ตอนที่ 56 ผู้กล้าทั้ง 2 รวมพลัง

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ ผะ . .ผู้ !!!! …. กล้าาาาาาา !!!!!! ]

 

เจ้ามังกรโบราณนั้นได้ยกแขนของมันขึ้นเหนือหัว สำหรับเวทย์มนต์มังกรคำราม ท่ากรงเล็บมังกร คือ 1 ในท่ามากมายของเวทย์มนตร์สายโจมตีของเวทย์มังกรคำราม ถึงแม้จะกล่าวแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่านอกจากนี้แล้ว มันก็ใช้เพียงแค่ท่า “ความโกรธเกรี๊ยวของมังกร และ เกล็ดมังกร ” เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก่อนหน้านี้ ความรุนแรงของมันเรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติได้เลย แม้ว่าร่างกายของมันจะเป็นเพียงซากศพ แต่ด้วยพลังนั้น ก็สมแล้ว ที่เป็นถึงราชาของเหล่ามังกร ผู้ที่เคยโผล่มากลางวงในการต่อสู้ของมนุษย์ และ ปีศาจ และเผาทำลายทุกสิ่งอย่างเหลือไว้เพียงเศษซากแห่งความว่างปล่าวตลอดทางที่มันเดินผ่านไป มันคือราชาของทุกสรรพสิ่งที่เคยถูกจัดการโดยผู้กล้าคนที่แล้ว

 

[ คู่ต่อสู้ของแกอยู่นี่ !!! . .  ทางนี้ !! ]

 

เจ้าของเสียงนี้คือผู้ที่ถูกเรียกว่า นักสังหารมังกร ผู้เป็นถึงคลาสระดับตำนาน ชายผู้ที่ถือดาบเวทย์มนตร์ของเขาไว้ในมือ “ดาบมังกรสวรรค์ฟาร์เนีย”

ขณะที่แบกดาบขนาดยักสีแดงเข้มจนดูราวกับเลือดไว้บนบ่า อามากิ ไคโตะ ตะโกนออกมาขณะพุ่งไปยังมังกรโบราณ

อาจเพราะเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกนั้น มังกรโบราณได้เหวี่ยงแขนของมันลงมาที่ไคโตะและผองเพื่อน

การโจมตี ที่สามารถเปลี่ยนส่วนหนึ่งของตัวเมืองให้เหลือแต่เพียงเศษซากในทันที และเพื่อที่จะรับมือกับการโจมตีนี้น ไคโตะได้ใส่พลังมังกรเข้าไปในดาบเวทย์มนตร์ และกระโดดขึ้นไปพร้อมกับเหวี่ยงดาบของเขาตัดไปยังในอากาศ

 

[ Haou Ryuusou Ken ]!!  

 

ขณะที่ใช้ทักษะพิเศษของท่า ดาบพลังเวทย์ มันคงจะเรียกได้ว่านี่คือเทคนิคเฉพาะตัวเลยก็ว่าได้ มันสามารถปล่อยคลื่นดาบที่มีพลังเทียบเท่าเท่าการโจมตีที่ถูกเสริมพลังด้วยเวทย์มนตร์ความโกรธของมังกร ( Dragonic Rage )

คลื่นดาบที่ไคโตะปล่อยออกไปนั้น มันพุ่งไปปะทะกับแขนของมังกรโบราณที่เหวี่ยงลงมาและทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นปานฟ้าผ่า พร้อมกับแขนของมังกรโบราณนั้นถูกผลักกลับออกไป

 

[ ดูเหมือนว่าการโจมตีของผมจะเหนือกว่าอยู่นิดหน่อยแฮะ . . ]

 

ภาพที่เห็นขณะนี้คือมังกรโบราณที่กำลังระเบิดเสียงคำรามแห่งความโกรธออกมา อาจเพราะการโจมตีนั้นถูกขัดขวางโดยไคโตะ ผู้ที่ตอนนี้ล่วงลงไปสู่พื้นเป็นที่เรียบร้อย และพลางเก็บดาบยักไว้ที่หลังเช่นเคย

