ตอนที่ 33 กองทัพศูนย์กลางที่ถูกจัดตั้งขึ้น

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

33 กองทัพศูนย์กลางที่ถูกจัดตั้งขึ้น

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

พลาซ่าตรงหน้าวัง เวทีที่การต่อสู้ที่ดุเดือดในการระงับการกบฏเกิดขึ้น ทหาร 3000 คนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ วันนี้คือวันก่อตั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากราชาคนใหม่ การก่อตั้งกองทัพศูนย์กลางจะถูกจัด

「สุภาพบุรุษ กับคนที่กล้าหาญคนนี้ ฉัน…」

การพูดของราชาอเล็กซานโดรที่ 1 ได้ดำเนินต่อไป กองทัพศูนย์กลาง ตอนนี้ ในที่สุดก็ใหญ่ขึ้นสามเท่า เพื่อที่จะให้มันปฏิบัติการได้อย่างเร็วที่สุดในปัจจุบัน มันได้ถูกจัดตั้งด้วยศักยภาพการรบปัจจุบัน

「กองร้อยทหารม้าที่ 1 นั้นค่อนข้างจะถูกตัดสินแล้ว」

ข้างผมคือซีเลย อีกฝั่งคืออากอร์ตั้งแถวอยู่บนหลังม้า เขาตอนนี้ได้เข้ามาอย่างเป็นทางการและเข้าทีมของผมในฐานะผู้ช่วย ซีเลียดูไม่พอใจแต่คนนึงจะคาดได้ว่าผมมอบตำแหน่งนี้ให้เธอไม่ได้

「เพราะทั้งหมดฉันได้วางผู้บัญชาการในกองทัพเป็นพิเศษในกองทหารม้า」

กองร้อยของผมด้วยทหารม้า 200 คน แน่นอนว่าจะถูกใช้เป็นกำลังหลักในกองทัพนี้ ซึ่งยังไม่ได้รวบรวมจำนวนทั้งหมดที่มันต้องการ มากกว่านั้น ด้วยทหารม้าหนัก 180 ที่ใส่อุปกรณ์เหมือนอัศวิน และ ทหารม้าเบา 20 คนสำหรับการสอดแนม ใช้รูปแบบด้วยทหารม้ามันสันนิษฐานได้อย่างชัดเจนว่าการต่อสู้จะไม่ใช่กับมอนสเตอร์หรือโจร

「จำนวนได้รวมอยู่ แต่ในแง่ของทักษะมันยังไม่แน่นอน สำหรับตอนนี้ ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากฝึก」

สำหรับอากอร์ที่ได้เห็นกองทัพที่สมบูรณ์ของสหพันธรัฐ ทีมนี้ยังไกลจากคำว่าสมบูรณ์ ทหารราบและทหารม้าค่อนข้างเห็นแก่ตัว และคิดว่าพวกเขาต่างออกไป แต่แม้ในกลุ่มมือสมัครเล่นของมือสมัครเล่นนั้นดีกว่ามาก ตัวเขาเองมีธรรมชาติที่จริงจังและเพื่อทีมเขาทำเต็มที่ของเขา ผมทำได้ดีในการเก็บเขามา

「ภารกิจแรกคือทำลายฝ่าการตั้งแคมป์ของศัตรู ก่อนอื่นนายควรจะให้ความสำคัญในการฝึกต่อการทำลายฝ่า」

「ครับท่าน!」

การพูดของราชาได้จบ กองทัพได้ออกจากพลาซ่าและเดินไปที่เมืองหลวง การเดินทัพได้เกิดขึ้นในบริเวณที่คฤหาสน์ของขุนนางเรียงรายกันอยู่ตรงกลาง วัตถุประสงค์นั้นเห็นได้ชัดว่าเป้าหมายคือแสดงความโอ่อ่าของกองทัพศูนย์กลาง ให้พวกนั้นที่เพิ่มเติมมาจากศัตรูต่างชาติ ภายในพวกเขา เสียงของเกือกม้าของทหารม้า 200 คนได้ดังก้องอย่างมหาศาล เด็กไร้เดียงสาโบกมือของเขาและ ตรงกันข้ามกับขุนนางที่ทำสีหน้าแย่เหมือนกับได้กัดลิ้นตัวเอง นี่คือคนที่ยืนอยู่รอบๆ

การจัดตั้งกองทัพศูนย์กลางได้ถูกประกาศไปทั้งชาติภายใต้ผู้บัญชาการกองทัพ บารอเนต อีริช เรดาห์ล* ทหารได้ถูกมอบตำแหน่งโดยตรงภายใต้ราชา และประกอบไปด้วยกองกำลังหลักของโกลโดเนีย*

