ปั้ง! ปั้ง!
 

“—!?”

 

ดั่งคำกล่าวที่ว่า ในจังหวะที่ผู้ล่ากำลังจะจู่โจมนั้น พวกมันจะลดความระมัดระวังตัวลงจนอาจจะตกเป็นผู้ถูกล่าซะเอง ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากสถานการณ์ในตอนนี้ไปสักเท่าไหร่นัก

 

เพราะว่าในจังหวะที่อัลเบิร์ตกำลังคิดจะจัดการกับโมโกะที่ไร้ทางสู้นั้น เขาก็เผลอคลายความระมัดระวังลงจนไม่อาจจะตอบสนองกับเสียงปืนที่ดังขึ้นถึงสองนัดมาได้ทัน

 

เพล้ง!! ปึ๊ก!!

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้กระสุนน้ำแข็งที่พรีมูล่ายิงเข้าใส่นั้นปะทะเข้ากับใบมีดที่กำลังจะลงมาถึงตัวโมโกะจนทำให้มันกระเด็นหลุดมือเขาไป

 

และในจังหวะที่เขากำลังจะหันไปทางทิศที่กระสุนลอยมานั้นเอง กระสุนน้ำแข็งนัดที่สองของพรีมูล่าก็กระแทกเข้าที่แก้มของเขาเข้าจังๆ จนหน้าของเขาสะบัดไปอีกทาง

 

“หึ…ก็ไม่เลวนี่”

 

อัลเบิร์ตที่ถูกยิงเข้าใส่บริเวณศีรษะจังๆ แบบนั้นก็พูดขึ้นมาพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวเป็นสัญญาณว่าเขานั้นได้ขอถอนตัวออกจากการต่อสู้ ก่อนจะหันไปมองดูเด็กสาวหัวชมพูที่เป็นผู้ยิงกระสุนน้ำแข็งนั้นจากระยะไกลผ่านช่องว่างเล็กๆ ระหว่างแท่นดินไปอย่างพึงพอใจ

 

เพราะว่าถ้าเกิดว่ากระสุนน้ำแข็งที่พรีมูล่ายิงเข้าใส่เขานั้นไม่ใช่กระสุนสำหรับฝึก มันคงจะไม่ได้จบลงที่แก้มของเขาเป็นรอยแดงจากการถูกกระแทกแน่นอน

 

“เกือบไปแล้วไง… ขอบใจนะพรี— พรีมูล่า! ข้างหลัง!!” ”

 

โมโกะที่รอดตัวไปได้อย่างฉิวเฉียดนั้นได้ยันตัวลุกขึ้นกลับมานั่งและพูดขอบคุณพรีมูล่าขึ้นมา แต่ว่าทันใดนั้นเองเธอก็สังเกตเห็นรีซาน่าที่สามารถหลุดออกมาจากน้ำแข็งได้สำเร็จกำลังยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังจากการเร่งพลังวิซของเธอเพื่อละลายน้ำแข็งอยู่

 

“อ่ะ–”

 

“ทำกันได้แสบมากเลยนะคะ!!”

 

พรีมูล่าที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบหันกลับไปมองและเธอก็พบว่ารีซาน่านั้นกำลังจะออกตัวพุ่งมาทางเธอ ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าต้องรีบคว้านหาด้ามมีดน้ำแข็งของเธอที่มักจะห้อยไว้ที่ข้างเอวอย่างลนลาน

 

แต่ทันใดนั้นเองเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอเพิ่งจะใช้มันเพื่อผนึกอาวุธของหญิงสาวร่างยักษ์ตรงหน้าไป และในตอนนี้ด้ามมีดสีเงินของเธอนั้นก็ตกอยู่ทางด้านหลังของหญิงสาวร่างยักษ์นั่นเอง

 

ซึ่งทางด้านโมโกะนั้นเมื่อเห็นว่าพรีมูล่าเหมือนจะหยุดประมวลผลตัวเองไปเพราะสถานการณ์ไม่คาดคิด เธอก็รีบยกปืนทั้งสองกระบอกของตนเล็งไปยังรีซานาในทันที

 

แต่ว่าจากมุมที่เธอนั่งอยู่นั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยิงโดนรีซาน่าได้โดยไม่โดนพรีมูล่าไปด้วย และเมื่อเป็นแบบนั้นก็ทำให้โมโกะได้แต่ร้องสั่งพรีมูล่าออกมาเสียงดัง

 

“วิ่งสิยัยเอ๋อนี่!!

 

ทางด้านนากานั้นก็ได้ยินเสียงของโมโกะเช่นกัน เขาจึงเหลือบกลับไปมองและพบว่าพรีมูล่ากำลังวิ่งหนีหญิงสาวร่างยักษ์ที่ถือขวานไล่หวดเธออยู่ และนั่นก็ทำให้เขาต้องรีบผละมือจากเซซิล เพื่อที่จะเข้าไปช่วยน้องสาวของตนในทันที

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองเซซิลก็ได้ไถลตัวมาดักหน้าเขาเอาไว้ และฟาดดาบคาตานะติดไฟของเธอเข้าใส่นากาอย่างรวดเร็ว

 

“คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน…!!”

 

เคล๊ง!!

 

“—!?”

 

เซซิลได้หรี่ตาของตนลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นว่าดาบของเธอนั้นถูกหยุดเอาไว้ด้วยหลังฝ่ามือของนากาที่สวมถุงมือหนังสีน้ำตาลเอาไว้ แต่ว่าเมื่อเธอมองดูดีๆ แล้วก็พบว่านากานั้นได้ใช้คริสตัลสีขาวแผ่นบางๆ ที่ติดอยู่ด้านหลังถุงมือนั้นในการรับดาบของเธอเอาไว้นั่นเอง

 

“ย๊าก!!!”

 

ทันใดนั้นเองนากาที่ใช้คริสตัลด้านหลังถุงมือเข้ารับดาบคาตานะติดไฟของฝั่งตรงข้ามเอาไว้ก็ร้องขึ้นมาเสียงดังและออกแรงกระแทกดาบคาตานะของเซซิลให้กระเด็นออกไปทางด้านข้างก่อนที่ไฟบนดาบนั้นจะได้ลวกมือของเขา แล้วจึงตวัดดาบของตนฟันเสยเข้าใส่เซซิลจากทางด้านล่างอย่างรวดเร็ว

 

“ยังหรอกน่า…!!”

 

เซซิลที่ถูกปัดดาบคาตานะออกไปและยังเห็นดาบของนากากำลังพุ่งเข้ามาใส่เธอจากทางด้านล่างก็ได้รีบยกมือซ้ายของเธอที่ใส่ถุงมือลักษณะคล้ายๆ กับของนากาขึ้นมา และใส่พลังวิซของตนลงไปจนมันส่องแสงออกมา

 

ฉึบ—ซู่มมมม!!

 

ทันใดนั้นเองสายลมเบื้องหน้าของเธอก็ถูกบีบอัดกันจนกลายเป็นกำแพงอากาศขนาดเล็กๆ และทันทีที่ดาบของนากากระทบกับมันเข้า สายลมที่ควบแน่นกันอยู่นั้นก็ปะทุออกมาทุกทิศทุกทางอย่างรุนแรงจนทำให้ทั้งสองคนกระเด็นแยกออกจากกันไปไกล

 

ซึ่งนากานั้นก็รีบกลิ้งตัวไปกับพื้นเพื่อตั้งหลักก่อนที่จะออกวิ่งไปทางรีซาน่าที่กำลังไล่หวดน้องสาวของตนอยู่ในทันที

 

ส่วนทางด้านเซซิลที่กระเด็นออกไปเช่นกันนั้นก็ปักคาตานะของตนลงกับพื้นเพื่อใช้มันต้านแรงส่งก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าใส่นากาอีกครั้งโดยไม่สนเลยว่าเขากำลังวิ่งไปอีกทางหนึ่งอยู่

 

“คิดจะหนีไปไห–”

 

“ไปเลยนากา!!”

 

ปังปังปังปังปัง—

 

“—!?”

 

แต่ว่าก่อนที่เธอจะได้พุ่งเข้าถึงตัวนากา ก็ได้มีเสียงตะโกนของโมโกะที่ยืนอยู่บนแท่นดินดังขึ้นมา และเธอก็สาดกระสุนจำนวนหนึ่งเข้าใส่เซซิลพร้อมๆ กัน

 

เป๊งเป๊งเป๊งเป๊งเป๊ง

 

ถึงแม้ว่าเซซิลจะสามารถปัดกระสุนของโมโกะทิ้งไปได้แต่ว่าเธอก็ต้องหยุดฝีเท้าลงจนไม่อาจวิ่งตามนากาไปได้อีก ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอหันมาจ้องมองโมโกะที่ขัดขวางการต่อสู้ระหว่างเธอกับนากาถึงสองครั้งด้วยกันแล้วอย่างดุร้าย

 

ส่วนทางด้านนากาที่ได้โมโกะช่วยถ่วงเวลาเซซิลเอาไว้ให้ เขาก็สามารถเร่งฝีเท้าของตนเพื่อเข้าไปช่วยเหลือพรีมูล่าได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะถูกเซซิลเข้ามาขวางอีก

 

และในจังหวะที่พรีมูล่าได้วิ่งหนีไปจนสุดถนนจนไม่มีที่ให้หนีต่อแล้วนั้นเอง รีซานาก็ได้กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศและง้างขวานศึกของตนขึ้นเหนือหัว หวังที่จะใช้มันฟาดเข้าใส่พรีมูล่าที่รังแกเธอเมื่อสักครู่

 

“คิดซะว่าเป็นการเอาคืนเรื่องเมื่อกี้ละกันนะคะ!!”

 

“อย่ามาเข้าใกล้น้องสาวฉัน!!”

 

ผลัก!!

 

“โอ๊ย–!!?”

 

“พ–พี่นากา!?”

 

พรีมูล่าร้องขึ้นมาอย่างแปลกใจเมื่อเธอเห็นนากาที่ควรจะสู้อยู่กับเซซิลนั้นได้โผล่มากระโดดถีบรีซาน่าที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศจนทำให้หญิงสาวร่างยักษ์กระเด็นไปกระแทกกับแท่นดินที่อยู่ข้างถนนอย่างรุนแรง

 

ปังปังปังปัง—

 

ในขณะที่ทางด้านโมโกะนั้นก็ยังคงลั่นไกปืนกลทั้งสองกระบอกเข้าใส่เซซิลที่ยืนปักหลักปัดกระสุนของเธอออกไปได้โดยไม่ลำบากอะไรเลยแม้แต่น้อยนั่นเอง

 

เพล้งเพล้ง!!

