเข้าไปในห้องและมองไปที่เซี่ยโฮวโม่ด้วยการแสดงออกที่ผิดปกติบนใบหน้าของเขา

เซี่ยโฮวโม่เงยหน้าขึ้นมองเขา ตะลึงเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”

“ใต้เท้า องค์ชายสองเสด็จมาอยู่ที่เขตโจวแล้วขอรับ”

ตงหลินและโจวฉิ่วมองหน้ากันเงียบๆ

“เหตุใดองค์ชายสองจึงมาที่เขตโจวในเวลาเยี่ยงนี้?”

เซี่ยโฮวโม่หมุนแหวนหยกที่นิ้วหัวแม่มือของเขาอย่างช้าๆ “สิ่งต่างๆกำลังน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในเขตโจวแห่งนี้……….”

“ถ้าไม่ได้ยินจากคนอื่นๆ ข้าไม่รู้เลยว่าราชาแห่งจินก็อยู่ในเขตโจวเช่นกัน” เสียงของเซี่ยโฮวคุณดังมาจากด้านนอก

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่ตงหลินและส่งสัญญาณให้พวกเขาออกไป

องค์รักษ์ที่ด้านนอกปล่อยให้เซี่ยโฮวคุณเข้ามา

เซี่ยโฮวคุณมองไปที่เซี่ยโฮวโม่ด้วยรอยยิ้มและมองเห็นเก้าอี้ให้ตัวเองนั่ง จากนั้นเขาก็รินชาให้ตัวเองจิบ และวางมันลงพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ข้าเกือบเข้าใจผิดว่าเจ้าเป็นคนอื่นก่อนที่ข้าจะพบตงหลิน มันเหมือนว่าใบหน้าของราชาแห่งจินคนนี้จะไม่เหมาะกับเจ้า”

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่เขาอย่างรวดเร็วโดยไร้อารมณ์

“แล้ว ราชาแห่งจิน เจ้าละทิ้งหน้าที่ประจำโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่? ข้าได้ยินมาว่าค่ายหยานเซี่ยไม่ได้สงบสุขเมื่อเร็วๆนี้ เจ้าเกียจคร้านถึงกับหลบมาซ่อนตัวที่นี่หรือ?”

เซี่ยโฮวคุณมาพร้อมกับข้อกล่าวหานี้ต่อเซี่ยโฮวโม่ หากแม่ทัพใหญ่ไม่อยู่ในระหว่างสงคราม ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่พลเรือนในราชสำนักของจักรวรรดิ เนื่องจากนี่เป็นความผิดทางอาญาที่ยิ่งใหญ่

เซี่ยโฮวโม่ไม่ได้กลัวมันเลย เขาไม่ต้องกังวลที่จะจัดการกับปัญหาที่ไม่จำเป็น

“องค์ชายสอง พี่ชายของข้า งั้นที่ท่านอยู่ที่นี่ในเขตโจวเพื่อมาบรรเทาภัยพิบัติตามคำสั่งของจักรพรรดิ์?”

“แน่นอน เจ้าคงไม่บอกข้าหรอกนะว่าเจ้าก็อยู่ในรับสั่งของจักรพรรดิด้วย ใช่ไหม?”

เซี่ยโฮวโม่โยนจดหมายลงบนโต๊ะ เซี่ยโฮวคุณหรี่ตามองเขาดวงตาของเขาราวนกฟีนิกซ์ ซึ่งเชิดขึ้นเล็กน้อยที่หางตาทั้งคู่ และหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็วางจดหมายกลับลงบนโต๊ะ

“มันดูเหมือนว่าท่านพ่อของเราทรงให้ความสำคัญกับน้ำท่วมมาก มิฉะนั้นเขาจะไม่ส่งเราท้งสองคนมาทีละคนเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากท่านพ่อของเราส่งข้ามาที่นี่ เจ้าสามารถปล่อยให้ข้าจัดการทุกอย่างได้และจัดการกับความวุ่นวายในค่ายหยานเซี่ย”

เซี่ยโฮวโม่ลดสายตาลงและมองไปที่เซี่ยโฮวคุณด้วยความเย็นชา

เมื่อเห็นเซี่ยโฮวโม่นิ่งอยู่ในความเงียบของเขา เซี่ยโฮวคุณกล่าวต่อว่า “เจ้าปกป้องค่าย หยานเซี่ยมาหลายปีและท่านพ่อของเราเชื่อมั่นในตัวเจ้าเสมอ ไม่สามารถถไลได้ในตอนนี้”

เซี่ยโฮวโม่ขดมุมปากของเขา “องค์ชายสอง ขอบคุณในความห่วงใย”

“เราเป็นพี่น้องกันและเจ้าสุภาพกับข้ามากเกินไป มันเป็นเรื่องฉุกเฉินที่มีในค่ายหยานเซี่ย และเจ้าควรกลับไปโดยเร็วที่สุด”

เซี่ยโฮวโม่ยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู

เมื่อเห็นสิ่งนี้มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยโฮวคุณเนื่องจากเขาคิดว่าเซี่ยโฮวโม่กำลังจะจากไป

อย่างไรก็ตาม เซี่ยโฮวโม่ก็หยุดอยู่ที่ประตู “ข้าจะไม่ยอมแพ้กลางคัน”

หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็หันไปมองเซี่ยโฮวคุณ “ข้ากำลังจะพักผ่อน พี่ชาย โปรดอภัยที่ไม่อาจพบปะกับท่านต่อได้”

รอยยิ้มตรึงบนใบหน้าของเซี่ยโฮวคุณทันที มีอาการกระตุกที่มุมปากของเขา เขาพยายามสงบสติอารมณ์แล้วเดินไปที่เซี่ยโฮวโม่ “น้องเก้า เจ้าไม่เชื่อฟังข้า เจ้ากลัวว่าข้าจะเอาความดีความชอบของเจ้าไปหมดหรือ?”

เซี่ยโฮวโม่มองเห็นซูมู่เกอมาที่สนามอย่างไม่แยเส “พี่ชาย จริงๆแล้ว มันไม่ไม่จำเป็นสำหรับท่านที่ต้องมาที่นี่ในตอนนี้เลย”

“เจ้า!” เซี่ยโฮวคุณตระหนักดีว่าน้องชายคนนี้ไม่เคยง่ายที่จะเข้ากับเขา อย่างไรก็ตาม น้องชายของเขาซึ่งเป็นที่โปรดปรานของพ่อของพวกเขาถืออำนาจทางทหาร จึงไม่สามารถทำให้โกรธเคืองได้ง่าย

“ดี เนื่องน้องเก้าคิดว่าสงครามที่ค่ายหยานเซี่ยไม่สำคัญนัก ข้าสมควรเงียบดีกว่า เจ้าน่าจะทำด้วยความเหมาะสมแล้ว” เซี่ยโฮวคุณสะบัดแขนเสื้อและจากไป

ซูมู่เกอพบเซี่ยโฮวคุณรีบออกไปขณะที่นางกำลังจะกลับไปที่ห้องของนางเพื่อเอายา นางลดสายตา ก้มหน้าเล็กน้อยและถอยห่างเพื่อหลีกทางให้เขา อย่างไรก็ตามเซี่ยโฮวคุณก็หยุดอยู่ตรงหน้านางและมองไปที่นางด้วยรูปลักษณ์ที่คาดเดาไม่ได้

“ใต้เท้าซู มากับข้า” เขาจากไปทันทีโดยไม่มีเวลาให้ซูมู่เกอได้ปฏิเสธ

ซูมู่เกอมองเขาอย่างดูถูกในใจ องค์ชายเหล่านี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง!

ขณะที่นางกำลังจะตามไปเสียงของเซี่ยโฮวโม่ก็ดังขึ้นจากข้างหลังนาง

“ใต้เท้าซู มานี่”

ซูมู่เกอหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองชายที่ยืนพิงประตูด้วยความสับสนบนใบหน้าของนาง

“ใต้เท้าเซี่ย องค์ชายสองให้ข้าไปกับเขา ข้ากลัวว่าเขามีอะไรจะบอกกับข้า…..”

เซี่ยโฮวโม่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยและจับจ้องนิ่งที่เธออย่างเฉื่อยชา

มีความรู้สึก ซูมู่เกอรู้สึกว่านางเป็นเหมือนเหยื่อ เป็นเหยื่อที่ถูกเล็งเอาไว้!

“เจ้ารู้ไม่มากเท่าที่ปรึกษาหลี่ เจ้าไม่สงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ป่วยเหล่านั้นมีอาการเหมือนกันหรือ?” เสียงของชายคนนั้นต่ำและแหบพร่า เต็มไปด้วยการล่อหลอก

“ในการร่วมกัน?” เขาค้นพบอะไร?

ครั้งนี้อย่างไม่ลังเล ซูมู่เกอเกินไปหาเซี่ยโฮวโม่

ตามคำสั่งของซูมู่เกอ ที่ปรึกษาหลี่ทำความสะอาดห้องที่เขาอยู่ก่อนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับห้องนั้นสำหรับเซี่ยโฮวคุณ มันดูไม่โกโรโกโสมากแล้ว

ใบหน้าของเซี่ยโฮวคุณไม่มีอะไรไม่พึงประสงค์เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง เขาเพียงขอให้ที่ปรึกษาหลี่บอกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญของเขตโจว

“เจ้าหมายถึง ขุนนางซูมีทักษะทางการแพทย์ที่ไม่ธรรมดาหรือ?” เซี่ยโฮวคุณขัดคำพูดของที่ปรึกษาหลี่และขมวดคิ้ว

ที่ปรึกษาหลี่พยักหน้าอย่างแรงและตอบว่า “พะย่ะค่ะ ทักษะทางการแพทย์ของใต้เท้าซูนั้นยอดเยี่ยมมาก!”