32 โคโลนี่เอลีนที่สาม
“ฟุว้าาา〜า…มันใหญ่มาก!”
“แน่นอนมันเป็นอย่างนั้น…แค่ที่นี่มันใหญ่กว่าขนาดไหนเมื่อเทียบกับเทอร์เมนไพร์มน่ะ”
“อืม หนูคิดว่าประชากรมันมากกว่าเทอร์เมนไพร์มห้าเท่า แต่หนูไม่มั่นใจมากเกี่ยวกับขนาดของมันนะ”
ที่มาสู่สายตาเราคือโคโลนี่อวกาศทรงแปดด้านที่ใหญ่ มันดูเหมือนมันหมุนอย่างช้าๆไกลออกไป แต่ตัดสินจากขนาดของมัน ผมคิดว่าคามเร็วของการหมุนของมันค่อนข้างเร็ว ผมเดาว่าการหมุนที่ต่อเนื่องนั้นจำเป็นที่จะสร้างแรงโน้มถ่วงเทียม ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นโคโลนี่ที่ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์นี้เรียกว่าโคโลนี่เอลีนที่สาม ที่เป็นจุดหยุดแรกนทริปสู่ระบบดาวเอลีนของเรา และมันเป็นหนึ่งในสามโคโลนี่ที่ใช้งานอยู่ที่อยู่ที่นี่
“ได้โปรดส่งคำร้องขอจอดยาน มีมิ”
“อ้า ค่ะ! หนูจะส่งทันที”
มีมิกดคอนโซลของโอเปอร์เรเตอร์ข้างหน้าเธอและส่งคำร้องของจอดยานไปที่ผู้ดูแลท่ายานของเอลีนที่สามคำร้องมันประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของเรา; โดยเฉพาะชื่อยาน ชื่อผมในฐานะกัปตันยาน และเหตุผลที่มาเยือนของกลุ่มเรา มันไม่ได้ใช้เวลานานที่การยอมรับจะถูกส่งกลับมา
“เราได้รับการอนุญาตลงจอดแล้ว! เราได้ถูกกำหนดให้จอดที่ท่าจอดหมายเลข 72!”
“ทราบ”
เราตามเส้นนำทางที่แสดงอยู่ที่จอหลักของห้องนักบินและเดินหน้าสู่ท่ายานที่ถูกกำหนด อย่างที่คาดกับโคโลนีใหญ่มันมียานที่เดินทางมากมาย มันจะมีผลในความเละเทะที่ใหญ่โตมโหฬารถ้าการชนโดยอุบัติเหตุเกิดขึ้น แต่ผมไม่อยากได้ปัญหากับตัวเองแฐนั้น ด้วยจุดประสงค์นั้น ผมจึงปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของการขับออโต้
“ใช้บางอย่างเหมือนการลงจอดออโต้มันโกงอ่ะ……”
“แค่อยากสบายๆน่ะ ได้มั้ยล่ะ”
เอลม่าดูเหมือนจะมีการบ่นนิดหน่อยเกี่ยวกับวิธีที่ผมรับมือกับสิ่งต่างๆ แต่ผมแค่เมินมันและทำต่อไป แม้ว่การทำการลงจอดที่สมบูรณ์แบบในวิธีธรรมดามมันฟังดูเหมือนเป็นความน่าสนุกบางอย่าง ผมยังชอบที่จะทำมันในทางที่ง่ายๆ ผมจำเป็นต้องติดตั้งโมดัลคอมพิวเตอร์ที่มีไว้สำหรับลงจอดด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้ฟังก์ชันการลงจอด-ออโต้มา แต่มันทำงานอย่างมีเสน่ห์และมันอนุญาตให้ยานลงพื้นได้อย่างปลอดภัยข้างในท่ายาน ผมเดาว่าเธอแค่รู้สึกกระสับกระส่ายเพราะเธอมีประสบการณ์การขับยานที่อยู่เหนือการควบคุม
หลังจากที่ลงจอดสำเร็จ เอาต์พุตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของยานเปลี่ยนไปที่โหมดสแตนบายอย่างช้าๆ มันไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มมันเป็นโหมดต่อสู้ข้างในโคโลนี และโหมดเดินทางก็ใช้พลังงานนิดหน่อยด้วยเหมือนกัน
“ในที่สุดเราก็มาถึงที่นี่แล้ว โอเค ถ้างั้น เราควรจะทำอะไรดีสาวๆ? อยากจะกินข้าวก่อนมั้ย?”
“มันค่อนข้างเร็วไปที่จะกินข้าวนะ ชั้นคิดว่ามันดีกว่าที่จะทางานอื่นให้เสร็จก่อน”
“งี้ งานพวกนั้นจะเป็นการขายลูท และการไปหาอินากาวะเทคโนโลยี่ และรับรางวัลค่าหัวกับด่านทหารบนพื้นที่หือห์”
“อ้า ได้โปรดปล่อยการขายลูทให้หนู”
มีมิทำท่ากำลังใจโดยกันยกทั้งสองมือและทำหมัดโดยมัน ระหว่างที่ส่งเสียงที่ตื่นเต้นออกมา เพราะเธอใช้เทอร์มินัลเพื่อขายลูทได้ แทนที่จะไปร้านด้วยตัวเอง ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องโอเคที่จะปล่อยมันไว้ให้มีมิ ยังมีความจำเป็นที่จะกับวลว่าพ่อค้าโกงราคาเรา แต่มีมิสนใจเรื่องรายละเอียดบ่อยเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆทองๆ ดังน้นเธอควรจะสบาย
“พี่จะปล่อยการขายลูทไว้ให้หนูถ้างั้น มีมิ ต่อไปคือการไปเยือนอินากาว่าเทคโนโลยี่แต่…”
“มันจะดีกว่าที่จะรอให้อินากาว่าเทคโนโลยี่ส่งคำเชิญอย่างเป็นทางการมาก่อน และมันไม่เหมือนว่าเรารีบอยู่ด้วย”
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของเอลม่า เราได้แลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับติดต่อกับตัวแทนบริษัทแล้วไม่ว่าอย่างไร พวกเขาควรจะยุ่งๆในการปรึกษากันเรื่องรายละเอียดค่าตอบแทนกับเหล่าเจ้านายของบริษัท ดังนั้นมันจะดีกว่าที่จะยังไม่ไปที่นั่น
“โอเคถ้างั้น มารับเงินรางวัลค่าหัวจากทหารกันเถอะ”
“ชั้นควรจะไปมั้ย?”
“ม่ายอ่ะ ชั้นควรจะไปมากกว่า เพราะทั้งหมดชั้นเป็นกัปตัน”
ผมไม่มีปัญหากับการให้เอลม่าไปแทน แต่ผมคิดว่ามันจะราบรื่นกว่าถ้าผมไปด้วยตัวเองแทน เพราะทั้งหมดผมเป็นกัปตันยาน
“ชั้นจะไปด้วยถ้าอย่างนั้น มันจะอันตรายที่นายจะเดินคนเดียว”
“ชั้นไม่ใช่เด็กนะ รู้ป่ะ……”
แต่ยังไงซะ ผมเดาว่าเอลม่าพูดดมีจุดหมาย ผมไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ดังนั้นการมีเธอไปด้วยกันกับผมมันจะช่วยผมไดมาก สุภาษิตว่าไว้ว่าสองหัวมันดีกว่าหัวเดียว ใช่มั้ย? ผมจะให้เธอมาด้วยถ้างั้น
“อืม ชั้นเดาว่าสองคนมันจะปลอดภัยกว่า ไปดูตัวเมืองระหว่างที่เราทำมันอยู่ด้วยเถอะได้โปรดดูยานเราในเวลานั้นด้วยนะ มีมิ หนูอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่า”
“มันอันตรายจริงๆเหรอ? ที่นี่น่ะ หนูหมายถึง”
“ไม่ พี่ไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ ระดับของความสงบเรียบร้อยของประชาชนมันเทียบได้ว่าสูง แต่เราจะไมรู้ชัดๆจนกว่าเราจะไปดูด้วยตัวเอง แต่ยังไงซะ ตัดสินจากการเดินทางของเหล่ายานก่อนหน้านี้ พี่คิดว่าที่นี่มันเต็มไปด้วยคนนอกอย่างเรา มันเลยจะไม่เจ็บที่จะระวังมากกว่าเดิม”
“ได้ นายพูดถูกท่าจอดยานที่เราถูกกำหนดมามียานต่างถิ่นเยอะจอดอยู่ข้างในด้วย มันดูเถื่อนๆนิดหน่อยด้วย งั้นหนูเน้นไปที่การรวบรวมข้อมูลถ้างั้น”
“เข้าใจแล้วค่ะ…”
มีมิพยักหน้าว่าเข้าใจ ผมและเอลม่าดูแลตัวเองได้สบายๆถึงจุดจุดนหนึ่ง แต่มีมิเป็นแค่สาวน้อยที่อ่อนแอ เธอจึงยังไม่มีความสามารถเพี่ยงพอที่จะดูแลตัวเองให้ปลอดภัยข้างนอกนั่น เธอมีปืนเลเซอร์กับเธอ แต่ พูดจากใจ เธอใช้มันได้ห่วยแตก
“โอเคถ้างั้น เอลม่ากะพี่จะไปข้างนอกแป้ปนึง พี่มีแผนที่จะโทรว่าถ้าเราใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่ กินข้าวก่อนเลยนะถ้าเรามาช้าน่ะ โอเคป่ะ”
“ได้ รับทราบ ได้โปรดดูแลตัวเองข้างนอกนั่นด้วยนะ ฮิโระ-ซังและเอลม่า-ซัง”
“ได้”
“อึน แล้วเจอกันแป้ป”
เอลม่าและผมเตรียมตัวเองและออกจากยาน
“โว่วห์ พูดยังไงดีล่ะ บรรยากาศมันค่อนข้างต่างนะที่นี่”
“อือ มันเหมือนเมืองใหญ่เลยเมื่อเทียบกับเทอร์เมนไพร์มน่ะ”
เอลม่าบอกผมในเรื่องของความเป็นจริง และเราเดินต่อรอบๆที่นี่ ข้างในโคโลนีเอลีนที่สามอธิบายได้ว่าเป็นป่าเหล็กที่เต็มไปด้วยตึกสูง
ตืสูงเสียดฟ้านับไม่ถ้วนอยู่ภายในแขตอยู่อาศัยกลางของโคโลนีมีทางเดินและซอยจำนวนมากมายด้วย โคโลนี่ไม่ได้ใช้โมดัลระบบไฟดวงเดียวที่เลียนแบบเวลากลางวันได้ในกำแพงของมัน และแทนที่มันจะใช้นั่นมันใช้ไฟถนนเพื่อสองสว่างรอบข้าง พูดอีกอย่างมันเป็นเมืองที่มีแต่กลางคืน
“แต่ไม่ใช่วาการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มันมีผลกับสุขภาพพลเมืองหรืออะไรบางอย่างเหรอ?”
“มันดูเหมือนพวกเค้ามีทางที่จะสร้างการอาบแดดเทียมาภายในบ้านพวกเค้าเองน่ะ”
“แต่นั่นฟังดูลำบากนะ– เอ่อ เราต้องทำมันด้วยมั้ยระหว่างที่เราอยู่ที่นี่น่ะ?”
