38 จากนั้นกลับสู่ดินแดนลิสตันบ้านเกิด
“――ดูเหมือนคุณหนูจะอารมณ์ดีจังเลยนะคะ”
เห็นได้ชัดว่าฉันปล่อยตัวมากเกินไป
ฉันมีอารมณ์ที่ค่อนข้างสดใส
ฉันรู้สึกสดชื่นมากหลังจากได้ระบายความคับข้องใจที่เคยมีมาจนถึงตอนนี้
“ก็งานแสดงละครที่น่ากังวลจบลงด้วยดี และตอนนี้ก็กำลังจะได้กลับบ้านแล้ว ฉันเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดียังไงล่ะ”
ฉันคุยกับริโนกิสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันอย่างสบาย ๆ ขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่ในล็อบบี้ของโรงแรม
ฉันเตรียมพร้อมที่จะกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว
ฉันจัดกระเป๋าพร้อมแล้ว ที่เหลือก็แค่รอคุณปู่มารับขึ้นเรือเหาะกลับบ้าน
ฉันซื้อของฝากให้เหล่าคนใช้ด้วย ไม่น่าขาดตกบกพร่องอะไร แล้วก็ซื้อขนมอบจากร้านดังให้ด้วย
ไม่ใช่เรื่องโกหกที่ฉันรู้สึกโล่งใจที่การแสดง『หญิงสาวในห้วงรัก』ของคณะละครไอซ์โรสจบลงด้วยดี
แต่แน่นอนว่า การได้ปลดปล่อยพลังในคืนสุดท้ายคือเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ช่างเป็นค่ำคืนในฝันจริง ๆ
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเบื่อที่เหมือนเมล็ดจำนวนมาก แต่เนื่องจากฉันอยู่ในสภาพอดอยากมานาน จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากกว่าที่ฉันคาดไว้มาก
แน่นอนว่าทุกคนได้สนุกกับฉันอย่างเต็มอิ่ม ทุกคนที่พยายามหนีก็ถูกดึงไว้ ฉันรีดพวกเขาทุกคนจนหยดสุดท้าย
ในท้ายที่สุด ดูเหมือนว่ามีคนเข้าร่วมประมาณห้าสิบคน แต่ถึงกระนั้นก็มีจำนวนน้อยเกินไปอยู่ดี
ฉันไม่มีเหตุผลต้องเผาไปถึงแก่น ดังนั้นหลังจากนั้นฉันก็ไปส่งชาโรกลับบ้าน และกลับมาที่โรงแรมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ม๊า ถ้าจะให้พูดก็ฉันต้องการความรู้สึกของการต่อสู้จนตายกันไปข้าง การกินเมล็ดจำนวนมากพอประมาณที่สามารถสู้กลับได้จึงไม่ควรลดการป้องกันลง
ฉันไม่ได้จะบอกว่าคู่ต่อสู้นั้นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ฉันแค่อยากได้อะไรที่เคี้ยวหนึบ ๆ กว่านี้สักหน่อย ――ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะสามารถหาอะไรแบบนั้นได้ที่นี่หรือที่นั่นอยู่ดี
“มาแล้วค่ะ คุณหนู”
ดูเหมือนว่าปู่จะมาถึงแล้ว ฉันจึงลุกขึ้นจากโซฟา
ฉันหลบคำเชิญให้แวะค้างคืนที่บ้านของคุณปู่อย่างชำนาญ เพราะกว่าจะกลับถึงดินแดนลิสตันก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
โดยส่วนตัวแล้วฉันอยากจะแวะพักค้างคืน แต่เนื่องจากฉันมีงานอย่าง「การเยี่ยมชมธุรกิจของเนีย・ลิสตัน」รออยู่ จึงไม่สามารถอยู่ได้หากไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า
และด้วยสถานะในปัจจุบันของฉัน ก็ไม่คิดว่าจะได้รับอนุญาตด้วย
สิ่งเดียวที่ได้อนุญาตคือ การแอบออกไปข้างนอกตอนกลางคืน เหมือนเมื่อคืนไงล่ะ!
วันนี้เองพ่อแม่ก็ยังไม่กลับบ้านจากการทำงานที่สถานีออกอากาศ แต่ก็ยังได้รับการต้อนรับจากเหล่าคนใช้เป็นอย่างดีที่กลับมาโดยสวัสดิภาพ ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้อนรับขนมอบที่เป็นของฝากมากกว่าฉัน ……ม๊า ปล่อยเรื่องหยุมหยิมไปดีกว่า
อันดับแรก ฉันอาบน้ำ นั่งลงที่โต๊ะอาหารคนเดียว ทานอาหารจนเสร็จ แล้วกลับห้อง
“……ฟู๊ว”
ฉันไม่ใช่เนีย แต่ว่าห้องของเนียดูจะเป็นพื้นที่ที่ผ่อนคลายที่สุดสำหรับฉัน
โม๊ว ที่จริงก็นับว่าเป็นที่อยู่ของฉันไปแล้ว
“จะรับชาสักหน่อยไหมคะ?”
“เอาสิ”
ริโนกิสชงชาให้ในขณะที่ฉันเปลี่ยนใส่ชุดนอน
ชาดำนี้เป็นชาแบบเดียวกับที่ฉันดื่มที่ร้านอาหาร「คุโรยูริ โนะ คาโอริ」ในเมืองหลวง ส่งกลิ่นหอมที่กระจายอย่างงดงาม
ยังไงก็แล้วแต่นี่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพง แต่คุณปู่ซื้อให้ฉัน
“―― ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสินะคะ”
หืม?
“หนึ่งปี?”
“ค่ะ จากคืนนั้นที่คุณหนูเกือบเสียชีวิต ผ่านมาหนึ่งปีแล้วค่ะ ตั้งแต่คืนนั้นก็กลายเป็นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเลย”
อ้า……ลองคิดดูแล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
――หนึ่งปีแล้วที่ฉันกลายเป็นเนียสินะ
ในตอนนั้น ฉันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ตาย แต่…… เป็นฤดูใบไม้ผลิใช่ไหมน๊า
จากวันนั้นถึงวันนี้ จะรู้สึกว่านานก็นาน จะรู้สึกเหมือนผ่านไปในพริบตาก็ใช่
คืนนั้น……เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่ชายน่าสงสัยคนนั้นใส่วิญญาณของฉันลงในร่างที่ตายแล้วของเนีย
ต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีในการรักษาโรคร้าย และตั้งแต่ฤดูหนาว ฉันก็ได้ก้าวเข้าสู่อารยธรรมที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิตที่เรียกว่าเมจิกวิชั่น
การเดินทางไปเมืองหลวงครั้งนี้ยังเป็นการขยายอารยธรรมที่ไม่รู้จักให้เปิดกว้างขึ้นอีกด้วย
และครั้งนี้ยังมีเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย
“คุณหนูคะ ดิฉันมีเรื่องที่อยากจะขอร้องอยู่คะ”
“ขอร้อง? กับฉัน? ……อะ กำลังจะบอกว่าอยากนอนด้วยกันงั้นเหรอ?”
“ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ! ทั้งที่ยอมนอนด้วยกันกับยัยเด็กผู้หญิงที่พึ่งเจอกันไม่นาน แต่ทำไมถึงไม่ยอมนอนด้วยกันกับดิฉันที่รู้จักกันมานานล่ะคะ!? ดิฉันไม่เข้าใจนัยยะเลยค่ะ!”
ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมริโนกิสถึงหมกมุ่นกับฉันมากขนาดนี้
……อยู่ด้วยกัน สินะ
“ฉันอยากจะเว้นระยะกับเธอสักหน่อยน่ะ ยังไงดี เพราะอะไรบางอย่างบอกฉันว่าเธอจะจูบฉันระหว่างที่กำลังนอนด้วยกันอย่างไม่ลังเลเลยยังไงล่ะ”
ฉันรู้สึกถึงความรักปกติจากชาโร แต่กับริโนกิส ฉันรู้สึกถึงบางอย่างที่มากกว่านั้น
จะว่ายังไงดีล่ะ ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง เธอทำฉันระวังตัวจริง ๆ นะ รู้สึกเลยว่าไม่ควรปล่อยให้เข้ามาใกล้ตัวมากเกินไป
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยค่ะ เรื่องระหว่างผู้หญิง พันธะระหว่างผู้หญิง ทั้งเป็นระหว่างผู้หญิง! เพราะเป็นระหว่างผู้หญิงด้วยกัน! ไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ไม่จำเป็นต้องนับยังไงล่ะคะ!”
ฉันรู้สึกแจ่มแจ้งเมื่อผลลัพธ์ของการหมกหมุ่นเรื่องระหว่างผู้หญิงครอบง่ำความคิดของเธอมากขนาดนี้ ……จึงไม่มีทางที่พวกเราจะนอนด้วยกัน
“――อะ ผิดแล้วค่ะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันอยากจะขอร้องค่ะ”
หืม? ไม่ใช่งั้นเหรอ?
“คุณหนูคะ ได้ปล่อยช่วยช่วยฝึกดิฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
………..
“หมายถึงการฝึกแบบไหนเหรอ?”
“ก็ต้องหมายถึงฝึกการต่อสู้อยู่แล้วค่ะ ถ้าดิฉันอ่อนแอกว่าคุณหนูมาก ๆ หน้าที่การคุ้มกันก็ไม่มีความหมายจริงไหมคะ”
โห๊
ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะฉันแสดงท่าร่างให้เห็นเกือบทุกวัน ความแข็งแกร่งจึงถูกถ่ายทอดให้ได้รับรู้ในทางใดทางหนึ่ง
บางทีเธออาจจะเข้าใจความแตกต่างในพลังระหว่างฉันกับตัวเองได้ค่อนข้างแม่นนำ
หากเป็นในกรณีนั้น ริโนกิสก็แข็งแกว่งกว่าที่ฉันคิดไว้
ความสามารถในการเข้าใจความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้
นั่นก็เป็นความแข็งแกร่งเช่นกัน
“แน่ใจเหรอ? ฉันไม่ใจดีกับเธอหรอกนะ?”
“ดิฉันเตรียมใจไว้แล้วค่ะ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป บางทีดิฉันก็คงไม่แม้แต่จะสามารถติดตามคุณหนูได้”
ติดตามสินะ
……อย่าถามฉันว่าหมายความว่ายังไง เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากแตะต้องโดยไม่ระวัง
“ดี ถ้าเธอพร้อมแล้ว เริ่มพรุ่งนี้กันเลย”
แบบนี้ก็ตีต่อฉันเหมือนกัน
แม้ว่าริโนกิสจะยังอ่อนแอ แต่กระนั้นเธอก็มีพลังในการต่อสู้มากกว่าคนธรรมดา ฉันเองก็มีความสุขเหมือนกันที่เธอเข้าร่วมการฝึก ถึงจะยังไม่พอที่จะทำให้ฉันหาวได้
……ปัญหาคือฉันต้องระวังอย่าหักโหมมากเกินไปจนเธอพัง แต่……ม๊า มาระวังกันเถอะ
“ถ้าอย่างนั้น ริโนกิส เพราะเธอคือลูกศิษย์อันดับหนึ่งของฉัน จงเข้มแข็งพอที่จะไม่ทำให้ฉันอับอายซะละ”
“ดิฉันจะทำให้ดีที่สุดด้วยหัวใจและจิตวิญญาณทั้งหมดค่ะ”
ตั้งแต่ที่สาวใช้ส่วนตัวกลายเป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียว วันที่วุ่นวายก็เริ่มขึ้น
ในระหว่างการถ่ายทำ「การเยี่ยมชมธุรกิจของเรีย・นิสตัน*」ก็เริ่มที่จะมีคำขอให้รับบทการแสดงเป็นครั้งคราว
(*แปลตามที่คนแต่งเขียนผิดไว้)
เนื่องจากเป็นการแสดงละครในดินแดนลิสตัน ไม่ใช่คำขอจากเมืองหลวง ฉันจึงสามารถซ้อมละครในช่วงเวลาว่างระหว่างการถ่ายทำ「การเยี่ยมชมธุรกิจ」ได้
นอกจากนี้ ฉันยังต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับคุณนายไลม์ บางครั้งก็ต้องไปงานเลี้ยงของคนรู้จักของพ่อแม่ ทำให้ฉันได้ไปเมืองหลวงอาร์ตัวร์อยู่บ่อยครั้ง
แน่นอนว่าไม่พลาดการฝึกศิลปะการต่อสู้แม้แต่วันเดียว
ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องทำ แม้จะมีเวลาพักไม่เพียงพอ แต่ยังไงก็ตาม ก็มีอยู่หลายวันเหมือนกันที่ฉันต้องลดเวลานอนลง
สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเป็นพิเศษก็คือการถือกำเนิดของช่องเมจิกวิชั่นใหม่
จนถึงขณะนี้มีสถานีออกอากาศเพียงแห่งเดียวในเมืองหลวงอาร์ตัวร์ และอีกแห่งที่นี่ในดินแดนลิสตัน
ขุนนางระดับขั้นที่ห้า วิกซอน・ซิลเวอร์กระโดดเข้าร่วมอุตสาหกรรมเมจิกวิชั่น และก่อตั้งสถานีออกอากาศในดินแดนซิลเวอร์ของเขา
ฉันไม่รู้ว่ามีการร้องขอหรือเปล่า แต่มีการตัดสินใจลงมาแล้วว่าจะมีการไปถ่ายทำ「การเยี่ยมชมธุรกิจ」เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการเปิดสถานี
“ขอบคุณที่มากัน”
ในการถ่ายทำมีเพียงฉัน วิกซอน・ซิลเวอร์ที่เป็นผู้อำนวยการของที่นั่น และพนักงานเท่านั้นที่ปรากฎตัว แต่ที่จริงฉันมาพร้อมกับคุณปู่ และพ่อแม่
ดูเหมือนว่าคุณปูและวิกซอน・ซิลเวอร์จะเป็นเพื่อนกันมานาน และดูเหมือนว่าพวกเขาจะร่วมมือกันอย่างมากในการสร้างสถานีออกอากาศแห่งนี้
ฉันตั้งหน้าตั้งตารออย่างจริงจังเลย เพราะเขาบอกว่าต้องการให้ในช่องของดินแดนซิลเวอร์มีการออกอากาศเรื่องราวเกี่ยวกับนักผจญภัยที่ทำหน้าที่สำรวจเกาะลอยฟ้าที่ยังไม่ได้รับการสำรวจเป็นหลัก
――ยังไงก็ตาม รายการข้อห้ามของฉันก็ยังไม่ได้ปลดล็อคทั้งหมด ถึงริโนกิสจะกลายเป็นลูกศิษย์ของฉัน แต่พ่อแม่ก็ยังเป็นนายจ้างของเธอ ซึ่งดูเหมือนว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าฉันซึ่งเป็นอาจารย์
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
และก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนอีกครั้ง
“ไปกันเลยไหมคะ คุณหนู”
“ไปกัน”
――เนียลิสตันอายุหกขวบ ตั้งแต่ปีนี้ ฉันจะเข้าสู่หอพักของสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์แห่งเมืองหลวง