 

ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงของคริสตัลที่แตกกระจายดังขึ้นมาจากภายในซองกระสุนปืนของโมโกะ พร้อมๆ กับที่ฝนกระสุนที่โมโกะยิงออกมานั้นได้หยุดชะงักไปอย่างฉับพลัน

 

เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตัวคริสตัลในซองกระสุนปืนทั้งสองกระบอกของเธอนั้นได้แตกเป็นเสี่ยงๆ จากการฝืนใช้งานจนเกิดขีดจำกัดไปซะแล้ว

 

ซึ่งเซซิลก็ไม่ปล่อยให้จังหวะนี้เสียเปล่า และได้ตัดสินใจที่จะพุ่งเข้าไปจัดการตัวเกะกะที่ขัดขวางการต่อสู้ของเธอกับนากาในทันที

 

“หมดสักทีสินะ…!”

 

แต่ถึงแม้ว่าจะเห็นเซซิลพุ่งตัวเข้ามาใส่เธอแบบนั้น โมโกะก็ไม่มีท่าทีว่าจะวิ่งหนีเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เธอทำนั้นกลับเป็นการเผยรอยยิ้มออกมาและขว้างปืนทั้งสองกระบอกในมือเข้าใส่เซซิลเต็มแรง

 

“ยังไม่หมดสักหน่อย!!”

 

“…ไร้สาระน่า!”

 

พลัก!!

 

เซซิลที่มีความสามารถขนาดจะปัดฝนกระสุนได้นั้นแทบไม่จำเป็นต้องออกแรงเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าเพียงแค่เธอเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อยก็ทำให้ปืนทั้งสองกระบอกที่โมโกะขว้างเข้ามาใส่พลาดเป้าไปได้แล้ว

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองโมโกะก็ได้กระโดดลงมาจากแท่นดินและวิ่งตรงเข้ามาหาเธอทั้งๆ ที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือซะด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็ทำให้เซซิลหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย

 

“ก็มาสิ…”

 

เซซิลพูดขึ้นมาก่อนที่จะเร่งพลังวิซของตนอีกครั้งทำให้คาตานะของเธอมีไฟลุกขึ้นมา บ่งบอกว่าต่อให้อีกฝ่ายจะไม่มีอาวุธอยู่ในมือแต่ว่าเธอก็ไม่คิดจะออมมือเลยแม้แต่น้อย

 

และเมื่อทั้งสองคนพุ่งเข้าใส่กันถึงระยะประชิด เซซิลก็ฟาดดาบคาตานะติดไฟของเธอเข้าใส่โมโกะอย่างรวดเร็ว

 

เคล๊ง!!

 

“หือ…!?”

 

เซซิลได้ส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจ เมื่อคาตานะของเธอนั้นถูกโมโกะหยุดเอาไว้ได้ ทั้งๆ ที่เธอมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีอาวุธอะไรอย่างอื่นเหลืออยู่แล้วแน่ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอต้องเหลือบดูสิ่งที่โมโกะนำมารับดาบของเธอในทันที

 

“น…นี่มัน!?”

 

ซึ่งสิ่งที่เซซิลเห็นนั้นก็คือเข็มขัดคาดเอวของโมโกะที่มีซองกระสุนติดอยู่จำนวนหนึ่ง และดาบคาตานะของเธอนั้นก็กำลังฟันลึกเข้าไปคาอยู่ในซองกระสุนอันหนึ่งถึงแม้ว่ามันจะถูกเอริซาเบธใช้วิซเพื่อลบคมไปแล้วก็ตาม

 

“ฮะฮะ… นี่ขนาดบอกว่าลบคมไปแล้วนะเนี่ย แต่ว่าประมาทไปหน่อยล่ะมั้งเธอน่ะ…”

 

โมโกะที่เห็นว่าซองกระสุนที่ทำจากเหล็กนั้นโดนอีกฝ่ายใช้คาตานะที่ถูกเคลือบพลังวิซสำหรับลบคมเอาไว้ฟันผ่านจนแทบจะขาดครึ่งก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่แววตาของเธอจะเปลี่ยนไปและแสยะยิ้มพูดออกมาอย่างมีลับลมคมใน

 

“ว่าแต่เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกนี้มันก็ใช้เป็นอาวุธได้ถ้าเธอกล้าพอน่ะ!!”

 

และทันทีที่โมโกะพูดออกมานั้น เซซิลก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังวิซที่มารวมตัวกันตรงซองกระสุนพวกนั้น ทำให้เธอต้องรีบชักดาบกลับเพื่อที่จะพุ่งตัวถอยหนีไปในทันที

 

หมับ!!

 

แต่ว่าก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น โมโกะก็ตวัดเข็มขัดของเธอพันเข้ากับดาบของเซซิลและออกแรงดึงอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนจะโถมตัวเข้าไปกอดอีกฝ่ายจนล้มลงและกดอีกฝ่ายเอาไว้กับพื้นโดยไม่สนใจความร้อนจากเปลวไฟบนใบดาบของเซซิลเลยแม้แต่น้อย

 

“ที่เหลือขึ้นอยู่กับพวกเธอแล้วนะนากา พรีมูล่า!!”

 

ทันทีที่เธอตะโกนบอกพวกนากาเสร็จ พลังวิซที่อัดแน่นในซองกระสุนก็ได้ปะทุขึ้นมาจนทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

 

ตู้ม!!!

 

“โมโกะ–!? / โมโกะจัง!?”

 

“คุณเซซิล!?”

 

 

“หึ้ย— โชคดีนะเนี่ยที่คริสตัลในกระสุนพวกนั้นเป็นแค่คริสตัลสำหรับฝึกซ้อมน่ะ ไม่งั้นคงจะได้เจ็บหนักกันทั้งสองฝ่ายแน่…”

 

เอริซาเบธที่มองดูการสอบของพวกนากาอยู่พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าหวาดเสียวเมื่อเห็นวิธีที่โมโกะใช้ในการจัดการอีกฝ่าย

 

ในขณะที่อาจารย์ผมยาวสีขาวนั้นพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์กับวิธีการเสียสละตัวเองของโมโกะเลยแม้แต่น้อย

 

“ให้ตายสิ… ทำไมถึงทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนั้นกัน… ทั้งเข้าไปใกล้โดยไม่สนใจไฟจากดาบนั่นแล้วยังจะระเบิดซองกระสุนในระยะประชิดอีก…”

 

“พูดเรื่องอะไรของคุณน่ะ! ดูความเด็ดเดี่ยวของเด็กคนนั้นสิครับ! เธอยอมเสี่ยงตัวเองเพื่อดึงตัวเซซิลเอาไว้ให้เด็กผู้ชายที่ชื่อนากามูระนั่นได้มีโอกาสไปช่วยเพื่อนของเธอ ทั้งๆ ที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีฝีมือการต่อสู้โดดเด่นหรือว่ามีวิซธาตุพิเศษเหมือนกับเพื่อนๆ เลยนะครับ!!”

 

ซึ่งทันทีที่ได้ยินแบบนั้นอาจารย์โนลก็พูดแย้งขึ้นมา แต่ว่าคำพูดของเขานั้นก็ทำให้อาจารย์ผมสีขาวขมวดคิ้วพร้อมกับหันไปหรี่ตามองเขาอย่างไม่ชอบใจนัก

 

“คุณนั่นล่ะพูดเรื่องอะไรอยู่… การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในการต่อสู้ที่ไม่มีโอกาสชนะแบบนั้นมันน่าชื่นชมจริงๆ หรอครับนั่น…”

 

“ฮะฮะ ก็อาจาร์ยโนลเขาชื่นชมเรื่องพลังมิตรภาพแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่คะ”

 

เมื่อเห็นอาจารย์ผมขาวพูดขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจแบบนั้น อาจารย์สาวผมสีม่วงที่ยืนอยู่อีกมุมก็รีบพูดขึ้นมาเพื่อห้ามทัพก่อนที่พวกเขาทะเลาะกันในทันที

 

แต่ว่าอาจารย์โนลนั้นเหมือนจะไม่ได้ฟังคำพูดของอาจารย์ผมสีขาวเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าเขากำลังพยายามตั้งสมาธิเพ่งมองสองสาวที่ตกอยู่เบื้องหลังของควันที่เกิดจากการระเบิดอยู่

 

และเมื่อฝุ่นควันจากการระเบิดนั้นค่อยๆ จางหายไป พวกเขาก็พบว่าเซซิลที่นอนล้มอยู่มีเพียงแค่แผลถลอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่โมโกะที่ล้มทับเธออยู่นั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและสลบเหมือดไปแล้วเรียบร้อย

 

“ผมว่าแนวคิดของเธอค่อนข้างที่จะน่าสนใจอยู่นะครับ ทั้งๆ ที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าเพื่อนทั้งสองคนเลยแท้ๆ แต่ว่าความกล้าหาญที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ทั้งสองคนที่เก่งกว่าตัวเองได้มีโอกาสชนะแบบนั้น มันไม่ใช่อะไรที่เด็กธรรมดาๆ จะกล้าตัดสินใจที่จะทำมันนะครับ”

 

เมื่อเห็นว่านักเรียนทั้งสองคนปลอดภัยดีอาจารย์โนลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงชื่นชม ในขณะที่อาจารย์ผมสีขาวที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับคำพูดของเขาสักเท่าไหร่นักก็ยักไหล่ให้กับเอริซาเบธและเลือกที่จะไม่พูดแย้งอะไรออกมา

 

“ถ้างั้นก็หมายความว่ากรรมการตัดสินทั้งสามท่านไม่มีปัญหาอะไรกับนักเรียนใหม่ทั้งสามคนสินะคะ~”

 

“อื้ม…นอกจากที่โมโกะเขาฝืนตัวเองเกินไปน่ะนะ…”

 

“ไม่มีปัญหาครับ อย่างนากามูระเขาก็มีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดเด่นมากด้วย ขนาดที่ว่าสามารถสู้กับเซซิลที่ขึ้นชื่อเรื่องวิชาดาบของฝั่งตะวันออกได้อย่างสูสีโดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิซออกมาเลยแบบนั้นน่ะ”

 

“ส่วนเด็กผมสีชมพูที่ชื่อพรีมูล่านั่น ถึงฉันจะไม่ชอบใจกับการที่เธอเลือกใช้วิธีลอบยิงอัลเบิร์ตสักเท่าไหร่นัก… แต่ว่าวิซธาตุน้ำแข็งกับความสามารถในการควบคุมพลังของเธอก็คงจะมองข้ามไปไม่ได้เหมือนกันค่ะ”

 

เมื่อเหล่าอาจารย์ที่ทำหน้าที่ตัดสินผลการสอบทั้งสามคนออกความเห็นของตัวเองเสร็จพวกเขาก็มองหันมาหน้ากันเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครในหมู่พวกตนพูดคัดค้านขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็ได้หยิบปากกาที่เอริซาเบธเตรียมเอาไว้ให้ขึ้นมาเซ็นเอกสารยืนยันผลการสอบกันทีละคน

 

“เอาล่ะ~ ในเมื่อเซ็นชื่อกันครบทุกคนแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เอาไปส่งให้ท่าน ผอ. แล้วก็รอประกาศผลสอบแล้วล่ะค่ะ~”

 

“สรุปง่ายๆ ก็คือหมดหน้าที่ของฉันแล้วงั้นสินะ…?”

 

“สำหรับอาจารย์ใหม่แบบคุณก็ใช่แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าอาจารย์หน้าเก่าอย่างอาจารย์โนลแล้วก็อาจารย์อายะยังมีเอกสารที่ต้องไปจัดการอยู่นะคะ~”

 

“เป็นอาจารย์ใหม่นี่โชคดีจังเลยนะคะ~”

 

ซึ่งคำพูดของเอริซาเบธนั้นทำให้อาจารย์สาวผมสีม่วง หรือที่มีชื่อว่า อาจารย์อายะ นั้นก็พูดหยอกอาจารย์ผมสีขาวที่เป็นอาจารย์หน้าใหม่อย่างอารมณ์ดี

 

ก่อนที่เหล่าอาจารย์ตัดสินนั้นจะสังเกตเห็นว่านักเรียนทั้งหกคนในสนามสอบนั้นกำลังพักรบกันชั่วคราวเพื่อตรวจสอบอาการของโมโกะกับเซซิลที่โดนระเบิดเข้าไปอยู่

 

“เฮ้อ… ก็ไม่นึกว่าจะต้องทำงานเลยตั้งแต่วันแรกแบบนี้หรอกนะ… เอาเป็นว่าฉันขอไปเตรียมอุปกรณ์ที่ห้องพยาบาลก่อนละกัน…”

 

“เพิ่งจะมาแค่วันแรกก็เจองานด่วนเข้าแล้วนะครับ ถ้ายังไงก็รบกวนด้วยละกันนะครับ”

 

“เหนื่อยหน่อยนะคะ~”

 

“โชคดีน๊า~”

 

 

“พอสู้ไม่ได้ก็เลยระเบิดตัวเองเนี่ยนะ ยัยบ้านี่เอาจริงดิ…”

 

ทางด้านอัลเบิร์ตที่รีบวิ่งกลับเข้าไปในสนามสอบหลังจากที่เขาถอนตัวออกมาเฝ้าดูอยู่ที่ด้านนอกนั้นก็พูดขึ้นมาแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนที่เขาจะก้มลงไปตรวจดูอาการของโมโกะที่นอนสลบอยู่

 

“แค่สลบไปแต่ว่าไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก… เดี๋ยวฉันพาไปห้องพยาบาลให้เอง ส่วนพวกนายก็สู้กันต่อไปก่อนละกัน เพราะพวกอาจารย์เขายังไม่ได้ประกาศให้ยุติการสอบเลยนี่”

 

“เรื่องสอบจะเป็นไงก็ช่างมันสิ! หนูจะตามโมโกะจังไปที่ห้องพยาบาลด้วย!!”

 

พรีมูล่าที่ได้ยินว่าการสอบนั้นยังไม่ยุติก็พูดขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอไม่สนใจเรื่องการสอบอีกต่อไปแล้ว ซึ่งอัลเบิร์ตก็เหลือบไปมองเธอเล็กน้อยแต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนที่เขาจะอุ้มโมโกะที่นอนสลบอยู่ขึ้นมาและหันไปถามอาการของเซซิลแทน

 

“งั้นก็เดินตามมาละกัน แล้วเธอยังเดินไหวหรือเปล่าเซซิล?”

 

“ไหว…”

 

เซซิลที่ได้คนช่วยยกร่างของโมโกะออกไปจากตัวเธอก็ยันร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นยืนและเดินไปเก็บดาบคาตานะของตนที่ตกอยู่ไม่ไกลกลับมาใส่ฝักดาบ ก่อนจะหันไปมองนากาที่เธอยังไม่ได้เตะเขาคืนเลยแม้แต่ทีเดียวและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอาฆาต

 

“รอบหน้าฉันจะมาเอาคืนแน่…”

 

“เจ้าชายของเธอเขาไม่หนีไปไหนหรอกน่า รีบๆ ไปกันได้แล้ว!”

 

“ว่าไงนะ…!”

 

เมื่ออัลเบิร์ตเห็นว่าเซซิลนั้นมัวแต่จ้องมองนากาแบบตาไม่กะพริบ เขาก็พูดขึ้นมาก่อนจะออกเดินนำไปในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้เซซิลหันไปมองเขาตาขวาง

 

แต่ว่าเมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังอุ้มคนเจ็บอยู่ เธอก็ตัดสินใจจะเก็บเรื่องนี้ไปคิดบัญชีทีหลัง และเดินตามเขาไปยังประตูของห้องพยาบาลทางฝั่งสนามหญ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้นักเรียนที่บาดเจ็บจากการฝึกซ้อมไม่จำเป็นต้องอ้อมเข้าไปทางด้านในของอาคารเรียน

 

“อ่ะ— จริงด้วย! ของขวัญของคุณแม่!”

 

ทันใดนั้นเองพรีมูล่าที่กำลังจะออกเดินตามอัลเบิร์ตไปก็ได้ร้องขึ้นมาเสียงดัง ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งไปเก็บด้ามมีดสีเงินของเธอกลับขึ้นมาห้อยไว้ที่ข้างเอวอย่างทะนุถนอม

 

แต่ว่าเมื่อพรีมูล่าเงยหน้ากลับขึ้นมาเธอก็ไม่พบกับอัลเบิร์ลและเซซิลที่เดินหายเข้าไปในห้องพยาบาลซะแล้ว ทำให้เธอได้แต่เดินกลับมารวมกลุ่มกับพี่ชายของเธอแทน

 

และเมื่อนากาเห็นว่าคนเจ็บทั้งสองคนได้เข้าไปรับการรักษาในห้องพยาบาลแล้ว เขาก็หยิบดาบเปื้อนเลือดของตนขึ้นมาถืออีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเอ่ยปากท้าทายรีซาน่าที่เหลืออยู่คนเดียวขึ้นมาทันที

 

“เอาล่ะ! งั้นก็มาเริ่มการสอบกันต่อดีกว่า!!”

 

ปั้ง! ฟูวววววว

 

แต่ว่ายังไม่ทันที่นากาจะได้พุ่งเข้าไปสู้กับรีซาน่าที่มีท่าทางลนลานหลังจากพบเธอเหลืออยู่ตัวคนเดียวแล้ว ก็ได้มีเสียงปืนที่เบากว่าปกติมากดังขึ้นมาพร้อมๆ กับที่มีก้อนคริสตัลวิซขนาดเล็กๆ ที่ปล่อยควันสีแดงออกมาเป็นทางยาวพุ่งผ่านหน้าเขาไปซะก่อน

 

ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีเสียงของเอริซาเบธที่ถือปืนสั้นกระบอกหนึ่งไว้ในมือและกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาจากทางอาคารเรียนดังขึ้นมา

 

“การสอบรอบพิเศษจบลงแล้วจ้า~ พวกเธอทุกคนทำได้ดีมาก~”

 

“งั้นก็เหลือแค่รอฟังผลตัดสินสินะ…”

 

นากาที่กำลังโบกมือไปมาไล่ควันสีแดงหนาทึบเบื้องหน้าของเขาอยู่พูดขึ้นมาพลางมองเอริซาเบธที่จงใจยิงสัญญาณควันนั่นตัดหน้าเขาอย่างหน่ายๆ

 

ซึ่งรีซาน่าที่ได้ยินคำพูดของเขาเข้าก็พยายามที่จะพูดให้กำลังใจออกมาด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ไม่เหมือนกับตอนที่เธอไล่หวดพรีมูล่าด้วยขวานศึกอันใหญ่ของเธอเลยแม้แต่น้อย

 

“ฉ—ฉันคิดว่าคงจะผ่านได้ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะคุณนากามูระ… ถ้าเกิดเป็นฉันที่เป็นฝ่ายเข้าสอบคงจะน่าเป็นห่วงมากกว่าอีก…”

 

“ก็นะ พวกฉันฝึกกันมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะเลยนี่นา… ถึงจริงๆ ฉันจะฝึกมาได้แค่วันสองวันแถมยัยพรีมูล่ายังไม่ได้ฝึกสักนิดเลยด้วยซ้ำก็เถอะนะ…”

 

นากาพูดขึ้นมาพลางขยี้หัวของพรีมูล่าที่กำลังจับด้ามมีดสีเงินในมือของเธอพลิกไปมาเพื่อสำรวจดูว่ามันเสียหายตรงไหนหรือเปล่าหลังจากที่มันตกลงบนพื้นไปในระหว่างการสอบ

 

ก่อนที่เขาจะพูดให้กำลังใจรีซาน่าที่เหมือนจะกำลังจิตตกเพราะไม่มั่นใจในฝีมือของตนขึ้นมาบ้าง

 

“ถึงการโจมตีของเธอจะช้าไปหน่อยเพราะว่าอาวุธที่เธอใช้ก็เถอะ แต่ว่าไล่ต้อนยัยนี่ให้จนมุมได้แบบนั้นเธอก็ฝีมือใช่ย่อยเหมือนกันนี่รีซาน่า ถ้าเกิดว่าฉันไม่ได้เข้าไปช่วยไว้มีหวังยัยนี่แพ้ไปแล้วล่ะ”

 

“อ—เอ๋ะ?”

 

“อีกอย่างวิธีป้องกันตัวจากการโจมตีระยะไกลของเธอก็ไม่ได้แย่เลยนะ ใช้ความร้อนใส่จนมันสลายไปแบบนั้นน่ะ ถึงจะไม่รู้ว่าใช้ได้ผลเฉพาะกับกระสุนธาตุน้ำแข็งหรือเปล่าก็เถอะ แต่ว่ายังไงก็ดูดีกว่าฉันที่ได้แต่ปัดกระสุนไปมาแล้วแน่ๆ ล่ะ”

 

“ง—งั้นหรอคะ…”

 

รีซาน่าที่ได้ยินนากาเอ่ยปากชมเธอขึ้นมาแบบนั้นก็หน้าแดงก่ำและก้มหน้าลงแบบเขินๆ ก่อนที่พรีมูล่าซึ่งสงสัยอะไรมาได้สักพักหนึ่งแล้วจะเอ่ยปากถามเอริซาเบธขึ้นมา

 

“จะว่าไป พี่เอริเขาใช้วิซเคลือบไว้บนอาวุธจนไม่เป็นอันตรายแล้วไม่ใช่หรอ แบบนั้นต่อให้หนูถูกฟันขึ้นมาจริงๆ ก็คงไม่บาดเจ็บหรอกใช่มั้ยอ่ะ?”

 

“อยู่ที่โรงเรียนก็เรียกฉันว่าอาจารย์เอริซาเบธสิพรีมูล่า~ อีกอย่างคริสตัลที่ฉันใช้มันก็ไม่ใช่แค่เคลือบไว้เพื่อลบคมของอาวุธด้วยนะ ถ้าเกิดว่าเป็นการโจมตีที่รุนแรงหน่อยก็จะทำให้อีกฝ่ายกระเด็นออกไปด้วยน่ะ แล้วถ้าเกิดเป็นการโจมตีที่น่าจะอันตรายเกินไปฉันก็สามารถหยุดมันได้ก่อนด้วย~”

 

ซึ่งคำตอบของเอริซาเบธนั้นก็ถึงกับทำให้พรีมูล่าหันไปมองนากาด้วยแววตาแพรวพราวและเอ่ยปากล้อเลียนเขาขึ้นมาในทันที

 

“นี่พี่นากาเขาไม่รู้ใช่มั้ยเนี่ย ถึงได้ตาลีตาเหลือกรีบเข้ามาช่วยหนูแบบแบบนั้นน่ะ~”

 

หมับ—

 

แต่แล้วเมื่อนากาได้ยินพรีมูล่ายิ้มแป้นพูดออกมาแบบนั้น เขาก็รีบเอามือปิดปากน้องสาวตัวแสบของเขาเอาไว้ในทันที ก่อนที่เขาจะหันหน้าหนีเอริซาเบธที่กำลังยืนเอามือป้องปากยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เขามา

 

“เห~ เป็นห่วงน้องสาวหรอจ๊ะนากาคุง~”

 

“จะว่าไปตอนนั้นคุณนากามูระถึงกับกระโดดถีบฉันจนกระเด็นเลยนี่นะคะ… เอาจริงๆ ฉันก็ยังเจ็บอยู่เลยนะคะเนี่ย”

 

รีซาน่าที่ได้ยินแบบนั้นก็นึกถึงตอนที่เธอกำลังจะจัดการพรีมูล่าได้แต่โดนนากากระโดดถีบเข้าเต็มเปาขึ้นมาซะก่อน จึงได้พูดขึ้นมาพร้อมๆ กับลูบสีข้างของเธอเล็กน้อย ซึ่งเอริซาเบธก็เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะฉวยโอกาศพูดจาล้อเลียนเขาขึ้นมาทันที

 

“ตายแล้ว~ นี่เป็นห่วงน้องสาวจนหน้ามืดตามัวลืมไปว่าเวลาฝึกเขามีการใช้คริสตัลป้องกันเพื่อความปลอดภัยเอาไว้ก็เลยกระโดดถีบผู้หญิงคนนึงจนกระเด็นเลยหรอเนี่ย~”

 

“ง—เงียบน่า!! ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจะไปรู้ได้ไงล่ะว่าคริสตัลของเธอมันทำได้ถึงขนาดนั้นน่ะ! อีกอย่างนึงขวานอันใหญ่ขนาดนั้นต่อให้ไม่มีคมก็เถอะแต่ถ้าโดนฟาดเข้าไปก็น่าจะเจ็บไม่ใช่หรือไงน่ะ!!”

 

นากาที่เริ่มจะหน้าแดงหลังจากถูกเอริซาเบธหยอกเล่นไปนั้นก็รีบหาข้ออ้างขึ้นมาเถียงกลับไปในทันที แต่ว่าเอริซาเบธที่ได้ยินคำพูดของนากานั้นกลับเลิกคิ้วออกมาอย่างแปลกใจ

 

“…ครั้งแรก? ไม่ใช่ว่าพวกเธอก็น่าจะเคยใช้มาก่อนตอนเรียนอยู่ในโรงเรียนที่หมู่บ้านไม่ใช่หรอ?”

 

“มีซะที่ไหนล่ะ! ตอนอยู่ที่หมู่บ้านพวกฉันแทบจะต้องเหลาดาบไม้มาใช้กันเองเลยซะด้วยซ้ำ!”

 

“ช่าย~ โรงเรียนที่หมู่บ้านเขามีให้แค่คริสตัลสำหรับฝึกธาตุประจำตัวกันคนละไม่กี่ชิ้นเองอ่ะ”

 

“แปลกแฮะ… เรื่องนั้นน่าจะดำเนินการกันไปตั้งนานแล้วนี่นา…”

 

เอริซาเบธที่ได้ยินสองพี่น้องตอบกลับมาเหมือนกับว่าโรงเรียนของพวกเขาที่หมู่บ้านนั้นแทบจะไม่มีอะไรที่จำเป็นสำหรับการเรียนในด้านวิซนี่เลย ก็ได้หยุดหางของเธอที่กำลังส่ายไปส่ายมาพลางยกมือขึ้นกอดอกและพึมพำอะไรบางอย่าง ซึ่งนากานั้นก็ชะงักไปและเอ่ยปากถามเธอด้วยความสงสัย

 

“ทำไมหรอเอริซาเบธ? ขนาดที่บ้านของเอริกะก็ยังไม่มีคริสตัลอะไรแบบนั้นใช้เลยนะ ที่หมู่บ้านของพวกฉันจะไม่มีมันก็ไม่แปลกไม่ใช่หรอ?”

 

“ที่บ้านของคุณเอริกะจะไม่มีก็ไม่แปลกหรอก~ เพราะว่ามันใช้งานค่อนข้างยากน่ะ… แล้วคุณเอริกะก็เอาแต่พูดว่า ‘ถ้าจะให้ฉันเสียเวลามาฝึกใช้มัน สู้ให้ฉันไปสร้างอาวุธสำหรับฝึกมาให้พวกเธอเลยยังจะเร็วกว่าอีก’ อะไรราวๆ นั้นมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ”

 

เมื่อได้ยินคำถามของนากาเข้า เอริซาเบธก็รีบปรับสีหน้าของตนให้ร่าเริงและพูดติดตลกขึ้นมาแทน ก่อนที่เธอจะหันไปมองดูสนามสอบที่เละไปบางส่วนนั้นและพูดขึ้นมา

 

“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปตามพิเน๊ะให้มาจัดการสนามสอบนี่ก่อนดีกว่า หวังว่าเธอจะยังอยู่ที่โรงอาหารนะ…”

 

“อ่า… ถ้างั้นเดี๋ยวพวกฉันไปดูอาการของโมโ—-”

 

“นี่ๆ พี่นากา! พวกไปที่โรงอาหารกันเถอะ!”

 

ยังไม่ทันที่นากาจะเอ่ยปากขอตัวไปดูอาการของโมโกะเสร็จ พรีมูล่าที่ได้ยินคำว่าอาหารเข้าไปก็เขย่าแขนของนากาอย่างตื่นเจ้นจนเขารู้สึกเหมือนกับว่าแขนของตนจะหลุดออกมาให้ได้

 

“…นี่เธอไม่เป็นห่วงโมโกะบ้างหรือไงน่ะหะ?”

 

“ยังไงโมโกะจังเขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้หนูหิวแล้วอ่ะ! พวกเราไปที่โรงอาหารกันเถอะนะพี่นากา~”

 

“อ–เอ่อ… เดี๋ยวฉันไปดูอาการของคุณโมโกะเขาให้เองก็ได้ค่ะ พวกคุณนากามูระเพิ่งจะสอบเสร็จแบบนี้ไปพักหาอะไรทานกันที่โรงอาหารกันน่าจะดีกว่านะคะ…”

 

ทันใดนั้นเองรีซาน่าก็ได้พูดขึ้นมาเมื่อได้ยินพรีมูล่าบอกว่าเธอหิวแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกตนอย่างสุภาพมาสักพักหนึ่งแล้วได้พูดขึ้นมาบ้าง

 

“เธอเรียกฉันว่านากาเฉยๆ ก็ได้ แล้วไม่ต้องเติมคำว่าคุณนำหน้าด้วย… ได้ยินคนอื่นเรียกแบบสุภาพแบบนี้ชักจะเข้าใจที่เอริซาเบธบ่นขึ้นมาเมื่อตอนนั้นแล้วสิ…”

 

“อ—อ่ะ ก็ได้แหละค่ะ น—นากาคุง…”

 

รีซาน่าก้มหน้าลงอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประหม่าเหมือนกับว่าทำตัวไม่ถูกเมื่อได้ยินนากาพูดขึ้นมาแบบนั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาเลิกคิ้วถามเธอกลับไปด้วยความสงสัย

 

“หืม? เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะรีซาน่า?”

 

“แหม~ แถวนี้นี่มันร้อนจังเลยน๊า~ พวกเราไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มกันที่โรงอาหารกันดีกว่าเนอะพรีมูล่า~ เอาไว้พวกเธอจีบกันเสร็จเมื่อไหร่ก็ค่อยตามไปละกันนะ~”

 

“อื้อ~!”

 

ทันใดนั้นเองเอริซาเบธก็พูดขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือเข้าไปควงแขนพรีมูล่าด้วยท่าทีกะหนุงกะหนิง ก่อนจะพาพรีมูล่าเดินไปทางโรงอาหารที่อยู่สุดปลายถนน ซึ่งนากาที่ได้ยินคำพูดล้อเลียนของเอริซาเบธนั้นก็หันไปมองเธอตาขวางและออกวิ่งตามพวกเธอไปในทันที

 

“พูดแบบนั้นหมายความว่าไงน่ะเอริซาเบธ! กลับมานี่เลยนะ!!”

 

“ว๊าย~ รีบวิ่งเร็วพรีมูล่า นากาเขาวิ่งตามมาแล้ว!”

 

“ว๊ายยยย~”