«TLN: จากอีไล/เอลีไฮ แรดโฮลด์ และ จาก โกลเดนเนีย»

「ยังไงซะ นี่มันเหนื่อย! แต่นี้มันเป็นทีมติดอาวุธที่ไม่น่าเชื่อไม่ใช่เหรอ~」

「ระวังปากของนายด้วย! นายเป็นแค่พลทหาร!」

พิธีได้จบ คริสตอฟได้ใช้เสียงที่เบาๆเพื่อคุย ระหว่างที่อากอร์ควบคุมเขา ซีเลียก็จ้องเขาด้วยตาที่หรี่ด้วย

「ยัง-ยังไงซะ ชั้นขอโทษ…จะบ้า…」

เขาเป็นชายที่มีนิสัยพลทหารจริงๆ อย่างไรก็ตาม มันดูไม่เหมือนว่าเขามีทักษะที่จะเป็นผู้บัญชาการ แม้ว่าเขาเป็นพลหทาร จากใจแล้วเขาได้ต่ำกว่าทหารทั่วไป มันเป็นบางอย่างเหมือนกับการทำให้เลขสมดุลย์

「นายเป็นไองี่เง่าจริงๆใช่มั้ยเนี่ย?」

อดีตสมาชิกปีกแห่งรุ่งอรุณคาร์ลเติมเข้ามา เขาเป็นบางคนที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากอาชีพทางทหาร ดังนั้นเขาได้ถูกทิ้งไว้ในทีม พวกเขาสองคนลืมตัวกันง่าย และมีธรรมชาติที่เหลาะแหละที่เข้ากันดี ที่ต่างกันระหว่างพวกเขาคือพวกเขามีทักษะหรือไม่

「ยังไงซะ คาร์ล นั่นเพราะจนถึงตอนนี้ ชั้นได้พูดปรกติ ชั้นยังไม่ชินกับการทำความเคารพเลย」

「ทหารรับจ้างจะทำความเคารพถ้านายมอบเงินให้พวกเขา…นายเป็นมือใหม่จริงๆ หึ้?」

「แต่กัปตันก็ยังเป็นคนไม่ดีด้วย มันจะโอเคถ้าเค้าให้ชั้นเป็นกัปตันหมวด」

ผมทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นกับทหารไม่ได้ สิ่งที่คริสตอฟทำได้คือเป็นกัปตันสำหรับงานฉลอง

「ถ้านายจะพูดบางอย่างแบบนั้นทำไมนายไม่เป็นหมวดของตัวเองล่ะ ถ้างั้นนายจะได้เป็นหมายเลขหนึ่ง」

เพื่อที่จะเป็นผู้บัญชาการกองทหารและขึ้นไปจากนั้น มันปรกติในหลายสถานการณ์ที่ความสามารถในการออกคำสั่ง มันสำคัญมากกว่าพลังการต่อสู้ทางทหาร ในทางตรงกันข้ามมันปรกติ ที่คนแข็งแกร่งที่สุดจะเป็นกัปตันหมวด คนที่แค่มีไว้แสดงและลืมตัวไม่มีโอกาสจะได้ลูกน้องตามเขา

มันดูเหมือนอากอร์จะเริ่มเพิ่มทักษะของทีมเขาโดยการฝึกหนักทันที กัปตันขุนนางจะมาดูเป็นครั้งคราว ดังนั้นมันจะเป็นเวลาที่พอดี เขาเป็นกัปตันแน่นอน แต่การแสดงหน้าที่บอกหลายอย่างและพุ่งไปที่นี่ที่นั่น มันจะเป็นการยากที่จะฝึก

「งั้น ชั้นจะปล่อยการฝึกให้อากอร์ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ให้ชั้นรู้」

ภายในเสียงของม้าวิ่ง ผมส่งพวกเขาด้วยการแสดงความเคารพ และออกจากลานฝึก

「เฮ้…นั่นกัปตันขุนนาง? มันจะขยายไปเป็นซ่องโสเภณีในตอนกลางวันมั้ย?」

「ไอ้งี่เง่า! เค้าจะได้ยินนาย」

「แม้ว่าเค้าได้ยินชั้นเค้าจะไม่มีความกล้ามาหาชั้นหรอก」

「นายไม่ได้ยินเหรอ? กัปตันอันตรายนะ! ในการกบฏสุดท้าย เค้าเป็นนักรบผู้กล้าหาญที่ฟันองครักษ์อาณาจักร 20 คนแล้วเป็นขุนนางใหม่」

