*สวบ*

ในผืนป่าอันกว้างใหญ่ที่ร่างสองร่างปรากฏตัวขึ้นเป็นผู้ชายและอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง

หญิงสาวร่างสูง เธอได้มัดผมเป็นหางม้าสภาพของเธอตอนนี้ดูใกล้จะหมดแรง เธอหายใจอย่างเหนื่อยหอบและจ้องมองไปยังผืนป่าเบื้องหน้าที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุด เธอได้พูดอย่างเซ็งว่า

“อีกเมื่อไหร่เราจะถึงพี่ เราเดินมาครึ่งวันแล้วนะ”

คาเปซที่มองไปเบื้องหน้าด้วยสีหน้าที่ลึกซึ้ง ท่าทางของเขาดูสุขุมและสงบ จากนั้นเขาก็เบนสายตามามองน้องสาวและพูดว่า

“พี่ว่าเราใกล้จะถึงที่หมายแล้ว น้องอดทนเดินทางต่อกันเถอะ”

แคทเธอรีนรู้สึกทําตัวไม่ถูกแต่เมื่อเธอนึกถึงความเป็นไปได้ในการพบองคกรนักเวทย์ที่เธอใฝ่ฝันที่จะเข้าร่วมมาโดยตลอด มันก็ทําให้เธอยึดสู้และก้าวเดินไปข้างหน้า

“โฮก!!!”

ทันใดนั้นเองกมีเสียงคํารามของสัตว์ร้ายขนาดมหึมาดังขึ้น

คาเปซกับแคทเธอรีนหันไปมองรอบ ๆ อย่างตื่นตัว

จากนั้นก็มีเสือโคร่งสูงสองสามเมตรกรธดจนออกมาจากป่า ด้วยขนาดของมันทําให้พวกเขาเข้าคู่ดูตัวเล็กราวกับคนแคระไปเลย

“นี่มันเสือลายพาดกลอนไม่ใช่เหรอ? ทําไมตัวมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?”

แคทเธอรีนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอเคยเห็นเสือลายพาดกลอนมาก่อน ขนของพวกมันมีมูลค่าสูงมาก อย่างไรก็ตามปกติตัวมันไม่สูงถึงขนาดนี้

แม้ตัวเสือจะใหญ่และน่ากลัวแต่แววตาของมันกลับว่างเปล่าราวกับตุ๊กตา

“แคทเธอรีนระวังตัวให้ดี ที่เทือกเขาเคอร์ดิชมักจะมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา พี่ได้ยินเรื่องเล่าจะนักผจญภัยมาว่าพวกเขาเคยพบกับพวกสัตว์ที่ถูกควบุมด้วยอะไรบางอย่าง”

หลังจากกล่าวจบ คาเปซได้ถอยหลังไปทีละกว้าง ในใจของเขาคิดว่าการได้พบกับเสือโคร่งยักษ์ตัวนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาใกล้จะถึงส่วนลึกของเทือกเขาเคอร์ดิชแล้ว

“โฮก!!!”

เสือเงยหน้าคํารามขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นมันก็ก้าวเดินไปหาคาเปซทันที

เพียงพริบตาเจ้าเสือก็เข้ามาใกล้คาเปซแล้ว เห็นได้ชัดว่าพลังกระโดดของมันยอกเยี่ยมเพียงใด

*หวู่ม!*

ทันใดนั้นความผันผวนของธาตุลมได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของคาเปซ เขาได้พุ่งเข้าหาเจ้าเสือสวนกลับไปอย่างไม่กลัวเกรง

“ย้าก!!”

คาเปซส่งเสียงคํารามพร้อมกับจ้างดาบใหญ่ออกมา ทันใดนั้นแสงยาวได้ฟันผ่านร่างของมันไป

*ฉัวะ*

เสือลายพาดกลอนที่ดูเกรงขามและทรงพลังราวกับไม่มีใครเทียบเคียงได้ มันได้ถูกโค่นลงอย่างง่ายดาย เลือดสด ๆ พุ่งออกมจากสมองของมันทันที

“กรร…” เสียงร้องอู้อี้ได้ดังออกมาจากเจ้าเสือที่นอนอยู่กับพื้น

ทางด้านคาเปซ เขามองดูซากของเสือโคร่งที่แววตาที่หวั่นเกรง จากนั้นเขาได้ยกดาบใหญ่ขึ้นและพูดโดยน้ำเสียงอันสงบว่า

“โชคดีที่ฉันเอาดาบเหล็กดํามาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องตกที่นั่งลําบากอย่างแน่นอน”

ดาบเหล็กดําที่อยู่ในมือของเขาคาเปซ มันถูกสรเงขึ้นจากแร่เหล็กดําที่หายาก ด้วยแร่นี้หากถูกตีเป็นดาบมันจะมีความคมมากและสามารถันทะลุเกราะหนักได้อย่างง่ายดาย

นอกจากเรื่องดาบแล้ว ตัวของคาเปซยังเป็นนักดาบวายุระดับสาม มันจึงทําให้เขาเคลื่อนที่ได้เร็มากดังนั้นเขาจึงสามารถรับมือเสือลายพาดกลอนได้สบาย ๆ

แคทเธอรีนได้เดินเข้ามาใกล้ ๆ เปธเห็นซากของของเสือที่หัวของมันถูกผ่าเป็นสองซีก เธอได้พูดอย่างกลัว ๆ ว่า

“ยังดีที่พี่ได้เอาดาบเหล็กดําของพ่อออกมาด้วยเลยจัดการเจ้าเสืออย่างง่ายดายแต่ถึงอย่างนั้น น้องก็ไม่รู้ว่าจะมีเจ้าอะไรโผล่ออกมาจากป่าอีกมั้ย พี่ว่าเราควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้?”

