วารุณีก็หยุดลง “ประธานนัทธียังมีอะไรจะสั่งอีกค่ะ ?”

“อาการบาดเจ็บของคุณเป็นยังไงบ้าง?”นัทธีลุกยืนขึ้น แล้วมองไปที่ขาของเธอ

วารุณีขยับข้อเท้าไปมา แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มไปว่า“ดีกว่าเมื่อวานมากแล้วค่ะ หากไม่ไปโดนมันก็ไม่เจ็บอะไร”

“งั้นก็ดีแล้ว เลิกงานแล้วเดี๋ยวผมพาคุณไปโรงพยาบาลฉีดยากันบาดทะยัก ”จากนั้นนัทธีก็นั่งลงไปที่เดิม

เมื่อคืนเขารับปากกับเด็กน้อยอารัณ ว่าเขาจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด พาเธอไปโรงพยาบาล ก็เป็นหน้าที่ของเขา

“ไม่เป็นไรค่ะ”วารุณีโบกมือให้ “ฉันฉีดมาแล้วค่ะ”

“ฉีดมาแล้ว?”นัทธีขมวดคิ้ว

วารุณีตอบอืมไปคำหนึ่ง “พงศกรเขาเป็นหมอ เมื่อคืนเขาฉีดให้ฉันแล้วค่ะ”

ที่แท้ก็เป็นเขา!

คิดถึงชายหนุ่มที่เขาเจอเมื่อคืน นัทธีก็เม้มปากแน่น น้ำเสียงเย็นเยือกลงไปไม่น้อย “ งั้นคุณไปเถอะ แล้วให้พิชญามาพบผมด้วย ”

“ได้ค่ะ!”วารุณีก็ไม่สนใจว่าท่าทีของเขาจะเปลี่ยนไปยังไง หันหลังแล้วเดินจากไป

สิบนาทีต่อมา พิชญาก็กระสับกระส่ายอยู่ตรงหน้าของนัทธี “นัทธี……”

“ทีหลังอย่าไปตั้งแง่อะไรกับวารุณีอีก ”นัทธีมองไปที่เธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

อันที่จริงเมื่อวานตอนที่อยู่ในโกดัง เขาก็เห็นแล้วว่าเธอมีอคติกับวารุณี เพียงแค่ไม่รู้ว่าความอคตินั้นมันเกิดจากสาเหตุอะไร

แต่ตอนนี้รู้แล้ว พวกเธอทั้งสองคนคนหนึ่งเป็นลูกสาวนอกสมรส อีกคนเป็นลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเธอจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ยังไง ดังนั้นที่เธอตั้งแง่กับวารุณี เขาเองก็เข้าใจได้

แต่เธอเอาเรื่องงานมากลั่นแกล้งวารุณี เขาทนยอมรับไม่ได้จริงๆ

“ฉันไม่ได้จะตั้งแง่อะไรกับเธอ ฉันแค่กังวลว่า เธอไม่ใช่พนักงานประจำของเรา ให้เธอดูเอกสารข้อมูลที่สำคัญแบบนั้น หากเธอ ……”

“คุณคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?”นัทธีพูดขัดจังหวะของพิชญา สายตาที่แหลมคมจ้องมองไปที่เธอ

พิชญาถูกจ้องมองจนรู้สึกผิด ความน่าเกลียดลึกๆในใจ เหมือนถูกเขามองออกจนทะลุปรุโปร่ง จึงได้รีบหลบสายตา

นัทธีเก็บซ่อนสายตา “เธอเป็นผู้ช่วยที่ผมร้องขอมาจากต่างประเทศ และนายท่านวัชระเองก็เป็นคนแนะนำมา คุณสงสัยเธอ ก็เท่ากับคุณกำลังสงสัยผมกับนายท่านวัชระด้วย เพราะฉะนั้นช่วยเก็บความคิดเล็กคิดน้อยทั้งหลายของคุณด้วย ไม่อย่างนั้นคุณก็กลับไปยังสตูดิโอของคุณ คุณเองก็รู้ดี ใครก็ตามที่เป็นอุปสรรคคอยขัดขวางการทำงานผมก็จะต้องกำจัดทิ้ง ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ พิชญาก็กระวนกระวายใจขึ้นมา

ปรกติเธอก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าเขาอยู่แล้ว หากให้เธอกลับไปที่สตูดิโอ โอกาสที่จะเจอก็ยิ่งน้อยลงไปอีก

แล้วเธอจะกระชับสานสัมพันธ์กับเขาได้ยังไง ?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ พิชญาก็บีบฝ่ามือแน่น “ฉันรู้แล้วค่ะ ฉันจะไม่ตั้งแง่อะไรกับเธออีก !”

