ตอนที่ 39 ขายไก่ในตลาดมืด

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 39 ขายไก่ในตลาดมืด

 คนขับรถแทรกเตอร์ลดความเร็วลงเล็กน้อย แล้วรีบเอ่ยถามด้วยความกังวล “ทำยังไงดี?”

หลินม่ายตัดบท “พุ่งออกไปเลย!”

ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นนางนกต่อหรือเป็นเหยื่อที่ขอความช่วยเหลือจริง ๆ ก็หยุดไม่ได้

ยกตัวอย่างว่าถ้าหล่อนเป็นนางนกต่อแล้วพวกเขาหยุดรถช่วยหล่อน โจรที่ซ่อนตัวอยู่จะต้องออกมาปล้นแน่นอน

ถ้าผู้หญิงคนนี้ต้องการขอความช่วยเหลือจริง ๆ พวกเขาคงทำได้แค่มองแต่ไม่ช่วย

เพราะถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โดนคนชั่วทำร้ายจริง การที่พวกเขาไปช่วยหล่อนก็เท่ากับหาเหาใส่หัวนะสิ?

คนขับรถแทรกเตอร์เห็นผู้หญิงคนนั้นขวางถนน จึงเอ่ยด้วยความลังเล “พุ่งออกไปเลยเหรอ? ถ้าชนหล่อนขึ้นมาจะทำยังไง?”

หลินม่ายเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “เห็น ๆ อยู่ว่าเราพุ่งใส่หล่อน หล่อนไม่หลบ จะโทษใครได้? ถ้าเกิดเรื่องฉันรับผิดชอบเอง!”

มีคนรับผิดชอบแล้วจะกลัวทำไม

คนขับรถแทรกเตอร์กัดฟัน จากนั้นก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไป

ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนต้องหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เขม่าควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากรถแทรกเตอร์ จากนั้นตัวรถก็แล่นออกไปไกลราวกับปีศาจร้ายในภูเขามืด

ตอนนี้เองภายในพุ่มไม้ข้างทางได้มีชายฉกรรจ์เจ็ดถึงแปดคนปรากฏตัวออกมา จากนั้นก็มองรถแทรกเตอร์ที่หายไปจากความมืดนั้นอย่างรวดเร็วด้วยสายตาหงุดหงิดใจ

ชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นได้เอ่ยอย่างเฉื่อยชาว่า “ใช้ผู้หญิงให้เสียเวลาทำไม โจมตีรถคันนั้นก็จบแล้ว”

รถแทรกเตอร์เทียบไม่ได้กับรถบรรทุก ความเร็วมีจำกัด แต่แข็งแรงกว่า คล่องตัวรวดเร็ว ปีนขึ้นรถ ก็ปล้นทรัพย์ได้แล้ว

ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นพูดไปด่าไป

หกโมงผ่านไป ท้องฟ้าเริ่มมีแสงรำไร ถนนเส้นหลักก็กลับมาปลอดภัยอีกครั้ง ระหว่างทางหลังจากนี้ก็ไม่น่ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก

เวลาประมาณแปดโมงครึ่ง หลินม่ายและคนขับรถแทรกเตอร์มาถึงตลาดมืดละแวกใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฮั่นโขว่อย่างปลอดภัย

แผงขายของในตลาดมืดมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากลูกค้าที่มาซื้อของตั้งแต่เมื่อวานไม่ค่อยได้อะไรกลับไปนัก คนบางกลุ่มจึงตัดใจไม่มาในวันนี้อีก

ส่วยใหญ่คนที่มาก็จะเป็นผู้มีรายได้ระดับกลางไปจนถึงระดับสูงที่ต้องการซื้อของสำหรับวันปีใหม่อย่างเร่งด่วน และลองมาเสี่ยงโชค

ส่วนผู้ที่มีรายได้ระดับต่ำจะไม่มาซื้อของวันปีใหม่ในตลาดมืด เพราะไม่มีเงิน

คนขับรถแทรกเตอร์เห็นว่าในตลาดมืดยังคงเงียบเหงา เลยอดถามหลินม่ายด้วยความกังวลไม่ได้ว่า “ไม่มีคนเลยนะ เธอจะขายไก่และไข่ไก่หมดเหรอ?”

หลินม่ายคาดไม่ถึงว่าจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้ จึงหยุดขบคิด “ก็ลองเปิดแผงขายที่นี่ดูค่ะ ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ไปขายบนถนนหลัก”

แม้ว่าการไปขายบนถนนใหญ่จะเสี่ยงอันตราย แต่ก็ไม่สามารถทำลายสินค้าเหล่านี้ได้

ไข่ไก่ปล่อยไว้ได้ ไม่ต้องรีบขาย

แต่ไก่หนึ่งพันกว่าตัวและแพะอีกหลายตัวทิ้งไว้เป็นอาทิตย์คงหิวตายแน่ ไม่ว่ายังไงก้ต้องหาทางขายออกไป ให้หมดภายในสองวันนี้

เพราะการจะขายไก่และแพะให้ได้ราคาดีต้องขายในช่วงปีใหม่นี้เท่านั้น ผ่านพ้นวันปีใหม่คงไม่มีคนซื้อแน่นอน อย่าว่าแต่ราคาสูงเลย ต่อให้ขายราคาปกติก็ขายไม่ได้

ปล่อยไว้ค่อยขายหลังปีใหม่ มีหวังตัวเองคงอดตาย!

เมื่อวานตกลงกันแล้วว่าคนขับรถแทรกเตอร์จะช่วยหลินม่ายขายของเกินครึ่งวัน หลัก ๆ คือช่วยหาสถานที่ ในค่าจ้างสิบหยวน 

ด้วยเหตุนี้คนขับรถแทรกเตอร์จึงทำตามความต้องการของหลินม่าย หาสถานที่ที่มองเห็นได้ง่ายในตลาดมืดไว้จอดรถแทรกเตอร์

หลินม่ายให้เงินเขาสองหยวนและคูปองธัญพืชอีกชั่งกว่า ให้เขาช่วยซื้อซาลาเปาเนื้อ 6 ลูก พวกเขาสองคนยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า

คนขับรถแทรกเตอร์รับเงินและคูปองธัญพืชไปซื้อซาลาเปาในร้านขายของกินเล่นโดยรัฐบาล หลินม่ายใช้ตะกร้าทรงสูงสำหรับใส่สัตว์ปีกสองใบใส่ไก่ แล้วส่งเสียงเรียกลูกค้าอยู่ข้างรถแทรกเตอร์

แต่ยังไม่ทันจะส่งเสียงร้องเกินสองครั้ง ลูกค้าประมาณสองสามคนต่างล้อมเข้ามา เมื่อเห็นเธอมีไก่ขายจริง ๆ ดวงตาก็ลุกวาว

กระทั่งเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “ไก่พวกนี้ขายยังไงจ๊ะ?”

“ตัวผู้และตัวเมียราคาเดียวกัน รวมกันก็ชั่งละสองหยวน”

หลินม่ายไม่อยากตั้งสองราคา เพราะรวมกันแล้วมันยุ่งยาก

เมื่อมีคนเห็นไก่บนรถแทรกเตอร์จำนวนมาก ก็คิดอยากต่อรอง “ลดหน่อยได้ไหม สักชั่งละหนึ่งหยวน”

หลินม่ายส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลำบากใจ “ขอโทษด้วยค่ะ ไก่พวกนี้รับซื้อมาก็ชั่งละ 1.5 หยวนแล้ว คงลดอีกไม่ได้ ฉันต้องเสียเงินค่าขนเข้ามาขายในเมือง ระหว่างทางก็เสี่ยงอันตราย อย่าต่อราคากันเลย”

ลูกค้าคนหนึ่งชี้แจงทั้งข้อดีและข้อเสียให้เธอเข้าใจ “วันนี้เป็นวันที่ยี่สิบเก้าเดือนสิบสอง ถ้าหนูขายไม่หมด ไก่พวกนี้จะไม่ตายเอาแย่เหรอ? สู้ขายถูก ๆ ให้เราดีกว่า”

ลูกค้าคนอื่นทยอยกันคล้อยตาม

หลินม่ายมีท่าทางเหมือนทองไม่รู้ร้อน ยกมืออย่างจนปัญญา “ต่อให้มันตายฉันก็ไม่ลดราคา”

อยากแข่งกันนัก มาสิ เข้ามาเลย!

เวลานี้ คนขับรถแทรกเตอร์ซื้อซาลาเปากลับมา คืนเงินและคูปองที่ยังไม่ได้ใช้กับเธอ แล้วแบ่งซาลาเปาเนื้อที่กำลังร้อนกรุ่นให้เธอสามลูก

หลินม่ายรับแค่สองลูก

ซาลาเปายุคสมัยนี้มีปริมาณอิ่มกำลังดี บอกขายลูกละสองหยวน คงจะลดเหลือลูกละหนึ่งหยวนไม่ได้

ซาลาเปาสองลูกราคาสี่หยวน เธอไม่เพียงแต่อิ่มเท่านั้น ยังอิ่มเกินอีกด้วย คงกินสามลูกไม่ไหว

น้อยนักที่คนขับรถแทรกเตอร์จะกินซาลาเปาแค่ลูกเดียว ต้องกินเพิ่มอีกลูก เขาถึงจะอารมณ์ดี ตอนนี้เขาเลยยืนกินซาลาเปาอยู่ด้านข้างพลางมองหลินม่ายขายของไป

หลินม่ายไม่ได้สนใจลูกค้าที่ยังต่อรองราคาอย่างไม่ยอมแพ้เหล่านั้น กินซาลาเปาอย่างสบายอารมณ์

เมื่อลูกค้าบางคนเห็นดังนั้นก็พากันเดินจากไป แต่มีลูกค้าบางคนเกิดลังเล สุดท้ายก็คุกเข่าลงเลือกไก่ในตะกร้าอย่างจนปัญญา

หลินม่ายเห็นดังนั้น ก็ยัดซาลาเปาเข้าปากหมดอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยกับคนขับรถแทรกเตอร์ “คุณอาช่วยยกไข่ไก่ออกมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

คุณอาวางซาลาเปาที่ยังกินไม่หมดลงในถุง แล้วยกไข่ไก่ตะกร้าหนึ่งออกมากับเธอ

เมื่อไข่ไก่ถูกยกออกมา ก็พาดึงดูดลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามาถามว่าไข่ไก่ของเขาขายยังไง

“หยวนละห้าสิบฟอง ห้ามต่อราคา”

คนขับรถแทรกเตอร์อึ้งงันไป ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้านัก ตั้งราคาขนาดนี้ !

ในตลาดมืด ไข่ไก่หนึ่งฟองจะขายอยู่ที่ห้าเฟิน สิบฟองก็ห้าเหมา แต่ตอนนี้ไข่ไก่สิบฟองถูกขายอยู่ที่ 1.5 หยวน

สู้ซื้อไก่เป็นตัวไปดีกว่า ปกติไก่ชั่งละ 1.5 หยวน  ตอนนี้เพิ่มมาเป็นชั่งละ 2 หยวน ไข่ไก่ยังเทียบไม่ได้ ซื้อไก่ตัวหนึ่งยังคุ้มกว่า

ลูกค้าหลายสิบคนนั้นต่างยื้อแย่งกัน เธอซื้อหนึ่งตัว ฉันซื้อสองตัว จนหลินม่ายขายไก่ได้แล้วหลายสิบตัว

คนขับรถแทรกเตอร์ตะลึงงันอยู่ข้างกาย แม้แต่ซาลาเปาก็ลืมกินไปชั่วขณะ คาดไม่ถึงว่าคนในเมืองจะมีเงินมากขนาดนี้ ไก่ชั่งละสองหยวนก็ซื้อได้

ชาวบ้านอย่างพวกเขา ต่อให้เป็นวันปีใหม่ ซื้อแม่ไก่ในราคา 1.5 หยวนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

แต่ในเมืองก็คือในเมืองแหละ

ลูกค้าที่ต่อรองราคาไม่ได้เมื่อครู่เหล่านั้นยังเดินจากไปไม่ไกลนัก ยังคงเดินดูของอยู่ในตลาดมืด

เมื่อเห็นคนอื่นซื้อไก่ได้แล้ว อีกทั้งบางคนยังซื้อถึงสองตัว จึงอดกระวนกระวายใจไม่ได้  กลัวว่าจะซื้อไม่ทัน

ด้วยเหตุนี้จึงตรงกลับมา ซื้อไก่คนละสองตัวที่ขายในราคาชั่งละสองหยวนตามที่กำหนดไว้

เดิมทีคนที่ซื้อของในตลาดมืดมีจำนวนไม่มากนัก แต่คนที่มาซื้อไก่เหล่านั้นหลังจากกลับบ้านไปก็ป่าวประกาศว่ามีไก่มาขายในตลาดมืดออกไปอย่างกว้างขวาง

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ลูกค้าที่วิ่งมาซื้อไก่ก็เริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินม่ายยุ่งอยู่กับการขายจนผมเผ้ากระเซิง

คนขับรถแทรกเตอร์กินซาลาเปาอิ่มนานแล้ว จึงได้มาช่วยเธอขายไก่

ทั้งคู่ช่วยกันขายจนถึงบ่ายสามโมงกว่า แม่ไก่ทุกตัวก็ถูกขายจนหมดเกลี้ยง เหลือเพียงพ่อไก่ไม่กี่สิบตัว

คนขับรถแทรกเตอร์คิดว่าหลินม่ายจะลดราคา คาดไม่ถึงว่าเธอยังคงขายชั่งละสองหยวน  

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

นั่นไง ทำกันเป็นขบวนการจริง ๆ ด้วย ดีที่ม่ายจื่อไม่ใจอ่อน

ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย ม่ายจื่อนี่เก่งจริงๆ

ไหหม่า(海馬)