「บนนั้น ชั้นได้ยินมาว่าเขาฟันกัปตันขององครักษ์อาณาจักรขาดครึ่ง」

「ข่าวลือคือเค้ามีงานอดิเรกที่จะเอาผู้ชายมา และแทงเขาระหว่างอาบน้ำในเลือดสดๆของเหยื่อของเขา」

「ยังมีเรื่องที่บอกว่าเค้าล้อมตัวเองด้วยผู้หญิงจำนวนมากในคฤหาสน์แล้วทำมันทั้งวัน」

「มันดูเหมือนว่าเค้าเอาผู้หญิงส่งเดชและเอ็นเต็มไปด้วยเลือด」

「มันมีเรื่องที่โจรเข้าไปในคฤหาสน์ของเค้าได้ถูกฆ่าและเค้ากินไส้พวกเค้า…」

สัตว์ประหลาดแบบไหนที่ผมเป็นกัน แต่มันดีกว่าถูกดูถูก ดังนั้นผมจะปล่อยมันไว้เฉยๆ ไม่มีทางที่ทหารทั้งหมดจะเชื่อทั้งหมดของมัน และผมไม่อยากจะใช้เวลาเยอะบนสิ่งที่ไร้ความหมาย ผมมีสิ่งที่ผมอยากทำ บนทางกลับบ้าน ผมแวะที่ร้านค้าและหยิบของที่ผมสั่ง

「นี่คือ…มันจะเป็นอะไร?」

ตามผมออกจากลานฝึกโดยไม่น่าตกใจคือซีเลีย ที่โหม่มองไปรอบๆที่นี่ที่นั่น นี่มันเพื่อเธอแต่ผมจะเก็บมันไว้เป็นความลับจนกว่าเราจะไปถึงที่บ้าน

「คาร์ล่า เมลิสซ่า มีเวลามั้ย?」

「อึ๋นน? เราจะทำลูกเหรอ?」

「ค่ะ~ ได้เลย」

แม้อย่างนั้น คฤหารที่ผมซื้อนั้นใหญ่ ผมได้เตรียมห้องส่วนตัวสำหรับสมาชิกตระกูล และห้องสำหรับคนรับใช้ แต่ยังมีห้องว่าง ในห้องนั้นมีโต๊ะเล็กและเก้าอี้ที่ผมนำมาและแบกมาที่นี่… พร้อมหนังสือหลายเล่มที่แผ่ออก

「นี่คือ…มันคืออะไร?」

「ชั้นอ่านไม่ออก อ่านมันให้ชั้นฟัง~」

「นี่คือ… ฝึกตัวอักษร」

มันคือนั่น จากทั้งหมดของเราทุกคน คนที่อ่านไม่ออกมีแค่ซีเลียและคาร์ล่า ซีเลียสงสัยเกียบกับการอ่านหนังสือไม่ออก และยังมีเวลาที่มันจะมีประโยชน์ในอนาคต

คาร์ล่า ไม่ได้ใส่ใจจริงๆและเ้นไปที่การทำลูกเหมือนสัตว์ ผมอยากจะมอบปัญญาให้พวกเธอ

「นั่นใช่แล้ว ซีเลีย คาร์ล่า พวกเธอควรจะอ่านและเขียนได้ ชั้นหวังพึ่งเมลิสซ่าให้เป็นผู้สอน」

เมลิสซ่าไม่ใช่แค่เพียงอ่านและเขียนได้เธอคำนวณได้ด้วย นนน่าก็อ่านและเขียนได้ดีแต่เธอไม่ถูกกับคาร์ล่า และซีเลียก็ไม่ค่อยถูกกับคนแบบเธอด้วย

「ถ้าพี่โอเคกับน้อง น้องจะมีความสุขในการทำมัน มาทำงานหนักกันเถอะเธอสองคน」

「เอเกอร์-ซามะ…ขอบคุณมากๆค่ะ…」

「เออออ๋ น่ารำคาญอ้ะ」

ซีเลยประทับใจมันนำน้ำตาไปที่ตาเธอ ระหว่างที่คาร์ล่า เหมือนที่ผมคิดไม่ได้ใส่ใจจริงๆ

รูปลักษณ์ของซีเลียที่เรียนอย่างตั้งใจเพื่อที่จะซึมซับความรู้ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งได้นำรอยยิ้มมาที่หน้าผม แต่การเห็นรูปลักษณ์คาร์ล่าที่ไม่มีเจตนาจะเรียนและนำขนมมาและขี้เกียจไปรอบๆ ผมรู้สึกถึงความผูกพัน

