ตอนที่ 24 ก้นข้าจะแตกแล้ว
ทางเข้าตรอกซอยมีขนาดไม่ใหญ่นัก กว้างประมาณหนึ่งหมี่กว่า ๆ เพียงแต่ดูเหมือนมีระยะทางที่ยาวมาก
หนานหนานเข้ามาพร้อมกับคนสองคนที่กำลังทำท่าทางด้อม ๆ มอง ๆ อืม…สำหรับหนานหนานแล้ว บุรุษทั้งสองคนนี้กำลังทำท่าทางด้อม ๆ มอง ๆ จริงๆ
เมื่อครู่เขารู้สึกประหลาดใจมาก ทุกคนต่างหวาดกลัวเมื่อเห็นเสือดำของเขา แต่บุรุษทั้งสองคนนั้นกลับแค่ปรายตามอง ไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ แม้แต่สงสัยก็ยังไม่มี
ยิ่งพวกเขาเดินผ่านไปในตอนนี้ ก็ได้ยินคำพูดที่น่าสงสัยเอามาก ๆ จากปากของพวกเขา
หมอปีศาจ?
พวกเขาพูดถึงท่านแม่ของเขาหรือ? เหตุใดพวกเขาถึงรู้ว่าท่านแม่อยู่ที่เจียงเฉิง ทั้งยังตั้งใจมาหาท่านแม่ถึงที่นี่
หนานหนานลูบคางเล็ก ๆ ของตนเองแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับบุรุษที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนสองคนนี้ ทำให้ความตื่นตัวของเขาทะยานเพิ่มสูงขึ้น
ครั้นเห็นว่าบุรุษทั้งสองคนนั้นเดินเข้าประตูหลังของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่อยู่ปลายตรอก หนานหนานก็ยิ่งมั่นใจว่าบุรุษทั้งสองคนนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ชายชาตรีแค่เข้าโรงเตี๊ยม ไยไม่เดินเข้าประตูใหญ่เล่า?
“ไม่ได้การล่ะ ข้าต้องไปบอกท่านแม่ อืม หากท่านแม่รู้ว่าข้ากุมข้อมูลสำคัญเช่นนี้ ต้องเปลี่ยนมุมมองต่อข้าใหม่และแบ่งเงินให้ข้าสองเหรียญทองแดงอย่างแน่นอน”
ระหว่างที่พูด เขาก็ลูบคางตัวเองราวกับผู้ใหญ่ ก่อนจะเดินย่องออกมาจากตรอกเล็ก ๆ
โม่เสียนที่อยู่ด้านนอกกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ พยัคฆ์ทมิฬ ครั้นได้ยินเสียงดังจากด้านในและเห็นร่างเล็กเตี้ยออกมา เขาก็รีบกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังคา มองจากด้านบนลงไปด้านล่างก็พบว่าเจ้าเด็กน้อยส่งเสียงฮึบ ๆ ปีนกลับขึ้นไปอยู่บนหลังเสือดำอีกหน ก่อนจะเปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือของเมืองเจียงเฉิง
หนานหนานไม่รอช้าอีกต่อไป เขารีบมุ่งหน้าไปยังโรงเตี๊ยมที่พวกเขาลงหลักปักฐานแต่แรกเริ่ม
โม่เสียนถอนหายใจ แอบครุ่นคิดว่าเรื่องราวคงยังดำเนินไปอย่างราบรื่น มิเช่นนั้นเขาคงไม่กล้ามั่นใจได้ว่าจากพฤติกรรมของเจ้าเด็กคนนี้แล้วจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีกหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยึดในอุดมคติมากเกินไปแล้ว
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม
“อะ…อะไรนะ? ท่านบอกว่าท่านแม่ของข้าไม่กลับมาสองวันสองคืนแล้วหรือ?”
เถ้าแก่มองดูเสือดำที่อยู่ใต้ลำตัวของเขาด้วยเนื้อตัวสั่นเทิ้ม กลืนน้ำลายและตอบกลับอย่างยากลำบาก “ใช่ ใช่แล้ว นางไม่กลับมาเลย คุณ คุณชายน้อย ท่าน ท่านไม่ได้อยู่กับแม่หรอกหรือ?”
ดวงหน้าเล็ก ๆ ของหนานหนานหมองหม่นลงทันใด ท่าทางก็ดูกระสับกระส่าย ไม่ได้ตอบคำถามของเถ้าแก่
โม่เสียนที่แอบฟังทั้งสองสนทนากันอยู่บนคานบ้านก็มีสีหน้าดูไม่จืดเช่นเดียวกัน เรื่องนี้มิค่อยราบรื่นเท่าไรนัก คิดดูแล้วก็สมควรเป็นเช่นนั้น หนานหนานอยู่ที่จวนโม่ถึงสองวัน ในฐานะผู้เป็นมารดาแล้วจะรออยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้อย่างสงบจิตสงบใจได้อย่างไร? คาดว่าตอนนี้คงออกตามหาหนานหนานอยู่ด้านนอก เรื่องราวตอนนี้ชักยุ่งยากแล้วสิ
เถ้าแก่เห็นท่าทางน่าสงสารราวกับถูกทอดทิ้งของหนานหนานก็ทำใจไม่ได้ ถึงอย่างไรเด็กคนนี้ก็อยู่ที่โรงเตี๊ยมของเขามาช่วงเวลาหนึ่งแล้วและเป็นเด็กที่น่ารัก จึงใช้ความกล้าก้าวเท้ามาด้านหน้าและโน้มน้าวใจเสียงเบาว่า “คุณชายน้อย อย่าได้กังวลใจเลย ข้าคิดว่ามารดาของท่านคงจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ขอรับ”
“เฮ้อ ท่านลุงเถ้าแก่ ท่านไม่เข้าใจหรอก เฮ้อ ข้ารู้สึกเศร้าใจมาก ถึงอย่างไรท่านแม่ของข้าก็เป็นสตรี ดึกดื่นไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเช่นนี้ ทั้งยังหายไปถึงสองวันสองคืนอีก นี่มันอะไรกัน?”
“…” เถ้าแก่อ้าปากค้าง แสดงออกถึงความอับอายอย่างยิ่งยวด
โม่เสียนแทบตกลงมาจากคาน เจ้าเด็กบ้าไร้ยางอายนี่ ยังกล้าพูดจาเช่นนี้อีก มารดาของเขา…คงจะเหนื่อยจริงๆ แล้ว
“คุณชายน้อย ท่านว่าแบบนี้ดีหรือไม่ ท่านกลับไปพักผ่อนในห้องสักหน่อย บางทีมารดาของท่านอาจกำลังกลับมาก็ได้นะขอรับ?” เถ้าแก่เอ่ย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเด็กน้อยนี่กำลังขี่เสือดำตัวใหญ่เช่นนี้ขวางอยู่หน้าประตูโรงเตี๊ยม ทำให้ลูกค้าของเขาต่างก็ไม่กล้าเข้าออก ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการค้าของเขา
หนานหนานเงยหน้ามองเขาปราดหนึ่ง เม้มปากและส่ายหน้าเบา ๆ “ช่างเถิด ข้าออกไปหาท่านแม่เองก็แล้วกัน เฮ้อ มีท่านแม่ที่พึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ ข้าเองก็กังวลใจมาก”
ตอนนี้โม่เสียนเห็นอกเห็นใจมารดาของเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก คาดว่าโดยปกติแล้วคงถูกบุตรชายของตนทำให้โกรธจนเป็นลมอยู่ไม่น้อย หลังจากเจอนาง เขาต้องแสดงความเป็นมิตรและใจดีกับนางให้มาก อืม ถือเป็นการขอโทษนางก็แล้วกัน
หนานหนานตบหัวพยัคฆ์ทมิฬเบา ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมอีกหน
ระหว่างทางมีคนจำนวนไม่น้อยที่มองพวกเขา แต่ก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ ทว่าในเวลานี้ หนานหนานกลับไม่ได้มีความคิดจะโอ้อวดอีกแล้ว
เขาไม่รู้ว่าจะไปตามหามารดาจากที่ใด จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้พยัคฆ์ทมิฬเดินย่างก้าวไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ อย่างไร้จุดหมาย
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงแล้ว อาทิตย์อัสดงที่อยู่ห่างไกลได้แผดเผาท้องฟ้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว
หนานหนานยังคงไม่รีบร้อน แต่โม่เสียนที่อยู่ด้านหลังเขาขมวดคิ้วอย่างทนไม่ไหวแล้ว มองไปยังเสือดำที่เริ่มเกรี้ยวกราดด้วยความกังวลใจ
หนานหนานไม่เข้าใจ แต่เขากลับเข้าใจเป็นอย่างดี เจ้าเสือดำกินอาหารเป็นเวลาอยู่เสมอ วันนี้ถือเป็นข้อยกเว้น ตลอดทั้งวันยังไม่มีอาหารตกถึงท้อง นี่ก็เป็นเพราะไว้หน้าหนานหนานมากแล้ว แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้การ หากเสือดำหิวขึ้นมามันก็จะเปลี่ยนเป็นสัตว์ดุร้าย ถึงเวลานั้นเกรงว่าคงได้วิ่งหนีกันป่าราบ
โม่เสียนขมวดคิ้ว เขาควรปรากฏตัวและเตือนหนานหนานดีหรือไม่? แต่หากเขาปรากฏตัวออกไป จากความเฉลียวฉลาดของเด็กคนนี้แล้ว เกรงว่าคงคาดเดาได้ว่าเขาคอยสะกดรอยตามมาตลอด ย่อมเกิดการต่อต้าน
โม่เสียนว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดเข้าหากัน
เจ้าเสือดำยิ่งเกรี้ยวกราดมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่โม่เสียนกำลังคิดหาวิธี จู่ ๆ เจ้าเสือก็แผดเสียงคำรามและกระโดดดีดตัวขึ้น ตอนที่ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งหลัก มันก็วิ่งไปด้านหน้าอย่างดุร้าย
หนานหนานโน้มตัวกอดหัวเสือดำโดยไม่รู้ตัว เขารีบตะโกนร้องด้วยความรีบร้อน “อ๊ากกก เจ้าเสือดำจอมทึ่มทำอะไรของเจ้าเนี่ย? โอ๊ย ก้นของข้าจะแตกแล้ว หยุดนะ ก้นของข้า”
พยัคฆ์ทมิฬนั้นรวดเร็วมาก จนแม้แต่ลมที่พัดปะทะก็คล้ายกับใบมีดกรีดแทง ทำให้หนานหนานรู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง เสียงของเขาก็แตกพร่าด้วย
โม่เสียนหน้าเปลี่ยนสี เขารีบไล่ตามไปโดยไม่ทันหยุดคิด
เสือดำที่ได้รับการฝึกฝนจากเย่ซิวตู๋ตัวนั้นเดิมทีก็มีความว่องไวกว่าปกติอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นโม่เสียนและพวกเขาก็ยังรักษาระยะห่างระหว่างกันช่วงหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ต่อให้เขาวิ่งสุดกำลัง ก็มิอาจห้ามมันได้
โชคดีที่พยัคฆ์ทมิฬวิ่งไม่ได้วิ่งออกไปโดยไร้เป้าหมาย ภายในเวลาอันรวดเร็ว โม่เสียนก็พบว่ามันกำลังวิ่งไปที่จวนโม่ เขาจึงเบาใจลง
หนานหนานก็ค้นพบเรื่องนี้เช่นกัน ดวงหน้าเล็ก ๆ เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันใด
“เสือดำจอมทึ่ม เจ้ามันเกลือเป็นหนอน เหตุใดถึงได้พาข้ากลับมาที่นี่อีก? เจ้าตกลงกับข้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไปด้วยกัน? เจ้ากลับมาทำไม? หรือว่าคนรักของเจ้าอยู่ในนี้? อ๊ากกก หยุดนะ หยุด…”
สิ้นสุดเสียงของเขา เจ้าเสือดำก็หยุดลง หนานหนานถอนหายใจอย่างโล่งอก เขายืดตัวตรงอย่างยากลำบาก ตัดสินใจว่าจะลูบหลังและศีรษะที่เจ็บปวดของตน จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “ข้าเคยบอกไปแล้ว ว่าพยัคฆ์ทมิฬยอมรับเจ้าของได้เพียงแค่คนเดียว”
หนานหนานเงยหน้าขึ้นมา จ้องเขม็งไปยังบุรุษผู้มีพลังแข็งแกร่งตรงหน้าด้วยสีหน้าแข็งค้าง กลืนน้ำลายลงคออย่างใจเสาะ
…………………………
สารจากผู้แปล
คิดเองเออเองหมดเลยเจ้าเด็ก เสือมันหิวมันก็ต้องกลับไปกินอาหารที่บ้านเจ้าของน่ะสิจ๊ะ
ไหหม่า (海馬)