ในขณะเดียวกันตอนนี้โอลิเวอร์ควีนก็ได้ใช้ชื่อของกรีนแลนเทิร์นในการเป็นเกราะกําบังให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากที่เขาโทรแจ้งตํารวจเขาก็บอกกับพวกตํารวจไปว่ากรีนแลนเทิร์น ได้ช่วยชีวิตของพวกเขาเอาไว้ ซึ่งทางด้านของซูเจินในตอนนี้เขาก็เพิ่งกลับมาถึงโรงแรม โดยที่ในห้องในตอนนี้กําลังมีเฟลิเซ่ที่เพิ่งอาบน้ําเสร็จและกําลังนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวกําลังนั่งดูข่าวอยู่ เพราะว่าหลังจากที่เธอรู้ว่าแฟนของเธอคือ กรีนแลนเทิร์น มันก็ทําให้เธอมีความสนใจเกี่ยวกับพวกฮีโร่บางคนเป็นพิเศษ เพราะว่าเธอกําลังเอาคนพวกนั้นมาเปรียบเทียบกับซูเจินอยู่ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว จะไม่มีใครสู้แฟนของเธอได้ก็ตาม!

แม้ว่ามันอาจจะดูน่าเบื่อเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเฟลิเซ่ก็ชอบมันอยู่ดี

” คุณจะรีบกลับมาเร็ว ๆ นี้จริง ๆ ใช่ไหม?” ทันใดนั้นจู่ ๆ ซูเจินก็เดินเข้ามา ทําให้เฟลิเซ่รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ซูเจินพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับมองไปที่เฟลิเซ่ตัวยสายตาร้อนแรง เพราะว่าเฟลิเซ่ที่กําลังนั่ง ผ้าขนหนูอยู่เพียงแค่ผืนเดียวในตอนนี้มันดูยั่วยวนสําหรับเขามากๆ “ใช่สิ! เพระว่าผมแค่ไปทักทายเขาเฉย ๆ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเขาน่าจะมาหาผมในภายหลัง!”

“เขามีความสามารถพิเศษอะไรงั้นหรอ?” เฟลิเซ่ถามขึ้นมาพร้อมกับที่เธอพยายามใช้ท่าทางยั่วยวนเงินและค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ

แต่ก่อนที่เธอจะได้เข้าใกล้ตัวเขา ซูเจินก็รีบพุ่งเข้าไปกอดเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ผมจะบอกเรื่องนี้กับคุณในภายหลัง เพราะว่าตอนนี้ พวกเรามีเรื่องที่สําคัญมากกว่านั้นที่ต้องทํากันไม่ใช่หรอ?”

“ฉันจะฟังคุณ!” เฟลิเซ่พูดขึ้นมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้น

“จริงหรอ ? มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี 5 ซูเจินยิ้มขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับค่อย ๆ กดไหล่ของเฟลิเซ่ให้ต่ำลง ทําให้ใบหน้าของเฟลิเซ่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความแดงระเรื่อเต็มไปหมด และเธอในตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ซูเจินพูดมันหมายถึงอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธมัน เธอค่อย ๆ เอามือของเธอปลดกระดุมกางเกงของซูเจินออกอย่างช้า ๆ หลังจากนั้น

เมื่อตกกลางคืนพวกเขาทั้งสองคนก็นอนกอดกันอยู่บนเตียงและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความรักของพวกเขา ซึ่งในตอนนี้โอเวอร์ควีนก็ยังไม่ได้มาหาเขา แต่มันก็ไม่เป็นไรเพราะว่าตอนนี้ ซูเจินก็ไม่ได้รีบร้อนมากนัก เพราะเขาเชื่อว่าโอลิเวอร์ควีนจะต้องมาหาเขาอย่างแน่นอนเมื่อเขาจัดการธุรอะไรของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในเมื่อเขาไม่มาคืนนี้ เขาก็น่าจะมาวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน! ทําให้ซูเจินในตอนนี้กําลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเฟลิเซ่สองต่อสอง

ในขณะเดียวกันทางด้านของโอลิเวอร์ควีนที่กําลังจะเตรียมตัวมาหาซูเจินในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่มันก็ดันมีเหตุการณ์ที่เขาถูกลักพาตัวขึ้นทําให้แม่ของเขาเป็นกังวลมากจึงต้องจ้าง จอห์น ดิกเกิ้ล บอดี้การ์ดผิวดํามาเป็นคนรักษาความปลอดภัยให้เขา แน่นอนว่าโอลิเวอร์ควีนไม่ต้องการให้ใครมาปกป้องเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอธิบายให้กับแม่ของเขาฟังมากเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมเห็นด้วยอยู่ดี ทําให้เขาได้แต่ทําตามที่แม่ของเขาบอกเพื่อที่จะทําให้แม่ของเขานั้นรู้สึกสบายใจ

เพราะว่าสําหรับเขาแล้วการจัดการกับบอดี้การ์ดเพียงคนเดียวมันไม่ใช่เรื่องยากเลย

หลังจากขึ้นรถเรียบร้อยแล้วโอลิเวอร์ควีนก็ชวนจอห์น ดิกเกิ้ล พูดคุยและถามเกี่ยวกับสถานภาพความเป็นอยู่ของเขาในปัจจุบันว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ซึ่งจอห์น ดิกเกิ้ล ก็เล่าขึ้นมาว่า เขาเคยเป็นทหารมาก่อน และหลังจากที่เขาลาออกมาจากการเป็นทหาร เขาก็มาทํางานเป็นผู้คุ้มกันได้ประมาณ 4 ปี แล้วโดยที่เขาบอกว่าเขาสามารถรับรองความปลอดภัยของโอลิเวอร์ควีนได้อย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้นหลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็พบว่าในตอนนี้โอลิเวอร์ควีนได้หายตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

หลังจากที่โอลิเวอร์ควีน จัดการจอห์น ดิกเกิ้ลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบมุ่งหน้าตรงไปที่โรงแรมที่ซูเจินอยู่ทันที

ไม่นานเขาก็มาถึงโรงแรมที่ซูเจินกําลังพักอยู่ ซึ่งเขาในตอนนี้กําลังยืนคิดอยู่ว่าทําไมซูเจินถึงต้องการให้เขาไปหา ? ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเงินจะรู้ความลับของเขาเป็นอย่างดีด้วยมันเป็นไปได้อย่างไร ?

“ก็อก ๆ !”

โอลิเวอร์ควีนเดินมาถึงหน้าประตูห้องของซูเจินพร้อมกับเคาะประตูขึ้นมาเบา ๆ

ซักพักประตูก็ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ

ทําให้โอลิเวอร์ควีนในตอนนี้ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นว่าคนที่ออกมาเปิดประตูไม่ใช่ซูเจิน แต่ เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก ทําให้เขาในตอนนี้รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยว่าเขาจะมาผิดห้องหรือปล่าว ? แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาว่า “คุณคือโอลิเวอร์ควีน มหาเศรษฐีที่เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อนและรอดชีวิตกลับมาได้อย่างปาฏิหาริย์คนนั้นใช่ไหม ? โอ้พระเจ้า! ฉันไม่คิดว่าคนที่เขาพูดถึงจะเป็นคุณ!”

“เขา?”

” คุณไม่ได้มาหาซูเจินงั้นหรอ?”

“ใช่! ฉันมาหาเขา!”

“งั้นก็เข้ามาก่อนสิ!” เฟลิเซ่เชิญโอลิเวอร์ควีนเข้ามาในห้องก่อนและพูดขึ้นมาต่อว่า “ตอนนี้ เขาเพิ่งตื่นนอนและกําลังอาบน้ําอยู่ ดังนั้นคุณไปนั่งรอเขาตรงนั้นก่อนก็ได้”

“ขอบคุณ แล้วคุณเป็นใครงั้นหรอ?” โอลิเวอร์ควีนพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับเดินไปนั่งลงที่บนโซฟาและถามเธอขึ้นมา

” ฉันชื่อเฟลิเซ่ เป็นแฟนของเขา” เฟลิเซ่ลืมไปเลยว่าเธอลืมแนะนําตัวกับเขา

“โอลิเวอร์ ควีน” ถึงว่าเธอจะรู้จักเขาอยู่แล้ว แต่โอลิเวอร์ควีนก็ยังเลือกแนะนําตัวเองอีกครั้งอยู่ที่

โอลิเวอร์ควีน สังเกตเห็นว่าเฟลิเซ่ก็เป็นเพียงแค่ธรรมดาคนหนึ่งและดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักตัวตนของซูเจินเป็นอย่างดี และเธอก็ไม่ได้พยายามปิดบังมันเลยแม้แต่น้อย ทําให้เขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าซูเจินไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเขาอย่างแน่นอน เพราะก่อนที่เขาจะมาที่นี้เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของกรีนแลนเทิร์นมาก่อนแล้ว แต่น่าเสียดายที่มันมีข้อมูลน้อยมาก

“มาแล้วงั้นหรอ?”

หลังจากนั้นไม่นานซูเจินก็เดินออกมาจากห้องน้ําและเห็นว่าโอลิเวอร์ควีนได้มาหาเขาแล้ว ทําให้ซูเจินยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามของโอลิเวอร์ควีนทันที

“ฉันอยากรู้ว่าคุณต้องการที่จะทําอะไรกันแน่ คุณถึงได้มาตามหาฉัน” โอลิเวอร์ควีนถามขึ้นมาตรง ๆ ทันที

ซูเจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล โอลิเวอร์ควีนตอนนั้นคุณติดอยู่ในเรือที่อับปางเมื่อ 5 ปีก่อน ทําให้ทุกคนในตอนนั้นคิดว่าคุณได้ตายไปแล้ว แต่คุณกลับรอดชีวิตออกมาได้อย่างปาฏิหาริย์จากเกาะเหลียนหยู แถมคุณยังมีทักษะมากมายและหนึ่งในทักษะที่เก่งที่สุดก็คือ การยิงธนู ซึ่งคุณก็พยายามที่จะฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่อง และที่คุณกลับมาที่นี่ในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการที่จะช่วยเหลือเมืองนี้ให้มันน่าอยู่ยิ่งขึ้น และชดใช้ความผิดบาปที่พ่อของคุณได้ทําเอาไว้ ผมพูดถูกไหม?”

โอลิเวอร์ควีนพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ เพราะดูเหมือนว่าซูเจินจะรู้ความลับของเขาจริง ๆ

“ในเมื่อผมพูดถึงเรื่องของคุณเสร็จแล้ว งั้นเรามาพูดถึงเรื่องของผมกันมั่งดีกว่า … ผมมีตัวตน อีกตัวคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า กรีนแลนเทิร์น แต่มันก็เป็นเพียงแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น เพราะว่าผมยังมีความสามารถอย่างอื่นอีกมากมาย นอกจากนี้กรีนแลนเทิร์นก็ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่คนเดียว เพราะว่ายังมีกลุ่มกรีนแลนเทิร์นคอร์ปส ที่ทําหน้าที่คอยรักษาความสงบสุขในจักรวาลอยู่ โดยจะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นดาวโลกแห่งนี้ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งดาวเคราะห์ที่อยู่ในเซ็กเตอร์ 2814 เป็นเขตอํานาจของผมทั้งหมด ดังนั้นมันจึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมต้องทํา ทําให้ผมค่อนข้างที่จะยุ่งอยู่ตลอดเวลาและไม่สามารถดูแลความสงบสุขของโลกได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นถ้าเกิดว่ามีฮีโร่ที่คอยปกป้องเมืองของตัวเองอยู่มันจะช่วยแบ่งเบาภาระให้ผมได้มากมายเลยล่ะ”

“เพราะว่าคุณคือ แอร์โรว์ ผู้พิทักษ์ของเมืองสตาร์ซิตี้ และที่ผมเรียกคุณมาในวันนี้ก็เพื่อทําความรู้จักกับคุณ ในทางกลับกันผมก็อยากจะดูว่ามันยังมีอะไรที่จะต้องให้ผมช่วยเหลือคุณอีกหรือปล่าว และมันก็เป็นการตรวจสอบไปในตัวด้วย!”

แม้ว่าซูเจินจะยังไม่เคยไปที่สํานักงานใหญ่ของกรีนแลนเทิร์นคอร์ปสเลยสักครั้งหรือแม้กระทั่งคนของกรีนแลนเทิร์นคอร์ปสก็ยังไม่รู้จักตัวตนของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่สําคัญเพราะว่ามันจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้อยู่ดี

“ ตรวจสอบอะไร?”

สําหรับโอลิเวอร์ควีนแล้วตอนนี้เขามีข้อมูลอยู่มากมาย และกําลังพยายามหาทางช่วยเหลือเมืองสตาร์ซิตี้อยู่ แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เงินพูดมันก็ทําให้เขาขยายขอบเขตการรับรู้ของเขาไปทั้งหมดทันที จากโลกสู่ระดับจักรวาล

“ผมก็บอกแล้วว่าเมืองอื่น ๆ ก็มีฮีโร่ของพวกเขาคอยปกป้องอยู่เช่นกัน แต่ จักรวาลนี้ ชั่งกว้างใหญ่นัก ดังนั้นเราไม่ควรที่จะกําจัดกรอบของตัวเองอยู่แค่ภายในเมืองเท่านั้น แม้ว่าจะมีศัตรูแข็งแกร่งอยู่มากมาย ซึ่งคุณคนเดียวไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเราจะต้องรวบรวมคนและเอาชนะศัตรูของพวกเราได้ และนี่ก็คือรายชื่อของ “ทุกคน” ที่ผมได้เล็ง เอาไว้เพื่อที่จะไปทําการตรวจสอบพวกเขาด้วยตัวของผมเอง!”