—————————————————————

อดีต: ในป่า

「ดู นายทำมันผิดอีกแล้ว」

「เรื่องพวกนี้มันเล็กและยุ่งยิ่งมันยากที่จะจำมัน」

「ให้ตายสิ…ชั้นเข้าใจแล้ว ถ้านายลอกมันโดยไม่ทำพลาดครั้งหน้า ชั้นจะทำบางอย่างที่น่าทึ่งกับเอ็นของนาย」

「บางอย่างที่น่าทึ่งเหรอ?」

「ใช่ ดูสิลิ้นชั้นค่อนข้างยาวไม่ใช่เหรอ? นายคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ?」

「………」

「ถ้านายทำมันถูก 3 ครั้งติดกันชั้นจะเป็นทาสนายวันนึง ไม่ว่าอะไรที่นายอยากทำ ไม่ว่าที่ไหนที่นายอยากทำ… แม้แต่เรื่องที่น่าอับอายหรือเจ็บปวด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่นายคิดได้」

「……..」

「เปลือยและเป็นหมาทั้งวันระหว่างที่คลาน? หรือบางทีผูกชั้นกับเตียง? นี่มันแรดิชไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่แค่นั้น แต่มันยังมีดินติดอยู่บนมันอยู่เลย…ถ้านายแทงชั้นระหว่างที่มันเป็นแบบนั้น ไม่ใชมันจะเป็นบางอย่างที่ผิดมนุษย์เหรอ? อุฟุฟุ」

「ชั้นอยากจะมีสมาธิดังนั้นได้โปรดเงียบ」

「อ่ะร้า อ่ะร้า ช่างเป็นเด็กที่น่ารัก~♪」

—————————————————————

「ในเวลานั้นมันได้ถูกฝังเข้ามาในหัวชั้นทีเดียวได้อย่างดี เราแกล้งทำเป็นคนรักหวานซึ้งกันรึเปล่าน้า?」

จากจุดนั้นไปประสิทธิภาพของการเรียนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

「เอเกอร์-ซามะ? หนูไม่เข้าใจส่วนนี้…」

「ซีเลีย เธอเขียนมันแบบนี้」

「ขอ-ขอบคุณมากค่ะ!」

นนน่าสงสัยว่าเราได้เรียนหรือจีบกันและมาตรวจดูเรา ซึ่งได้เริ่มสู้กับคาร์ล่า แต่การเรียนกลับมาดำเนินต่อหลังจากนั้น

「เฮฮฮ้~ เอเกอร์-ซัง ถ้ามีเวลาว่าง」

「น้องอยากจะสอนวิธีเขียนกับเด็กๆ ใช่มั้ย?」

「อ้า…ใช่」

「มันหลังจากงานและอาบน้ำเสร็จ พี่จะบอกมาเรียว่ามันจะไม่ใช่หลังทุกอย่างเสร็จ เพราะทั้งหมดเธอใจดี ดังนั้นเธอน่าจะตั้งใจที่จะประณีประนอมให้เยอะ」

「ใช่!」

ตัวผมเองไม่ได้อ่านมาก แต่ทำไมเราไม่ไปซื้อและทำชั้นวางหนังสือล่ะ ผมไม่สนในการถกเถียงของคาร์ล่าและนนน่า และระหว่างที่มองซีเลียที่ลอกอย่างเงียบๆความคิดแบบนั้นเข้ามาที่ใจผม

—————————————————————

1 เดือนผ่านมา

「ทีมกองร้อย–เรียงแถว!!」

เสียงเหล็กกระทบดังออกมาขณะที่ ทหารม้าหนัก 180 คนเรียงแถวเป็นรูปแบบกล่อง ระดับของความยากในการให้ทหารม้าเรียงแถวมันมากกว่าให้ทหารราบเรียงแถว ดังนั้นเป้าหมายคือการดูความเร็วที่คุณสามารถทำได้ ซึ่งจะกำหนดว่าคุณจะเปลี่ยนรูปแบบได้เร็วขนาดไหนในสนามรบ และเร็วแค่ไหนที่พวกคุณเดินไปทั่วได้

กองร้อยทหารม้าที่หนึ่งของผมสามารถที่จะจัดตั้งรูปแบบได้โดยไม่ใช้เวลาเลยซักนิด ภายในกองทัพศูนย์กลางมันเร็วที่สุดโดยไม่ผิดพลาด

「หลักแหลม ภายในหนึ่งเดือนนายสามารถจะฝึกพวกเขาได้เท่านี้」

「ไม่ เรายังต้องไปอีกไกล ชั้นลดเวลาได้อีกครึ่งนึง」

อากอร์มีเป้าสำหรับมาตรฐานชั้นสูงในกองทัพของสหพันธรัฐ มันเป็นสามัญสำนึกที่จะรู้ว่าทักษะของกองทัพสหพันธรัฐโอลก้า ไม่สามารถเทียบได้กับประเทศพวกนั้นในที่ราบกลางและมันเหนือกว่าแม้แต่อาณาจักร

「การฝึกการตีฝ่าวงล้อมเป็นกลุ่มนั้นลับคมขึ้นอย่างดี ต่อไปมันคงจะดีถ้าเราฝึกสำหรับเหตุการณ์จริงที่เราพุ่งเข้าตีระหว่างที่ป้องกันจากลูกธนู」

ทหารม้าติดอาวุธหนักเป็นภัยที่ใหญ่ที่สุดกับทหารราบ แน่นอนว่ามันจะเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดที่จะมีเป้าไปที่นักธนูและอาวุธระยะไกล การจะจะรู้ว่าเราพุ่งเข้าตีระหว่างที่กันลูกธนูได้หรือไม่ จะเปลียนระดับของกิจกรรมบนสนามรบได้อย่างแน่นอน

「ใช่ เราได้ฝึกพุ่งเข้าตีระหว่างถือโล่แต่…」

「ห่อปลายของธนูด้วยผ้าแล้วยิงพวกเค้าชั้นจะให้พวกนักธนูรู้ ด้วยเกราะขนาดนั้นถ้าโดนยิงที่เกิดขึ้นมันจะไม่แย่มาก」

「งั้นเพิ่มในการฝึกโดยใช้สีตรงนั้นให้พวกนั้นที่โดนยิงที่หัวและหน้าอก」

「นั่นเป็นความคิดที่ดี」

กองทัพศูนย์กลางได้รับงบประมาณค่อนข้างมาก

อุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกสามารถถูกเติมค่อนข้างเพียงพอ

「ชั้นพูดไม่ได้ว่ามันค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ชั้นภูมิใจที่ทีมค่อนข้างเตรียมตัว」

「ชั้นเดาว่า พวกเขาใช้ในการต่อสู้ได้รึยัง?」

「ชั้นไม่รู้」

ผมจ้องอากอร์ที่ให้คำตอบขัดจังหวะตื่นเต้น แต่เขากลับไปพูดต่ออย่างรวดเร็ว

「ภายในกองทัพศูนย์กลางเราอาจจะยอดเยี่ยม และเราจะรู้ได้ว่าพวกเค้าใช้ในการรบได้มั้ยเมื่อเราอยู่บนสนามรบของจริง ไม่ว่าพวกเค้าจะฝึกมากแค่ไหน ทีมที่ไม่มีประสบการณ์จริงจะมีค่าไม่ถึงครึ่งชาย」

ปีกแห่งรุ่งอรุณที่รวมทหารรับจ้างที่มีประสบการณ์ได้ฝ่าทหารอาณาจักรที่ภาคภูมิใจในระดับทักษะสูงสุด ที่อากอร์พูดนั้นมีเหตุผลแต่นี่ไม่ใช่บางอย่างที่อีริชและผมทำอะไรเกี่ยวกับมันได้ ไม่มีทางที่เราจะส่งทีมไปที่สงครามเพราะเราฝึกพวกเขาขึ้นมา

「นั่นมันอยู่นอกระยะของเรา เตรียมพร้อมกับการฝึกฝนธนูที่พูดถึงเมื่อกี้นี้ ชั้นคาดหวังให้นายทำต่อไปซักพัก」

「ครับท่าน!」

สำหรับการฝึกร่วมกันผมต้องบอกมันกบับอีรีช…ลอร์ดเรดาห์ล

「และนั่นเป็นอย่างนั้น นายจะมอบการอนุญาตให้เรามั้ย?」

「ใช้การที่ให้ทหารม้าถูกยิงโดยธนูนายได้คิดเกี่ยวกับมันพอแล้ว มันเป็นการฝึกที่จำเป็น ชั้นจะมอบการอนุญาต」