สีหน้าของแคทเธอรีนดูซับซ้อน เธอดูเหมือนจะถอดใจที่จะไปต่อแล้วเนื่องจากสิ่งที่เธอพบเจอมันน่ากลัวเกินไป

“แคทเธอรีน เรามาไกลกว่าที่จะถอยกลับแล้ว น้องไม่ต้องกลัวไปตราบใดที่มีที่อยู่น้องจะปลอดภัย เดินทางกันต่อเถอะ พี่ว่าเราใกล้จะเจอดินแดนมนต์ดําแล้ว”

แคทเธอรีนลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เธอได้ตัดสินใจเดินตามหลังของคาเปซเข้าไปในส่วนลึกของป่า

“เอ๋? แหวนมันทํางานแล้ว”

เมอร์ลินกล่าวออกมาด้วยความดีใจ ตอนนี้เขาอยู่ในป่าลึกและจู่ ๆ แหวนสีดําได้ส่องแสงจาง ๆ ขึ้นมาโดยที่เขาไม่ทันตั้งใจ

เขาสังเกตเห็นว่าแสงมันมาจากอักษรรูนบนแหวน ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างเปิดการใช้งานพวกมัน

มีเพียงพ่อมดเท่านั้นที่จะเข้าใจควมลับอันยิ่งใหญ่ของอักษรรูนพวกนี้ได้ โดยอักษรรูนถือเป็นศาสตร์ลึกลับที่สามารถนําไปใส่ในวงแหวนเวทย์หรืออุปกรณ์เวทมนต์ได้

เมอร์ลินคิดว่าแสงที่ส่องออกจากแหวนมานี้จะนําพาเขาไปยังที่ตั้งของดินแดนมนต์ดําอย่างแน่นอน

“ไปข้างหน้า…ไม่สิไปทางซ้าย เอ๋ ต่อไปตรงข้างหน้าสินะ”

เมอร์ลินสังเกตเห็นว่าแสงนั้นค่อย ๆ สว่างขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้มันก็เริ่มสั่นเล็กน้อย เขารู้สึกว่ามีพลังงานอย่างกําลังดึงดูดแหวนไปยังส่วนลึกของภูเขา บางทีที่นั่นอาจเป็นที่ตั้งของดินแดนมนต์ดํา

“โฮก!”

ทันใดนั้นเอง เสียงดังของสัตว์ร้าย มันกําลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

เมอร์ลินตื่นตัวทันที เขาจําได้ว่าเทือกเขาแห่งนี้มีสิ่งแปลก ๆ มากมายเกิดขึ้น มันทําให้นักผจญภัยจํานวนมากเสียชีวิตที่นี่ดังนั้นเมอร์ลินจึงระวังตัวตลอดเวลา

*สวบ*

ทันใดนั้นร่างสองร่างพุ่งออกมาจากพุ่มหญ้าและพุ่งตรงมาที่เมอร์ลิน

“พวกคุณ?”

สองร่างได้เงยหน้าขึ้น เมอร์ลินจําพวกเขาได้ในทันที พวกเขาคือแคทเธอรีนกับคาเปซที่แยกกันก่อนหน้านี้

“รีบหนีไปเร็วเข้า! มีหมาป่าน้ำแข็งกําลังไล่ตามพวกเรามา ให้ตายเถอะทําไมถึงมีสัตว์ประหลาดแบบนี้ในเทือกเขาเคอร์ริชได้”

คาเปซตะโกนใส่เมอร์ลินด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีหมาป่าสีขาวเงินขนาดมหึมาที่ปล่อยความหนาวเย็นทั่วบริเวณได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของคาเปซและแคทเธอรีน

“หมาป่าน้ำแข็ง?”

เมอร์ลินจ้องมองมันด้วยแววตาที่ตระหนกเนื่องจากหมาป่าน้ำแข็งไม่ใช่สัตว์ที่มีเลือดและเนื้อ แต่เป็นอสูรธาตุที่เกิดจากธาตุน้ำแข็งจํานวนมากรวมตัวกัน

พวกนักดาบธาตุขั้นต้นไม่สามารถต่อสู้กับอสูรธาตุอย่างมหาป่าน้ำได้ มีเพียงนักดาบธาตุขั้นกลางขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถจัดการมันได้

ดังนั้นจึงทําให้คาเปซกับแคทเธอรีนทําได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้น

“เสร็จกัน มันเร็วเกินไป พวกเราไม่รอดแน่!” คาเปซกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว

*วิ้ง วิ้ง วิ้ง*

ทันใดนั้นเองแหวนสีดําบนนิ้วของเมอร์ลินได้เปล่งแสงจ้าออกมา ดูเหมือนตัวอักษรรูนบนแหวนจะถูกเปิดใช้งาน ทําให้มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง