ตอนที่ 35 ซาซากิ อายะชินกับชีวิตในดันเจี้ยน

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

35 ซาซากิ อายะชินกับชีวิตในดันเจี้ยน

“ฮ่าาาห์…”

วันต่อมาการดิ้นรนกับฮาร์พีถึงชีวิตได้เกิดขึ้น

มันรู้สึกเหมือนพวกเขาคิดว่าฉันเป็นกองกำลังต่อสู้ได้, ดังนั้นฉันเลยถูกพาไปด้วยกันกับท่าน-พี่สาวอาวุโสและคนอื่น

นี่มันใช้ประสาทค่อนข้างมาก

ทั้งหมดนี่เพราะมันมีมอนสเตอร์ที่อันตรายนอกรังด้วย

“”””นั่นสุดยอด””””

พี่สาวน้องสาวอายุเดียวกันมองฉันด้วยสายตาที่เคารพ

ไม่, แต่ฉันไม่มีความสุขเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ

มันดูเหมือนว่าฉันจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับลาเมียปรกติ

ท่าน-แม่บอกว่า: “สแตทเธอค่อนข้างสูงเทียบกับเด็กสาวคนอื่นๆ”

อะไรคือสแตท

มันดูเหมือนว่าท่าน-แม่มองเห็นบางอย่าง

แล้วจากนั้น, มันเป็นวันต่อวันที่พี่สาวใหญ่ฝึกฉันในการล่า

เมื่อเสร็จการล่า, ฉันจะไปดูน้ำตกในเวลาว่างของฉันจากด้านหลังของมัน

แสงอาทิตย์นิดหน่อยสามารถผ่านเข้ามาได้จากที่นั่น

มันทำให้ฉันใจเย็นลง ดีกว่ารังมืดๆของเรา

มากกว่านั้น, ภาพที่สวยงามและเสียงที่เหมือนระเบิดของน้ำพัดพาความรู้สึกขุ่นมัวในตัวฉันออกไป

เสียงน้ำกระทบได้ถูกสร้าง, เมื่อฉันตรวจดู, งูใหญ่โผล่หัวมาออกจากน้ำ

งูทะเล

ทำไมงูทะเลอยู่ในทะเลสาบ

ฉันจะไม่โยนการโต้ที่ไม่ได้ขัดเกลาแบบนั้นออกไป

ที่นี่มันโลกแฟนตาซี

อีกอย่าง, งูทะเลและลาเมียเป็นพวกพ้องกันเหมือนพี่น้อง, ดังนั้นเราจึงไม่เป็นศัตรูต่อกัน

แต่นั่นมันหายาก, และในดันเจี้ยนปรกติแล้วมีศัตรูอยู่ทั่วทุกแห่ง

อารัคเน่, ฮาร์พี, มนุษย์กิ้งก่า, ออร์ค, โอเกอร์; ที่บริเวณใต้ดินนี้ดูเหมือนจะเป็นที่พักของเหล่ามอนสเตอ มันมีมอนสเตอร์มากมายที่ยกกลุ่มตีกัน

หนึ่งในคนที่มีความสัมพันธ์ที่แย่เป็นพิเศษกับเราคือฮาร์พี

พวกเขานั้นเหมือนเรา, ครึ่ง-มนุษย์ ครึ่ง-มอนสเตอร์, ดังนั้นฉันคิดว่ามันควรจะดีที่จะสนิทกันไว้

แต่เห็นได้ชัดว่าท่าน-แม่ของพวกเขาและท่าน-แม่เรามีความสัมพันธ์แบบหมาและลิง*

TLN* ไม่ถูกกันแบบหมาและแมว

“โลกแบบนี้ที่ทากัตซูกิ-คุงจะชอบ…”

ฉันนึกถึงเพื่อนร่วมชั้นที่รัก-เกมของฉัน

เขาชอบเกมอาร์พีจีในระดับที่มากเกินไป

ถ้าเขามาที่โลกนี้, เขาจะมีความสุขมากอย่างแน่นอน

“กย้าาาาาา”

ฉันได้ยินเสียงร้อง

อา, ก็อบลินถูกลากเข้าไปโดยงูทะเล

ที่มันค่อนข้างเลือดเยอะสำหรับแฟนตาซี

ฮ่าาห์…

มากลับรังกันเถอะ

◇◇

“เวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์?”

ไม่กี่เดือนต่อมา

เป็นเวลาที่พี่สาวน้องสาวออกล่าด้วยกันกับฉันด้วย

ฉันได้ยินข้อมูลดีๆจากพี่สาวใหญ่

ไม่, แม้จะเรียกมันได้ว่าเป็นข่าวดี

“เมื่อเราล่ามนุษย์, มันมีเวลาที่เราต้องสู้กับพวกเขาตรงๆ, เราจะจบที่การถูกจัดการ ความแข็งแกร่งของพวกเขาแตกต่างกันไป มันมีมนุษย์ที่อ่อนและ, แต่มันก็มีมนุษย์ที่แข็งแกร่งอย่างอุกอาจเช่นกัน”

ฟุมุ ฟุมุ

“และแบบนั้น, พวกเราใช้เวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เพื่อหลอกพวกเขา แบบนี้”

พี่สาวใหญ่พึมพำบางอย่างที่ซับซ้อน, และในชั่วพริบตา, ผิวที่งามอย่างบริสุทธิ์ก็ได้ปรากฏขึ้น

โออออออ้!!

น่าทึ่ง!

เธอมีขาจริงๆ, และฉันไม่สามารถเห็นความเป็นงูปนอยู่ในตัวเธอ

อีกอย่าง, เธอเปลือยหมด

“เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เราควรปกคลุมร่างกายด้วยเสื้อผ้า ถ้าเราไม่ใส่อะไรเลย, ทั้งหมดนี่เราจะทำพวกเขาตกใจ”

‘แน่นอนสิ’ คือที่ฉันคิด, แต่พี่สาวน้องสาวฉันได้ “”เข้าใจแล้ว~”” และทึ่งด้วยสิ่งนี้

นี่เป็นช่องว่างระหว่างเผ่าพันธุ์, หือห์…

แต่, ไม่ใช่ว่าฉันใช้นี่ได้เหรอ?!

ถ้าฉันเชี่ยวชาญเวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์

“เธอเก่งเรื่องนี้นี่”

ท่าน-พี่สาวอาวุโสพูดด้วยความประทับใจ

พี่สาวน้องสาวฉันมีเวลาที่ยากกับการใช้เวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์, แต่ฉันทำสำเร็จอย่างง่ายดาย

“มันยากที่จะจินตนาการถึงมนุษย์…”

“ทั้งหมดเพราะพวกเราไม่เคยเห็นซักคนเลยไง~”

“เธอยืนยังไงอ่ะ?”

ฉันจบอยู่ที่การเป็นผู้สอนพี่สาวน้องสาว

ยังไงซะ, ทั้งหมดเพราะฉันเป็นมนุษย์มาก่อน

ฉันได้แต่ขอบคุณชีวิตที่แล้ว

ไม่, แต่ฉันอยากจะเป็นมนุษย์ในชีวิตนี้ด้วยนะ

“งั้น, เธอมาร่วมล่ามนุษย์เร็วๆนี้มั้ย?”

เมื่อท่าน-พี่สาวอาวุโสบอกฉันแบบนี้, ฉันได้ลุกลี้ลุกลน

“ม-ไม่, จริงๆแล้วชั้นเคยโดนมนุษย์โจมตีมาข้างนอกครั้งนึงน่ะ, และชั้นกลัว…”

มันคือการโกหก

ฉันถูกอนุญาตให้ออกไปคนเดียว, ดังนั้นฉันจึงโกหกแบบนี้ได้

จริงๆแล้วฉันไม่เคยเจอมนุษย์

ตอนที่เจอมีแค่เวลาที่พี่สาวใหญ่จับพวกเขาได้บางครั้งบางคราว

(ชั้นไม่อยากเป็นมอนสเตอร์ที่โจมตีมนุษย์…)

ฉันไม่มีความกล้า

การอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ที่ฉันยอมแพ้ไปในตอนแรกได้มีแสงแห่งความหวัง

ถ้าฉันใช้เวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์, ฉันก็เป็นแค่สาวผิว-ขาว

ฉันสามารถไปอยู่ในถิ่นฐานของมนุษย์ได้ด้วยนั่น!

เวทมนตร์เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์มีเวลาจำกัด, และเมื่อสิ่งนี้ที่เรียกว่ามานาหมด, มันจะถูกถอนด้วยตัวเอง

แค่ว่านั่น, สแตทของฉันมากกว่าพี่สาวน้องสาวฉันอย่างเห็นได้ชัด

ฉันแน่ใจว่ามันจะอยู่นาน

ไม่ใช่ว่านี่เป็นโอกาศหรือ?

ฉันตัดสินใจจะแอบหาจังหวะหนี

ปัญหาต่อไปคงจะเป็นกำแพงของภาษา

ฉันไม่เข้าใจคำพูดของมนุษย์ในโลกนี้

เมื่อฉันใช้สมองอย่างหนักคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้, พี่สาวใหญ่ก็มาแก้ปัญหาให้อีกครั้ง

“นี่, หนังสือที่ทำให้เธอเรียนภาษามนุษย์ได้”

มันมีของอย่างนั้นด้วยเหรอ?!

คือที่ฉันคิด, แต่เพื่อหลอกมนุษ์, คุณเห็นได้ชัดว่าต้องรู้ภาษาพวกเขาด้วย

“‘ช่วยชั้นด้วย ชั้นจะทำทุกอย่างที่นายต้องการเพื่อตอบแทนนาย’ ตราบใดที่เธอพูดนี่ได้ เธอก็หลอกมนุษย์ผู้ชายส่วนใหญ่ได้”

“ข-เข้าใจแล้ว…”

ผู้ชายนั้นเข้าใจง่าน

ใช่, แต่นั่นคือที่มันเป็น

เป้าหมายของฉันคือการใช้ชีวิตในเมือง, ดังนั้นแน่นอนว่าฉันเรียนภาษามนุษย์

พี่สาวน้องสาวฉันได้ ‘‘‘‘ประหลาดจัง~’’’’ และสงสัยในนิสัยของฉัน

ขอโทษ, แต่ฉันจะออกจากบ้าน, พี่สาวน้องสาว

ความสามารถในการล่าของฉันเพิ่มขึ้นอย่างนิ่มนวล

มันดูเหมือนว่าฉันมีพลังประหลาด, ดังนั้นเมื่อฉันลงแรงก่อนจะวิ่ง, ฉันจะวิ่งได้เร็วกว่าพี่สาวน้องสาวฉันสองเท่า

‘โทท้’, เมื่อฉันกระโดน, ฉันสามารถกระโดดอีกครั้งกลางอากาศได้

‘ออรย่า’ ฉันกำหมัด, และเมื่อฉันต่อยหลังจากสะสมพลังซักพักหนึ่ง, ฮาร์พีได้บินไปประมาณ100เมตร

“นั่นมันพลังอะไรของเธอน่ะ”

พี่สาวใหญ่ได้สงสัยในเรื่องนี้

ดูเหมือนว่านี่มันจะไม่ใช่ความสามารถของพวกลาเมีย

“นั่นต้องเป็นอะไรที่เรียกว่าสกิล” คือที่ท่าน-แม่สอนพวกเรา

ท่าน-แม่รู้ทุกอย่าง

อย่างที่คาดไว้กับบางคนที่อยู่มา 300 ปี

ใช่แล้ว, ท่าน-แม่อายุ 300 ปี

การมีตัวตนของเธอแค่แตกต่างออกไป

ไม่ว่าฉันจะถูกพวกเขาบอกว่าเก่งแค่ไหน, ฉันก็ยังเป็นพวกอ่อนแอเมื่อเทียบกับท่าน-แม่

อุ๊ปส์, ฉันออกนอกประเด็นไปนั่น

“สกิลคืออะไร?”

“มันมีเวลาที่มอนสเตอร์เกิดมาพร้อมกับความสามารถแปลกๆ มนุษย์ก็มีมัน มันจะดีที่สุดถ้าเธอไม่ไปยุ่งกับมนุษย์ที่มีสกิลที่แข็งแกร่ง

โออ้! นั่นเสียงเหมือนเป็นข้อมูลสำคัญ

ความสามารถนี้เรียกว่าสกิล, หือห์

มนุษย์ก็มีมันเช่นกัน

มันเป็นเพราะฉันเป็นมนุษย์มาก่อนฉันเลยมีมันเหรอ?

โอ้ ยังไงซะ, นั่นก็ดีแล้ว

ขอบคุณสิ่งนั้น, ฉันเป็นอะไรที่ไม่มีใครเทียบได้ในหมู่มอนสเตอร์รอบข้าง

“ตั้งแต่เวลาที่เธอเกิด, เด็กๆได้ถูกโจมตีน้อยลง, เด็กดี”

ฉันถูกชื่นชม

โลกนี้ถูกปกครองด้วยกฎของป่า

โดยไม่พูดเกินจริง มอนสเตอร์ที่อ่อนแอจะถูกกิน

พวกเราลาเมียไม่ใช่มอนสเตอร์ที่อ่อนแอ, แต่เราก็ไม่ใช่ที่แข็งแกร่งที่สุด

มันเห็นได้ชัดว่ามีมอนสเตอร์เป็นภูเขาที่แข็งแกร่งกว่าพวกเราเหล่าลาเมีย

นั่นทำไมเราในฐานะครอบครัวต้องรวมใจเป็นหนึ่ง

ท่าน-แม่, ท่าน-พี่สาวอาวุโส, และพี่สาวใหญ่พูดสิ่งนี้

พวกเราพี่สาวน้องสาวพยักหน้ากับมัน

(ขอโทษ, แต่ชั้นจะจากไป)

ฉันก้มหัวให้ครอบครัวของฉันในใจ

ตอนแรกฉันชาไปด้วยความกลัว

ฉันไม่พอใจพระเจ้า, ตั้งคำถามว่า: ทำไมฉันเกิดมาเป็นงู

แต่เมื่อใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาซักพัก, ฉันได้เรียนรู้ว่าฉันเป็นเผ่าลาเมีย, เผ่าที่เป็นห่วงครอบครัวตัวเอง

มันมีเวลาที่ยากเมื่อใช้ชีวิตในดันเจี้ยน, แต่เราสามารถอยู่ต่อไปได้โดยการช่วยกันและกัน

ฉันดีใจที่ฉันเกิดมาเป็นเผ่านี้

(ชั้นอยากจะตอบแทนพวกเค้าให้มากที่สุด)

“ออรย่าา!”

ฉันฆ่ากิ้งก่ายักษ์ทีโจมตีพี่สาวน้องสาวฉันด้วยหมัดเดียว

“ฮย่า!”

ฉันทำให้ฝูงฮาร์พีที่พี่สาวใหญ่มีปัญหาในการสู้, วิ่งหนีไป

“ขยี้!”

ฉันโยนก้อนหินยักษ์ไปใส่อารัคเน่ที่โจมตีพวกเรา

“เธอเก่งจริงๆ”

“ชั้นอยากจะแข็งแกร่งไวๆด้วยอ่ะ”

“แม้ว่าเธอจะกินน้อยมาก”

ไม่ใช่แค่พี่สาวน้องสาว, แต่แม้แต่พี่สาวใหญ่ก็เริ่มพึ่งฉัน

เมื่อเวลาที่ฉันรู้ตัว, ฉันได้กลายเป็นเบอร์3ของครอบครัว

ฉันอาจจะปล่อยมันมาในหัวของฉัน

ฉันไม่ทันสังเกตุ

ความจริงที่ว่า, ถึงช่วงเวลาจุดหนึ่ง, ท่าน-พี่สาวอาวุโสได้มองฉันด้วยสายตาแห่งความริษยา

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอท https://discord.gg/dru8M3ZY

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน