ตอนที่ 50 ฉวยโอกาส

อยากตายงั้นเหรอ?!
หวังชางหยางถึงกับงุนงง.. เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ที่ผ่านมาเขาเองพบเจอคนยะโสโอหังมาก็ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยเจอคนยะโสโอหังเหมือนเช่นหลินหนานมาก่อน
“ได้!! ถ้าแกอยากตาย วันนี้ฉันก็จะสงเคราะห์ให้!”
หวังชางหยางเดินโยกย้ายร่างเจ้าเนื้อของตนเองเข้าไปหาหลินหนาน และได้แต่คิดในใจว่า ‘ถ้าวันนี้ฉันไม่จัดการแกให้หนัก ต้องเสียชื่อฉันแน่!’
แต่หลินหนานกลับเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น..
“วันนี้คุณชายหวังไปกินรังแตนจากที่ไหนมานะ?”
เสียงนุ่มนวลมีเสน่ห์ดังขึ้นขัดจังหวะ ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจน หวังชางหยางถึงกับหยุดชะงักในทันที และรีบหันหลังกลับไปมองทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
หลิวหยิงหยิง – ปีศาจจิ้งจอกสาวเดินบิดสะโพกเข้ามาอย่างเชื่องช้า ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการเดิน น้ำเสียงในการพูดจา ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์เย้ายวนอย่างที่สุด ทุกคนในที่นั้นได้แต่ยืนนิ่งไปด้วยความตกตะลึง
“เถ้าแก่หลิว..”
หวังชางหยางถึงกับคลายหมัดที่กำออกทันที และรีบส่งยิ้มให้กับหลิวหยิงหยิง แม้จะไม่สามารถปกปิดไฟปรารถนาในใจไว้ได้ แต่หวังชางหยางก็ไม่กล้าทำอะไรที่เกินเลย หรือเปิดเผยไปนัก
ส่วนถังจินซ่งนั้น ถึงกับเปลี่ยนท่าทีจากชายหนุ่มยะโสโอหัง มาเป็นสุภาพบุรุษในทันที
ดูเหมือนจะมีเพียงหลินหนานเท่านั้นที่ยังคงควบคุมตัวเองได้ดีอยู่ แม้ว่าสายตาของเขาจะจับจ้องอยู่ที่ต้นข้าทั้งสอง และเนินอกขาวผ่องของหลิวหยิงหยิงอยู่นาน แต่ก็ไม่มีท่าทีเคลิบเคลิ้มเลยแม้แต่น้อย
หลินหนานยังคงจ้องมองอย่างเปิดเผย..
หลิวหยิงหยิงอยู่ในโกลเดนพาเลซมานาน และได้พบเห็นผู้คนมามากมายหลายประเภท ทั้งนักการเมือง คนในโลกธุรกิจสีเทา นักเลง หรือแม้แต่นักธุรกิจใหญ่โต และไม่ว่าใครที่ได้พบเห็นหลิวหยิงหยิง ล้วนต้องสยบให้กับเธอทุกคน!
แต่ถึงแม้ว่าหลิวหยิงหยิงจะใช้ความสวยของตนเองบริหารจัดการธุรกิจนี้มานาน แต่เธอก็ยังไม่เคยยอมตกร่องปล่องชิ้นกับใคร
เพราะความสวยไม่ได้เป็นเพียงแค่อาวุธ แต่ยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่ดีมากอีกด้วย และด้วยความสวยงดงามของหลิวหยิงหยิง ทำให้เธอมั่นใจว่า ไม่ว่าปัญหาอะไร เธอก็สามารถจัดการสะสางได้หมด..
คนมีชื่อเสียงหลายคนในเมือง แม้จะกระหายอยากได้หลิวหยิงหยิงมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครกล้า.. เพราะทุกคนต่างก็หวาดกลัวเงาที่อยู่เบื้องหลังของเธอ ซึ่งก็คือเสิ่นวู๋เตา – ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเจียงไฮวนั่นเอง!
แม้ว่าเสิ่นวู๋เตาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขายังคงเป็นที่เลื่องลือ และผู้คนยังคงกล่าวถึงไม่หยุดหย่อน
และเวลานี้ ทั้งเสิ่นวู๋เตาและหลิวหยิงหยิง ก็แทบจะกลืนเป็นคนเดียวกันแล้ว เพราะเมื่อเห็นหลิวหยิงหยิง ทุกคนก็รู้สึกราวกับได้เห็นเสิ่นวู๋เตาไปด้วย!
ด้วยเหตุนี้ ต่อให้ถังจินซ่งและหวังชางหยางจะยะโสโอหังมากเพียงใด และถึงแม้จะเป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยแค่ไหน พวกเขาก็ไม่กล้าทำเกินเลยต่อหน้าหลิวหยิงหยิงเป็นแน่ เพราะแม้แต่คนระดับรุ่นพ่อรุ่นแม่ของพวกเขา ทุกคนยังต้องเรียกขานหลิวหยิงหยิงว่า ‘เถ้าแก่หลิว’ ด้วยท่าทีที่เคารพนบนอบยิ่งนัก
แต่วันนี้ เมื่อหลิวหยิงหยิงได้บังเอิญพบเจอกับหลินหนาน ชายหนุ่มผู้นี้กลับกล้าจ้องมองเธออย่างเปิดเผย ประหนึ่งหมาป่าที่จ้องมองเหยื่ออันโอชะของมัน
หลิวหยิงหยิงรู้สึกว่า.. นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกไม่มั่นใจในความสวยของตนเองว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้!
เธอรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างบนเรือนร่างที่เริ่มไม่สมบูรณ์แบบ และหวาดกลัวว่าจะมีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นให้ทุกคนในที่นี้ได้เห็น
และเมื่อคิดเช่นนี้ สีหน้าของหลิวหยิงหยิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย!
หลิวหยิงหยิง.. นี่เธอเป็นอะไรไป? เพียงแค่ใครบางคนจ้องมองเธอด้วยสายตาเปิดเผยเช่นนี้ เธอถึงกับสูญเสียความมั่นใจขนาดนี้เชียวรึ? อย่าลืมว่าเธอมีฉายากุหลาบแดงแห่งเจียงไฮว!
เสียงร้องเตือนดังขึ้นในใจของหลิวหยิงหยิง เธอจึงได้ปรับอารมณ์ความรู้สึกใหม่ และยิ้มออกมาอย่างสดใสมั่นใจ
ประหนึ่งกุหลาบสีแดงที่กำลังแย้มบาน!
ในเวลานั้น ชายหนุ่มทุกคนล้วนถูกความสวยของหลิวหยิงหยิงครอบงำ ส่วนหญิงสาวต่างก็พากันอิจฉา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนสาวของหวังชางหยาง ถึงกับหน้าแดงเพราะรู้สึกอับอายในความสวยของตนเอง
เห็นแล้วสินะ! ในที่สุดออร่าของกุหลาบแดงก็สามารถควบคุมทุกอย่างได้..
หลิวหยิงหยิงหันไปทางหลินหาน พร้อมกับยกคิ้วสูงขึ้นเป็นการทดสอบอีกครั้ง และครั้งนี้หลินหนานจงใจยิ้มกว้างอย่างหลงใหล
หลิวหยิงหยิงดูเหมือนจะมั่นใจมากยิ่งขึ้น และก้าวเดินตรงข้างหน้าอีกสองสามก้าว..
“สวัสดีครับเถ้าแก่หลิว..”
หวังชางหยางและถังจินซ่งเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายหลิวหยิงหยิงทันที..
“คุณชายหวัง.. คุณชายถัง.. วันนี้มีเวลาว่างเหรอถึงมาเที่ยวเล่นที่นี่ได้!” หลิวหยิงหยิงเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มให้
“ใช่ครับเถ้าแก่หลิว!” หวังชางหยางตอบกลับ และยิ้มประจบราวกับเด็ก
เมื่อเห็นถังจินซ่งนิ่งเงียบไป หลิวหยางหยางจึงได้ถามขึ้นว่า “คุณชายถัง.. ใครทำให้คุณชายถังอารมณ์เสีย?”
“อาไห่น่ะสิครับ!นอกจากจะพูดไม่เข้าหูแล้ว เมื่อครู่ยังเกือบทำร้ายผมด้วย คราวหน้าหวังว่าจะไม่เจอหน้าเขาอีกนะครับ?” ถังจินซ่งตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงอารมณ์ขุ่นมัว
หลิวหยิงหยิงแสร้งทำหน้าตกใจ พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะจนเนื้อตัวสั่น ทำให้หนุ่มๆรอบตัวถึงกับพากันกลืนน้ำลาย หลังจากหัวเราะจนพอแล้ว หลิวหยิงหยิงก็พูดขึ้นว่า
“ฉันควรทำยังไงดีนะ?! อาไห่.. มานี่ซิ!”
เหยาไห่ไม่กล้าขัดคำสั่ง และเดินเข้าไปหาหลิวหยิงหยิงอย่างว่าง่าย.. “ครับพี่หลิว”
“ขอโทษคุณชายถังซะ! เธอเป็นฝ่ายทำให้คุณชายถังไม่พอใจ..” หลิวหยิงหยิงสั่งเหยาไห่
ถึงแม้เหยาไห่จะมีท่าทีที่ไม่เต็มใจนัก แต่ก็ต้องก้มศรีษะลงพร้อมกับเอ่ยขอโทษถังจินซ่ง “คุณชายถัง ผมขอโทษที่ไร้มารยาทไปเมื่อครู่!”
“ไม่เป็นไร.. จบแล้วก็แล้วไป!” ถังจินซ่งขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“เธอทำถูกแล้วอาไห่.. พวกเราทำธุรกิจ ต้องไม่ไปมีเรื่องกับแขก!”
หลิวหยิงหยิงเดินเข้าไปจัดปกเสื้อให้กับเหยาไห่ให้เรียบร้อย พร้อมกับพูดต่อว่า “อาไห่.. เธอเป็นผู้ช่วยของฉัน อีกทั้งยังเป็นคนสนิทของฉันด้วย ถ้ามีใครมาเรียกเธอว่าสุนัข ฉันในฐานะพี่สาวของเธอก็คงไม่เห็นด้วยเหมือนกัน..”
น้ำเสียงของหลิวหยิงหยิงยังคงไม่เปลี่ยนไป..
แต่สีหน้าของถังจินซ่งและหวังชางหยางถึงกับเปลี่ยนไปทันที และเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกขนลุกชันไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
“เถ้าแก่หลิว.. พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นจริงๆ คือพวกเราแค่หยอกเย้าอาไห่เล่นแค่นั้นเองครับ!” หวังชางหยางรีบแก้ตัวทันที
ถังจินซ่งไม่พูดอะไร และแสร้งเหม่อมองไปทางอื่น
“แค่หยอกเย้า?”
หลิวหยิงหยิงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น “ถ้าแค่หยอกเย้าก็ดีไป.. ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องไปรายงานพ่อของใครบางคน ให้อบรมสั่งสอนลูกของตัวเองให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. คนที่ประกาศเสียงดังว่าจะปิดโกลเดนพาเลซ!!”
ปรากฏว่า.. หลิวหยิงหยิงนั้นได้ยิน และได้เห็นทุกอย่าที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมด!
หวังชางหยางถึงกับเหงื่อแตกพลั่กเต็มแผ่นหลัง และรีบระล่ำระลักตอบกลับไปว่า “เถ้าแก่หลิว ก็แค่เรื่องขำๆ หยอกเย้ากันสนุกๆเท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเราขอตัวไปที่ห้องก่อน..”
หลังจากพูดจบ.. หวังชางหยางจึงรีบลากถังจินซ่งไปที่ห้องส่วนตัวของตนเองทันที ส่วนหลินหนานก็ได้แต่นึกแปลกใจ ที่เห็นชายหนุ่มทั้งสองคนหนีไปแบบที่เรียกได้ว่า หางจุกตูดเลยทีเดียว!
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!
เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้แล้ว มิหนำซ้ำยังช่วยกู้หน้าให้กับอาไห่ได้อีกด้วย!
เหยาไห่เม้มริมฝีปากแน่น พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา “ขอบคุณมากครับพี่หลิว!”
“ครอบครัวเดียวกัน.. ยังต้องขอบคุณอะไรอีก? อย่าปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น!” หลิวหยิงหยิงโบกมือไปมา
“ถ้าอย่างนั้นพี่หลิวคุยกับคุณชายหลินไปก่อน ผมของตัวไปทำอย่างอื่นสักครู่!” เหยาไห่หาทางเลี่ยงออกไปอย่างชาญฉลาด
และเวลานี้ก็เหลือเพียงหลิวหยิงหยิงกับหลินหนานเพียงสองคนเท่านั้น!
“สวัสดีค่ะคุณชายหลิน!” หลิวหยิงหยิงเอ่ยทักทายพร้อมกับยื่นมือออกไป
“สวัสดีครับเถ้าแก่หลิว.. วันนี้ผมได้ยินแต่ชื่อคุณ!”
หลินหนานรีบเอื้อมมือออกไปจับฝ่ามือนวลผ่องประดุจหยกขาวนั้นทันที เขาจับอยู่แบบนั้น จับแล้วก็ไม่ยอมปล่อย..
โอ้โห.. นุ่มมาก!
ผิวพรรณก็ดี!
นิ้วมือก็เรียวสวยงาม!
ผู้หญิงคนนี้ใช้ครีมทาผิวยี่ห้ออะไรกันนะ ถึงได้ขาวผ่องขนาดนี้?
หลิวหยิงหยิงได้แต่รู้สึกแปลกใจ ‘ผู้ชายคนนี้ใจกล้านัก ถึงกลับกล้าฉวยโอกาสอย่างเปิดเผย!’