 

[ ถ้าหากเป็นแบบนี้นล่ะก็ หากผมใช้ ท่า ปืนใหญ่มังกร จะสามารถทำลายการโจมตีนั้นได้เลยมั้ยนะ ? ]

 

ไคโตะที่ตอนนี้งคิดแผนแห่งชัยชนะได้แล้ว แต่มีบางสิ่งที่เข้ามาในการรับรู้ของเขา มันสะท้อนให้เห็นถึงแสงว๊าปสีแดง และทันใดนั้น เจ้าสิ่งนั้นที่เคลื่อนที่เร็วกว่าที่เขาจะหันกลับไปมองได้ทัน มันได้ชนกับร่างขนาดยักของมันกรโบราณที่กำลังคำรามอยู่ ความรุนแรงของมันมากพอที่จะทำให้เจ้ามังกรนั้นลอยขึ้นจากพื้นได้เลย

 

[ หว๋า !? ]

 

สำหรับร่างของมังกรนั้นที่ใหญ่โตซะจนเข้าใจผิดว่าเป็นภูเขานั้นได้ถูกทำให้ลอยขึ้นไปในอากาศ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันสร้างความประหลาดใจให้แก่ไคโตะเป็นอย่างมาก ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปโดยทันที

 

[ . . . ผมจำได้ว่าผมเคยพูดไว้ว่า ผมจะฝากเธอไว้กับนายไม่ใช่รึ ? ]

 

เมื่อเขาได้หันหลังกลับไป สิ่งที่ดวงตาสีแดงเข้มกำลังจับจ้องไปนั้นคือร่างของคนๆหนึ่ง พร้อมกับถามออกมาอย่างเคืองๆหน่อยๆ อย่างไรก็ตาม คนๆนั้นก็มาหยุดอยู่ที่ข้างๆไคโตะ

 

[ ถ้าหากนายไม่ต้องการให้พี่น้องคู่นั้นมาเกี่ยวข้องแล้วล่ะก็ นายต้องอย่างมัวแต่ปกป้องพวกเธอ นายจะต้องจบเรื่องพวกนี้ให้ได้ก่อนที่พวกหล่อนจะหาทางมาเกี่ยวข้องจนได้ . . . เพราะถ้าหากนายชักช้าเกินไป ท้ายที่สุด พวกเธอก็จะมาอยู่ดี เข้าใจรึปล่าว ? ]

 

ในมือข้างหนึ่งที่ถือดาบคู่ที่รวมตัวกันกลายเป็นดาบเดี่ยวสีแดงเข้ม เพฌฆาตแห่งความมืด เขาได้กล่าวออกมา

 

——–

 

หลังเรียกดาบ [ Carbuncles ] ที่ขว้างออกไปกลับมา ผมก็มายืนอยู่ที่ข้างๆสุดหล่อคุงและจับตามองไปยังมังกรโบราณที่กำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆ

โถ่ จริงๆผมเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ไกลๆแล้ว แต่ผมนึกไม่ถึงจริงๆว่ามันจะงอกใหม่ออกมาแบบนั้นได้ ผมไม่รู้เลยแม้ว่าผมจะฆ่าไอ้พวกที่คล้ายๆแมลงวันซอมบี้รูปมังกรด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไปมากมายก่อนหน้านี้

ผมล่ะตกใจจริงๆ แต่เมื่อเจ้ามังกรนี้ได้กลายมาเป็นซะขนาดนี้แล้ว มันคงไม่มีทางที่จะช่วยเหลืออะไรได้แล้วซินะ

เอาเถอะ มันคงไม่มีทางชนะแน่ถ้าหากพวกเรายังจะจัดการมันด้วยวิธีปกติ ดังนั้น อะไรคือสิ่งที่พวกเราควรจะทำดี

 

[ นายมาที่นี่ทำไมกัน แล้วถ้าหากเธอถูกสิงร่างอีกขึ้นมาล่ะ !! ]