ต่อหน้าเธอจะไม่ตั้งแง่กับวารุณี แต่ลับหลัง เธอก็ไม่รับประกัน

“ในเมื่อรู้แล้ว ก็ทำตามด้วย ต่อไปหากเธอต้องการเอกสารข้อมูลอะไรคุณก็ต้องเอาให้เธอ โครงการ Bath fire rebirthนี้ ห้ามมีข้อผิดพลาดอะไรเด็ดขาด”นัทธีกล่าวเสียงเรียบ

พิชญามีความไม่พอใจเล็กน้อย “นัทธี คุณจะยก Bath fire rebirth ให้เธอจริงๆเหรอ ? แม้ว่าเธอจะมาจากซาชิโอ แต่เธอก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย ”

นัทธีหยิบกาแฟที่เย็นแล้วบนโต๊ะขึ้นมาจิบ“ มันไม่เกี่ยวอะไรกับมีชื่อเสียงหรือไม่มีชื่อเสียง แต่มันเกี่ยวกับความสามารถ ผมเคยเห็นผลงานของเธอ เธอมีจิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นผมถึงได้ให้โอกาสเธอ ขอแค่แบบร่างเบื้องต้นของเธอผ่าน Bath fire rebirthก็จะยกให้เธอรับผิดชอบ”

แบบร่างเบื้องต้น ?

เมื่อพิชญาได้ยินคำพูดนี้ของเขา ดวงตาก็ฉายประกายแวววาว

หากเป็นไปตามที่พูด ขอแค่วารุณีทำมันพัง นัทธีก็จะไม่เก็บวารุณีเอาไว้

ดูแล้วเธอคงต้องคิดหาวิธีดีๆ เพื่อให้แบบร่างเบื้องต้นของวารุณีไม่ผ่านการอนุมัติ

เมื่อกลับไปในแผนกออกแบบ พิชญาก็เดินเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ เห็นภาพที่วารุณีพูดคุยอยู่กับพี่บุษบาอย่างมีความสุข ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้

“พี่บุษบา!”พิชญาตะโกนเสียงดังออกมาคำหนึ่ง

พี่บุษบาที่กำลังคุยอยู่กับวารุณีก็ลุกยืนขึ้นมาทันที “ผู้จัดการพิชญา”

“คุณตามฉันมาหน่อย”

“ค่ะ!”

พี่บุษบาเดินตามพิชญาออกไป

ผ่านไปสักพัก พี่บุษบาก็เดินกลับเข้ามา มองอย่างรู้สึกผิดไปที่วารุณีแวบหนึ่ง

วารุณีไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ ยิ้มแล้วดึงเก้าอี้นั่งออกมาให้เธอ “ผู้จัดการพิชญาเรียกพี่ไปทำไม?”

ดวงตาของพี่บุษบาไหววูบ “ถามฉันว่าแบบร่างเมื่อวานไปถึงไหนแล้ว”

“งั้นเหรอ”วารุณีพยักหน้า

พี่บุษบานั่งลง แล้วถามไปอย่างไม่ตั้งใจว่า “วารุณี เธอกับผู้จัดการพิชญามีความแค้นอะไรกันใช่ไหม ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มของวารุณีก็เจื่อนลง“จะเรียกว่าแค้นคงไม่ได้ น่าจะขุ่นเคืองมากกว่า ทำไมจู่พี่บุษบาถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?”

“ก็แค่ประหลาดใจ เพราะเธอเพิ่งมาเมื่อวานก็ถูกผู้จัดการพิชญาตั้งแง่ พี่เลยลองถามดู” พี่บุษบาตอบกลับ

วารุณีก็ไม่ได้สงสัยอะไร จากนั้นก็ดูข้อมูลต่อ

ในตอนนี้เอง จู่ๆเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งก็อุทานออกมาเสียงดัง “โอ้แม่เจ้า ท่านประธานของเรามีลูกแล้วงั้นเหรอ !”

“ไหนอะไร ? ลูกอะไร ? อยู่ไหน?”

ในตอนนี้เอง ทั้งสำนักงานก็วุ่นวายไปหมด ทุกคนต่างก็วิ่งไปหาเพื่อนร่วมงานคนนั้น มีเพียงวารุณีที่ยังนั่งอยู่กับที่ ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในความวุ่นวายครั้งนี้ด้วย

นัทธีมีลูก?

เป็นไปได้ยังไง!

แม้ว่าเธอจะไม่รู้อะไรในตัวเขามากนัก แต่สัญชาตญาณบอกว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น ต้องเป็นพวกแอคปลอมปั่นข่าวแน่ๆ เพื่อเรียกกระแสจึงสร้างข่าวปลอมขึ้นมา

เมื่อคิดได้ดังนั้น วารุณีก็ส่ายหัวอย่างขำๆ

แม้ว่าเธอจะไม่ได้สนใจข่าวซุบซิบนินทาของนัทธี แต่คำพูดของเพื่อนร่วมงาน ก็ดังเข้าหูเธออย่างควบคุมไม่ได้ และมีบางคำพูดก็เรียกความสนใจของเธอ

ลูกสองคน อุ้มผู้หญิง ขึ้นรถ……

ทั้งหมดรวมกันแล้วทำไมมันถึงได้ฟังดูคุ้นๆจัง

“หรือจะเป็น……”ท่าทีของวารุณีเปลี่ยนไป เธอรีบพักหน้าจองานลง แล้วกดเข้าไปยังหน้าเว็บ ค้นหาคำว่าข่าวลูกของนัทธี

เมื่อเสิร์ชหาคำคำนี้ ก็มีข้อมูลมากมายโผล่ออกมา

เธอสุ่มเลือกคลิกเข้าไปดู ก็มีภาพถ่ายที่เบลอหน้าออกมาให้เห็นเต็มไปหมด

เมื่อเห็นตัวเองในภาพนั้น วารุณีถึงกับโยนเมาส์ทิ้งแล้วเอามือปิดหน้า

และแล้ว ภาพที่นัทธีอุ้มเธอก็ได้ถูกบันทึกภาพเอาไว้

แม้ว่ารูปถ่ายจะถูกเซนเซอร์ ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่เธอมั่นใจว่า หากพิชญาเห็นต้องจำเธอได้แน่นอน

นัทธีเป็นคู่หมั้นของพิชญา พิชญาคงไม่ปล่อยมันไปง่ายๆแน่!

คราวนี้คงรับมือยากแล้วล่ะ !

“เอะอะอะไรกัน ?”ขณะที่กำลังคิดอยู่ เสียงของพิชญาก็ดังมาจากประตูของสำนักงานใหญ่

“ผู้จัดการพิชญา คุณรีบมาดูเองเถอะ ประธานนัทธีมีลูกซ่อนอยู่อีกบ้านหนึ่ง”เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งที่เห็นพิชญาเดินเข้า จึงได้รีบกวักมือเรียก

เมื่อได้ยินคำว่าลูก ใจของพิชญาก็แทบจะระเบิดออกมา “เหลวไหล นัทธีมีลูกอะไรกัน !”

“ผมไม่ได้พูดเหลวไหล ก็ในข่าวมันเขียนอย่างนั้น ”เพื่อนร่วมงานชายรู้สึกเคือง

“ต้องเป็นข่าวโคมลอยแน่ๆ!”พิชญารีบเดินตรงไปที่เขา ในใจกระสับกระส่าย

เมื่อมาถึงตรงหน้าของเพื่อนร่วมงานชาย เพื่อนร่วมงานชายคนนั้นก็ชี้ไปที่ภาพในจอคอม “ผู้จัดการพิชญาดูเองสิครับ ”

เมื่อพิชญามองไป ม่านตาเธอก็หดลงในทันที

คนในภาพ ต่อให้กลายเป็นผุยผงเธอก็จำมันได้ คือวารุณี และลูกๆของวารุณี !

ทำไมเมื่อคืนนัทธีถึงได้ไปอยู่กับวารุณีแม่ลูกกัน ?

แล้วทำไมนัทธีถึงได้อุ้มวารุณี ?

มีคำถามมากมายเกิดขึ้นจนทำให้พิชญาหายใจแทบไม่ออก เธอสั่งปริ้นภาพเหล่านั้นออกมาด้วยนัยน์ตาที่แดงก่ำ

จากนั้นก็ตรงมาที่วารุณี แล้วโยนรูปถ่ายเหล่านั้นลงตรงหน้าเธอ“ เธออธิบายมาสิ ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ?”

“เกิดอะไรขึ้น ?”มีคนงุนงงไม่เข้าใจ

“จะอะไรได้ ผู้จัดการพิชญาเอารูปถ่ายเหล่านั้นไปถามวารุณี ก็ชัดเจนแล้วว่า คนในรูปถ่ายนั้นคือวารุณี”

“ไม่หรอกมั้ง แม้วารุณีจะมีนอกมีในอะไรกับท่านประธาน แต่จะถึงขั้นมีลูกกับท่านประธานด้วยเหรอ ?”

“จุ๊ๆ อย่าเพิ่งพูด ดูเงียบๆไปก่อน ”

ทุกคนต่างก็ปิดปากเงียบ

วารุณีรู้ดีว่าพิชญาจะต้องมีท่าทีแบบนี้ ถอนหายใจออกมาอย่างปวดหัว“มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ฉันอธิบายได้”

“เข้าใจผิด ?”พิชญายิ้มเยาะ “เธอนอนซบอยู่ในอ้อมอกของคู่หมั้นฉัน แล้วบอกฉันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด?”