เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นขึ้นเมื่อหอระฆังเริ่มตีระฆัง สิ่งแรกที่พวกเค้าทำคือเปลี่ยนเสื้อคลุมเป็นสีเทาของพ่อมดฝึกหัดจากนั้นพวกเค้าก็รีบไปที่หอคอยพ่อมดที่หน้าผา

บันไดหินสีขาวนำไปสู่การประชุมเหมือนเส้นทางสู่สวรรค์ ผู้ฝึกทุกคนเงยหน้าขึ้นมองขณะที่พวกเค้าวิ่งไปที่หอคอยและเมื่อพวกเค้ามาถึงจุดสูงสุดพวกเค้าก็หายใจหอบ จะรู้สึกได้ถึงบารมีของหอคอยเมื่อพวกเค้ายืนอยู่ที่จุดสูงสุด!

หอคอยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยมดครึ่งคนนับพันตัว ทำงานทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หยุดพักเลย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคำนวณว่าต้องใช้แรงงานและเวลามากน้อยเพียงใดหากหอคอยถูกสร้างโดยมนุษย์แทน ผู้ฝึกค่อยๆเดินผ่านห้องโถงหลักบนชั้นแรกเข้าไปในห้องที่หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ที่ชั้นสอง ห้องค่อนข้างเหมือนโรงหนังใหญ่และสะดวกสบายพร้อมที่นั่งโดยรอย ผู้ฝึกทุกคนนั่งลงที่เบาะ

ลูซีหยูปรากฏตัวและทำการสแกนห้องฝึกซ้อมต่อหน้าเค้า เค้าเห็นนักเรียนทั้งหมด46มาถึงแล้วและกำลังแจกจ่ายหนังสือเรียนของพวกเค้า ผู้ฝึกแต่ละคนจะมีหนังสือจำนวนมากซึ่งครอบคลุมเนื้อหาวิชา : ภาษา คณิตศาสตร์ และเรขาคณิต รวมถึงไปปรัชญาของการเป็นพ่อมด เครือข่ายเวทมนตร์ และพลังจิต

ลูซีหยูยืนอยู่บนแท่น “ในอนาคตฉันจะบรรยายให้คุณเดือนละครั้ง อย่าลังเลที่จะตั้งคำถามระหว่างนั้น สำหรับเวลาที่เหลือคุณจะทำการศึกษาด้วยตัวเองกับหนังสือพวกนี้และทำวิจัยด้วยตนเอง ห้องสมุดอยู่ที่ชั้น15และ16 อย่างไรก็ตามชั้น7ไม่สามารถเข้าได้เว้นแต่คุณจะได้รับอนุญาตก่อน”

เค้าพูดต่อว่า “ชั้น9เป็นสวนพฤกษศาสตร์มีทั้งพืชทั่วไปและตัวอย่างพืชพิเศษ ชั้น8ประกอบไปด้วยโรงเลี้ยงสัตว์ที่เต็มไปด้วยสัตว์และสัตว์วิเศษทุกชนิด ฉันจะพาคุณไปที่ชั้นเรียนภายหลัง ชั้น10และ11เป็นห้องแล็บ เมื่อคุณกลายเป็นพ่อมดฝึกหัดอย่างเป็นทางการมันจะเปิดให้บริการแก่คุณ ในความจริงแต่ละคนจะมีห้องแล็บเป็นของตัวเอง”

“ชั้น2ถึงชั้น4เป็นห้องเรียนทั้งหมด ห้องอเนกประสงค์ และห้องประชุม สามารถใช้ได้ตามต้องการ จากชั้น15ขึ้นไปในแต่ละชั้นจะมีสัตว์วิเศษค่อยปกป้อง กรุณาใส่เข็มกลัดผู้ฝึกตลอดเวลาไม่เช่นนั้นพวกมันจะโจมตีคุณ ฉันจะไม่ช่วยคุณหากคุณถูกกิน”

หลังจากฟังข้อแนะนำของลูซีหยูจบแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้บทเรียนแรก “หัวข้อแรกของเราวิเคราะห์คำจำกัดความของพ่อมด โดยเฉพาะการจะกลายมาเป็นพ่อมด?” ลูซีหยูถามก่อนดำเนินบทเรียนต่อ

“พ่อมดคือผู้แสวงหาความจริงของโลก เราไม่ได้ใช้กลอุบายหรือแสวงหาพลังพิเศษ เราเป็นผู้เผยแพร่ความจริวและผู้แสวงหาความรู้ เวทมนตร์ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเข้าใจกฎของโลก การรู้ทุกสิ่งเป็นพลังที่สมบูรณ์แบบที่สุด หากคุณเข้าใจอากาศจากนั้นคุณจะสามารถควบคุมลมและฟ้าผ่าได้ตามต้องการ หากคุณเข้าใจโครงร่างของสิ่งมีชีวิตจากนั้นคุณจะสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตได้ ดังนั้นถ้าคุณสามารถเข้าใจความจริงและกฎของโลกคุณจะกลายเป็นพระเจ้า!”