 

เจ้าของเสียงนั้นคือสุดหล่อคุง สุดหล่อคุงตะโกนออกมาขณะกำแน่นที่ปกเสื้อโคดของผม

 

[ เธอพูดว่า เธอจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกแน่ ]

[ นั้นมัน . . ชิ ไม่ว่านายจะคิดอย่างไรก็ช่าง แต่นั้นมันเป็นเพียงการแสดงความเข้มแข็งของเธอ ดูก็รู้ เธอน่ะกำลังเหนื่อยอ่อนเป็นอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดนายก็น่าจะเข้าใจถึงสิ่งนี้สักนิด!!  ]

 

ผมก็เข้าใจดีในสิ่งที่สุดหล่อคุงพยายามจะบอก แต่ว่า ก็คงต้องของปฎิเสธไปอยู่ดี เพราะถ้าหากทำแบบนั้นจริงๆ ท้ายที่สุดอลิเซียคงจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับการต่อสู้ครั้งนี้เป็นแน่ นั้นเพราะ พี่น้องเหล่านี้ ซิลเวียและอลิเซียต่างมีภาพลักษณ์ที่เหมือน “พี่สาวคนโต” ของเธอ

มันเพราะพวกเธอต่างมีภาพลักษณ์ที่ “เจ้างหญิงผู้เข้มแข็ง”อยู่เสมอ แม้ว่าจะมีใครบางคนที่กระโดดขาคู่ใส่เหล่ามอนเตอร์จนกระเจิงแบบผมอยู่แล้วก็เถอะ แต่สำหรับพวกเธอ การที่จู่ๆมีคนแปลกหน้าต้องมารับผิดชอบสิ่งที่พวกเธอสมควรทำนั้นเป็นเรื่องที่บ้าบอคอแตกมาก

 

[ ผมจะนั่งดูดนิ้วเล่นดูอยู่เฉยๆก็ได้นะ ถ้าหากนายไปพูดกับเธอว่านายต้องการไม่ให้คนที่แข็งแกร่งกว่าอย่างผมไปสู้ เชื่อเถอะ นายจะถูกเทศน์แน่ ]

 

เมื่อผมกล่าวกระตุ้นเขาไปนิดหน่อย สุดหล่อคุงยกดาบของเขาขึ้นเหมือนจะทำอะไรสักอย่างและ

 

[ หึ . . . แต่ผมก็ไม่คิดว่านายจะสามารถฝ่าเวทย์เกล็ดมังกรเข้าได้หรอกนะ ]

 

สุดหล่อคุงตอกกลับคำพูดเหล่านั้นกลับมา โฮะๆ นายแน่ใจแล้วรึที่พูดออกมาอย่างนั้น

 

[ นายนี่มันโง่จริงๆ รู้รึปล่าวมันง่ายนิดเดียว นายก็แค่ฟันมันด้วยดาบไปเรื่อยๆจนกว่าจะฝ่าเวทย์นั้นเข้าไปได้แค่นั้นเอง ]

[  ถ้าแค่นั้นมันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเราหรอก ขนาดใช้สุดยอดเวทย์มนตร์การโจมตีผสาน มันยังสร้างช่องว่างให้โจมตีได้เพียงแค่แว็บเดียว ]

[ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากเราเปิดช่องโจมตีนั้นได้ มันก็คือชัยชนะของพวกเรา เพราะพวกมังกรทั่วๆไปจะตายถ้าหากนายตัดหัวของมันออก ]

[ ไม่ แม้ว่าการตัดหัวของมันออกโดยทั่วๆไปแล้วพวกมังกรจะตายหลังจากนั้น . .แต่เจ้านี้ไม่เหมือนกัน มันมีบางสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้แทน “หัวใจ” ถ้าหากเราเจาะผ่านเวทย์เกล็ดมังกรเข้าไปได้และทำลายเจ้าสิ่งนั้น นั้นแหละถึงจะเรียกว่าชัยชนะ ]

 

สิ่งที่ใช้แทนหัวใจงั้นเรอะ ? โอเค ผมเข้าใจล่ะ

นี่ก็หมายความว่า

 

[ แล้วจะเอายังไงกับเวทย์มนตร์เกล็ดมังกร? ]

[ ผมเจาะผ่านเจ้าสิ่งนั้นได้ ]

[ ในตอนนั้น ผมจะหาหัวใจนั้นและ “แหวกมันเอง” ]

[ . . .  1 นาที ]

[ ? ]

[ นั้นคือเวลาที่จะต้องใช้เตรียมการสำหรับการร่ายเวทย์มนตร์สำหรับเจาะผ่านเวทย์มนตร์เกล็ดมังกร ]

[ เตรียมตัวใน 40 วิ ]

[ . . . งั้นผมคงต้องฝากให้นายจัดการให้เรียบร้อยด้วย ]

[ ปล่อยเป็นหน้าที่ของผมเอง ]

 

เมื่อตอบไปเช่นนั้น สุดหล่อคุงปักดาบยักของเขาลงแน่นที่พื้นดิน และวางมือของเขาลงที่ด้ามจับ และเริ่มที่จะร่ายเวทย์

 

[ [———] ] (TL: ขีดๆนี่คือภาษามังกรครับ มีแต่มังกรเท่านั้นที่ฟังออก)

 

มันเป็นความรู้สึกดังก้องกังวานไปทั่วราวกับมันเป็นเสียงของโลก วงเวทย์ที่ถูกขีดเขียนขึ้นนั้นมันแสดงถึง “สัจธรรม” ของโลกใบนี้

 

[ เอาล่ะ การเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว ]

 

ผมได้ทิ้งวงเวทย์มังกรที่ถูกสร้างขึ้นใว้เบื่องหลัง และเริ่มออกวิ่งอย่างสุดกำลังไปยังเจ้ามังกรโบราณที่กำลังลุกขึ้น

 

——————–

 

ราวกับสายลม 

ราวกับสายฟ้าแลบ

ราชันมังกรที่ตอนนี้กลายเป็นดราก้อนซอมบี้กำลังไล่จับเงาดำ แต่ทว่า เงาดำที่รวดเร็วซะจนเรียกได้ว่าเป็นเทพแห่งความเร็ว ดังนั้น ด้วยซากศพนี้เปื่อยเน่าและพละกำลังที่ถูกลดลงจึงไม่สามารถตามความเร็วได้เลย เพราะทั้งกรงเล็บที่เหวี่ยงลงมาและคมเขี้ยวที่ไล่กัดเขานั้น พวกมันทั้งหมดไม่สามารถถึงตัวเงาดำได้

แต่ทว่า เงาดำนั้น หรือ ยาชิโระ ยูเองก็หมดหนทางต่อกรเช่นกัน

 

(ดั่งที่คิดไว้เลย มันแข็งจริงๆ)

 

แม้ว่าเขาจะวิ่งไปรอบๆพร้อมกับโจมตีด้วยดาบคู่ของเขาไปหลายสิบครั้ง ใน 1 วิ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลุบาเรียที่ไม่รู้เลยว่ามันหนากี่ชั้นกันแน่

 

(เอิ่ม ผมก็เดาไว้อยู่แล้วหละนะว่ามันจะเป็นแบบนี้ เพราะขนาดตอนผมใช้ดาบศักดิ์สิทธ์ยังทำให้ผมเสียเวลาพอสมควรเลยทีเดียว)

[ ผู้ !!! กล้าาาาาาาาา !!! ]

[ จ้า จ้า ผมอยู่นี้แล้วจ้า ]

 

แทนที่จะต้านทานกงเล็บที่เหวี่ยงลงมาด้วยดาบของเขา  เขากลับหลบเลี่ยงโดยใช้ช่องว่างระหว่างกงเล็บ และนั้นทำให้ยูขึ้นมาอยู่ด้านบนของแขนมังกรโบราณและเริ่มออกวิ่ง

 

[ ——! ]

[ มันกำลังมาแล้วสินะ ! ]

 

แทบจะในทันที มีลำแสงพุ่งกระจายออกมาราวกับว่ามันถูกระเบิด ลำแสงเหล่านั้นมันถูกแปรสภาพไหลกลับมารวมกันราวกับเป็นพลังสุดยอด และจุดที่ลำแสงไหลมารวมกันนั้น คือที่ 2 แขนของไคโตะ ที่มาพร้อมกับเสียงร้องตะโกน

 

[ ลมหายใจมังกร !! ]

 

ในจังหวะที่แสงเหล่านั้นถูกรวบรวมขึ้นจนถึงขีดสุด แสงที่ถูกไหลไปรวมกันเป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นลำแสง มันพุ่งตรงไปยังมังกรโบราณ

ลมหายใจมังกร ตามกับชื่อของมัน มันคือสุดยอดของสุดยอดเวทย์มนตร์ มังกรคำราม ที่มีแต่เผ่ามังกรเท่านั้นที่ครอบครอง ลำแสงโจมตีอันรุนแรงที่โอ้อวดได้เลยว่าพลังของมันนั้นแตกต่างจากเวทย์มนตร์ทั่วๆไปที่เหล่ามนุษย์ใช้กัน มันสามารถเผาผลาญทะลุ เวทย์มนตร์เกล็ดมังกร ที่เป็น 1 ในเวทย์มนตร์ มังกรคำราม

 

「――――――ッッ!!??」

 

ลมหายใจมังกร ได้ปะทะกับ เวทย์มนตร์เกล็ดมังกร และทันใดนั้น เวทย์มนตร์เกล็ดมังกรได้ถูกทำลายลงไปพร้อมกับร่างกายครึ่งหนึ่งของมังกรโบราณ มันถูกเผาผลาญจนกลายเป็นเถ้าถ่าน แม้จะมีไอ้สิ่งที่เรียกว่าบาเรียที่มองไม่เห็นนั้นกั้นอยู่ ที่สุดของสุดยอดการโจมตีที่เหล่ามังกรครอบครองนั้นได้ถูกปลดปล่อยออกมาและมันทะลุผ่าน เวทย์มนตร์เกล็ดมังกร ที่แม้แต่ยูเองยังต่อสู้อย่างยากลำบาก มันถูกเจาะเป็นรูราวกับกระดาษที่เปียก

 

[ ลมหายใจมังกร . . . มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว . . ]

 

หลังจากที่หายตะลึงจากพลังโจมตีที่มากมายจนผิดปกติเมื่อสักครู่ ยูถึงกับพึมพัมออกมา พร้อมกับมองไปยังร่างของมังกรโบราณที่ตอนนี้ถูกเจาะจนเป็นรู

 

( ความรู้สึกแบบนี้ เจ้านี่มันยังไม่ถูกจัดการ ผมก็หลงคิดไปว่าด้วยการโจมตีนั้น มันเป็นไปได้แน่ๆที่จะจัดการมันได้  )

 

เขาไม่รู้ว่า เป็นเพราะความเจ็บปวดหรืออะไรบางอย่างที่พุ่งทะลุร่างกายที่ตายแล้วนั้นทำให้มันโมโหขึ้น และมันเริ่มที่จะส่งเสียงคำรามออกมา มันดังซะจนแผ่นดินสั่นไหวเลยทีเดียว

มันยังไม่จบแค่นี้ ยูเขารู้สึกได้และเริ่มมองหาเป้าหมายของเขา สิ่งที่ใช้แทนหัวใจของมัน

ทันใดนั้น

 

( ใช่นั้นรึปล่าวนะ ? )

 

เขาก็ได้ค้นพบกับ “บางสิ่ง” ที่ถูกฝั่งอยู่ตรงใจกลางอกของมังกรโบราณ

 

[ โอ้วววววววววววววววว !!!! ]

 

มันเป็นการถีบพื้นอย่างรุนแรง ความรุนแรงของมันมากพอที่จะทำให้ถนนเกิดความเสียหายเพราะรอยเท้าที่เขาย่ำลงไป ยูกระโดดพุ่งตรงไปยังมังกรโบราณราวกับเขาเป็นมิสไซล์

 

[ ย๊ากกกก !! ]

 

พร้อมกับเปลี่ยนดาบสีเลือดเข้มของเขาให้กลายเป็นดาบคู่ เขาปลี่ยนท่าจับดาบมาขนานกัน และแทงออกไป

 

“เพล้ง”

 

พร้อมกับเสียงแหลมสูงที่เกิดขึ้น ดาบคู่ทั้ง 2 เจาะทะลุเข้าไปอะไรบางอย่างสีเหลืองอัมพันก่อนที่ เวทย์มนตร์เกล็ดมังกร จะฟื้นฟูกับมาได้ทัน และการโจมตีนั้น ทำให้อะไรบางสิ่งไหลออกมาตามรอยร้าว

 

[ บิงโก !! มานามันไหลออกมาจากสิ่งนี้ มันคือศูนย์กลางแน่ ! ]

 

ขณะที่ห้อยตัวอยู่กับดาบที่ถูกปักอยู่ ยูตะโกนออกมา พร้อมกับกำดาบไว้แน่นและเริ่มขยับมันขึ้นๆลงๆ ราวกับว่าเขาพยายามที่จะเปิดมันให้กว้างขึ้น

 

[ อุ . . .อุก. . . . โอ้วววววววววว !! ]

 

บาเรียเริ่มก่อตัวขึ้นและเริ่มที่จะแข็งแกร่ง เวทย์มนตร์เกล็ดมังกรเริ่มที่จะต่อต้านกับตัวดาบ แต่ ยูกับใช้พลังของเขาฝืนมันไว้และเขาก็ทำได้ พร้อมกับตะโกนออกมา

 

[ ซ้ำมันอีกที !!!!!! ]

[ รับไปซะ !!! ]

 

ในช่องว่างบาเรียขนาดเล็กที่ยูเป็นคนเปิดขึ้นนั้น ดาบยักสีแดงเข้ม ไคโตะได้ใช้มันแทงทะลุลงไป

 

[ Combustion Sword!! ] 

 

ลำแสง ได้ปะทุออกมา

 

—————-

 

มังกรโบราณ ราชันมังกร วาฟามุส

มันเป็นสัตว์เทพที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่กินทุกเศษเสี้ยวของมานาที่มีอยู่มากมายในโลกใบนี้ และเผ่าปีศาจที่กัดกินทำลายธรรมชาติที่เป็นแหล่งของมานา ทำให้เมื่อ 3 ปีก่อน มันปรากฎตัวขึ้น และเป็นศัตรูกับทั้ง 2 ฝั่งทั้งมนุษย์และปีศาจ

ถ้าผู้กล้าคือผู้อยู่บนจุดสูงสุดของมนุษย์ชาติและจอมมารคือผู้อยู่บนจุดสูงสุดของเผ่าปีศาจ ราชันมังกรคือผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของธรรมชาติ

ราชันมังกรนั้น ถ้าจะให้พูด ชีวิตของมันถูกทำลายลงเรื่อยๆด้วยการโจมตีของทั้ง มนุษย์ชาติและเผ่าปีศาจ และในสุดท้ายนั้น ในขณะที่จิตวิญญาณและร่างกายของมันกำลังจะถูกทำลาย มันได้ประจันหน้ากับผู้กล้าที่มันเกลียดเข้าไส้ และได้ตายลง

 

[ . . . ในที่สุดท่านก็ได้จากไปจริงๆแล้วสินะ เพื่อนเก่าของข้า วาฟามุส ]

 

สิ่งมีชิวีตขนาดใหญ่ที่อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นภูเขานั้น มันคือมังกรขนาดใหญ่ที่ร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาวสวยงาม

ผู้คนต่างเรียนขานเขาว่า บรรพชลของเหล่ามังกร  The Elder Dragon มันคือมังกรตนแรกที่เกิดมาพร้อมกับเวลาที่โลกนี้ได้ถูกสร้างขึ้น

และภายในส่วนลึกที่สุดของพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มันคือสวนในเขาวงกตแห่งเวลา เอลเดอร์ดราก้อนได้รับรู้ถึงการตายของเพื่อนร่วมสาบานตั้งแต่ช้านานของเขา

 

[ ฟาร์เนีย และตอนนี้ก็ วาฟามุส . . . โอ้วตายแล้ว เหล่ามังกรโบราณตอนนี้เหลือเพียงแค่ข้าสินะ ]

 

เสียงพึมพัมนั้นมันเป็นเสียงที่แหบแห้งและมันแสดงถึงความมีอายุในน้ำเสียง เอลเดอร์ดราก้อนได้รู้สึกถึงเสียง *ซุก ซุก* มันเป็นเสียงการก้าวเดินบนผืนหญ้า เขาจึงมองไปยังทิศทางที่เกิดเสียงนั้น

 

[ โอ้วว . . . นอร์น นั้นเธอรึ? ]

[ ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ ท่านเอลเดอร์ดราก้อน ]

 

สิ่งที่เอลเดอร์ดราก้อนเห็นคือผู้ที่มีผมสีขาวยาว ที่ดูราวกับว่ามันโปร่งใสและร่างกายที่มีผิวขาวเนียน เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆที่มีดวงตาสีแดงเข้มราวกับเลือด

 

คือเธอเอง [ แม่มดแห่งเวลา ] นอร์น

 

ขณะที่กำลังเดินผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีเหล่านั้นมา ในที่สุด นอร์นก็เข้ามาใกล้กับเอลเดอร์ดราก้อน

 

[ มันเป็นดั่งที่เธอกล่าว นอร์น กี่ปีผ่านไปแล้วนะตั้งแต่ตอนนั้น? ]

[ ก็ก่อนที่ผู้กล้าจะปรากฎตัว มันก็ผ่านไปแล้ว 4 ปี ค่ะ ]

 

นอร์นตอบคำถามของเอลเดอร์ดราก้อนออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

[ อืม อืม ดูเหมือนว่าเมื่อเร็วๆนี้ จะมีเด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าผู้กล้ามาที่นี่เหมือนกัน เธอรู้รึปล่าว? เขาได้รับความทรงจำในเทคนิคที่วาฟามุสทิ้งเอาไว้แต่. . เธอคงรู้เรื่องนี้แล้วสินะ ? ]

[ ค่ะ จริงๆแล้วเขามีชื่อว่า ไคโตะ อามากิ ]

[ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนมอบจุดจบให้กับวาฟามุส ]

[ ค่ะ ดิฉันทราบดี ]

[ อืม เธอรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นจริงๆสินะ . . . สมแล้วที่เป็นถึง แม่มดแห่งกาลเวลา ]

 

*ฟุ ฟุ* เอลเดอร์ดราก้อนหัวเราะออกมาเล็กๆ 

 

[ ข้าต้องขอขอบคุณเธอจริงๆ นอร์น ]

[ ไม่ค่ะ พวกเราต่างหากที่เป็นคนขออภัยแก่ท่าน แม้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะเพื่อช่วยโลกใบนี้ แต่พวกเราก็ได้ทำลาย 2 เสาหลักของเหล่ามังกรผู้เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ ]

 

นอร์นเข้าไปใกล้เอลเดอร์และนั่งลงที่บนหญ้าข้างๆตัวเขา

 

[ มันไม่เป็นไร ทั้งฟาร์เนียและวาฟามุสต่างก็แค่เข้าใจผิด คิดว่ามนุษย์ชาติและพวกปีศาจต่างพยายามจะกำจัดพวกเขา ที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่ถูก”โลกใบนี้” สร้างขึ้นมา ]

 

เอลเดอร์ดราก้อนกล่าวออกมา และภาวนาแก่เพื่อนเก่าของเขาให้ไปสู่สุขคติ . .