บทที่ 37 บุตรศักดิ์สิทธิ์ประมูลของล้ำค่า (ต้น)

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 37 บุตรศักดิ์สิทธิ์ประมูลของล้ำค่า (ต้น)

บทที่ 37 บุตรศักดิ์สิทธิ์ประมูลของล้ำค่า (ต้น)

หนึ่งก้านธูปต่อมา ณ เบื้องหน้าแท่นแสดงของประมูล อู่ไท่ก้าวขึ้นไปบนเวทีก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อยให้กับผู้คนรอบข้าง “ข้าคิดว่าทุกท่านคงทราบแล้วว่ารายการประมูลในค่ำคืนวันนี้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย ดังนั้นข้าจะไม่พูดสิ่งใดให้มากความ ขอเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการ!”

“รายการแรกสำหรับการประมูลในค่ำคืนนี้คือ อาวุธระดับฟ้า กระบี่วิหคเพลิง!”

“ราคาเปิดประมูลเริ่มต้นที่สามพันเหรียญมายา!”

ทันใดนั้นผู้คนจำนวนมากก็ต่างแย่งชิงกันประมูลอาวุธระดับฟ้าที่หายากชนิดนี้ สำหรับสำนักเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ พวกเขาสามารถประมูลวิชาหรืออาวุธได้เพียงสองสามอย่างเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่หยวนก็ไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นมอง ในสายตาของเขา อาวุธระดับฟ้าก็ไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็ก

การประมูลดำเนินไปราวหนึ่งก้านธูป เมื่อไม่มีสิ่งของที่สนใจ ชายหนุ่มจึงหมุนเก้าอี้แล้วงีบหลับไป

“รายการประมูลชิ้นต่อไปคือ คัมภีร์ระดับฟ้า คัมภีร์วิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์!”

“กล่าวกันว่าสร้างโดยจักรพรรดินีนิรนาม เจ้าของเส้นชีพจรวิญญาณบริสุทธิ์”

“ราคาเริ่มต้นสามพันเหรียญ…”

“ข้าขอประมูลในราคาสามแสนเหรียญมายา!”

เสียงแหบแห้งหนึ่งขัดจังหวะคำพูดของอู่ไท่ ก่อนราคาของคัมภีร์นี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสามแสนเหรียญมายาอย่างรวดเร็ว

ทุกคนในโถงมุ่งความสนใจไปยังชายในชุดดำ และพวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน

สิ่งนี้ไม่มีอะไรไปมากกว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ระดับฟ้า และมีราคาเพียงสามพันเหรียญมายา ซึ่งราคาปิดประมูลควรจะอยู่ที่หกพันเหรียญมายา แต่ตอนนี้ ชายชุดดำผู้นี้กลับเสนอราคาจนพุ่งสูงไปถึงสามแสนเหรียญมายา

เขาไม่มีสมองหรืออย่างไร?!

หรือมีเงินมากเกินไปจนไม่รู้ว่าจะใช้กับสิ่งใด?

เหตุใดจึงเสนอราคาถึงสามแสนเหรียญมายา?

แม้จะนำไปขายให้สำนักขนาดเล็ก แต่พวกเขาก็อาจไม่สามารถหาเงินได้มากมายขนาดนั้น

ทุกคนจ้องมองต้นเสียงด้วยความตกตะลึง ช่างเป็นการเสนอราคาที่ไม่ธรรมดาเสียจริง ดูเหมือนว่ากองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาจะยิ่งใหญ่ไม่น้อย!

หรือเขาอาจเป็นคนที่มาจากตระกูลลึกลับ?

ไป๋อู๋อีที่ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนยิ้มบาง คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ในการเดินทางมาที่นี่ของเขา

หากไป๋ชิวเอ๋อร์ได้ฝึกฝนวิชานี้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเส้นชีพจรวิญญาณบริสุทธิ์ของนาง ดังนั้นเขาจะต้องได้สิ่งนี้มา นี่จึงเป็นเหตุผลที่บุตรแห่งโชคชะตาเสนอราคาสูง เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ใดแข่งขันด้วย

เมื่อไป๋อู๋อีเสนอราคามากมายเช่นนั้น ข้ารับใช้ในหอประมูลก็นำเครื่องดื่มไปมอบให้เขาด้วยความเคารพทันที

เขาหยิบชาขึ้นจิบอย่างระมัดระวัง

ไป๋ชิวเอ๋อร์ซึ่งอยู่ในห้องส่วนตัวทอดสายตามองออกไปตามต้นเสียง นางปรารถนาคัมภีร์นี้เช่นเดียวกัน แต่ก่อนที่จะเสนอราคา กลับมีชายผู้หนึ่งเสนอราคาสูงถึงสามแสนเหรียญมายา

ด้วยราคาสูงเฉียดฟ้าที่อีกฝ่ายเสนอ นางจึงทำได้เพียงนิ่งเงียบ ยังมีของประมูลอีกมากมายที่ตระกูลไป๋ต้องการ ดังนั้นจึงไม่คุ้มค่าหากจะเสียเหรียญมายาทั้งหมดที่มีไปกับคัมภีร์นี้

ดวงตาของไป๋ชิวเอ๋อร์หรี่ลง ร่องรอยของความเสียใจฉายในแววตานาง

“เจ้าอยากได้มันอย่างนั้นหรือ?”

เสียงของลู่หยวนดังขึ้นจากด้านข้าง ไป๋ชิวเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นด้วยร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย ขณะที่นางกำลังจะปฏิเสธก็พลันได้ยินเสียงของชายหนุ่ม “สามสิบล้าน”

สาวใช้ที่ยืนอยู่มุมด้านข้างเดินไปข้างหน้าแล้วตะโกนเสียงดัง “ห้องชั้นบนขอเสนอราคาสามสิบล้านเหรียญมายา”

“แค่ก!?”

ไป๋อู๋อีซึ่งกำลังจิบชาสำลักในทันที เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ

ความเงียบงันพลันปกคลุมหอประมูลอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงสูดลมหายใจ

เขาถูกแย่งชิงคัมภีร์ระดับฟ้าไปในราคาสามสิบล้านเหรียญมายาอย่างนั้นหรือ?!

เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร?!

บุตรแห่งโชคชะตาต้องการเพิ่มราคา แต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ด้วยมีเหรียญมายาในมือทั้งหมดเพียงสามสิบล้านเหรียญ หากเพิ่มราคาให้กับของประมูลชิ้นนี้ มันจะทำให้เขาไม่สามารถประมูลของชิ้นต่อไปได้

“ผู้ใดกันนั่งอยู่ในห้องชั้นบน! ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?! สามสิบล้านเหรียญมายา?! ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดเสนอเงินมากมายเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต!”

“สามสิบล้านเหรียญมายาแลกกับคัมภีร์ระดับฟ้า ผู้ประมูลคือทายาทจากตระกูลยิ่งใหญ่ที่ออกมาท่องเที่ยวเล่นหรือไม่?”

“ข้าได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่เดินทางมาที่นี่ในวันนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขากำลังนั่งอยู่ในห้องชั้นบน?”

ทุกคนต่างจ้องมองมายังเขา “ผู้ใดคือบุตรศักดิ์สิทธิ์?”

“จะมีบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใดในแดนเหนืออีก? ดังนั้นแล้วบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่ก็มีเพียงผู้เดียว นั่นคือลู่หยวน!”

ผู้คนโดยรอบกล่าวขึ้นทันที “ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ ในแดนเหนือทั้งหมดมีเพียงตระกูลลู่เท่านั้นที่มีภูมิหลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้”

เคร้ง!

ถ้วยชาในมือของไป๋อู๋อีถูกบดขยี้ทันที ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ

ลู่หยวน! แกอีกแล้ว!

ทันใดนั้นความโกรธในใจของเขาก็สงบลงทันที

ความคิดผุดขึ้นในหัว และเหงื่อเย็นก็ไหลออกมาเต็มแผ่นหลัง เหตุใดคุณชายลู่จึงเสนอราคาสูงสำหรับคัมภีร์ระดับฟ้าที่เล็กน้อยเช่นนี้? เขารู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?

ไป๋อู๋อีส่ายศีรษะในทันที เป็นไปไม่ได้ หากอีกฝ่ายค้นพบตัวเขา คงจะต้องส่งคนมาจับกุมตัวเขาแน่ แต่ในขณะนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น บางทีนี่อาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ

บุตรแห่งโชคชะตาต้องยอมสละคัมภีร์นี้ จนมันตกไปอยู่ในมือศัตรูคู่ฟ้า

ขณะสาวใช้กำลังดำเนินหน้าที่และรับเอาคัมภีร์มาให้ ลู่หยวนก็ไม่แม้แต่จะจ้องมอง เขายัดใส่มือไป๋ชิวเอ๋อร์ทันที “ข้าให้เจ้า”

นางจ้องมองคัมภีร์ด้วยหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนจะกลับมารักษาท่าทีสงบ และคืนมันให้เขา “สิ่งนี้มีค่ามากเกินไป ข้าไม่อาจรับไว้ได้”

ลู่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย “สิ่งนี้เป็นของเจ้าแล้ว หากไม่ต้องการก็จงโยนมันทิ้งไปเสีย”

ไปซีเจ๋อเอนกายไปข้างหน้าทันทีด้วยแววตาเปล่งประกาย “น้องชิวเอ๋อร์ หากเจ้าไม่ต้องการก็จงมอบให้แก่ข้า เพราะข้าอยากได้!”

สิ่งนี้มีมูลค่าถึงสามสิบล้านเหรียญมายา!

ด้านล่าง ของประมูลชิ้นใหม่ถูกหยิบยกขึ้นมานำเสนอ แม้เสียงประมูลจะดังลั่นอย่างไร้ที่สิ้นสุด ทว่าไป๋ชิวเอ๋อร์กลับไม่สนใจ นางยังคงตกอยู่ในภวังค์พลางกอดคัมภีร์ไว้ ขณะที่ไปซีเจ๋อยังคงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งราวกับปรารถนาจะฉกฉวยไปเสีย

ระบบแจ้งเตือนว่า [ไป๋ชิวเอ๋อร์มีความประทับใจที่ดีต่อท่าน และค่าชะตาวายร้ายของท่านเพิ่มขึ้นอีก 1,000 แต้ม!]

[ค่าชะตาวายร้ายในปัจจุบันของท่านอยู่ที่ 8,900 แต้ม!]

รอยยิ้มปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่หยวน หญิงที่ดูเย็นชาผู้นี้กำลังหลงใหลในตัวเขาอย่างนั้นหรือ?

นางเชิดหน้าหนีสายตาของไป๋ซีเจ๋อทั้งยังไม่ยอมปล่อยมือจากคัมภีร์ เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ อีกฝ่ายก็ทำหน้ามู่พลางกลับไปยังที่นั่งของตน

อู่ไท่เผาเครื่องหอมบูชา ก่อนจะโบกมือให้สัญญาณ จากนั้นกรงขนาดใหญ่ซึ่งปกคลุมด้วยผ้าสีดำทึบจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งของด้านในได้ก็ถูกยกขึ้นมาบนแท่นจัดแสดง

“ขอทุกท่านโปรดฟังให้ดี ราคาเริ่มต้นประมูลสำหรับของชิ้นนี้คือ สี่แสนเหรียญมายา!”

ทันทีที่พูดจบ อู่ไท่ก็ดึงผ้าสีดำออก ทุกคนจ้องมองอย่างตั้งใจ สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นคือพุ่มหางจิ้งจอกสีขาวราวหิมะ เมื่อหางจิ้งจอกถูกปัดออกไป รูปโฉมที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

หญิงสาวเผ่ามนุษย์จิ้งจอกนอนขดตัวอยู่ที่มุมกรง เสื้อผ้าขาดรุ่ยเล็กน้อยและทั้งตัวก็สกปรก ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่งดงามของนางได้เลย

เมื่อเห็นผู้คนมากมาย สตรีผู้นั้นก็ดูเหมือนจะหวาดกลัว นางเริ่มตัวสั่นเทา ในขณะที่ทุกคนก็จ้องมองมาด้วยความปรารถนา