หลินจูรู้ว่าเธอไม่มีส่วนไหนดีไปกว่าชูหยุนซี

เธอไม่ใช่ผู้หญิงแกร่งที่มั่นใจในตัวเองแบบฉินเสี่ยวหยุน

แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าทำไม “ซูฟ่าน” ถึงต้องการจูบเธอเมื่อคืนนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อคืนนี้ เธอคงไม่มีความกล้าที่จะสารภาพ

ตอนนี้ซูฟ่านปฏิเสธเธออย่างชัดเจน ทั้งหมดที่เธอทำได้คือถอยกลับ

“ฉันคงคิดไปเอง ฉันจะไม่เป็นแบบนี้อีก”

หลินจูยืนขึ้นหลังจากพูดจบ

“ฉันขอให้คุณกับชูหยุนซีมีความสุข”

หลังจากพูดหลินจูก็ไปที่ห้องของเธอเพื่อพักผ่อน

ซูฟ่านรู้สึกอายที่ต้องปฏิเสธหลินจูด้วยวิธีนี้

แต่เขาไม่ใช่คนหลงในความรัก เพื่อนก็คือเพื่อน

ซูฟ่านไม่สามารถทำอะไรเกินขอบเขตได้

วันรุ่งขึ้นซูฟ่านและหลินจูก็กลับไปที่เมืองเมจิกโดยเครื่องบิน

มีความลำบากใจที่อธิบายไม่ได้ระหว่างคนสองคนอยู่ตลอดทาง

เดิมทีซูฟ่านคิดว่าเมื่อเขามาถึงสนามบิน ทั้งสองคนก็จะแยกกันกลับ

ใครจะรู้ว่าฉินเสี่ยวหยุนมาที่สนามบินเพื่อพบเธอโดยตรงหลังจากรู้ว่าหลินจูกลับมาแล้ว

แถมยังพาหลินจูขึ้นรถด้วย

บรรยากาศของคนสามคนที่นั่งอยู่ในรถดูแปลกไปเล็กน้อย

พูดให้ถูกคือซูฟ่านนี่แหล่ะที่รู้สึกแปลก ๆ

เพราะทั้งฉินเสี่ยวหยุนและหลินจูไม่รู้ว่าต่างคนต่างก็ตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกัน

“เธอสองคนเป็นอะไรไป รู้สึกดูแปลก ๆ”

ฉินเสี่ยวหยุนที่กำลังขับรถอยู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

โดยปกติหลินจูจะพูดถึงซูฟ่านด้วยท่าทางตื่นเต้น

วันนี้เธอนั่งกับซูฟ่านและเพิ่งจะเสร็จสิ้นการเดินทางด้วยกัน แต่ทำไมพวกเขาสองคนถึงดูแปลก ๆ

แถมซูฟ่านไม่ได้พูดอะไรเลยในวันนี้

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เหนื่อยกับการเดินทาง”

หลินจูพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉินเสี่ยวหยุนยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร

ซูฟ่านต้องการขับรถไปหาคังหมินฟูด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงขอให้ฉินเสี่ยวหยุนส่งเขาไปที่รถ GTR ของเขา

ลงจากรถพอไกลจากฉินเสี่ยวหยุนและหลินจู ความรู้สึกอึดอัดของซูฟ่านก็หายไปเช่นกัน

แม้ว่าจะฟังดูเป็นคนขี้แพ้ แต่ซูฟ่านก็ไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นที่วนอยู่รอบตัวเขา

เพราะมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

เมื่อเปิดประตูรถ ซูฟ่านก็ขับไปที่บริษัทของคังหมินฟู

อาการของหลินจูดีขึ้นมากหลังจากที่ซูฟ่านลงไปจากรถ

สิ่งนี้ทำให้ฉินเสี่ยวหยุนมั่นใจมากขึ้นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพวกเขาสองคน

ในความเป็นจริง เธอก็รู้สึกว่าหลินจูพูดถึงซูฟ่านอยู่บ่อยครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้

