ตอนที่ 51 เลือดในกายพุ่งพล่าน

หลิวหยิงหยิงจ้องมองหลินหนานด้วยแววตาเรียบเฉย ราวกับว่าอีกฝ่ายมิได้กำลังฉวยโอกาสจับมือของเธออยู่
“ฝ่ามือของฉันเป็นยังไงบ้าง?” หลิวหยิงหยิงเอ่ยถามยิ้มๆ
“อืมม.. นุ่มนิ่มแล้วก็ลื่นดี” หลินหนานพยักหน้าหงึกๆ
ต่างฝ่ายต่างก็พยายามควบคุมชีพจรที่เต้นแรงของตนเอง จากนั้นหลิวหยิงหยิงจึงถามขึ้นว่า “คุณชายหลิน.. คุณว่าฉันควรจะฟ้องคุณกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นดีมั๊ยนะ?”
“ไม่.. ผมไม่เห็นด้วย!”
หลินหนานค่อยๆดึงมือของตนเองกลับมา หลังจากที่สัมผัสจนพึงพอใจแล้ว พร้อมตอบกลับไปอย่างหน้าไม่อาย
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้มีเจตนา..”
ระหว่างที่พูดนั้น หลินหนานก็ได้ยกฝ่ามือข้างที่จับมือหลิวหยิงหยิงขึ้นมาสูดดม..
“อ๊า..”
กลิ่นหอมจากฝ่ามือของหลิวหยิงหยิงยังคงติดอยู่ หลินหนานจึงสูดดมไปทุกซอกนิ้วของตนเองอย่างไม่รู้สึกอับอาย จนหลิวหยิงหยิงถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน..
ฉันไม่เคยพบเห็นใครหน้าด้าน แล้วก็ไร้ยางอายแบบนี้มาก่อนเลย!
นี่น่ะเหรอ.. ยอดฝีมือสูงส่งขั้นปรมาจารย์ที่เหยาไห่บอก?
คนแบบนี้น่าจะเป็นปรมาจารย์ด้านลามกอนาจารน่าจะเหมาะกว่า!
หลินหนานได้แต่นึกหยันอยู่ในใจ ‘ดูท่าผู้หญิงคนนี้น่าจะยังฝึกไม่ถึงขั้น ถึงได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาทางสีหน้าแบบนี้!’
“โกลเดนพาเลซเป็นเพียงแค่คลับเล็กๆ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ได้..” หลิวหยิงหยิงพูดขึ้นยิ้มๆ
“ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์อะไรกัน?” หลินหนานแกล้งทำเป็นตีหน้าซื่อ..
แต่หลิวหยิงหยิงกลับไม่ใส่ใจ เธอเอ่ยต่อในทันที “ขอบคุณมากนะคะ..”
“ขอบคุณ?! ขอบคุณผมเรื่องอะไรกัน?!!” หลินหนานย้อนถามพร้อมกับหัวเราะร่วน

“อาไห่ดีทุกเรื่อง.. เว้นอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องอารมณ์พุ่งพล่านของเขา! เมื่อครู่ถ้าอาไห่ลงมือจริงๆ คงต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ และแม้แต่ฉันเองก็คงยากที่จะสะสางได้..”

หลิวหยิงหยิงพูดต่อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ฉันต้องของขอบคุณมากจริงๆ ที่ช่วยห้ามอาไห่ไว้ และช่วยแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าให้!”

“โอ้.. คุณชมผมเกินไปแล้ว!”

หลินหนานยกมือขึ้นเกาศรีษะ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เมื่อครู่เด็กสองคนนั่นก็ทำเกินไปจริงๆ คงยากที่อาไห่จะอดทนกลั้นได้ อย่าคิดมากเลยครับ..”