「ขอบคุณมาก แล้วก็อีกอย่างนึง…」

「ประสบการณ์จริง หือห์…อย่างที่คาดชั้นเริ่มสงครามด้วยดุลยพินิจของชั้นเองไม่ได้… เพราะทั้งหมดมันได้ถูกแพร่ไปว่ากองทัพศูนย์กลางนั้นชั้นสูงในหมู่เมืองหลวง ดังนั้นเราไม่สามารถที่จะเดินทัพยกเว้นว่าเป็นการปราบโจรหรือมอนสเตอร์」

「สำหรับตอนนี้เราไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากฝึกเหรอ?」

「ใช่ จำนวนของทหารเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนถ้าเราดำเนินต่อไปแบบนี้…」

จู่ๆผู้มาเยือนก็ตะโกน

「หืมม ฉันก็ได้คิดบางอย่างเกี่ยวกับนั่นด้วย」

「พระองค์เองหรอกเหรอ」

อีริชได้เป็นคนเริ่มคนแรกระหว่างที่ทุกคนตามเขาในการลดเข่าของพวกเขา

「ยืน ฉันไม่มีเจตนาที่จะไปแทรกแซงการฝึกของพวกเจ้า」

「ทุกคนยืน! ทำต่อ!」

ทหารได้กลับไปฝึกต่อในความเร่าร้อนที่มากกว่าเดิม

「ฉันอยากจะเห็นว่าทหารที่มีประสบการณ์จริงจะเปราะบางขนาดไหน การเคลื่อนไหวได้ถูกเล่นแล้ว」

「มันโอเคที่จะให้พวกเค้าได้ยินสิ่งนี้ในความกลัวเหรอ?」

ราชายืนยันว่าไม่มีใครอยู่รอบๆยกเว้นผมกับอีริชก่อนที่จะเปิดปากของเขา

「อย่างที่ฉันประกาศไปในพิธีแต่งตั้ง เพื่อที่จะเสริมความแข็งแกร่งของทหาร มีราคาที่จำเป็น ที่ฉันให้ขุนนางในแต่ละพื้นที่จ่ายภาษีชั่วคราว แต่มีขุนนางหลายคนที่ลังเล」

ไม่ต้องสงสัย ดังการที่เพิ่มภาษีกระทันหัน ขุนนางจะไม่เห็นด้วยและพูดว่า ‘ได้ อย่างนั้นเหรอ’ และรับมัน

「โดยเฉพาะ มาร์เกรฟ อัลโนดและขุนนางพ่วงเขาทั้งหลายได้เขียนคำประท้วงพร้อมลายเซ็น และส่งมันมาให้ฉัน」

มาร์เกรฟเป็นขุนนางที่ได้ถูกมอบที่ดินจำนวนมากรอบๆชายแดนของชาติ และมีสถานะเดียวกับมาร์เควส เนื่องจากธรรมชาติของตำแหน่ง มีกำลังทหารเยอะโดยเฉพาะ ไปด้วยกันกับสถานะที่สูงและขุนนางรอบข้างได้รวมกันโดยมีเขาเป็นแกนกลาง

「มันคือนั่น ฉันจะตั้งหนึ่งเดือนเป็นเวลาจำกัดและเก็บภาษีชั่วคราวมากกว่าเดิมสามเท่า ถ้ามันไม่ถูกจ่าย ฉันจะแจ้งพวกเขาว่าเหมืองเหล็กที่อยู่ในเขตของเขาจะเป็นสมบัติของรัฐ」

มันไร้เหตุผล ไม่ใช่แค่ภาษีเพิ่มขึ้นสามเท่าแต่เหมืองเหล็กมันนอกจากเหมืองเงินและทอง เป็นจุดสำคัญ ถ้ามันถูกนำออกไปมันเท่ากับยึดที่ดินของเขาเลย

「พระองค์…ถ้างั้น」

การร้องขอที่ไร้เหตุผลของราชาองค์ใหม่ มีขุนนางรอบข้างที่เป็นเพื่อนของเขา และพวกเขามีกองกำลัง ดังนั้นมันจำกัดอะไรที่จะคิดได้

「มันจะโอเคถ้าพวกเขามอบภาษีและเหมือง ถ้าพวกเขามีความคิดที่โง่เขลา เราจะมอบกองทัพศูนย์กลางประสบการณ์การรบจริง ฉันเพิ่งจะให้กำเนิดแผ่นดินจำนวนมาก」