“เราใช้เม็ดพอดได้”
หืม งั้นเม็ดพอดมีฟังก์ชันนั้นอยู่ด้วย เมื่อมาคิดดูแล้ว ทหารรับจ้างอย่างเราใช้เวลามากในอวกาศ ดังนั้นผมคิดว่าเม็ดพอดมันสร้างมาโดยมีฟังก์ชันแบบนั้นอยู่ในใจ แต่ผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันทำงานยังไงนะ เดิมๆน่ะ พวกเขาพูดว่าคุณต้องการแสงแดดที่เหมาะสมเพื่อที่จะรักษาสุขภาพให้ดีในโลกเก่าผมด้วย
“เดินบนโคโลนี่ที่ใหญ่ขนาดนี้มันเหนื่อยนะ ไม่ต้องพูดถึงว่ามันปัญหาเยอะด้วย มันมีรถโดยสารที่เราขึ้นได้ที่นี่มั้ย?”
“แน่นอน”
ผมมองดูที่ที่เอลมม่าดูและเห็นบางอย่างที่เหมือนทางเข้าทางรถไฟใต้ดิน
“มันมีระบบรถไฟใต้ดินเชื่อมต่อกันทั้งโคโลนี่ เราเลยใช้มนเดินทางไปไหนมาไหนได้ที่นี่ เทอร์เมนไพร์มมันก็พอจะมีอยู่นะ จำไม่ได้เหรอ? พวกมันถูกใช้เพื่อระบบโลจิสติกของโคโลนี่ ของที่นี่มันแค่ดีกว่า”
“เข้าใจแล้ว”
ผมก็ไม่รู้ว่ามันทำงานยังไงเหมือนกัน แต่มันรับรองการขนส่งของภายในโคโลนีได้โดยที่ไม่ต้องทำเอง ผมสงสัยว่าพวกเขาใช้รถอะไรกัน?
“งั้นเราใช้ทางใต้ดินได้……”
“ไม่จำเป็น ยังไงฐานทหารก็อยู่แค่มุมตรงนั้นแล้ว”
“เข้าใจแล้ว โอ้ยังไงซะ ถ้ามีโอกาสชั้นจะลองมันทีหลัง”
นั่นจะเป็นเมื่อเวลาที่ในที่สุดเราก็จะไปเยือนอินากาว่าเทคโนโลยี เราจำเป็นต้องเติมอาหารด้วย ผทจึงจะใช้โอกาสอื่นที่จะใช้ทางใต้ดินถ้างงั้น เพราะยังไงเราก็มีแผนที่จะใช้เวลากันมากที่นี่
“นั่นไง”
เอลม่าชี้ไปที่ตึกที่มีทั้งธงเอ็มไพร์และธงกองทัพอิมพีเรียลติดอยู่ข้างหน้า แต่มันดูเหมือนมันเป็นกองประจำการทหารที่ถูกต้องนะ มันดูเหมือนตึกออฟฟิศ
“มันไม่ได้จะดูเป็นฐานทหารเลยหือห์”
“มันขึ้นอยู่กับบริเวณที่มันตั้งน่ะ มันก็มีฟังก์ชั่นที่จะเป็นโรงเรียนฝึกทหารด้วยนะ ในที่ที่มันใหญ่น่ะ”
มันไม่มีแม้แต่ยามซักคนดูทางเข้า อย่างไรก็ตาม มันใช้ระบบกล้องวงจร ด้วยกันกับป้อมปืนเลเซอร์แทน งี้ทหารอิมพีเรียลก็เป็นแฟนคลับอะไรที่อัตโนมัติหือห์
เราเข้าตึกกองทัพและเจอกับประตูรักษาความปลอดภัยที่สองข้างใน ครั้งนี้ มันมียามอยู่ มันเป็นคนกล้ามโตที่กล้ามใหญ่มาก ที่มันกระแทกตาจริงๆ แต่นอกจากคนนี้ อย่างอื่นมมันอัตโนมัติหมด พวกเขาก็มีป้อมปืนเลเซอร์ติดตั้งอยู่ที่นี่ด้วย
“อาวุธส่วนตัวไม่ถูกอนุญาตข้างในตึกครับ ได้โปรดฝากมันไว้ที่นี่”
“ได้ครับ”
“รับทราบ”
ผมและเอลม่าฝากปืนเลเซอร์และแพ็คพลังงาน ยามก็ตรวจด้วยว่าเราซ่อนอย่างอื่นอยู่มั้ย และเขาก็ตรวจเทอร์มินัลดาต้าเราด้วย
“ตรวจเสร็จแล้วครับ ถ้าคุณอยากจะรับรางวัลค่าหัวได้โปรดไปที่ช่องนั้น ถ้าคุณมีธุระอื่นได้โปรดบอกมันที่ช่องที่ติดกันเลย”
“ขอบคุณครับ”
เราขอบคุณพี่ยามกล้ามโต๊โตและไปที่เคาน์เตอร์รับรางวัลค่าหัว ผมทำเรื่องนี้เมื่อตอนที่อยู่เทอร์เมนไพร์มด้วย ผมเลยรู้ว่ามันเป็นยังไง แต่บรรยากาศที่นี่มันไมเหมือนกันนะ
เมื่อกลับไปที่เทอร์เมนไพร์ ทางเข้าข้างหน้าฐานมีทหารถือปืนดูแลอยู่ เมื่อผมเข้าไปประตูรักษาความปลอดภัยข้างใน ผมเจอทหารมากกว่านั้นอีก แน่นอนว่ามันต่างกันเยอะกับที่นี่
“ยินดีต้อนรับสู่โคโลนี่เอลีนที่สามครับ คุณหน้าใหม่นี่ ไม่ใช่งั้นเหรอ?”
พนักงานที่อยู่ที่เคาน์เตอร์เป็นชายที่มีบรรยากาศที่อ่อนโยนเกี่ยวกับเขา เขาดูแก่กว่าผม เขาน่าจะผ่านสามสิบมาเยอะแล้ว ถ้าพูดชัดๆผมคิดว่าเค้าอยู่ระหว่างสี่สิบ
“ครับ เราเพิ่งมาถึงเมื่อกี้ ชื่อผมคือกัปตันฮิโระนี่เอลม่า หนึ่งในลูกเรือของผม ยังมีสาวอีกคนชื่อมีมิอยู่ที่ยานเรา เธอก็เป็นลูกเรือด้วย”
“งั้นมันคือฮิโระ-คุงกับเอลม่า-คุง ผมซาร์เจ็นท์แดเนียล ผมมาจากครอบครัวทหารรับจ้างดังนั้นพวกนายไม่ต้องทางการกับผมมาก นายเรียกผมว่าแดเนียลหรือแดนนี่ก็ได้ ผมโอเคทั้งสองอย่าง”
“ไม่ครับ ได้โปรดให้ผมเรียกพี่ว่าซาร์เจ็นท์แดเนียล ผมจะแค่พูดให้ทางการน้อยลงแทน”
“หนูด้วย ขอหนูเรียกพี่ว่าซาร์เจ็นท์แดเนียลละกัน เซอร์”
ผมส่ายหัวและปฏิเสธข้อเสนอของเขาที่จะเรียกเขาโดยไม่ใส่คำให้เกียรติ เอลมาก็เห็นด้วยกับผมในจุดนั้นด้วย
“อย่างนั้นเหรอ? ถ้าชอบอย่างนั้นมากกว่า งั้นผมก็ด้วย ดังนั้น ผมเดาว่าคุณมาที่นี่กันเพื่อที่จะรับเงินรางวัลค่าหัว ถูกต้องมั้ยครับ? คุณล่าโจรสลัดกันไปแล้วแม้ว่าคุณเพิ่งจะมาถึงกัน คุณค่อนข้างที่จะหลงใหลงานของคุณกันนะครับ ไม่ใช่เหรอ?”
“เราได้รับสัญญานเหตุร้ายบนทางมาโคโลนี่นี้น่ะ เมื่อเรารีบไปที่นั่น เราเจอกับยานของอินากาวะ เทคโนโลยี่ที่ถูกโจมตีโดยโจรสลัด เราแค่ทิ้งพวกเค้าไม่ได้น่ะ”
“อินากาวะเทคโนโลยี่เหรอ? ผู้โดยสารปลอดภัยมั้ย?”
“เราไปทันเวลาพอดีน่ะ เราลากพวกเขากลับมากะยานเราไม่ได้ เราเลยรอให้ทหารลาดตระเวนลากแทน และเรามาก่อนพวกเค้า แต่ผมมั่นใจว่าพวกเค้าจะมาถึงในไม่นาน”
“เข้าใจแล้ว พวกเค้าน่าจะปลอดภัยแล้วตอนนี้ เมื่อคนของเราคุ้มกันพวกเค้าอยู่ คุณทำงานได้ดีมากฮิโระ-คุง”
ซาร์เจ็นท์แดเนียลมีสีหน้าที่กังวลกับเขาเมื่อเขาฟังเรื่องผม จากนั้นเขาส่งรอยยิ้มดีโดยธรรมชาติมาให้ผมหลังจากนั้น ซาร์เจ็นทคนนี้มีวิธีที่จะให้คนรู้สึกสบายๆเมื่อคุยกับเขา
“ครับ เราก็ดีใจที่ช่วยพวกเค้าได้ แล้ว เกี่ยวกับเงินค่าหัวล่ะครับ…”
“อ้า ครับ รอซักครู่……คุณยิงตกไปสองลำรางวัลรวมทั้งหมด 15,000 อีเนลครับ”
“…นั่นเยอะนะ ไม่ใช่เหรอครับ?”
“อื้อ ยานพลเมืองหลายลำถูกโจมตีโดยพวกโจรสลัดสี่คนนั้นที่คุณเพิ่งเจอ พวกมันทำงานเร็วและหนีเร็วกว่าอีก เราเลยมีปัญหาที่จะจัดการกับพวกเค้านะ คุณสามารถที่จะจัดการพวกเค้าสองคนในเวลานี้ ผมเลยคิดว่าพวกเค้าน่าจะไปแอบซักพักใหญ่นะ”
“เข้าใจละ…”
ผมพยักหน้ารับรู้หลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ แต่คาร์โกพวกเขามีของน้อยแม้ว่าพวกเขาจะโจมตียานไปหลายลำแล้ว พวกเขามีแค่เสบียงกับเหล้ากับพวกเขา พวกเขามีฐานลับอยู่ใกล้ๆที่ไหนซักแห่งเหรอ
“นี่ครับ นั่นรางวัลทั้งหมดของคุณ คุณมีแผนที่จะอยู่ที่นี่นานมั้ย?”
“ครับ แผนเป็นอย่างนั้น เราคิดว่านจะมีอะไรให้ดูเยอะในที่ที่คนเยอะแบบนี้”
“ผมเดาว่าอย่างนั้น มันมีบริษัทเทคโนโลยี่เยอะที่มีออฟฟิศอยู่ที่นี่ มันเลยมีพนักงานไปๆมาๆกันเยอะน่ะ มันก็ค่อนข้างมีอาคารสำหรับความบันเทิงในโคโลนี่นี้ที่จะให้พวกเค้าเข้าด้วย”
“อย่างนั้นเหรอครับ? ผมอยากเห็นนะถ้างั้น โอเค เราจะไปแล้วนะครับ เซอร์”
“อ้า ดูแลตัวเองด้วย”
เราลาจากซาร์เจ็นท์แดเนียลและไปที่ประตูรักษาความปลอดภัยเพื่อที่จะรับอาวุธและอุปกรณ์ของเรา และออกจากออฟฟิศกองทัพ
“พี่คนนั้นคุยด้วยง่ายจัง ไม่ใช่เหรอ?”
“เค้าไม่ได้ดูเหมือนทหารเลยนะ เค้าดูเหมาะกับอาชีพครูมากกว่าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ ชั้นว่านะ”
“งั้น กองทัพอิมพีเรยลก็มีคนแบบนั้นอยู่ด้วยหือห์”
เพราะผมไม่คุ้นเคยกับกองทัพอิมพีเรียล มันค่อนข้างน่าตกใจที่จะเห็นบางคนแบบเขาอยู่ภายใน องค์กรทหารอะไรพวกนี้ฟังแล้วค่อนข้างที่จะลึกลับกับพลเมืองอย่างผม
และกองกำลังอวกาศในโลกนี้อย่างแกนนำของกองทัพ นอกจากกองกำลังอากาศ บก และน้ำ ผมเลยจินตนาการไม่ได้ว่าการพัฒนาแบบไหนที่มันกิดขึ้นกับโครงสร้างของกองทัพในการกำเนิดยุคอวกาศแบบเต็มตัว ผมหาอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่ยังไงผมก็ไม่รู้สึกเหมือนอยากจะทำอยู่ดี
“ไม่ว่าแบบไหน ซาร์เจ็นท์นนั้นบอกเราบางอย่างที่น่าสงสัยก่อนหน้า ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่เกี่ยวกับโจรสลัดที่เรายิงตกพวกนั้น ใช่มะ? ชั้นก็คิดว่าพวกมันมีคาร์โก้น้อยอย่างหน้าตกใจ หลังจากที่ซาร์เจ็นท์เค้าบอกว่าพวกมันโจมตียานพลเมืองไปจำนวนหนึ่งแล้ว”
“ชั้นก็ว่างั้นด้วย โอกาสคือ พวกมันเก็บลูทไว้ที่อื่นที่ไหนซักแห่ง”
“ใช่ๆ น่าจะเป็นแบบนั้น แต่มันมีแค่ยานสี่ลำเองอ่ะ……”
“กลุ่มมันเล็ก การไปหาพวกมันเลยจะเป็นปัญหา”
เอลม่ายักไหล่ของเธอ ระหว่างที่มีรอยยิ้มเบี้ยวๆ มันจะง่ายกว่าถ้าพวกเขาไปสร้างฐานที่ดาวเคราะห์น้อย แต่มันจะมีปัญหามากกว่า ถ้าพวกเขาเก็บลูทไว้ที่คอนเทนเนอร์ที่ทนทาน และเก็บมันไว้ที่ไหนซักแห่งในอวกาศ ถ้ามันเป็นอย่างหลังมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจอมันโดยไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัด
“โอ้ยังไงซะ ปล่อยไว้อย่างนั้นดีกว่า เราจะปล่อยมันไปตามโอกาสละกัน”
“ชั้นจะไม่ให้พวกเค้ารอดเลยครั้งหน้า”
“นั่นแหละ ใจ งั้นตอนนี้ กลับไปกินข้าวกัน มีมิรออยู่”
“ใช่ ไปกันถ้างั้น”
เราพยักหน้าให้กันและเดินกลับไปที่ยาน เราจะกินให้อิ่มเลยเมื่อเรากลับไป และฉวยโอกาสพักผ่อนซักหน่อยหลังจากนั้น เรายังมีเงินพออยู่ ดังนั้นเราไม่ได้จะต้องหางานทันที เราจะฉวยโอกาสพักทั้งวันและเริ่มกิจกรรมของเราพรุ่งนี้กันแทน
ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท
ขอบคุณสำหรับเงิน 45 บาท
เป้าหมายเดือน 7/66
ค่าเน็ต 200/200
รับยา ยาหมด 0/200
ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook