ตอนที่ 49 ผมอยากตาย

เสียงของผู้ชายคนนี้แหบราวกับเป็ด และกว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้แต่ละคำก็แสนจะยากลำบาก
หลินหนานกับเหยาไห่หันหลังกลับไปมองพร้อมกัน และพบว่ามีชายหนุ่มสองคนกับหญิงสาวอีกหนึ่งคนยืนอยูู่
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายมือนั้นรูปร่างไม่สูงนัก แม้เนื้อตัวของเขาจะสวมใส่แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ไม่อาจบดบังร่างเจ้าเนื้อของเขาไว้ได้ และดวงตาคู่นั้นดูเหมือนจะฉายแววขุ่นเคืองใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ต่างก็รู้สึกอึดอัด
ส่วนชายหนุ่มอีกคนนั้นรูปร่างสูงมาก สวมแว่นตา และดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น สายตาของเขาที่มองผู้คนนั้นก็บ่งบอกถึงความเย็นชา เหยียดหยัน และหยิ่งผยอง ประหนึ่งว่าตนเองเป็นบุคคลสำคัญอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
ส่วนหญิงสาวที่อยู่ในชุดกี่เพ้านั้น รูปร่างของเธอสวยงามอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียวขาสีขาวดุจหิมะทั้งสองข้าง เสียแต่ใบหน้าที่ที่บึ้งตึง และดูราวกับโกรธเกลียดคนทั้งโลก
“ผู้ชายตัวอ้วนนั่นชื่อว่าหวังชางหยาง เป็นคุณชายของตระกูลหวัง ส่วนคนข้างๆคือถังจินซ่ง เป็นลูกชายคนโตของตระกูลถัง ส่วนผู้หญิงนั่น.. ผมเองก็ไม่รู้จัก อาจจะเป็นแฟนใหม่ของหวังชางหยางก็ได้!” เหยาไห่กระซิบบอกหลินหนาน
หลินหนานพยักหน้ารับรู้..
ความจริงเหยาไห่ไม่จำเป็นบอกอะไรกับหลินหนานก็ได้ แต่เขาต้องการแสดงออกว่า ไม่ได้เห็นหลินหนานเป็นคนนอก
และในเวลานั้น ชายหนุ่มทั้งสองและหญิงสาว ต่างก็เดินตรงเข้ามาหาเหยาไห่
“สวัสดีครับคุณชายหวัง คุณชายถัง.. ยินดีต้อนรับสู่โกลเดนพาเลซ” เหยาไห่เอ่ยทักทายด้วยสีหน้าท่าทางปกติ ไม่เย่อหยิ่ง แต่ก็ไม่ถ่อมตนเช่นกัน
อีกอย่าง.. ในเมื่อนี่เป็นธุรกิจ เหยาไห่จึงไม่สามารถเมินเฉยต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในคลับแห่งนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น โกลเดนพาเลซแห่งนี้ ก็ได้รับการสนับสนุนมากมายจากทายาทแห่งตระกูลดังทั้งสองของเจียงไฮวนี้ด้วย
ฉะนั้น ด้วยฐานะที่สูงส่งของชายหนุ่มทั้งสองคน ต่อให้เหยาไห่จะรู้สึกเช่นใด แต่พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นเสมือนเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งของโกลเดนพาเลซ
“เหยาไห่! หมอนี่เป็นใครกัน?!! คุณถึงกับต้องมาต้อนรับมันด้วยตัวเองแบบนี้..” หวังชางหยางร้องถามพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
ในสายตาของเขา หลินหนานดูไม่มีสง่าราศี และไม่มีเกียรติมากพอที่เหยาไห่จะต้องออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเช่นนี้ นั่นเพราะหลินหนานไม่เพียงแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ากระจอกๆเชยๆ แต่ยังจัดว่าเข้าขั้นบ้านนอกมากเลยทีเดียว
พูดง่ายๆก็คือว่า.. การแต่งกายของหลินหนานนั้น ไม่เหมาะสมที่จะมาอยู่ในสถานที่หรูหราอย่างโกลเดนพาเลซเลยแม้แต่น้อย!
เหยาไห่ถึงกับสะดุ้งตกใจ เขาได้แต่คิดในใจว่า ขืนเด็กหนุ่มคนนี้ยังพูดจาเช่นนี้อีกล่ะก็ คงต้องสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับหลินหนานเป็นแน่!
แม้ตระกูลหวังจะร่ำรวย แต่ก็นับเป็นเศรษฐีใหม่ ซึ่งนอกจากทรัพย์สินเงินทองแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นมากกว่านั้น
หากเทียบกับหลินหนานซึ่งมีกำลังภายในสูงส่ง ยังห่างไกลนักที่ตระกูลหวังจะอาจหาญท้าทายได้!
และแทบไม่ต้องรอให้เหยาไห่อ้าปาก หลินหนานก็เป็นฝ่ายตอบกลับไปด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ผมก็แค่คนธรรมดาๆ ไม่มีค่าอะไรให้คนอื่นต้องรู้จัก..”
ได้ยินคำพูดของหลินหนาน เหยาไห่ก็เข้าใจได้ทันที.. ยอดฝีมือมักถ่อมตน และชอบปกปิดฐานะที่แท้จริงของตัวเอง
“เขาเป็นเพื่อนของผมเองครับ มาที่นี่เพื่อต้องการพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น..” เหยาไห่เอ่ยตอบกลับไป
“เหยาไห่.. คืนนี้พวกเราจะเหมาโชว์ จัดการไล่พวกหมาแมวออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว!”
คุณชายถังเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา และนี่ย่อมหมายความว่า หลินหนานก็ไม่เว้นเช่นกัน!
หลินหนานไม่โต้ตอบ ส่วนเหยาไห่ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่พอใจนัก..
“มีปัญหาอะไร? จะต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่? ยี่สิบล้านพอมั๊ย?” ถังจินซ่งยืนกอดอกพร้อมกับถามเสียงดัง
“คุณชายถังครับ เรื่องนี้ผมคงต้องของปรึกษากับเถ้าแก่หลิวก่อน..” เหยาไห่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียง และสีหน้าเย็นชา
ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่าถังจินซ่งจะเรื่องมากถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิด และค่อนข้างไม่พอใจกับคำพูดคำจาของคุณชายถังอย่างมาก
“ผมไม่สนใจว่าคุณจะไปปรึกษาใคร.. ฐานะของพวกเราสูงส่ง จะให้มานั่งรวมกับคนชั้นต่ำแบบนี้ได้ยังไงกัน?!” ถังจินซ่งเบ้ปากในขณะที่ตอบกลับเหยาไห่
และคำพูดของคุณชายถังนั้น ก็ดูเหมือนว่าจงใจที่จะพูดใส่หน้าหลินหนาน และจงใจดูถูกเหยียดหยามเขาเสียมากกว่า
“คุณชาย..”
ระหว่างที่เหยาไห่กำลังจะตอบโต้กลับไปนั้น หลินหนานก็รีบพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เอาน่าๆ อย่าโมโหไปเลย ธุรกิจก็แบบนี้ล่ะ..” หลินหนานพูดไปก็หัวเราะไป
หากจะพูดไปแล้ว.. เหยาไห่รู้สึกสมเพชถังจินซ่งมากกว่า แม้จะเป็นถึงทายาทของตระกูลที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้มีความรู้ความสามารถอะไร หากไม่ใช่เพราะมีครอบครัวที่ดี และมีพ่อแม่ที่ร่ำรวยแล้วล่ะก็ ถังจินซ่งยังเทียบไม่ได้กับพนักงานในโกลเดนพาเลซเลยด้วยซ้ำไป..
อย่างน้อย.. พนักงานที่นี่ก็สามารถทำงานหาเงินใช้เองได้!
“ทำไม?!! ผมพูดอะไรผิดงั้นเหรอ?!!”
ถังจินซ่งหันไปถามเหยาไห่ด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ และยังพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาเย้ยหยัน
“อาไห่.. คุณเองก็เหมือนกัน! ทุกวันนี้ก็เดินตามหลังเถ้าแก่หลิวต้อยๆไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง ในเมื่อเป็นสุนัขรับใช้ ก็ตั้งใจทำงานให้ดีๆหน่อยสิ..”
หวังชางหยางเอื้อมมือไปโอบกอดแฟนสาว พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันไม่ต่างกัน “นั่นน่ะสิ! เป็นแค่สุนัขรับใช้ แต่กลับผยองคิดตีตนเสมอมนุษย์!”
เหยาไห่โกรธจนหน้าเขียวคล้ำ เขากำหมัดแน่น พร้อมกับกัดฟันกรอด..
“ทำไม?!! ทำท่าทางแบบนั้น คิดจะทำร้ายฉันหรือยังไง?”
ถังจินซ่งเดินตรงเข้าไปหาเหยาไห่ พร้อมกับตะคอกใส่หน้าว่า “เชื่อมั๊ยว่า.. ฉันพูดเพียงแค่คำเดียว ที่นี่จะไม่ได้เปิดอีกเลย!”
“หึ!! อย่าว่าแต่โกลเดนพาเลซที่เป็นแค่คลับเล็กๆเลย ต่อให้ใหญ่กว่านี้สองสามเท่า พวกเราก็ทำให้ปิดได้!” หวังชางหยางตอบกลับด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
“ถ้าไม่เชื่อ.. อยากจะลองดูก็ได้นะ!”
เหยาไห่ได้แต่กำหมัดแน่น และเวลานี้เขาก็หมดความอดทน และกำลังจะขยับกำปั้นกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของถังจินซ่ง
ถังจินซ่งซึ่งเห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงของเหยาไห่ ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ ‘หมอนี่มันกล้าทำฉันจริงๆเหรอ?!’
หลินหนานที่เห็นเหยาไห่ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว จึงรีบยื่นมือออกไปคว้าแขนของเขาไว้ทันที และไม่นานนัก หมัดที่กำแน่นของเหยาไห่ก็คลายออก
เกือบไปแล้ว!
นี่เหยาไห่มันตั้งใจจะฆ่าถังจินซ่งเชียวเหรอ?
“คุณชายหลิน.. ทำไม..” เหยาไห่หันไปถามหลินหนานด้วยสีหน้างุนงง
“ถ้าเรื่องแค่นี้ยังอดทนไม่ได้ จะทำการใหญ่ได้ยังไง?” หลินหนานกระซิบบอกเสียงเบา
เหยาไห่พยักหน้าเล็กน้อย และถอยหลังกลับไปทันที ถังจินซ่งรู้สึกว่าแรงกดดันน่ากลัวเมื่อครู่ได้มลายหายไปแล้ว ใบหน้าซีดขาวผอมแห้งของเขาเปลี่ยนเป็นโล่งใจขึ้นมาทันที แต่ปากก็ไม่วายร้องตะโกนออกไป พร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าเหยาไห่
“อาไห่.. นี่แกคิดที่จะทำร้ายร่างกายฉันเหรอ?”
“บัดซบ! ถ้าแกกล้าทำจริงๆ ก็ลองดู!!”
หลินหนานเป็นฝ่ายก้าวเดินออกไปขวางไว้ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับฝ่ามือของถังจินซ่งไว้และยกขึ้น ปากก็พูดออกไปว่า
“พี่ชาย.. เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่า..”
ระหว่างที่สนทนากับถังจินซ่งอยู่นั้น นิ้วมือของหลินหนานก็จี้ไปที่จุดฝังเข็มใต้รักแร้ของเขาอย่างรวดเร็ว
แต่เหยาไห่ก็สามารถมองเห็นการกระทำของหลินหนานได้อย่างชัดเจน!
“เข้าใจผิดงั้นเหรอ? แล้วนี่มันเรื่องอะไรของแก? แกกล้าดียังไงถึงได้มาจับมือไม้ฉันแบบนี้? สกปรก.. เป็นโรคติดต่อบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้?!!”
ถังจินซ่งรีบกระชากมือของตนเองกลับมา ก่อนจะคว้าผ้าร้อนที่วางอยู่บนถาดข้างตัวขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดอย่างนึกรังเกียจ
“คุณชายรู้ได้ยังไง? ผมเป็นโรคผิวหนังจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็เป็นโรคติดต่อด้วย..” หลินหนานแสร้งทำเป็นยกมือขึ้นเกาศรีษะอายๆ
ถังจินซ่งรีบคว้าผ้าอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งแล้วครั้งเล่า บ่งบอกว่าเขารู้สึกรังเกียจ และขยะแขยงหลินหนานมากเพียงใด
“นี่คุณ.. ผมไม่เป็นโรคผิวหนังสักหน่อย! ผมแค่ล้อเล่น..” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ
ได้ยินเช่นนั้น ถังจินซ่งก็หยุดเช็ดมือทันที แล้วหันกลับไปจ้องหลินหนานด้วยสายตาเย็นชา
“ฉันเพื่อนเล่นแกหรือไง?”
หวังชางหยางดูเหมือนจะโกรธมากกว่าถังจินซ่งเสียอีก เขาเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อหลินหนาน พร้อมกับตวาดใส่หน้า
“ไอ้บัดซบ! แกทำอย่างนี้อยากตายมากหรือไง?”
“ใช่ครับ.. ผมอยากตาย!” หลินหนานพยักหน้า และตอบกลับไปด้วยสีหน้าจริงจัง

******

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!