“คุณชายหลิน.. เลิกเสแสร้งได้แล้ว!” หลิวหยิงหยิงบอกกับหลินหนาน

“ผมเสแสร้งเรื่องอะไรกัน?” หลินหนานยังคงตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้
เวลานี้ ทั้งหลินหนานและหลิวหยิงหยิงต่างก็จ้องมองตากันแน่นิ่ง ต่างฝ่ายต่างก็ทดสอบซึ่งกันและกัน
แต่แล้วจู่ๆ หลิวหยิงหยิงก็เป็นฝ่ายหัวเราะออกมา และบอกกับหลินหนานว่า “คุณชายหลินเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ ย่อมต้องไม่เห็นเด็กหนุ่มทั้งสองนั่นอยู่ในสายตาอยู่แล้ว..”
“ปรมาจง.. ปรมาจารย์อะไรกัน?!! ผมบอกแล้วว่าผมเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อหาหนทางหาเงินเท่านั้นเอง!” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะร่วน
ไม่เลวนี่.. แม่จิ้งจอกสาวเจ้าเล่ห์!
ในใจได้แต่แอบประชดประชันหลิวหยิงหยิง แต่ใบหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้มไม่เปลี่ยน..
“หวังว่าคุณชายหลินจะพอใจกับบริการของทางโกลเดนพาเลซ!” หลิวหยิงหยิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเย้ายวน
“แน่นอน!”
หลินหนานตอบกลับไปสั้นๆ แต่ในใจกลับคิดว่า ‘แต่ถ้าคนสวยอยู่กับฉันด้วย ฉันก็จะยิ่งพอใจมาก!’
“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ!” หลิวหยิงหยิงพูดจบ ก็หันหลังเดินออกไปทันที
“ผมมีคำพูดประโยคหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่?” หลินหนานเห็นหลิวหยิงหยิงกำลังจะเดินจากไป จึงได้แต่ร้องถามขึ้นมา
หลิวหยิงหยิงหยุดชะงัก พร้อมหันกลับมาถามด้วยสีหน้าสงสัย “คำพูดอะไรคะ?”
“เรือเล็กมิอาจต้านทานแรงลม บ่อน้ำล้วนตื่นเขินต่างกัน ฮ่องเต้มิได้มีอยู่เพียงแค่องค์เดียว คุณไม่สามารถทำให้คนทุกคนพึงพอใจได้.. ”
หลังจากที่หลินหนานพูดจบ เขาก็เดินตรงไปยังห้องที่อาไห่จัดไว้ให้ทันที ทิ้งให้หลิวหยิงหยิงยืนนิ่งอึ้ง ประหนึ่งถูกทุบศรีษะด้วยค้อนขนาดใหญ่..
หลิวยหยิงหยิงยืนแน่นิ่งอยู่เช่นนั้นครู่ใหญ่ ร่างบอบบางนั้นสั่นสะท้าน ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มแดงก่ำ ความโศกเศร้าและเหนื่อยล้าพลันพุ่งพล่านขึ้นภายในใจ
ตลอดหลายปีมานี้..
หลังจากที่เขาเสียชีวิตไป.. นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครสักคนเข้าใจความรู้สึกของเธอได้อย่างลึกซึ้ง และคนคนนี้กลับเป็นคนที่เธอเพิ่งได้พบเจอไม่กี่ชั่วโมง
เขาพูดได้ถูกต้อง.. ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้หญิงเพียงลำพังคนเดียว จะบริหารจัดการกับสถานที่เช่นนี้ได้!
หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของเสิ่นวู๋เตา ไหนเลยเธอซึ่งเป็นเสมือนบุหงางาม จะสามารถยืนหยัดรับมือกับคนเจ้าเล่ห์หัวงู และมีอำนาจเหล่านั้นได้!
ทุกคนที่พบเห็นเธอ มีใครบ้างที่สามารถเข้าใจความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวในใจของเธอได้?
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อกดข่มความเศร้าโศกภายในใจ หลิวหยิงหยิงก็หันหลังเดินจากไปทันที!
แต่ก่อนที่จะเดินจากไปนั้น หลิวหยิงหยิงก็ได้แต่เหลือบมองไปยังใบหน้าที่สงบเยือกเย็นของหลินหนาน และพึมพำกับตัวเองว่า
“สามารถอ่านใจคนอื่นๆได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวมากจริงๆ!”
……
ทันทีที่เข้าไปภายในห้องส่วนตัวที่เหยาไห่จัดเตรียมไว้ให้นั้น หลินหนานก็รู้ได้ทันทีว่า เหยาไห่นั้นให้เกียรติเขามากเพียงใด
ห้องส่วนตัวนี้เป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งสามารถมองเห็นเวทีการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน และตกแต่งไว้อย่างหรูหรางดงาม โซฟาและเก้าอี้ภายในบุด้วยหนังชั้นดี มีไวน์และบุหรี่ชั้นเยี่ยมไว้คอยบริการ ด้านหน้ามีจอคอมพิวเตอร์ตั้งไว้หนึ่งเครื่อง
หลินหนานหันไปมองพนักงานหญิงที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าประหลาดใจ เธอแต่งตัวคล้ายกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน รูปร่างสูงโปร่ง มีรอยยิ้มและแววตาที่สดใส สวย สง่า และดูดีกว่าพนักงานเสริฟหญิงในคลับธรรมดาทั่วไปมาก
“สวัสดีค่ะคุณชาย ดิฉันชื่อเหวินลี่ มีหน้าที่คอยให้บริการลูกค้าในห้องหมายเลย 10 นี้ คุณชายจะได้รับการบริการระดับเอ๊กซ์คลูซีฟจากทางคลับของเรา และดิฉันมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าที่บริการคุณชายค่ะ!” หญิงสาวเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับโน้มกายลงต่ำ
“บริการระดับเอ๊กซ์คลูซีฟ?” หลินหนานทวนคำพูดด้วยสีหน้างุนงง
“ใช่ค่ะ! เนื่องจากคุณชายถือบัตรสมาชิกแพลตตินั่มของทางคลับเรา จึงได้รับการบริการระดับเอ๊กซ์คลูซีฟนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการให้ดิฉันให้บริการใดก่อนดีคะ?” เหวินลี่เอ่ยถามหลินหนานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“มีบริการอะไรบ้างล่ะ?” หลินหนานเอ่ยถามทันที
“อะไรก็ได้ค่ะ!” เหวินลี่เอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
“ถ้าอย่างนั้น.. มีบริการพิเศษบ้างมั๊ยครับ?” หลินหนานถามเหวินลี่ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“บริการพิเศษอะไรคะ?!!”
หลังจากเอ่ยถามออกไป เหวินลี่จึงค่อยนึกขึ้นได้ว่า หลินหนานกำลังหมายถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่ ใบหน้าของเธอถึงกับแดงก่ำ เธอเม้มริมฝีปากพร้อมกับตอบหลินหนานไปว่า
“ขอโทษด้วยค่ะคุณชาย ที่คลับของเราไม่มีบริการแบบนั้น!”
“นี่ๆๆ คุณผู้หญิง.. คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ? หน้าตาหล่อเหลาอย่างผมสามารถหาบริการพิเศษอย่างว่าที่ไหนก็ได้!”
หลินหนานรีบตอบโต้หญิงสาวแก้เก้อทันที “ผมหมายถึงบริการอาหารร้อนๆสักชาม แล้วก็มีเพื่อนนั่งคุยเรื่องปรัชญากับชีวิตเป็นเพื่อนไปด้วยต่างหาก”
เหวินลี่ถึงกับหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม และได้แต่แอบคิดในใจว่า ‘เฮ้อ.. แขกคนนี้ดูหน้าซื่อๆ นี่ฉันคิดไปไกลขนาดนั้นได้ยังไง? แย่จริงเลย.. นี่ฉันคิดสกปรกๆกับแขกแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?’
“นี่คือบริการที่คลับของเรามีให้ค่ะ..” เหวินลี่โน้มตัวลงส่งรายการให้กับหลินหนาน
เหวินลี่สวมเพียงแค่เสื้อที่ดูคล้ายกับชุดชั้นในตัวจิ๋ว เมื่อเธอโน้มกายลงแบบนั้น จึงเผยให้เห็นเนินอกสีขาวนวลผ่องสะดุดตา
หลินหนานถึงกับร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาทันที จึงรีบถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “คือผมคอแห้ง.. ไม่ทราบว่ามีนมเย็นๆสักแก้วมั๊ยครับ?”
เหวินลี่ถึงกับชะงัก และได้แต่คิดในใจว่า..
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงต้องการอะไรแปลกๆนัก?
ไม่สั่งแอลกอฮอล์ แต่กลับจะสั่งนมมาดื่ม..
“ได้ค่ะคุณชาย ฉันจะไปนำมาให้เดี๋ยวนี้!”
เหวินลี่เดินไปที่ตู้เย็นภายในห้อง จากนั้นจึงเปิดออกและหยิบเอานมกล่องออกมายื่นให้กับหลินหนาน
หลินหนานรับนมมาเจาะดื่มดับความเร่าร้อนในกายของตนทันที จากนั้นจึงหันไปถามหญิงสาวว่า “การต่อสู้จะเริ่มตอนไหน?”
เหวินลี่หันไปมองนาฬิกาในห้อง แล้วจึงหันไปตอบหลินหนานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ใกล้จะเริ่มแล้วล่ะคุณชาย”
และหลังจากที่เหวินลี่พูดจบ แสงไฟภายในห้องก็ดับลงทันที เสียงกองดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง เสียงกระแทกตึงๆ ของกลองที่ดังขึ้นแต่ละครั้งนั้น ได้ปลุกให้ไฟและเลือดนักสู้ในกายของผู้คนพุ่งพล่านขึ้นในทันที!

******

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

—————–

เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..
******