และทุกครั้งที่เธอพูดถึงการแสดงออกของเธอก็ดูมีความสุขมาก

แม้แต่ตอนที่เธอคบกับซุนหยาน ฉินเสี่ยวหยุนก็ไม่เคยเห็นหลินจูเป็นแบบนี้

แต่ฉินเสี่ยวหยุนก็ไม่อยากคิดมาก เพราะเธอก็ชอบซูฟ่าน

หากเธอตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกันกับเพื่อนของเธอ มันคงจะน่าอึดอัดเกินไป

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ฉินเสี่ยวหยุนไม่สามารถแกล้งโง่ได้อีกต่อไป

เธอต้องถามอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างหลินจูและซูฟ่านในช่วงสองสามคืนที่ผ่านมา

เธอจอดรถข้างถนน

“หลินจู เราเป็นเพื่อนที่จะคุยกันทุกเรื่องใช่ไหม?”

“เอ่อ…ทำไม…จู่ ๆ ก็พูดแบบนั้นล่ะ”

หลินจูตกใจกับท่าทางกะทันหันของหลินจู

“ฉันขอถามเธอหน่อย เกิดอะไรขึ้นกับเธอและซูฟ่าน?”

ฉินเสี่ยวหยุนจ้องไปที่ดวงตาของหลินจูแล้วถาม

“ไม่ ไม่มีหรอก!”

หลังจากที่หลินจูพูด แก้มของเธอก็แดงเล็กน้อย

ฉินเสี่ยวหยุนรู้จักหลินจูดีมากเกินไปและเธอก็จับโกหกได้ทันที

“เธอชอบซูฟ่านใช่ไหม?”

คำพูดของฉินเสี่ยวหยุนทำให้ใบหน้าของหลินจูแดงก่ำ

“คิดว่าฉันดูไม่รู้เหรอ?”

ฉินเสี่ยวหยุนถอนหายใจขณะเอนหลังพิงเบาะ

“เสี่ยวหยุน…ฉัน…ฉันขอโทษ ฉันอายจริง ๆ ที่ต้องสารภาพกับเธอ ทั้ง ๆ ที่ฉันเพิ่งเลิกกับซุนหยานแต่ฉันก็ตกหลุมรักคนอื่นอย่างรวดเร็ว เธอคงคิดว่าฉันแย่จริง ๆ ก็ได้…”

หลินจูก้มศีรษะลง

“ยัยโง่ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ทำไมฉันต้องคิดกับเธอแบบนั้น”

“เธอกับเขาถึงขั้นไหน”

ฉินเสี่ยวหยุนเลิกคิ้วและถาม

เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนึ่งชายหนึ่งหญิงอยู่ด้วยกันสามคืน

หลินจูรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แต่คราวนี้เธอไม่ได้ปิดบัง

เธออธิบายให้ฉินเสี่ยวหยุนฟังอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากฟังฉินเสี่ยวหยุนก็ขมวดคิ้ว

“เธอบอกว่าซูฟ่านจะจูบคุณในคืนก่อนหน้า แต่เขาก็ปฏิเสธเธออย่างเด็ดขาดในคืนหลังจากนั้นเหรอ?”

ฉินเสี่ยวหยุนพูดทวนอย่างไม่อยากเชื่อ

หลินจูพยักหน้า

ไม่เป็นไรที่จะไม่พูดถึงมัน แต่เธอก็พบว่ามันแปลกเมื่อเธอพูดถึงมัน

ฉินเสี่ยวหยุนยิ้ม

“เธอรู้รึเปล่า? ซูฟ่านกับฉันทำทุกอย่างแล้วเหลือก็แค่ขั้นสุดท้าย”

“อะไรนะ?!”

ดวงตาของหลินจูเบิกกว้างเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้!