ลูซีหยูพูดต่อว่า “พระเจ้าคืออะไร? พระเจ้าเป็นผู้ที่รู้ทุกอย่าง สิ่งที่ฉันจะสอนคุณคือการก้าวเข้าสู่เส้นทางเพื่อที่จะเป็นพระเจ้า นั่นคือความหมายของการเป็นพ่อมด!”

ทันทีหลังพูดเสร็จ อกกาดก็ยืนขึ้นและตะโกนออกมา “เจ้าของหอคอยแอนโทนี่ ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง นี่เป็นการดูหมิ่นต่อพระเจ้า!”

เวนดี้จากเอลฟ์ก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติจะไม่ยอมทนต่อคำสั่งสอนของคุณ!”

ลูซีหยูเริ่มหัวเราะ “ไม่เห็นด้วย? คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน? คุณคิดว่าพระเจ้าคืออะไร? คุณเป็นผู้ติดตามของพระเจ้างั้นหรอ? คุณคิดว่าพระเจ้าต้องการคำอธิษฐานของคุณหรือ? สำหรับพระเจ้าคุณไร้ความหมาย พระเจ้าไม่ต้องการความเคารพจากมดบนพื้นดินหรอก คุณคิดว่าพระเจ้าจะสนใจว่ามดคิดอย่างไรงั้นหรอ?”

ลูซีหยูยังคงบรรยายต่อไป “ความเชื่อและคำอธิฐานต่อพระเจ้านั้นเป็นเหมือนขอทานยื่นเศษขนมปังสองชิ้นจากกองขยะให้ราชา สำหรับพระเจ้าคุณทั้งหมดมีค่าน้อยกว่าเหรียญทองแดงเพราะคุณไม่สำคัญเลยในสายตาของเค้า คุณและโลกมาเรียเป็นเพียงแค่ก้อนกรวดบนพื้นดินสำหรับพระเจ้า คุณไม่มีหมายความอะไรเลยแต่เป็นกลุ่มคนโง่ที่หลอกตัวเอง!”

ลูซีหยูยังคงกล่าวต่อ “สำหรับฉันคุณก็เป็นขยะเช่นกัน หากคุณไม่ฉลาดคุณก็ไม่แตกต่างจากเนื้อเน่าที่อยู่ตามข้างถนน คุณมีอะไรบ้าง?ความงาม? ภูมิหลังอันสูงส่ง? ความรวยไม่มีสิ้นสุด? ไม่!สำหรับฉันคุณไม่มีอะไรเลย! การมีอยู่ของคุณมีคุณค่าแค่พื้นฐานของความรู้และภูมิปัญญาของคุณ!”

คำปราศรัยการเปิดตัวของลูซีหยูทำให้ผู้ฝึกทุกคนตกตะลึง หลังจากฟังคำพูดวิจารณ์อย่างรุนแรงผู้ฝึกก็ตัวสั่นด้วยความกลัว มีนักเรียนสองสามคนที่ต้องการจะโต้แย้งแต่ก็ไม่มีใครสามารถรวบรวมกำลังที่จะยืนขึ้นได้

กลายเป็นพระเจ้า? ไม่มีคนธรรมดา ออร์ค หรือเอลฟ์ที่กล้าที่จะดูหมิ่นแบบนี้ แต่ลูซีหยูก็กล้าที่จะทำเช่นนั้น เค้าต้องการให้คนเหล่านี้ไม่สนใจทุกอย่างและเปิดใจต่อหน้าเค้า

ลูซีหยูมีความได้เปรียบเพราะครอบครอง the Scroll of the Worldซึ่งเป็นเหมือนรหัสโกงเมื่อถึงเวลาที่พวกเค้าจะกลายเป็นพระเจ้าเค้าจะต้องเดินไปไกลกว่านี้ หากเค้าสามารถหาต้นกำเนิดของ the Scroll of the Worldได้เค้าจะสามารถข้ามระหว่างมิติต่างๆได้อย่างอิสระและสร้างโลกได้อย่างอิสระ the Scroll of the Worldก็จะไร้ประโยชน์สำหรับเค้า!

ลูซีหยูมีความกล้าหาญและทะเยอทะยาน ยิ่งกล้าที่จะเสี่ยงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น หากไม่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนโลก2มิติเป็นโลกแห่งช่องว่างลูซีหยูอาจยังคงใช้ the Scroll of the Worldเป็นกระเป๋าขนาดพกพาเพียงอย่างเดียวและเค้าอาจะกลายเป็นพ่อค้าของเถื่อนที่ตกต่ำรายได้ไม่กี่บาทต่อเดือน

หากเค้าไม่ได้ก้าวออกนอกกรอบลูซีหยูควรจะตายด้วยโรคมะเร็งไปแล้ว และแม้ว่าเค้าจะไม่ตายด้วยโรคมะเร็งเค้าก็จะอายุมากกว่า50ปีแล้วและในที่สุดเค้าก็จะตายด้วยวัยชราเนื่องจากร่างกายอ่อนแอเกินกว่าที่จะเคลื่อนไหว

อย่ากลัวความเป็นเลิศของผู้อื่น มีความมั่นใจในตัวเองว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะคุณได้ แม้ว่าจะไม่มีใครดีกว่าคุณในโลกkrynnspaceแล้วสิ่งมีชีวิตนอกจักรวาล? ในมิติอื่น? สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่ากฎของโลก? โลกนี้ไม่มีความลับเลยหรอ? มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าคุณเสมอแหละ แทนที่จะพยายามที่จะทำให้คนอื่นผิดหวังมันจะดีกว่าถ้าไปพัฒนาตัวเอง นี่คือสิ่งที่ลูซีหยูเชื่อ

แทนที่จะซ่อนตัวในฐานะราชาของโลกเล็กๆของkrynnspace ลูซีหยูต้องการดูว่าวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจะไปได้ไกลแค่ไหนตัวอย่างเช่นเค้าต้องการค้นหาขีดจำกัดของความรู้และภูมิปัญญา นั่นเป็นสาเหตุที่เค้าสร้างหอคอยพ่อมดเพื่อรวบรวมความรู้เพื่อให้เค้าสามารถเดินไปตามเส้นทางของวิวัฒนาการ!

เมื่อสถานการณ์มั่นคงเค้าสามารถสังเกตการณ์สะสมความรู้ทั่วโลกนอกจากนี้เค้ายังควบคุมหอคอยพ่อมดได้ ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ไม่มีใครสามารถรวบรวมความรู้ได้เร็วเท่าเค้า

ชั้นเรียนแรกของลูซีหยูอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดของเวทมนตร์คาถาให้กับผู้ฝึกเพื่อให้พวกเค้ารู้ว่าพ่อมดทำได้อย่างไร กลายมาเป็นได้อย่างไร พลังจิตและเครือข่ายเวทมนตร์คืออะไร การทำสมาธิคืออะไร และการได้รับมานาจากเครือข่ายเวทมนตร์ผ่านการทำสมาธิ ลูซีหยูพูดคุยทั้งช่วงเช้าจากนั้นก็แจกแผ่นพับเล็กๆให้กับนักเรียนแต่ละคนเป็นการส่วนตัว

“นี่เป็นการแนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับการทำสมาธิ เมื่อคุณอ่านหนังสือ ‘การแนะนำการเป็นพ่อมด’ ‘ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครือข่ายเวทมนตร์และพลังจิต’ และ ‘เรขาคณิตเบื้องต้น’ คุณสามารถลองทำสมาธิได้!” เค้าบอก

“นอกจากนี้หนังสือทั้งหมดถูกเขียนเป็นพริงส์สำหรับผู้ที่ไม่รู้ภาษาพริงส์คนรับใช้พ่อมดจะเป็นคนสอนภาษาในวันพรุ่งนี้ คุณสามารถไปที่ห้องสมุดเพื่อยืมหนังสือเกี่ยวกับภาษา ได้โปรดเรียนรู้ภาษาให้ได้ภายใน1เดือน ทุกคนคนรับใช้จะเป็นพิธีกรทุกชั้นเรียน คุณสามารถเลือกชั้นเรียนไหนก็ได้ที่คุณอยากไปแต่ชั้นเรียนของฉันเป็นวิชาบังคับ จะไม่มีการขาดเรียน ผู้ฝ่าฝืนจะได้รับการลงโทษ หากมีการละเมิดหลายครั้งจะถูกบังคับให้ออกจากหอคอย!”

ลูซีหยูสรุปทั้งหมดโดยพูดว่า “หากคุณมีคำถาม ถามฉันในเดือนหน้า ทุกคนที่ไม่สามารถทำสมาธิขั้นพื้นฐานและเชื่อมต่อกับเครือข่ายเวทมนตร์เพื่อปลุกพลังจิตของพวกเค้าภายใน3เดือนจะถูกไล่ออกจากหอคอย!”

หลังจากลูซีหยุพูดเสร็จก็ออกไปทันที ผู้ฝึกทุกคนก็รู้สึกถึงความเร่งรีบ นักเรียนหลายคนที่ไม่เข้าใจพริงส์ค่อนข้างกังวล บุคคลเช่นบอห์ลที่สามารถเข้าใจทั้งพริงส์และSofawkนั้นถูกรอบไปด้วยผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ!