37 กะแล้วว่าต้องมี!ได้เวลาสนุกอีกแล้ว!
“――ว่าแต่ว่า คุณเอาเจ้านั่นออกมาได้ยังไงกันคะ?”
ผู้ชนะควรให้เกียรติแม้แต่กับผู้แพ้ และควรจากไปทันทีหากไม่มีธุระจำเป็นอีก
หัวใจของชายในชุดสูทแตกสลายหมดแล้ว――พูดให้ชัดคือฉันเป็นคนทำให้พัง เมื่อบทสรุปที่ออกมาแบบนี้ ฉันก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก
จึงเป็นเหตุผลว่าฉันต้องการจากไปโดยเร็ว แต่ก่อนหน้านั้น
“นั่นน่ะเหรอ? ……อ้า ไปป์เหล็กนั่นสินะ”
เมื่อเห็นฉันชี้ไปที่แท่งโลหะที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น เขาก็พูดขึ้น
“นั่นคืออาวุธพันธะ(เมจิกเวพพอนส์)ไงล่ะ”
โห๊ เมจิกเวพพอนส์อย่างงั้นสินะ
“ฉันเดาว่าเป็นเวทมนตร์สินะ หาไม่ยากเหรอ?”
“ไม่เลย มีแค่ไม่กี่คนที่สามารถหามาครอบครองได้ แต่ปกติก็เป็นสิ่งประหลาดที่โด่งดัง ……งั้นเหรอ ยังเป็นแค่เด็กเวรจริง ๆ ยังมีเรื่องที่ไม่รู้จักอยู่เยอะเหมือนกันสินะ”
พูดตามตรง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสำควรโดนเรียกว่าเด็กเวรได้หรือเปล่า แต่เรื่องนั้นช่างไปก่อน
“อย่างงี้ แปลว่าสามารถเรียกอาวุธออกมาได้ทันทีในทุกที่ ๆ ถ้าจะตีความว่าแบบนั้นได้สินะ?”
“ก็ประมาณนั้น”
อา เป็นแบบนั้นเอง ……ฟู๊ว
“น่าสนใจดีนะคะ”
และฉันก็หันหลังให้เขา เรื่องนี้ไว้ฉันถามริโนกิสเพิ่มทีหลังก็แล้วกัน
“ฉันจะกลับแล้วนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ”
“อ้า――ต้องมาอีกให้ได้ล่ะ อย่าคิดว่านี่จะจบ มันยังไม่จบ”
แม้ใบหน้าของเขาจะบวม แต่การจ้องมองที่มีทั้งความกระหายเลือดและเจตนาฆ่าอันบริสุทธิ์ของเขานั้นช่างรู้สึกดีจนตัวสั่นไปหมด
เขาเป็นอัญมณีโดดเด่นที่รู้สึกได้ถึงคุณสมบัติของคนที่แข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้
ทั้งยังไม่สนรูปลักษณ์ภายนอก――ที่เขาเหวี่ยงกำปั้นใส่โดยไม่ลังเลแม้กับเด็ก นับว่าไม่เลว
นอกเหนือจากนั้น ต่อให้เหลือแค่แขนก็ยังสามารถฆ่าฟันกันรุนแรงได้ …..ใช่ตราบเท่าที่มีแขน แต่ ช่างน่าเสียดาย
――อะ
“เน๊”
“อะ? ――อ๊อก!?”
ฉันเตะเข้าที่ท้องของเขาในขณะที่ยังคุกเข่าอยู่ ทำให้เขาล้มลงอย่างแรง
“ทำ……บ้า อะไร แก…….. !”
โอ้ สุดยอด
ฉันเตะเขาค่อนข้างแรงด้วยความตั้งใจที่จะทำให้เขาหมดสติ แต่เขาไม่ยอมหมดสติล่ะ
จ๊า งั้นก็ช่วยไม่ได้
“――จะดีกว่าถ้าคุณจะไม่ออกจากร้านสักครู่นะคะ”
เพราะคงจะมากเกินไปที่จะให้เขามีส่วนร่วมในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังจะเกิดขึ้น
ฉันบอกเขาว่าเขาจะขยับไม่ได้สักพักเพราะความเจ็บปวดและความทรมาน ก่อนมุ่งหน้าไปที่อาหารจานหลักซึ่งมาสายไปซะหน่อย
“――สายันสวัสดิ์ค่ะ”
“――ว๊าย ตกใจหมด!”
เมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกจากด้านหลัง ชาโร・ไวท์จึงกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ
ชาโรที่ตามมาด้วยเพราะเธอเป็นห่วงเนีย・ลิสตัน――เด็กหญิงสีขาวที่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงได้แกว่งเท้าหาเสี้ยน
ระหว่างทางจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าทำไม รอบตัวเธอจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศอารมณ์ดี ขณะที่ฉันเฝ้าดูเธอมุ่งหน้าไปยังร้านเหล้าที่ทรุดโทรมโดยไม่ลังเลใจ ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ต้องกังวล
หลังจากยืนยันว่าเนียเข้าไปในร้านเหล้าแล้ว ฉันก็เข้าไปในซากปรักหักพังตรงข้ามร้านเหล้า และพยายามปีนเศษซากด้วยตัวเอง
หลังตกใจกับเสียงเรียกจากข้างหลัง เมื่อฉันหันกลับไป และ――
“อะ เมดซัง”
“ผู้ดูแลค่ะ”
เมดส่วนตัวของเนีย ไม่สิ ผู้ดูแลส่วนตัวของเนียในชุดเมดกำลังยืนอยู่
ชื่อของเธอคือ ริโนกิส แต่ฉันไม่ค่อยได้คุยกับเธอเท่าไหร่
ฉันเห็นเธอหลายครั้งระหว่างการซ้อมละคร
แน่นอนว่าชาโรรู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบตัวเองมากนัก ถึงจะบอกว่าไม่กังวล แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะยังรู้สึกกังวลอยู่
“เอ๊ะโตะ…..ตามเนียมาเหรอคะ?”
“ดิฉันนอกจากหน้าที่การดูแลทรัพย์สินส่วนตัวแล้ว ยังทำหน้าที่คุ้มกันด้วยค่ะ ไม่สามารถละสายตาได้”
เข้าใจล่ะ
เนียเป็นคุณหนูนี่ดีจังน๊า มีผู้ดูแลที่เป็นทั้งผู้คุ้มกันแบบนี้ก็ยอมรับได้
“จะขึ้นไปดูจากข้างบนใช่ไหมคะ? ไปกันเลยไหม”
“อาเร๊ะ?” ชาโรพูดได้แค่นั้น ก่อนที่จะต้องรีบวิ่งไล่ตามผู้ดูแลที่แซงเดินนำหน้าตัวเองไป
“คุณไม่ได้จะมาหยุดหรอกเหรอคะ?”
“ดิฉันไม่มีเหตุผลที่ต้องมาหยุดหรอกนะคะ”
“เอ๊ะ? กะ ก็อย่างมาห้ามทำเรื่องอันตราย ก็เป็นเหตุผลไม่ใช่เหรอคะ?”
“――คุณหนูนั้นแข็งแกร่งกว่าดิฉันมากค่ะ ไม่มีทางหยุดได้หรอก”
เป็นคำพูดที่……น่าตกใจมากเลยไม่ใช่เหรอ
ถึงจะไม่ค่อยได้ตระหนักมาก่อนหน้านี้ แต่อาจเป็นเพราะชาโรคิดเพียงผิวเผินจึงทำให้ตกใจออกมาอย่างเชื่องช้า
――ก็จริงอยู่ว่าเธอแข็งแกร่งมากเกินวัย
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ มือสมัครเล่ยอย่างชาโรก็คิดแค่ว่าเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้น
ที่จริงก็เป็นเรื่องที่เกือบถูกเหมือนกัน
“นอกจากนี้ สีหน้าที่มีความสุขมากขนาดนั้น ดิฉันไม่สามารถบังคับตัวเองให้ไปหยุดได้หรอกนะคะ”
“ฮา นั่นสินะ”
พวกเราออกมาที่ดาดฟ้าของซากปรักหักพังในขณะที่คุยกัน
ถึงเป็นอาคารเตี้ยประมาณสามชั้น แต่ก็เป็นตำแหน่งที่สูงกว่าร้านเหล้าจนสามารถมองลงไปได้
“ดิฉันจะกลับไปที่โรงแรมก่อนเมื่อคุณหนูเสร็จธุระ กรุณาแกล้งทำเป็นว่าดิฉันไม่ได้มาที่นี่ด้วยนะคะ”
“ถือว่าเป็นคำเตือนสินะคะ?”
“เชิญตามสบายค่ะ แต่ดิฉันกลัวว่าในอนาคตการหลบหนีจะฉลาดและไม่สามารถตรวจจับได้ยิ่งกว่านี้ สำหรับตอนนี้การจับตาดูห่าง ๆ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว”
“……ลำบากแย่เลยนะคะ”
“สุด ๆ ค่ะ”
――ในระหว่างกำลังพูดถึงเรื่องนั้นกันอยู่
“…? นั่นคือ……?”
มีคนเดินอยู่บนถนนข้างล่าง
มืดจนเห็นไม่ชัด แต่ก็ยังพอเห็นได้ชัดเจนว่ามีคนอยู่แน่นอน
หนึ่งคน สองคน ทยอยเดินตรงมาที่หน้าร้านเหล้าเรื่อย ๆ ……หยุดรวมตัวกันที่หน้าร้านเหล้า
คิดว่าเป็นเหตุบังเอิญไม่ได้เลยที่จะมีผู้คนเดินมารวมตัวกันที่หน้าร้านเหล้าพร้อมกัน
คนพวกนั้นมากันเป็นกลุ่ม
มีคนมารวมตัวกันมากกว่าสิบคนแล้ว――และยังมากขึ้นเรื่อย ๆ
“……เน๊ นี่แย่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ปกติต้องมีเสียงต่าง ๆ ดังขึ้นมาแล้ว ถ้ามีคนมารวมตัวกันมากขนาดนี้ แต่นี่กลับแปลกมาก เพราะเงียบจนน่าขนลุก
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าบางคนจะถือเครื่องมือที่ดูเหมือนอาวุธ
เหมือนกับช่วงเวลาก่อนที่พวกเขาจะบุกเข้าไปในร้านเหล้า
ยังคงเงียบ ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น
……ฉันหมายถึง ที่พวกเขามาไกลขนาดนี้คงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว
――พวกเขาตั้งใจมารวมตัวกันที่หน้าร้านเหล้า
ฉันไม่รู้ว่าจุดประสงค์คืออะไร แต่ตอนนี้เนียยังอยู่ในร้าน
ถ้าลองคิดดู จุดประสงค์ของคนที่รวมตัวกันก็คือ――
“สิ่งที่น่าสงสาร”
ผู้ดูแลพึมพำอย่างเงียบ ๆ ขณะมองลงไปที่กลุ่มคนอันตรายกว่าสามสิบคน
“――ถึงจะมีอันธพาลข้างถนนเป็นร้อยก็หยุดคุณหนูไม่ได้หรอก”
“เอ๊ะ? แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ในฐานะมือสมัครเล่น ชาโรไม่อยากจะเชื่อเลย
ม๊า คำตอบจะชัดเจนในไม่ช้า
“――ขอโทษที่ให้รอนะคะ รอนานไหม?”
ฉันทำให้ชายในชุดสูทอยู่นิ่ง ๆ สักพัก เมื่อออกจากร้านเหล้าคนเดียวก็เจออันธพาลกว่าสามสิบคนพร้อมอาวุธรวมตัวกันที่นั่น
อ้า ช่างวิเศษเหลือเกิน!
แม้ว่าคุณภาพจะยังไม่น่าพอใจเล็กน้อย แต่จำนานก็พอใช้ได้
ถึงจะได้เล่นสนุกกับชายในชุดสูทกันสองต่อสองก็ยังไม่ค่อยเติมเต็มเท่าไหร่
ดีใจจังที่อาหารจานหลัก……มาแล้ว
“――โอ๊ย ยัยเด็กเวร เกิดอะไรขึ้นกับอันเซล”
อันธพาลที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มตะโกนถาม
อันเซลน่าจะเป็นชื่อของชายในชุดสูท
“ทำไมถึงไปสนใจคนอื่นกันคะ? ฉันอยู่ที่นี่แล้ว”
ฉันไม่สนใจว่าพวกเขาจะเป็นใคร และฉันไม่สนใจความสัมพันธ์พิเศษระหว่างพวกเขากับอันเซล
ยังไงก็ตาม ตัดสินจากสิ่งที่พวกเขาพูด ดูเหมือนว่าพวกเขามาเพื่อโจมตีอันเซล
“ยะ ยัยเด็กนั่นไง! ยัยเด็กเปรตสีขาวที่แข็งแกร่งยังกับปีศาจขาว! …….ไม่จริงน้า!? หรือว่าไอ้เวรอันเซลโดนยัยเด็กนี้ฆ่าไปแล้ว!?”
อะ ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นเป้าหมายเหมือนกัน พวกเขาเกี่ยวข้องกับน้องหมาหรือไงน่ะ
――ม๊า จริง ๆ จะยังไงก็ช่าง
เมื่อพิจารณาจากอาวุธและบรรยากาศของพวกเขาแล้ว ฉันไม่คิดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อพูดคุย
และถ้าพวกเขาโจมตีอันเซลที่กำลังอ่อนแอ ฉันก็อาจจะปกป้องเขาชั่วคราวในฐานะผู้ชนะ
นี่เป็นการเคารพผู้แพ้ด้วยเหมือนกัน
“โม๊ว จะคุยกันไปถึงเมื่อไหร่กันคะ? มาเริ่มกันเลยเถอะค่ะ”
ตู๊ม!
หลังจาที่พูดไปแบบนั้น――ผู้ชายที่เหมือนบอสก็กำลังเต้นรำอยู่กลางอากาศ
เพราะฉันชกเขาด้วยการเสริมพลังขึ้นเล็กน้อย
“――อะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! โฮระ โฮร๊า!ถ้าไม่รีบตั้งท่าให้ไวระวังจะโดนฉันเหยียบย่ำทั้งตัวกันทุกคนล๊า”
ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้
ฉันไม่สามารถหยุดความสุขที่พรั่งพรูออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจได้อีกแล้ว
――กำปั้นที่ปราศจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดียังคงทำให้รู้สึกดีเสมอ