ราชาได้อยากจะลดพลังของขุนนางรุ่นพี่มาตลอด เขาน่าจะคิดว่าเวลานี้มันเป็นโอกาสดี

「ฉันน่าจะให้พวกเจ้า สุภาพบุรษ เวทีในการทำงาน อย่าละเลยการเตรียมการล่ะ」

ราชาได้จากไป อีริชและผมตัดสินใจจะเลื่อนกำหนดการสำหรับการฝึกที่เตรียมตัวสำหรับสงครามจริง

—————————————————————

โกลโดเนียใต้ คฤหาสน์ในเขตของ มาร์เกรฟ อัลโนด

「นี่มันอะไร!? ช่างเป็นราชาที่โง่เขลา!」

ชายฉีกจดหมายที่มีผนึกตระกูลราชวงศ์ติดอยู่กับมัน และทุบโต๊ะ

「มาสเตอร์ ทำนั่นกำผนึกของราชวงศ์」

「เงียบ! ชั้นจำไม่ได้ว่ารับรู้เจ้าเด็กนั่นเป็นราชา เค้าเป็นชายที่โง่เง่าที่ไม่เข้าใจเหตุผล!」

ชายวัยกลางคนที่ตะโกนคือมาร์เกรฟ อัลโนด ในส่วนใต้ของโกลโดเนีย ขุนนางรุ่นพี่ที่มีแผนดินในชายแดนของอาร์คแลนด์

「เคานต์โรแลนด์อยู่นี่นี่มั้ย?」

「เสียงดัง มีอะไรเหรอ?」

เคานต์โรแลนด์เป็นขุนนางที่มีที่ดินต่อจากมาร์เกรฟ อัลโนด ทั้งสองตระกูลสนิทกันมาหลายชั่วอายุคน เขาได้ผ่านอายุ 55 แต่เขาได้เคยเป็นที่โด่งดังและเป็นนักวางแผนที่มีความสามารถในวังราชวงศ์

「มันไม่ใช่ว่ามีอะไร! ชั้นตามคำแนะนำของเคานต์และส่งจดหมายประท้วงด้วยลายเซ็น แต่คำตอบของเขาคือนี่」

มาร์เกรฟ อัลโนดส่งจดหมายที่ฉีกขาดให้เคานต์โรแลนด์และแสดงให้เขาดู เคานต์แต่หายใจให้ทันในภาพของเนื้อหาที่มีน้อยของมัน

「นีม-!? นี่มัน…รายละเอียดที่อุกอาจมากเกินไป ไม่ใช่เหรอ ชั้นไม่เชื่อว่าพระองค์คิดเกี่ยวกับการเอาไปจากเราจริงจัง ไม่ใช่นั่นเป็นคำขู่ให้เราจ่ายภาษีชั่วคราวที่เพิ่มขึ้นมาเหรอ?」

อัลโนดได้ความใจเย็นของเขากลับคืนมานิดหน่อยและส่ายหัวของเขา

「เขาเป็นชายที่สังหารเจ้าชายเบลโทเรียสและดยุคอัลเลน นายรู้มัย เค้าอาจจะมีแผนให้เราหายไปในแบบเดียวกัน」

มันได้รู้กันโดยนัย ขุนนางชั้นสูงเข้าใจว่าความขัดแย้งของกบฏนั้นเป็นแผนที่จะสู้ชิงบัลลังก์

「แน่นอน ชั้นปฏิเสธความเป็นไปได้ไม่ได้… แต่ถ้าเรามอบข้ออ้างกับเรื่องนี้เร็วที่สุดที่เราออกจากเมืองหลวงมา มันอาจเป็นการคำนวนของพวกเขาที่จะรวบพวกเราทุกคน」

「จากนั้นอะไรล่ะ! นายหมายถึงเราควรจะมองข้ามมันต่อไปเหรอ?」

「ไม่ ชั้นมีแผนที่ดีกว่านี้ เราจะรวบรวมทหารที่ถูกถืออยู่ในมือของมาร์เกรฟ」

อัลโนดมีสีหน้า ตามคาด กลัวลอยอยู่บนหน้าเขา แม้ว่าเขาไม่ชอบมัน ราชาคือราชา สำหรับขุนนางรุ่นพี่การทรยศราชวงศ์เป็นอาชญากรรมที่หนัก

「เตานต์…นายเข้าใจมั้ยว่านายพูดอะไรอยู่?」

แต่สีหน้าของเคานต์โรแลนด์ไม่เปลี่ยน

「ชั้นจะไม่เสนอให้เราลบล้างตระกูลราชวงศ์เราจะแสดงความมุ่งมั่นของเรากับราชา และให้เขาประณีประนอม ขุนนางที่ล้อมแผ่นดินของเราทั้งหมดมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเรามาหลายชั่วอายุคน ถ้าเราให้เค้าช่วยได้เราสามารถรวบรวมกองทัพได้เป็นจำนวนมาก」

