“อา! น่าเกลียดมาก! อย่างที่องค์หญิงแปดพูด นางดูน่ากลัวจริงๆ!” หญิงหน้ากลมในชุดผ้าไหมสีชมพูดพีชกรีดร้องด้วยความสยดสยอง

“นางเป็นคนจงใจทำให้เจ้าจมน้ำตายในเมืองชุนหยางใช่หรือไม่? ช่างเป็นหญิงเลวทรามมาก!” ผู้หญิงในชุดสีน้ำเงินก็ดูหวาดกลัวเช่นกัน

“อย่าพูดเรื่องนั้นเกี่ยวกับพี่สาวคนโตของข้าเลย นางแค่ล้อเล่นกับข้า”

“คนคนหนึ่งจะสามารถล้อเล่นกับชีวิตของอีกคนได้อย่างไร!?”

ก่อนที่ซูมู่เกอจะกลืนขนมลงไป นางถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มหญิงสาวที่พูดพล่อยๆ เหล่านั้น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนางถูกชี้นำโดยซูจิงเหวิน น้องสาวของนางที่เป็นคนนำความลำบากมาสู่นาง

คุณหนูสาวทั้งหลายกำลังมองไปที่ซูมู่เกอราวกับว่านางเป็นสัตว์ร้ายในสวนสัตว์ ทำให้นางอารมณ์เสียจริงๆ

“อย่างพูดอย่างนั้น พี่สาวคนโตของข้าได้รับการยกย่องจากองค์จักรพรรดิในเรื่องทักษะทางการแพทย์ของนาง….” ซูจิงเหวินกล่าวขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล นั่นยิ่งทำให้เหล่าคุณหนูสูงศักดิ์เหล่านั้นถึงกับโกรธ

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ารางวัลขององค์จักรพรรดิเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่ผู้หญิงที่น่าเกลียดและเลวทรามคนนี้จะได้รับมันได้อย่างไร?

“พี่ใหญ่ ท่านต้องอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างน่าเบื่อ ทำไมไม่มาร่วมสนุกกับเราเจ้าค่ะ” ซูจิง เหวินเดินไปข้างหน้าด้วยรูปลักษณ์เหมือนน้องสาวแสนดี แสดงให้เห็นถึงความกลัวในสายตาของนางที่มองไปยังซูมู่เกอ

ในสายตาของผู้อื่น ดูเหมือนนางจะมีความกลัวโดยสัญชาตญาณราวกับว่านางถูกซูมู่ เกอรังแกและกดขี่ข่มเหงเป็นเวลานาน

ตอนนี้นางกำลังแสดงละคร แต่ซูมู่เกอก็มีพรสวรรค์ในการทำเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

ซูมู่เกอแอบบีบฝ่ามือของนางและดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที จากนั้นนางก็มองไปที่ซูจิงเหวินด้วยท่าทางประจบยกยอ

“จริงๆนะ? นั่นเยี่ยมมาก!”

ซูจิงเหวินต้องการเพียงแค่นำสตรีสูงศักดิ์เหล่านี้มาเพื่อหัวเราะเยาะนาง นางจะเต็มใจให้ซูมู่เกอรู้จักพวกเขาได้อย่างไร!

ชั่วขณะหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าของซูจิงเหวินดูแข็งกระด้างขึ้น

“องค์หญิงแปดเสด็จแล้ว! อา องค์หญิงเก้าก็เสด็จที่นี่เช่นกัน!”

ด้วยเสียงโห่ร้องในฝูงชนทุกคนหมุนตัวกลับไปมองข้างหลังทันที

ซูจิงเหวินไม่มีเวลาจัดการกับซูมู่เกอ นางหันกลับไปและก้าวไปข้าหน้า

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเห็นองค์หญิงแปดในชุดผ้าโปร่งสีชมพูอมเทาอ่อน ตามด้วยองค์หญิงเก้าในชุดสีฟ้าอมชมพูคนที่เรียกนางเข้าเฝ้าเป็นการเฉพาะเมื่อวันก่อน

ซูมู่เกอไม่ประทับใจองค์หญิงทั้งสองนี้ นางแค่อยากจะใช้โอกาสนี้เรียนรู้เมืองหลวงให้รอบๆ

“ขอถวายบังคมเพค่ะ องค์หญิงแปด องค์หญิงเจ้า”

องค์หญิงแปดนั่งลงบนที่นั่งแรกพร้อมกับดวงตาที่แข็งแกร่งคู่หนึ่งเชิดขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นถึงความเย่อหยิ่งของเชื้อพระวงศ์

องค์หญิงเก้านั่งลงข้างๆนางด้วยท่าทางเฉยเมยมากราวกับทุกสิ่งรอบตัวไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง อย่างไรก็ตาม นางกำลังค้นหาในฝูงชนราวกับว่านางกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

“ลุกขึ้นเถิด วันนี้ข้าค่อนข้างเบื่อในวังและแค่อยากออกมาพักผ่อน ไม่จำเป็นต้องเป็นพิธีการนัก”

เหมือนดวงจันทร์ที่ล้อมรอบด้วยดวงดาวมากมาย องค์หญิงแปดถูกห้อมล้อมในเวลาไม่นาน

“นั่น นั่นคือองค์ชายสองที่อยู่ตรงนั้นใช่หรือไม่?”

“องค์ชายสอง มันเป็นพระองค์จริงๆ พะย่ะค่ะ?”

ด้วยเสียงตุ้งติ้งบนเรือ เหล่าสาวๆผู้สูงศักดิ์ที่อยู่รอบๆองค์หญิงแปดทุกคนหันไปมองเรือที่อยู่ตรงข้ามกับพวกนาง

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นซูมู่เกอมองขึ้นไปอีกด้านหนึ่ง เพียงเท่านั้นก็ได้เห็นร่างเพรียวที่คุ้นเคยลางๆ

“ปัง – ปัง”

“ดอกไม้ไฟ! ดูสิ มันเป็นการแสดงดอกไม้ไฟ!”

ทันใดนั้น ดอกไม้ไฟก็ระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า ดึงดูดความสนใจของทุกคน

ซูมู่เกอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า สงสัยว่าทำไมมีคนมาจุดดอกไม้ไฟในตอนกลางวันเช่นนี้เมื่อมันมองไม่เห็นอะไรเลย

“มันเป็นฝั่งตรงข้าม…..”

“ดูสิ มีคนโปรยดอกไม้ลงในน้ำด้วย ว้าว สวยมาก!”

“จริงด้วย! สวยมาก! มันคือใครกัน?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้คนบนเรือต่างพากันขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าเรือเพื่อชมความคึกคัก ชั่วขณะ ดาดฟ้าเรือก็วุ่นวายเล็กน้อยพร้อมกับเสียงดังทำให้เรือสั่นอยู่ใต้เท้า

องค์หญิงแปดยังเดินไปดูที่เกิดเหตุด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“บูมมม”

“องค์หญิงเก้า พระองค์ทรงรู้สึกไม่สบายหรือเพค่ะ?”

คำอุทานที่คมชัดก็ระเบิดออกมา น่าเสียดายเนื่องจากดอกไม้ไฟดังเกินไปและบนดาดฟ้าก็มีเสียงดังเกินไปจึงมีคนเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็นสถานการณ์ดังกล่าว

ซูมุ่เกอเดิมยืนอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านน้อย เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์รีบวิ่งไปที่ดาดฟ้าโดยเว้นที่ว่างไว้รอบตัวนาง

เมื่อได้ยินเสียง นางหันไปมองหาแหล่งที่มาและพบว่าองค์หญิงเก้าซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตอนนี้กำลังขดตัวและเอามือกดที่หน้าอกของนางด้วยท่าทางเจ็บปวด

“เร็วเข้า! องค์หญิงเก้าหัวใจวาย ไปเอายาของพระองค์มาเร็วเข้า!” นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตะโกนลั่น

“ยา ข้าไม่ได้นำมันมาด้วย ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้!”

ในเวลานี้ องค์ชายสองเซี่ยโฮวคุณ ซึ่งยืนอยู่บนเรืออีกลำมองดูผู้คนที่โปรยดอกไม้ลงน้ำด้วยการขมวดคิ้วและหันไปหาผู้ติดตามของเขา “ไปดูซิว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”

“พะย่ะค่ะ”

ซูมู่เกอพบว่าสตรีสูงศักดิ์ไม่กล้าออกไปข้างหน้าอีกต่อไปหลังจากเห็นอาการขององค์หญิง ด้วยกลัวว่าจะมีปัญหา

การนอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ขององค์หญิงเก้าด้วยอาการหายใจไม่ออก ครั้งสุดท้ายเมื่อนางได้เข้าเฝ้าองค์หญิงในวังหลวง ซูมู่เกอสังเกตเห็นผิวที่ผิดปกติของนาง

ซูมู่เกอมองไปที่ริมฝีปากของนางที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีม่วงและขมวดคิ้ว โดยไม่ลังเล นางผลักฝูงชนออกไปและเดินหน้าเข้าไป

ในฐานะแพทย์ นางจะไม่ยืนดูชีวิตที่อยู่ตรงหน้าพินาศไปต่อหน้านาง

“เจ้าเป็นใคร? เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

นางกำนัลข้างตัวองค์หญิงเก้ามองนางด้วยความตื่นตัว

“ข้าสามารถรักษาชีวิตขององค์หญิงได้จนกว่าเจ้าจะได้ยามา”

นางกำนัลตะลึงงัน และก่อนที่นางจะพูด ซูมู่เกอก้าวไปข้างหน้าและจับมือขององค์หญิงเก้า

เพียงแค่นางจับชีพจร องค์หญิงเก้าหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน!

เมื่อรูม่านตาของนางแคบลง ซูมู่เกออุ้มองค์หญิงเก้าขึ้นจากเก้าอี้และวางนางนอนราบกับพื้น

“เจ้า เจ้ากำลังทำอะไรกับองค์หญิงเก้า!”

ในเวลานี้ ผู้คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์บนดาดฟ้าก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สุด

“อา! เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงเก้า?”

จากนั้สไม่นานผู้คนมากมายมารวมตัวกัน

ในฝูงชน ซูจิงเหวินมองไปที่ซูมู่เกออย่างสงสัย คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆองค์หญิงเก้าอย่างสงสัยว่านางกำลังทำอะไร

“องค์หญิงเก้าหัวใจวายหรือ?”

“ข้ากลัวจะเป็นอย่างนั้น ใคร ใครเป็นอะไร? นางกำลังทำอะไรกับองค์หญิงเก้า?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูจิงเหวินตระหนักว่าซูมู่เกอตั้งใจจะช่วยเหลือองค์หญิงเก้า นางคิดว่านางเป็นใคร? นางไม่รู้หรือว่ากำลังช่วยองค์หญิง?

นางคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของนางยอดเยี่ยมขนาดนั้นจริงหรือ?

แต่ถ้าองค์หญิงเก้ามีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด ซูมู่เกอจะถึงคาด! เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูจิงเหวินแอบรู้สึกยินดี

“คลายร่างของนาง” ซูมู่เกอกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง ตอนนี้พบภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน นางต้องได้รับการช่วยชีวิตฉุกเฉินทันที มิฉะนั้นองค์หญิงอาจจะตาย

“เจ้าทำบ้าอะไรกับองค์หญิงเก้า?”

“ตอนนี้องค์หญิงหยุดหายใจแล้ว หากไม่มีความช่วยเหลือฉุกเฉินพระองค์ก็สามารถตายได้เท่านั้น” ดวงตาของซูมู่เกอสงบ แต่คำพูดของนางทำให้นางกำนับเป็นอัมพาต

“อะไรนะ? เก้า องค์หญิงเก้า หยุด หยุดหายใจ…” นางกำนัลเอื้อมมือที่สั่นระริกของนางไปที่ใต้จมูกขององค์หญิงพร้อมกับทั้งร่างของนางแข็งทื่อทันที

องค์หญิงเก้า จริง จริงไม่มี ไม่มีลมหายใจ!

“จริงๆ จริงไม่มีลมหายใจ…” นางกำนัลตกใจกลัว

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือ ซูมู่เกอทำได้เพียงวางร่างขององค์หญิงเก้าลงอย่างรวดเร็ว จับมือและปั๊มหน้าอกหลาย ๆ ครั้ง แต่การเต้นของหัวใจนางไม่แสดงอาการว่าจะฟื้นตัว

นางปั๊มหน้าอกภายนอกของนางซ้ำ ๆ โดยใช้มือวางทับกัน

“องค์หญิงเก้าไม่มีลมหายใจ เจ้า เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!” นางกำนัลตกใจเมื่อเห็นการกระทำของซูมู่เกอ

“อะไรนะ? องค์หญิงเก้าไม่มีลมหายใจ?”

“อา น่ากลัวมาก!”

เมื่อได้ยินว่าองค์หญิงเก้าเสียชีวิตแล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็พลันหน้าซีดและกลับและไม่กล้ามองไปที่คนที่นอนอยู่บนพื้น

“ภายนำไม่กี่นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้น มีโอกาสที่ดีที่จะช่วยนางได้”

ซูมู่เกอไม่ได้หยุดการปั๊มหน้าอกขององค์หญิงเก้า แต่นางกดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางดูสงบและจริงจังราวกับว่าไม่มีอะไรมารบกวนนางได้

เซี่ยโฮวคุณยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรืออีกลำสังเกตห็นเหตุการณ์ที่นั่น

สตรีผู้สูงศักดิ์เหล่านี้มักจะมีสง่าราศีและมีเกียรติที่เหมาะสมต่อหน้าผู้คน ความยุ่งเหยิงเช่นนี้หายากจริงๆ

“ส่งคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท หม่อมฉันรับคำสั่ง”

ไม่กี่นาทีต่อมาทหารที่ไปสอบถามข้อมูลก็กลับมา

“ว่าอย่างไร?”

“องค์ชายสองพะย่ะค่ะ มันคือองค์หญิงเก้าโรคหัวใจกำเริบพะย่ะค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยโฮวคุณก็ขมวดคิ้ว “ไปดูกันเร็วเข้า”

เซี่ยโฮวคุณไม่ต้องการมีปัญหาใดๆ แต่ถ้าเขาไม่ดำเนินการใดๆ เหตุการณ์นี้จะต้องถูกท่านพ่อทรงทราบแน่นอน เขาคนที่จะกลายเป็นคนเลือดเย็นเกินไปและไม่สนใจน้องสาวของตัวเอง

“องค์ชายสองเสด็จแล้ว ถวายบังคมฝ่าบาท”

“มันคือองค์หญิงเก้า ฝ่าบาท”

“ฝ่าบาทเพค่ะ องค์หญิงเก้า องค์หญิงเก้าหยุด หยุดหายใจ….”

เซี่ยโฮวคุณเดินเข้าไปในฝูงชนและเห็นซูมู่เกอคุกเข่าอยู่ที่พื้นและทำการช่วยฟื้นคืนชีพให้กับองค์หญิงเก้า

การเคลื่อนไหวของนางเรียบง่ายและแปลกประหลาดและยังคงทำซ้ำๆ

“เจ้ากำลังทำอะไร?” เซี่ยโฮวคุณถามด้วยความสงสัยที่สั่นไหวในดวงตาสีอ่อนของเขา

“ข้ากำลังช่วยชีวิตนาง”

ซูมู่เกอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง

“ช่วยนาง….”

“ท่านพี่ใหญ่ ท่านไม่ควรสร้างความขุ่นเคืองกับองค์หญิงเก้านะเจ้าค่ะ ตอนนี้องค์หญิงเก้าได้หยุดหายใจไปแล้ว ทำไมท่านยังรั้งนางไว้ ท่านยังต้องการที่จะได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท องค์ชายสอง โดยใช้องค์หญิงเก้า!” ซูจิงเหวินพบคำบอกกล่าวต่อเซี่ยโฮวคุณเกี่ยวกับซูมู่เกอและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับสะอึกสะอื้น

คำพูดของนางหมายความว่าซูมู่เกอไม่ได้ช่วยองค์หญิงเก้า แต่เพื่อขโมยความสนใจของสาธารณชนและเอาชนะความสนใจของเซี่ยโฮวคุณ!

“พี่ใหญ่ โรคหัวใจขององค์หญิงเก้าเป็นเรื่องยากที่จะรักษาให้หายขาด แม้แต่หมอหลวง ท่านคิดว่าจะช่วยนางได้จริงหรือ?”

นางช่างชั่วร้ายเพียงใดที่ดึงดูดความสนใจจากการตายขององค์หญิง!

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนที่มีต่อซูมู่เกอก็เปลี่ยนไป

ซูมู่เกอสงบนิ่งโดยใช้มือกดปั๊มหัวใจต่อไป

เซี่ยโฮวหยินไม่ได้คาดคิดว่าซูมู่เกอจะมา นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นางเอื้อมมือไปและผลักนางด้วยความไร้ปรานีในการแสดงออกของนาง

ซูมู่เกอลดสายตาลงและหลีกเลี่ยงมือของนางอย่างคล่องแคล่ว

คิ้วที่ดูดีของเซี่ยโฮวคุณขมวดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของซูจิงเหวินในระดับหนึ่ง เมื่อเขากำลังจะสั่งให้พานางออกไป องค์หญิงเก้าที่ไม่มีลมหายใจขยับตัวกะทันหัน

“ฮู้วววว”

“ฮา”

ทันใดนั้นองค์หญิงเก้าก็หอบหายใจ ทำให้เหล่าขุนนางตกใจกลัว

“นางยังมีชีวิตอยู่!”