ตอนที่ 43 ตำราชำรุด (1)
เหมียว! เจ้าแมวดำร้องคราง พยายามปลอบให้จวินอู๋เสียสงบสติอารมณ์ของนางลง
อนิจจาเพราะดูจากมุมปากที่เม้มตึงของจวินอู๋เสียแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่เป็นผล
เมืองผีมีขนาดใหญ่โตมาก แต่ไม่คิดว่าแผงขายตำราฝึกยุทธกลับน้อยจนน่าเวทนา แถมพวกมันยังกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง บีบบังคับให้จวนอู๋เสียต้องเดินไปรอบๆ กว่าจะไปถึงที่หมายสักจุด
ในที่สุดก็เดินมาถึงจุดที่ผู้คนน้อยลงเสียที จวินอู๋เสียผ่อนคลายลงนิดหน่อย เพราะแผงขายของบริเวณนี้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างเสียมาก จวินอู๋เสียกวาดสายตามองรอบๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะเห็นร้านหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ขณะที่นางกำลังจะสาวเท้าเดินไปทางด้านนั้น ความรู้สึกร้อนที่นิ้วนางข้างขวาก็ถูกส่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน
นิ้วมือที่มีภูติวิญญาณประทับอยู่อุ่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หรือว่ามันจะหาตำราฝึกยุทธที่เหมาะกับนางเจอแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ดอกบัวขาวมีปฏิกิริยาเช่นนี้ การตอบโต้ของภูติวิญญาณนางทำให้จวินอู๋เสียหันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก
แผงขายของบริเวณนี้มีทั้งสิ้นเพียงสิบแผงเท่านั้น จวินอู๋เสียไล่ดูไปทีละแผง และในที่สุดนางก็พบเข้ากับเป้าหมายที่ต้องสงสัย
บนแผงขายของเล็กๆ แผงหนึ่งที่ไม่เป็นที่น่าสนใจนัก ตำราที่ทั้งเก่าและชำรุดสองสามเล่มวางนอนอยู่บนนั้น บนปกของตำราโบราณเล่มหนึ่ง ชำรุดไปจนแทบมองไม่เห็นที่มาของตำราว่ามาจากที่ไหนหรือเขียนขึ้นโดยผู้ใด จวินอู๋เสียลังเลใจชั่วครู่ แต่เมื่อแน่ใจแล้วว่าแผงขายของทั้งสิบนี้มีเพียงแผงนี้เท่านั้นที่มีตำรา นางจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูอย่างละเอียด
พ่อค้าเจ้าของแผงขายตำราโบราณนั้นเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสิบห้าหรือสิบหกปี เดิมทีหน้าเขาควรจะขาวเนียนสะอาดตา แต่กลับมีรอยเปื้อนจำนวนไม่น้อยบนใบหน้า แถมการแต่งตัวก็ดูตกอับนิดหน่อย ผมเผ้ารุงรัง ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าเขากลับมองไม่เห็นถึงอารมณ์ด้านลบใดๆ พาให้คนมองรู้สึกสบายใจเล็กน้อย
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้เล็กๆ ที่ทำขึ้นจากไม้ ในปากคาบใบไผ่อยู่ มือพลิกตำราโบราณที่ทั้งเก่าและชำรุด ดูเหมือนกำลังอ่านอย่างเพลิดเพลินเต็มที่
จนกระทั่งจวินอู๋เสียมาหยุดอยู่ที่หน้าแผงของเขา เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีลูกค้าเข้าร้านแล้ว!
เมื่อคนขายไม่มีท่าทีโต้ตอบ คนซื้อก็เงียบไม่พูดอะไร
คนทั้งสองไม่ยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่าย ต่างคนต่างทำสิ่งที่ตนต้องการ
กระดาษถูกพลิกเปิดไปทีละหน้า แม้ว่าปกของตำราโบราณที่นอนอยู่เหล่านั้นจะไม่มีแล้ว แต่ว่าเนื้อหาข้างในกลับยังคงสภาพที่ดีอยู่
อย่างไรก็ตาม…
จวินอู๋เสียเพ่งความสนใจไปที่ตำราตรงหน้าของนาง หลังจากเปิดดูเนื้อหาข้างในสองสามรอบ คิ้วเรียวก็ขมวดมุ่น นี่มันใช่ตำราฝึกยุทธ์แน่หรือ
ตำราโบราณเหล่านี้ ดูอย่างไรก็เป็นตำราเพาะปลูกชัดๆ!
เนื้อหาด้านในนั้นนอกจากสอนวิธีการเพาะปลูกดอกไม้และต้นไม้แล้ว ก็ไม่กล่าวถึงวิธีการบ่มเพาะพลังใดๆ อีก
แม้ว่าจวินอู๋เสียต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์เช่นนี้ แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะมุมปากกระตุก ทว่าดอกบัวขาวมีท่าทีแปลกๆ หลังจากที่นางสัมผัสกับตำราโบราณเหล่านั้น การตอบสนองที่รุนแรงของเจ้าดอกบัวขาวน้อย ทำให้นางรู้ว่าหากไม่ใช่เพราะตอนนี้ด้านนอกมีมนุษย์อยู่มากมายล่ะก็ เขาคงจะกลายร่างเป็นเด็กชายแล้ววิ่งมาแย่งตำราไปจากมือนางแล้ว!
แต่เพราะไม่สามารถปรากฏตัวออกมาได้ เขาจึงแผ่พลังกระตุ้นนางอย่างต่อเนื่อง คะยั้นคะยอให้นางรีบซื้อตำราพวกนี้ให้เขา
“ข้าชอบพวกมัน ซื้อกลับบ้านเถอะนะขอรับ นะขอรับ ได้โปรดเจ้านาย…”
จวินอู๋เสียกำหมัดแน่น
มีภูติวิญญาณเป็นดอกบัวที่หาได้ยาก นางก็ปวดหัวมากพอแล้ว นี่เจ้าหนูนี่ยังขอให้นางซื้อตำราเพาะปลูกที่ไม่น่าจะมีค่าอะไรเลยกับนางกลับบ้านอีกหรือ สิ่งที่ข้าต้องการที่สุดตอนนี้คือตำราฝึกยุทธต่างหากเล่า!
จวินอู๋เสียอยากจะเดินจากไป แต่ทว่าเจ้าดอกบัวน้อยกลับไม่ยอมหยุด มันอ้อนวอนให้นางซื้อตำราพวกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เหมียว? เจ้าแมวดำเอียงหัว มันมองการแสดงออกที่ยุ่งเหยิงบนใบหน้าของจวินอู๋เสียด้วยความงุนงง
“หืม” ในที่สุดชายหนุ่มผู้ลุ่มหลงอยู่กับเนื้อหาในตำราก็รู้สึกตัวว่ามีลูกค้ามาเยือน เขาเงยหน้าขึ้น ใช้สายตาที่เฉยชาพิจารณาจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่หน้าแผงขายของของเขาอย่างละเอียด
…………
ตอนที่ 44 ตำราชำรุด (2)
“มาซื้อของอย่างนั้นหรือ” เมื่อเห็นลูกค้าชายหนุ่มก็ยัดตำราในมือไปที่ด้านหลังเอวทันที ใบหน้าที่มอมแมมยิ้มต้อนรับอย่างมีไมตรียิ่ง
“เลือกดูตามสบาย เลือกดูตามสบาย เลือกได้แล้วแค่เอ่ยปากบอกข้าก็พอ” ชายหนุ่มแนะนำกองตำราชำรุดอย่างกระตือรือร้น
มุมปากของจวินอู๋เสียเม้มเป็นเส้นตรง นางยังคงรู้สึกขัดแย้งกับตำราพวกนี้อยู่ นิ้วโป้งกดไปที่นิ้วนางบนมือข้างขวาอย่างหนัก
“ตำราเหล่านี้…เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางมาที่ตลาดแห่งนี้พร้อมกับความหวัง ทว่ากลับถูกเจ้าดอกบัวขาวน้อยทำร้าย อารมณ์ที่เดิมไม่ดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก
“ตำรากองนี้น่ะหรือ เจ้าต้องการมันทั้งหมดเลยหรือไม่เล่า” ชายหนุ่มมองจวินอู๋เสียด้วยดวงตาเป็นประกาย ท่าทางตื่นเต้นเหมือนได้เห็นแกะอ้วนตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
“ใช่” จวินอู๋เสียแค่อยากให้มันจบเร็วๆ ดอกบัวขาวจะได้ไม่ต้องส่งเสียงรบกวนนางอยู่แบบนี้อีก และนางจะได้มีเวลาไปเดินหาตำราฝึกยุทธต่อด้วย
ชายหนุ่มชูนิ้วมือทั้งห้านิ้วขึ้นมา แล้วพูดกับนางด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ไข่มุกบูรพาห้าเม็ด!”
“……” จวินอู๋เสียชะงักกึกไป นางมองไปที่มือของชายหนุ่ม ก่อนจะก้มลงแล้วมองตำราชำรุดบนพื้นเหล่านั้นซึ่งไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อนางเลย จากนั้นก็ตัดสินใจทิ้งตำราลง หันหลังแล้วเดินจากไป
ไข่มุกบูรพาถือกำเนิดขึ้นในทะเลจีนตะวันออก หนึ่งเม็ดมีมูลค่าสูงมาก เทียบเท่ากับทองคำเกือบล้านตำลึงเลยทีเดียว!
ชายหนุ่มคนนั้นอ้าปากก็จะเอาถึงห้าเม็ด! แค่ตำราชำรุดเกี่ยวกับการเพาะปลูกดอกไม้และต้นไม้สองสามเล่มนั้น ไม่คุ้ม!
“เดี๋ยวก่อน! เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป!” เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าจวินอู๋เสียเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร ก็เริ่มกังวลและรีบเรียกนางไว้ทันที
จวินอู๋เสียเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเขา แต่เมื่อเดินไปได้พักเดียว นิ้วนางของนางกลับส่องแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะระเบิด
“อย่าไปนะ! อย่าไปนะ! อย่าไปนะ!” น้ำเสียงอ่อนวัยเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย จวินอู๋เสียรีบซ่อนมือขวาไว้ใต้แขนเสื้อ ใจเริ่มสั่น
ดอกบัวขาวบ้าไปแล้วหรือ
เพื่อให้ได้ตำราเหล่านั้น นึกไม่ถึงว่ามันจะถึงขั้นต่อต้านความตั้งใจของนางโดยตรง มิหนำซ้ำยังคิดจะปรากฏตัวออกมาอีก!
อย่าว่าแต่รูปลักษณ์ที่สะดุดตาของดอกบัวขาวเลย แสงสว่างตอนที่เขาปรากฏตัวออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความโกลาหลในเมืองผีแห่งนี้ได้แล้ว ขณะที่เขาต้องการจะปรากฏตัวออกมาเมื่อครู่นี้ กลิ่นหอมของดอกบัวก็ตลบอบอวลไปทั่ว กลิ่นของดอกบัวกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างอื่นในเมืองผีไปจนหมด ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจนทุกคนหยุดฝีเท้าลง มองหาว่ากลิ่นนี้มาจากที่ใด
จวินอู๋เสียแทบอยากจะจับเจ้าดอกบัวขาวส่งกลับโลกภูติวิญญาณของเขาไปเสียเดี๋ยวนี้!
“หุบปาก แล้วอยู่นิ่งๆ” จวินอู๋เสียลดเสียงลงแล้วพูด
เรื่องที่นางมีภูติวิญญาณไม่มีใครรู้ หากถูกเปิดเผยออกมาที่นี่คงได้เป็นเรื่องใหญ่แน่!
ในขณะที่จวินอู๋เสียและดอกบัวขาวกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นก็วิ่งไล่ตามหลังมาแล้ว เขาวิ่งมาพร้อมกับตำราชำรุดสองสามเล่มในอ้อมแขนของเขา
“อย่าไป! ถ้าเจ้าคิดว่าห้าเม็ดมันมากเกินไป ข้าลดให้เจ้าก็ได้ เหลือแค่สี่เม็ดก็ได้!” ชายหนุ่มรีบวิ่งไปหยุดตรงหน้าจวินอู๋เสีย ขวางทางนางไว้ พยายามเสนอขายตำราไม่กี่เล่มนั้นอย่างเต็มที่
ชายหนุ่มกอดหนังสือแล้วเดินเข้ามา ในที่สุดก็ทำให้ดอกบัวขาวอยู่นิ่งๆ ได้แล้ว
จวินอู๋เสียเข้าใจแล้วว่าหากวันนี้นางไม่ได้ตำราเหล่านี้กลับไปด้วย เจ้าดอกบัวขาวจะต้องก่อเรื่องแน่ๆ
“ข้าไม่มีไข่มุกบูรพา มีแต่โอสถวิเศษ เจ้าแลกหรือไม่” จวินอู๋เสียมองหน้าชายหนุ่มแล้วพูด
“ห๊ะ! โอสถวิเศษอย่างนั้นหรือ” ชายหนุ่มเกาหัวแกรกๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ จางลง จากนั้นก็พึมพำด้วยความผิดหวังเล็กน้อย “โอสถวิเศษจากสถานที่แบบนี้ข้าจะเอาไปทำอะไรเล่า…”
“ช่างเถอะ ถ้าเจ้าไม่มีไข่มุกบูรพาก็ช่างมันเถอะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็หันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ
ดอกบัวขาวที่เพิ่งสงบลงได้ไม่กี่วินาทีเริ่มส่งเสียงร้องอีกครั้ง! จวินอู๋เสียโกรธอย่างถึงที่สุดแล้ว
………..