「แต่ราชาจะไม่เงียบนะ ไม่ใช่เขาจะส่งทหารมาเพื่อเผชิญหน้ากับเราเหรอ?」

「กองทัพราชวงศ์มีจำนวนประมาณ 10,000 แตะการรักษความปลอดภัยได้ถูกวางในแต่ละเขต เขาส่งทหารมาหาเราไม่ได้ ถ้ามาร์เกรฟ และขุนนางรอบๆ ขูดชาวนามา เราสามารถรวมคนได้ 5,000 ถึง 6,000 คนโดยไม่ต้องใช้เวลา」

「แน่นอน…แต่กำลังของชั้นหลักแล้วประจำการอยู่รอบๆชายแดน ถ้าเรารวมพวกเขา ชายแดนจะเปิดโล่ง」

「นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการ ถ้าความวุ่นวายได้ยาวออกไป ราชาควรจะเข้าใจว่าชายแดนอาร์คแลนด์จะเป็นเขตที่อันตราย นั่นทำไม ถ้าเราสร้างการกินกันไม่ลงในสงคราม ฝั่งราชาจะเสียไปก่อน ถ้าราชายกโทษให้เรา มันจะไม่เป็นการทรยศราชวงศ์」

「เมืองหลวงยังมีทหารที่เรียกว่ากองทัพศูนย์กลางหรืออะไรบางอย่างที่เพิ่งก่อตั้ง จำนวนประมาณ 5,000」

「มาร์เกรฟ อัลโนด คิดเกี่ยวกับมันอย่างใจเย็น การรวมทหารแบบนั้นไม่สามารถที่จะใช้งานได้ในการต่อสู้ เพราะทั้งหมดพวกเขามันเป็นของเล่นของราชา เรามีตำแหน่งที่ได้เปรียบ ไม่มีอะไรต้องกลัว」

「แต่…ได้เลย」

อัลโนดเข้าใจทุกอย่างในหัวเขา ระหว่างที่คิดเกี่ยวกับความจริงว่าทุกอย่างจะสูญเสียหมดถ้าเขาล้มเหลว เขาสร้างการตัดสินใจ

「ปัญหาของครั้งนี้ แม้ว่าเราจะหยุดและสรุปกับพวกเขา การสังเกตการของตระกูลราชวงศ์จะหนักขึ้น รายได้ของดินแดนเรา มันจะโอเคถ้าเรารายงานมันกับตระกูลราชวงศ์แต่…」

ระยะจากดินแดนของมาร์เกรฟและเมืองหลวงนั้นไกลในที่ที่มันยากต่อการเฝ้าดูจะมา การซื้อขายทาสที่ผิดกฎหมาย และการแลกเปลี่ยนโดยไม่มีภาษีส่วนหนึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลของอัลโนดเจริญรุ่งเรือง

วันต่อมามาร์เกรฟ อัลโนดส่งส่วนหนึ่งของขุนนางจากตระกูลเขาไปเป็นตัวแทนกับราชาเพื่อประท้วง ว่าเขาได้ใช้อำนาจของเขาในทางที่ผิด เขาประกาศว่าจนกว่าคำแนะนำของเขาจะถูกได้ยิน เขาจะไม่ถูกปกครองโดยราชา และรวบรวมกำลังคนในดินแดนของเขา

—————————————————————

ชื่อ : เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 19 ปี ต้นฤดูร้อน

สถานะ : อัศวินของอาณาจักรโกลโดเนีย กองทัพศูนย์กลาง กองทหารที่ 1 ผู้บัญชาการกองร้อยทหารม้า

เงินเดือนรายปี 80 ทอง

เงิน : 245 ทอง (เงินและต่ำลงมาไม่นับ)

อาวุธ : แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)

อุปกรณ์ : เกราะเต็มตัวเหล็กขั้นสูง, ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)

พวกพ้อง : ซีเลีย, นนน่า อีเล็คตร้า, เมลิสซ่า, มาเรีย, คาร์ล่า

คนรับใช้ : มิทตี้, อัลม่า, ครอลล์

ลูกน้อง : อากอร์ (ผู้ช่วย), คริสตอฟ, คาร์ล, ชวาร์ซ (ม้า)

จำนวนคู่นอน : 28

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

ขอบคุณสำหรับเงิน 10 บาท

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord