อันดับแรก ไอ้หมอนั้นคือ ผู้เชิดเหล่าภูติผี อัมบร้า
เขาเป็นคนๆหนึ่งที่อยู่ในเงามืด
เขาเป็นผู้ที่ล่วงหล่นกลายเป็นผู้วายชนที่ถูกเรียกว่า ลิซ
ผู้อุทิศตนเพื่อเวทย์มนตร์ของพวกเขา
ในตอนที่มีชีวิต
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยม
แต่เมื่อเขาได้ได้สัมผัสกับความลึกลับของชีวิต
เขาก็ได้กลายเป็นผู้หลงใหลในร่างเนื้อและวิญญาณ
เขาใช้เทคนิคเวทย์มนตร์ปลุกผีในการแทรกแทรงวิญญาณ และนั้นทำให้เขาสามารถใช้งานเหล่าภูติผีได้
สำหรับวิญญาณนั้นที่มีรากฐานมาจากสิ่งมีชีวิต
มันอาจจะมองเห็นว่าการเชิดวิญญาณนั้นมันเทียบเท่ากับการมีอำนาจเหนือในการชี้เป็นชี้ตายแก่เหล่าผู้ถูกเชิดได้เลย
[ ( มันมีเรื่องราวมากมายที่ผมต้องการจะถามกับแก แกรู้ได้ยังไงว่าผมคือผู้กล้าทั้งๆที่ผมปิดบังตัวเอง อีกทั้งเรื่องเหตุจูงใจของแกอีก ทำไมแกไม่โจมตีอลิเซียก่อนที่เธอจะซ่อมแซมบาเรียได้สำเร็จล่ะ . . มันมีอะไรอีกหลายๆสิ่งที่ผมสงสัย แต่ว่า . . มันมีสิ่งเดียวที่ผมต้องการจะพูด ณ ตอนนี้ . . ไปให้พ้นจากอลิเซียซะ !! เธอไม่ใช่คนที่สมควรจะโดนแตะต้องโดยไอ้ลิ้นสองแฉกแบบแก !! ) ]
[ ( ฟุฟุฟุฟุ . . . . ความโกรธที่รุนแรงราวกับเปรวเพลิงนั้น รู้มั้ยข้าสามารถเห็นวิญญาณของแกกำลังส่องแสงสว่างออกมาได้เลย ) ]
เสียงของหมอนั้น และอลิเซีย ดังซ้อนกันก้องในหัวของผม
[ ( อย่างกังวลไปเลย เจ้าหญิงนั้นเป็นเพียงแค่ตัวประกันที่รับประกันว่านายจะไม่เข้าไปจัดการมังกรโบราณ ข้าขอยืนยัน ตราบใดที่นายอยู่ตรงนี้และไม่ขยับไปไหน เจ้าหญิงก็จะไม่ได้รับบาดแผลเลยซักนิด ) ]
[ ( ผมไม่โง่พอที่จะเชื่อลงได้หรอกนะ โดยเฉพาะแก แกเป็นเพียงคนเดียวที่ผมจะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด !! ) ]
[ ( ฟุฟุฟุ ดูเหมือนว่าข้าคนนี้จะถูกเกลียดเข้าแล้วแหะ ) ]
ผมล่ะเกือบหลุดฟันหัวอัมบร้าไปตามสัญชาตญาณ ผู้ที่กำลังหัวเราะอยู่ แต่ผมทำได้เพียงควบคุมตัวเองไว้
[ เกิดอะไรขึ้นงั้นรึคะ ? ]
อาจเพราะคิดถึงเรื่องที่ผมกำลังเผชิญหน้ากับอลิเซียที่ตอนนี้ทำตัวแปลกๆ เฮนเรียสต้าเธอจึงถามออกมาแต่ ผมไม่สามารถหันเหสายตาออกจากหมอนั้นได้
[ ( แก ! ผู้ที่ไม่สามารถยอมรับได้ว่าผู้ที่ตายไปแล้วคือคนตาย แกคือคนเดียวที่ผมจะไม่มีวันเชื่อได้อย่างเด็ดขาด และที่สำคัญ แกกำลังหาจังหวะที่จะ “ลักพาตัว” อลิเซียไปจากผมหรืออะไรประมาณนั้นสินะ ) ]
[ ( ฟุฟุฟุ มันก็จริง ที่เธอเป็นบุคคลที่น่าสนใจพอสมควรแต่ . . . เธอยังไม่เพียงพอที่จะเอามาทำเป็นศัตรูกับนายได้หรอกนะ ) ]
ไอ้หมอนั้นพูดไปและหัวเราะไปด้วย . .
[ ( เจ้าหญิงนี่ เธอไม่มีค่าพอที่จะเทียบเท่าท่านนักบุญ “โอลิเวีย” ได้หรอกนะ ) ]
[ ( . . . . เป็นงั้นเรอะ . . เอาล่ะแกกลับบ้านของแกไปได้แล้ว เพราะถ้าแกไม่กลับล่ะก็ แกคงคิดไม่ถึงแน่ว่าผมคนนี้กำลังจะทำอะไรกับแก อยากรู้รึปล่าว ? เพราะผมคนนี้แหละจะฆ่าแกไปพร้อมกับอลิเซียเอง !! ) ]
ขณะที่กล่าวออกมาราวกับว่าผมโมโหถึงขีดสุด
ที่จริงผมทำเพียงแค่ข่มขูราวกับว่าได้ตัดสินใจลงไปแล้ว
แต่ว่า มัน . .
[ ( ฟุฟุฟุ รู้มั้ยสิ่งหนึ่งที่คู่ควรกับคำว่า “ผู้กล้า” นั้นก็คือ นายไม่ควรที่จะ “โกหก” นะ ) ]
ใช่แล้ว มันเป็นเพียงแค่คำโกหก ผมเพียงแค่บลัฟไปเท่านั้น
[ ( ถ้าจะให้เลือกระหว่างคนเพียงคนเดียวกับคน 100 คน นายน่ะเป็นมนุษย์ที่ยอมที่จะสละคน 100 คนได้อยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องคนองค์หญิงคนสำคัญของนาย ไม่ว่าจะ 100 จะ 1,000 แม้แต่หมื่นคนนายก็สละทิ้งได้ !! เพราะนายเป็นคนประเภทนั้น ข้าคนนี้ขอยืนยัน ตราบใดที่นายไม่เข้าไปยุ่งย่ามกับมังกรโบราณนั้น แล้วข้าจะปล่อยยัยเจ้าหญิงนี่!! ) ]
มัน . .
มันจริงที่หมอนั้นพูดมา สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คงมีเพียงแค่การยอมแพ้ ยังไงซะผมก็ยังคงเป็นมนุษย์ แม้ว่าผมจะถูกเรียกว่า “ท่านผู้กล้า” แต่ยังไงซะผมก็ไม่ใช่ฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรม
ตั้งแต่เมื่อหมอนั้นจับตัวอลิเซียเป็นตัวประกัน. .
ผมก็ถูกรุกฆาตแล้ว
แต่เพียงแค่ผมเท่านั้นนะ . .
[ เวทย์เสริมพลังมังกร !! ความโกรธเกรี๊ยวของมังกร !! ]
ในจังหวะนั้นเอง ผู้ที่มีดวงตาสีแดงเข้มพุ่งผ่านเข้ามาในระยะสายตาของหมอนั้น
อาจเพราะดวงตาคู่นั้นถูกอาบแสงด้วยแสงจันทร์สีเลือด หรืออาจเพราะดวงตาสีแดงเข้มคู่นั้นสะท้อนเข้ากับแสงจันทร์
แสงที่สะท้อนจากดวงตาสีแดงคู่นั้นมันช่างดูเหมือนกับไฟท้ายรถยามค่ำคืน
[ . . . เอาไปซะ !! ไอ้จอมเวทย์ชั่ว !! ]
[ ( . . . ฟุฟุฟุฟุ ) ]
แสงของดาบได้พุ่งตัดผ่าน
ราวกับรู้ถึงสถานการณ์ของเด็กสาวผู้มีผมสีเงิน อลิเซีย
ดาบนั้นที่ตัดผ่านลงมาไม่ได้ทำร้ายอะไรแก่เธอ
มันเพียงตัดอัมบร้าเป็นชิ้นๆ
[ . . . ขอบคุณพระเจ้า ดูเหมือนว่าผมจะมาทันเวลานะ ]
เขากล่าวออกมาขณะรับตัวของอลิเซีย ผู้ซึ่งถูกปลดปล่อยจากอัมบร้าและกำลังล่วงหล่นลงจากซิลเบอร์
เขารับเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เป็นเขาเอง
ไอ้หน้าหล่อ . . .
…………………………….
[ ฟุฟุ , ฟุฟุฟุ ดูเหมือนท่านผู้กล้าคนปัจจุบันจะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอย่างงั้นรึ ]
[ แก ไม่ผิดแน่ แกคือระดับ ดยุค อัมบร้าซินะ ]
[ ฟุฟุฟุฟุ . . . ]
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรีบเดินทางมาที่นี่ตามคำคาดการณ์ของ [ แม่มดแห่งกาลเวลา ] แต่ว่า มันดูเหมือนว่าในกรณีที่แย่ที่สุดเธอคงจะกล่าวถึงเหตุการณ์นี้แบบอ้อมๆอยู่แล้ว
แน่นอนว่าไอ้หน้าหล่อคงจะสงสัยในตัวเธอและในเรื่องต่างๆว่ามันอาจเป็นเพียงเรื่องตลก แต่
แต่ในเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่นี่
ภาพที่เขาเห็นคงทำให้เขาตัดความสงสัยต่างๆของเขาออกไป
[ . . . ยะ- , ยู ? ]
[ !!! เธอไม่บาดเจ็บตรงไหนนะ ]
เมื่อเขาเริ่มสำรวจรอบๆตัวของเด็กสาวผู้ที่กำลังถูกเขาอุ้มอยู่ เหมือนกับว่าเธอเริ่มที่จะรู้สึกตัวและเริ่มที่จะลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ผมสีเงินที่เปร่งประกายราวกับอัญมณีและงดงาม ใบหน้าของเธอที่ดูโดดเด่นจนแม้แต่ความงามของนางฟ้ายังถูกความงดงามของเธอบดบัง
ภาพของเด็กสาวที่เหมือนกับเจ้าหญิงผู้งดงาม ซิลเวียซัง ที่เขานั้นได้พบกับเธอเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน นั้นได้ซ้อนทับกัน
เขารู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้คงเป็นน้องสาวของซิลเวีย เพราะพวกเธอนั้นช่างเหมือนกันมาก
[ . . . คะ- , คุณคือ ? ]
ลิมฝีปากที่มันเงาราวกับลูกพีชได้เปิดขึ้น และเสียงของเธอได้เข้ามาในโสตประสาทของเขา
[ ผมชื่อว่า อามากิ ไคโตะ . . . ผมคือ”ผู้กล้า” ]