ในอีกด้านหนึ่ง ซูฟ่านซึ่งเพิ่งมาถึงคังฉีกรุ๊ปก็ไม่รู้เลยว่ามีผู้หญิงสองคนกำลังพูดถึงตัวเองลับหลังอยู่

เขาแค่ต้องการหาคังหมินฟูเพื่อเคลียร์เรื่องบางเรื่อง

หลังจากเข้ามาในบริษัทแล้ว ผู้คนในบริษัทที่เห็นซูฟ่านก็ยังคงทักทายด้วยความเคารพ

เมื่อเลขาพาซูฟ่านไปที่สำนักงานของคังหมินฟู คังหมินฟูก็ถือซิการ์อยู่ในมือ

เขาวางขาของเขาไว้บนโต๊ะและสูบซิการ์ด้วยท่าทางผ่อนคลาย

เมื่อเห็นซูฟ่านกำลังเข้ามา คังหมินฟูก็วางเท้าลงและนั่งดี ๆ

ซูฟ่านโกรธเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่าย

ไม่มีใครแจ้งเขาถึงการมาถึงของซูฟ่าน

แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะบ่น

เพราะเขาเคยกล่าวไว้ว่าตราบเท่าที่เป็นซูฟ่านก็ไม่จำเป็นต้องรายงาน

“เสี่ยวซู เธอกลับมาแล้ว!”

คังหมินฟูพูดอย่างกระตือรือร้น หลังจากพูดจบเขาก็ดับซิการ์อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วลุกขึ้นต้อนรับซูฟ่าน

“ประธานคัง”

ซูฟ่านทักอย่างสุภาพแล้วเดินไปหน้าคังหมินฟู

“นั่งสิ”

คังหมินฟูยิ้มและชี้ไปที่เก้าอี้ข้างหน้าเขา

“โอ้ ทำไมเธอไม่โทรหาฉันล่ะเมื่อเธอทำงานเสร็จแล้ว ฉันคิดว่าเธอกังวลอะไรบางอย่างเสียอีก”

“งั้นเหรอ คุณคังผมรบกวนคุณมากจริง ๆ”

ซูฟ่านพูดอย่างเย็นชา

“งานนี้ลำบากมากใช่ไหม”

คังหมินฟูถาม

“ทุกอย่างปกติดี”

“แล้วเธอไม่ได้พบกับองค์กรลึกลับนั่นใช่ไหม”

“เจอกันแล้ว”

หลังจากที่ซูฟ่านตอบ การแสดงออกของคังหมินฟูก็ดูตกตะลึง

เขาไม่ได้คาดหวังว่าซูฟ่านจะกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากพบคนแบบนั้น

แม้แต่เขาก็ยังพร้อมเตรียมตัวเผื่อว่าซูฟ่านจะตาย

“เธอเจอคนคนนั้นแล้วก็สู้กับเขาหรือเปล่า?”

“ใช่”

“เธอเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาไหม?”

“ประธานคัง ดูเหมือนคุณจะห่วงเรื่องคนในองค์กรลึกลับนั้นมากกว่าเพชรของคุณเสียอีกนะ”

แน่นอนว่าคังหมินฟูไม่สนใจเพชรเพราะของจริงอยู่ในมือของเขาเองเสมอ

คังหมินฟูยิ้มอย่างเชื่องช้า

“นั่นแหละซูฟ่าน…นี่ เพชรที่ฉันให้เธฮเป็นของปลอม เพชรของจริงอยู่ในมือของหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญคนอื่นน่ะ…”

“จริงเหรอคุณคัง ฉันได้ยินมาว่าคนอื่นอีกห้าคนถูกจัดการไปแล้ว คุณไม่ได้ทำเพชรหายเหรอ”

ซูฟ่านถาม

คังหมินฟูยิ้มอย่างเชื่องช้า

เขาเดาได้ทันทีว่าซูฟ่านรู้ความจริงแล้ว

เขาบอกกับตู้ยู่ชิวอย่างชัดเจนแล้วว่าอย่าพูดอะไรมากเกินไปกับคนที่เขาจ้าง

ด้วยวิธีนี้เขาก็จะใช้เงินเพียง 120 ล้านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