ตอนที่ 49 – มาเฟีย

“จะไปทำไมล่ะ ฉันอยากฟังหน่อยว่าหลิวเต๋อจู้จะพูดยังไง!” หนานเกิงเฉินพึมพำ

ชิ่งเฉินมองเขาแวบหนึ่ง “มีอะไรดี ๆ ให้ฟังเหรอ นายเป็นนักท่องเวลาเหรอ ถ้าไม่ใช่ฟังไปก็ไม่มีประโยชน์”

หนานเกิงเฉินสะอึกไป “นี่มันเป็นข่าวต้นตอของโลกภายในเลยนะ ถ้าเผื่อนายกับฉันสองคนทะลุมิติไปภายหลังแล้วสามารถใช้ประโยชน์ได้ล่ะ”

“ไม่สนใจ” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างไม่แคร์

“ทะลุมิติน่าสนใจมากเลยนะ” หนานเกิงเฉินกล่าว “ถ้าเราสองคนล้วนทะลุมิติไปถึงโลกภายในก็จะสามารถกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์ หรือว่าเปลี่ยนอวัยวะจักรกลกลายเป็นซูเปอร์แมน ถึงเวลาฉันก็จะตั้งสมาคมคนห่วงพ่อกับนาย ฟังดูน่าตื่นเต้นออก”

ชิ่งเฉิน “”

นักข่าวในที่สุดถูกครูหนึ่งกลุ่มขวางไว้ชั้นล่าง โรงเรียนเป็นสถานที่ในการเล่าเรียน จะสามารถปล่อยให้คนนอกโรงเรียนมาก่อความวุ่นวายได้อย่างไร

ระหว่างคาบพักแรก ร่างคนผู้หนึ่งแอบลอบข้ามกำแพงของโรงเรียนเข้ามา

เขาดึงตัวนักเรียนที่อยู่สนามกีฬาคนหนึ่งมาถามว่า “ม.ปลายปีสองห้อง 4 ไปยังไง”

นักเรียนได้ยินสำเนียงชวนโจวก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังชี้นิ้วให้เขา

ชายกลางคนเอ่ยขอบคุณแล้วตรงไปยังห้องเรียน

ขณะนี้ หลิวเต๋อจู้เพิ่งจะกลับมาจากกิจการศึกษา ยังไม่ทันที่เพื่อนนักเรียนจะมารุม จู่ ๆ มีคนคนหนึ่งพุ่งมาถึงเบื้องหน้าหลิวเต๋อจู้ “เอ็งก็คือหลิวเต๋อจู้? เหล่าจื่อให้เงินเอ็ง เอ็งไปคุยกับหลี่ซูถงหน่อยให้ปล่อยข้าออกไปได้เปล่า”

ทุกคนล้วนตะลึงงัน

ในห้องเรียนเงียบงันไปเพียงหนึ่งวินาที แต่ว่าความเงียบงันหนึ่งวินาทีนี้ดูจะแปลกแยกกับบรรยากาศหนวกหูแต่เดิมเป็นพิเศษ

“นี่มันเจี่ยนเซิง! เขายังอยู่เมืองลั่ว! เรียกครูมาเร็ว!” มีเพื่อนนักเรียนอุทานออกมา

เจี่ยนเซิงหลังจากทำธุรกิจแล้วก็ไม่ได้ไปจากเมืองลั่วเลย เพราะว่าธุระของเขายังไม่จบสิ้น

วันนี้เขาเห็นข่าวบนเวยป๋อก็เร่งมาที่โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่วทันที

อันที่จริงเจี่ยนเซิงก็ไม่มั่นใจว่าหลิวเต๋อจู้เป็นคนที่เขาอยากหาหรือไม่ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพูดอย่างนี้

เขายืนอยู่ตรงประตูห้องมัธยมปลายปีสองห้อง 4 กล่าวว่า “คนไหนคือหลิวปู้จู้”

นักเรียนที่ประตูห้องอึ้งไปเป็นนานแล้วถึงมีปฏิกิริยาขึ้นมาว่า “คุณพูดถึงหลิวเต๋อจู้ปะ”

“ใช่ ๆๆ หลิวเต๋อจู้!” เจี่ยนเซิงตบหน้าผาก

นักเรียนชี้ให้เขา ผลคือหลิวเต๋อจู้ที่อยู่ในห้องตระหนักว่าซวยแล้ว ลุกขึ้นอยากจะวิ่งหนี

เจี่ยนเซิงพุ่งมาข้างหน้าดึงตัวเขาไปแล้วกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “ข้ารู้ว่าเอ็งอยู่ในคุกโคตรเก๋าเลย ตอนสอบเดี่ยวข้าผู้เหนือมนุษย์คนนั้นยังต้องตามก้นเอ็ง สถานะของเอ็งจะต้องสูงมาก!”

หลิวเต๋อจู้แตกตื่นขวัญหาย “ไม่ใช่ผม คุณหาคนผิดแล้ว!”

“อ้ายหนุ่มเอ๊ย เอ็งวางใจ เหล่าจื่อไม่ใช่ว่าจะขย้ำเอ็ง” ระหว่างที่เจี่ยนเซิงพูดก็ถูกครูสองคนที่เพิ่งจะเร่งมาถึงดึงตัวออกไปจากห้องเรียน “เหล่าจื่อให้เงินเอ็ง!”

บนทางเดิน เสียงสบถด่าของเจี่ยนเซิงดังก้อง เหล่านักเรียนพาหันหันศีรษะกลับไปจ้องมองหลิวเต๋อจู้

เวลานี้หลิวเต๋อจู้จวนจะพังทลายแล้ว เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าตนเองโกหกไปเรื่องเดียวถึงกับจะดึงดูดเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาหา

พูดตามจริง ขณะนี้เรื่องที่เขาปรารถนาที่สุดก็คือหาตัวนักท่องเวลาคนที่สามในเรือนจำออกมา!

เขาอยากดูว่าสรุปแล้วเป็นใครที่ให้เขาแบกหม้อดำใบใหญ่ขนาดนี้!

ณ ขณะนี้เอง ชิ่งเฉินเจ้าของหม้อกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียน คล้ายกับว่าเสียงหนวกหูข้างนอกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย

เขาเห็นหนานเกิงเฉินหยิบแบบเรียนคอมพิวเตอร์โปรแกรมมิ่งออกมาหนึ่งเล่ม เลยถามว่า “ทำไมจู่ ๆ ถึงอ่านเล่มนี้ล่ะ”

“ไม่ ไม่มีอะไร” หนานเกิงเฉินกล่าว “ก็แค่อยากจะชำนาญทักษะสักอย่าง นายว่าพวกเราไปใกล้ชิดกับหลิวเต๋อจู้หน่อยเป็นไง ถ้าความสัมพันธ์ดีก็ไม่แน่ว่าจะสามารถได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยที่โลกภายในนะ”

“ไม่จำเป็น” ชิ่งเฉินตอบ “ฉันไม่ใช่นักท่องเวลาสักหน่อย”

แต่ตอนนี้เอง จู่ ๆ เขาก็ก้มศีรษะใคร่ครวญขึ้นมา

ตนเองย่อมรู้ว่าหลิวเต๋อจู้เป็นตัวปลอม แต่นักท่องเวลาอย่างเช่นหนานเกิงเฉินกลับไม่รู้

นักท่องเวลาทั่วทั้งประเทศในปัจจุบันนี้เกรงว่ารวมกันเป็นหมื่นคนแล้ว จะมีคนที่ถูก “สถานะ” ของหลิวเต๋อจู้ดึงดูดมาที่เมืองลั่วหรือไม่

เพราะว่านี่เป็นวิธีการหา “เพื่อนร่วมทีมที่พึ่งพาได้” ในโลกภายในที่ง่ายดายที่สุดในข้อมูลที่เปิดเผยออกมา

เหอเสี่ยวเสี่ยวแนะนำในทุกคนตั้งทีมรวมกลุ่มกันในโลกภายใน แต่เพื่อนร่วมทีมหมูกับเพื่อนร่วมทีมที่พึ่งพาได้แตกต่างกันอย่างมากมาย

เพียงแต่ว่า ชิ่งเฉินมีจุดที่คิดไม่ตกอยู่อย่างหนึ่ง

วันนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เหตุใดจนถึงตอนนี้คนขององค์กรคุนหลุนยังไม่เห็นปรากฏตัว

หรือว่าการสืบทอดของหลี่ซูถงไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขา ไม่อย่างแน่นอน

ในนี้จะต้องมีปัญหา

จนกระทั่งถึงตอนติวหนังสือด้วยตนเองช่วงเย็น ชิ่งเฉินยังไม่เห็นเงาร่างของคุนหลุน เขารู้สึกตลอดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอันใด

21 นาฬิกา 20 นาที เหล่านักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสองปีสามของโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่วพากันพุ่งออกจากโรงเรียน

โรงเรียนยามค่ำคืนภายใต้แสงสว่างของไฟถนนสีเหลืองขุ่นมีความงดงามอันพิเศษเฉพาะชนิดหนึ่ง

เหล่านักเรียนสวมเครื่องแบบนักเรียนเดินคุยกันบนทางเดินเป็นคู่ ๆ นักเรียนที่ขี่จักรยานข้าง ๆ แต่ละคนบอกลาทุกคน จากนั้นพุ่งเข้าสู่ม่านราตรี

มีนักเรียนหญิงเดินอยู่ข้างหน้า นักเรียนชายที่แอบชอบติดตามอยู่ข้างหลังไล่ตีโวยวายกับเพื่อน ๆ พยายามดึงดูดความสนใจของพวกเธอ

คล้ายกับว่านี่ก็คือท่าทีที่วัยรุ่นควรจะมี

ขณะนี้ หลิวเต๋อจู้หลังจากบอกลากับเพื่อนนักเรียนแล้วก็ลากจักรยานของตนเองออกจากโรงรถ ขี่ไปยังทิศทางของสวนซิงหลง

เขานึกทบทวนเรื่องราวในวันนี้ ยิ่งมายิ่งเจ็บช้ำ แต่คิดอยู่ครึ่งค่อนวันเขาก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

ตอนที่เขาผ่านถนนหวงเหอ จู่ ๆ สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องขึ้นมา ข้าง ๆ ตนเองมีรถ MPV สีดำเคลื่อนมาใกล้อย่างรวดเร็ว

เขาหันศีรษะไปมอง ค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าคนที่นั่งข้างหน้าสองคนของรถ MPV ล้วนใส่แว่นกันแดด คนที่อยู่ข้างคนขับยังหันศีรษะมามองตนเอง

ในใจหลิวเต๋อจู้แอบร้องว่าย่ำแย่แล้ว

ตอนที่ทั้งสองคนกำลังจะเข้าไปในใต้ทางด่วนซึ่งไร้กล้องวงจรปิด

คนที่อยู่ตำแหน่งคนขับ MPV สีดำคันนั้นเลี้ยวมาทางหลิวเต๋อจู้ ถึงกับใช้ตัวรถชนใส่หลิวเต๋อจู้อย่างแรง

เขารีบขี่รถหลบขึ้นฟุตบาท แต่ MPV สีดำกลับขึ้นฟุตบาท ชนใส่หลัวเต๋อจู้กับจักรยานไปด้วยกัน

บนพื้นเกิดเสียงเสียดหูของล้อรถเสียดสีกับพื้น ยังมีเสียงร้องโหยหวนของหลิวเต๋อจู้ที่ดังขึ้นไปด้วยกัน

รถ MPV สีดำจอดลงข้างถนนเบี้ยว ๆ ประตูรถถูกคนเปิดออกเสียงดังคลิก ในรถมีเสียงบุรุษอันเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “รีบสู้รีบจบ เอาเขาไป”

คนสวมแว่นกันแดดสองคนกระโดดลงจากรถ พุ่งเข้าหาหลิวเต๋อจู้โดยไม่รีรอสักนิด

อีกฝ่ายสีหน้าเข้มแข็ง คล้ายกับมาเฟียในภาพยนตร์ฮ่องกงยิ่ง

แต่กุญแจสำคัญที่สุดคือ หลิวเต๋อจู้เห็นอย่างชัดเจนว่าบนตัวสองคนนี้ล้วนประกอบด้วยอวัยวะจักรกล!

“ช่วยด้วย!” หลิวเต๋อจู้กลัวจนฉี่แตก ร้องคำรามอย่างสิ้นหวัง

พริบตานั้น ที่ด้านหลังมีแสงยกสูงของไฟหน้ารถส่องสว่างจนแสบตา ส่องไปบนร่างของทุกคน

เสียงเครื่องยนต์จากไกลมาใกล้คำรามเหมือนฟ้าผ่า บนถนนซีเมนต์เหมือนกับว่ามีสัตว์ร้ายเหล็กกล้าตัวหนึ่งกำลังเร่งมาอย่างบ้าคลั่ง

เสียงดังครืน ๆ ออฟโร้ดสีดำหนึ่งคันชนใส่ท้ายรถ MPV สีดำอย่างหยาบคาย!

MPV สีดำถูกชนจนกลิ้งออกไป!

มาเฟียสองคนที่ลงจากรถก่อนหน้านั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนไป กระโจนไปทางรถออฟโร้ดสีดำทันที อวัยวะจักรกลสองแขนของพวกเขาเด้งมีดยาวสองเล่มออกมา แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะกระโจนถึงหน้ารถออฟโร้ดก็มีเงาร่างเลือนรางกระโดดลงมาจากทางด่วนสูงหกเมตรเหนือศีรษะ

มีคนรออยู่ที่นี่แต่แรก!

เงาร่างนั้นตกลงมาอย่างรวดเร็วและรีบร้อน ถึงกับตกลงไปบนศีรษะของมาเฟียสองคนตรง ๆ ในชั่วระยะเวลาเพียงประกายไฟ

ขาเหล็กกล้าทั้งคู่เหยียบลงบนไหล่ของมาเฟียสองคน เหยียบหนัก ๆ จนมาเฟียทั้งสองลงไปนอนพื้น

ประกายไผสีฟ้าลั่นเปรี๊ยะ อวัยวะจักรกลตรงไหล่ของมาเฟียแตกหักเปิดเผยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ข้างใน

เงาร่างที่ตกลงมาจากท้องฟ้าหันศีรษะมาถามหลิวเต๋อจู้ว่า “ไม่เป็นไรนะ? สวัสดีครับ พบหน้ากันครั้งแรก ผมเป็นผู้รับผิดชอบของคุนหลุน เจิ้งหย่วนตง”

……………………………………..

เดี๋ยวนะ นี่เด็กจีนเขาติวในโรงเรียนกันถึงสามทุ่มครึ่งเลยเหรอ?? ไหนใครบอกว่าเด็กไทยเรียนหนังสือสุดแสนจะหนักไง ไปอยู่เมืองจีนไม่ตายกันหมดเหรอ……. ทางนี้ตอนเรียนเลิกสี่โมงคือโยนหนังสือเรียนทิ้งหยิบนิยาย การ์ตูน หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ตลอดเลยนะ เรียนพิเศษก็ไม่เรียนจ้า

ตัวละครสำคัญมาอีกหนึ่ง

เราเป็นคนที่ไม่ตามเรื่องรถนัก SUV PPV MPV ฯลฯ ไม่รู้คันไหนเป็นคันไหน

รถ MPV

รถออฟโร้ด

ตอนที่ 50 – รู้ใจโดยไม่ต้องพูด