ตอนที่ 59 ไอ้คนชั่วช้า.. หยุดเดี๋ยวนี้!

หญิงสาวชุดแดงไม่เคยพบเจอแววตาที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน และแทบไม่ต้องคิด เธอรีบเก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วผลักประตูรถและรีบก้าวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
หมอนี่รู้ได้ยังไงว่าฉันไปทำคางกับจมูกมา? น่ากลัวมาก..
หลินหนานเดินตรงเข้าไปหาหวังชางหยางที่ยังคงนอนอยู่กับพื้น และกำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ ก่อนจะใช้หลังมือฟันเข้าที่หลังคอของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นหวังชางหยางก็หมดสติในทันที
หลินหนานจัดการค้นตัวของหวังชางหยาง และในที่สุดเขาก็พบขวดพลาสติกสีใสเล็กๆใบหนึ่งในกระเป๋าของมัน ด้านในมียาเม็ดสีม่วงบรรจุอยู่
หลินหนานจัดการเทยาสีม่วงนั้นออกมาสำรวจดู หลังจากที่สูดดมกลิ่นของมันเพียงไม่นาน เขาก็รู้ได้ทันทีว่ายาชนิดนี้จะออกฤทธิ์เช่นใดบ้าง
หลินหนางเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวชุดแดง พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “คุณรู้มั๊ยว่ายาพวกนี้คือยาอะไร?”
“นี่เป็นยาชนิดที่ออกฤทธิ์รุนแรง ฉันได้ยินมาว่าคุณชายหวังสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในเรื่องอย่างว่า..” หญิงสาวรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ชั่วช้าสิ้นดี!! ถึงกับต้องใช้ยา..” หลินหนานพูดรอดไรฟัน
จากนั้น หลินหนานก็ได้บีบปากหวังชางหยาง พร้อมกับกรอกยาในขวดทั้งหมดลงไปในปากของมันแทน!!
หลังจากนั้น หลินหนานก็ได้นำร่างหมดสติของหวังชางหยางขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับ พร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวชุดแดงว่า..
“คุณขับรถเป็นมั๊ย?” หลินหนาน
“เป็นค่ะ.. เป็น..” หญิงสาวชุดแดงระล่ำระลักตอบกลับไปทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยขับรถพาหมอนี่ไปที่ ‘เย่เหม่ยเหยิน’ ที” หลินหนานสั่ง
“จะให้ฉันพาเขาไปที่นั่นทำไมคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
“ไม่ต้องถามมาก! เมื่อไปถึงที่นั่นจะมีคนมารับหมอนั่นต่ออีกที จากนั้นคุณจะไปไหนก็เรื่องของคุณ..” หลินหนานตอบกลับเสียงเย็น
หญิงสาวชุดแดงตกใจกลัวจนตัวสั่น และไม่กล้าถามอีก จึงได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ให้กับหลินหนานแทนคำตอบ
ส่วนหลินหนานก็แบกร่างของเย่เข่อเอ๋อใส่หลังไว้ และไม่ลืมที่จะข่มขู่หญิงสาวชุดแดง “อ่อ.. แล้วก็อย่าคิดที่จะโทรแจ้งตำรวจเด็ดขาด เพราะถ้าตำรวจตรวจร่างกายหมอนั่น แล้วพบว่ากินยาพวกนั้นเข้าไปแล้วล่ะก็ ใครที่จะต้องซวยและกลายเป็นแพะรับบาป คิดว่าผมคงไม่ต้องบอกสินะ?”
หญิงสาวชุดแดงได้แต่พยักหน้าหงึกๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว..
“เอาล่ะ.. ไปได้แล้ว!”
หญิงสาวชุดแดงวิ่งเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ และสตาร์ทรถเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น หลินหนานก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาใครบางคน..
“สวัสดีครับพี่หนาน!” เฉินห่าวซึ่งอยู่ปลายสายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เฉินห่าว ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”
“ฉันกำลังกินข้าวอยู่กับพวกพี่น้อง..” เฉินห่าวตอบ
“ดี.. ฉันมีงานจะให้นายทำพอดี!” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หลังจากที่เฉินห่าวได้ยินน้ำเสียงน้ำเสียงของหลินหนาน สีหน้าท่าทางของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังในทันทีเช่นกัน และรีบหลบไปหาที่คุย แล้วจึงกระซิบถามหลินหนานเสียงเบา
“เรื่องอะไรเหรอพี่หนาน ฉันจะทำอย่างสุดความสามารถเลย!”
หลังจากได้อธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้กับเฉินห่าวฟังแล้ว หลินหนานก็วางสายไป พร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
แต่แล้วจู่ๆ เขาก็รู้สึกและสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่ลำคอของตนเอง จึงรีบหันหลังกลับไปมองทันที..
ไม่รู้ว่าเย่เข่อเอ๋อตื่นเขึ้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเวลานี้สายตาของเธอก็จ้องมองเขาแน่นิ่ง พร้อมกับยิ้มให้อย่างหวานหยดย้อย
“คุณ.. นี่คุณตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” หลินหนานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าระแวดระวัง
เย่เข่อเอ๋อไม่ตอบ และเอาแต่ยิ้มหวานให้เขาราวกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาถาม มิหนำซ้ำรอยยิ้มของเธอก็ดูเหมือนจะแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
มันคือรอยยิ้มที่เย้ายวน และเชิญชวนอย่างเปิดเผย..
หลินหนานถึงกับนิ่งไปด้วยความตกตะลึง แต่ในระหว่างนั้นเอง เย่เข่อเอ๋อก็อ้าปากกว้าง พร้อมกับกัดไปที่ลำคอบของหลินหนานทันที
“พระเจ้า.. โอ๊ย!!!”
ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งร่างของหลินหนานอย่างรวดเร็ว และเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงไออุ่นจางๆที่ลำคอของตน
เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากลำคอของหลินหนาน เพราะถูกเย่เข่อเอ๋อกัดเข้าอย่างแรง หลินหนานต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุด เพื่อที่จะดิ้นรนให้ลำคอของตนหลุดออกจากริมฝีปากของหญิงสาว
คิดไม่ถึงว่าหลังจากดิ้นรนจนหลุดได้แล้ว เย่เข่อเอ๋อกลับหันมากัดลำคอของเขาอีกด้านแทน แต่หลินหนานเองก็ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนแล้ว เขาจัดการใช้ฝ่ามือดันคางของเย่เข่อเอ๋อไว้ พร้อมกับร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห
“นี่คุณเป็นหมาหรือยังไง ถึงได้เอาแต่กัดผมอยู่ได้?”
เย่เข่อเอ๋อไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีก แต่สายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของหลินหนานแน่นิ่ง และเวลานี้สภาพของเย่เข่อเอ๋อก็ดูไม่ต่างจากซอมบี้เลยแม้แต่น้อย เธอมองเห็นหลินหนานเป็นเหยื่อของตนเอง
“แย่แล้ว! ยาบ้านี่รุนแรงกว่าที่คิดไว้มาก!”
หลินหนานอุทานออกมาด้วยความตกใจ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น และกำลังคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือ ต้องรีบหาทางขับยานี้ออกจากร่างของเย่เข่อเอ๋อโดยเร็วที่สุด
แต่เวลานี้ทั้งเขาและเย่เข่อเอ๋อต่างก็อยู่บนถนนทางหลวง และไม่สามารถจัดการฝังเข็มเธอตามถนนข้างทางเช่นนี้ได้แน่
หลินหนานเฝ้าครุ่นคิดหาวิธีอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจที่จะกลับไปให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด!
จากนั้น หลินหนานก็ได้ใช้มือขวาที่ว่างอยู่นั้น หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และยัดเข้าไปในปากของเย่เข่อเอ๋อ เมื่อเธอสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งบางอยู่ในปาก ก็ได้แต่กัดเคี้ยวอย่างเมามัน พร้อมกับส่งเสียงร้องครางออกมา
“นี่เธอคงกลายเป็นหมาจริงๆไปแล้วสินะ!” หลินหนานบ่นพึมพำ ก่อนจะวิ่งแบกร่างของเย่เข่อเอ๋อไว้บนหลังออกไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดหลินหนานก็มายืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเย่ในหมู่บ้านหมิงเหมิน
“ไม่ทราบมาพบใครครับ?”
คำถามไร้สาระที่หลินหนานได้ฟังอยู่เป็นประจำดังขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนว่าผู้ที่ถามคำถามนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพ่อบ้านเก่าแก่ของตระกูลเย่..
หลินหนานกรอกตาอย่างบ่าหน่าย แต่ก็ตอบไปว่า “ลุงฉู่ครับ.. นี่ผมเอง!”
“อ่อ.. ที่แท้ก็คุณลูกเขยใหญ่ กลับมาอะไรดึกๆดื่นๆขนาดนี้ครับ!” พ่อบ้านฉู่เปิดประตูไปก็บ่นพึมพำไปด้วย
แต่เมื่อเปิดประตูออกไป และได้เห็นหญิงสาวที่หลินหนานแบกมาด้วย เขาก็ถึงกับร้องถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นี่มันคุณหนูสองนี่ครับ? ทำไมพวกคุณสองคนถึงกลับมาด้วยกันได้?”
นั่นเพราะเมื่อตอนเย็น เย่เข่อเอ๋อได้ออกไปพร้อมกับเพื่อนของเธอ และพ่อบ้านฉู่ก็เป็นคนเดินไปส่งเธอที่รถด้วยตัวเอง จึงนึกแปลกใจที่จู่ๆ ทั้งสองคนก็กลับมาบ้านพร้อมกันเช่นนี้
“คุณหนูสองของลุงเมามากน่ะสิ! ผมไปเจอเธอเข้าพอดี ก็เลยพากลับมาด้วย!”
หลินหนานโกหก เพราะไม่สามารถบอกพ่อบ้านฉู่ไปตามความจริงได้ว่า เขาช่วยเย่เข่อเอ๋อมาเพราะเธอถูกคนวางยา เพราะหากบอกไปเช่นนั้น ลุงฉู่ต้องคิดว่าเป็นฝีมือของเขาแน่ๆ
“ห๊ะ?!!”
พ่อบ้านฉู่ถึงกับทำสีหน้างุนงง เขาไม่เคยเห็นคุณหนูสองดื่มแม้แต่ไวน์..
แต่ตอนนี้ คุณหนูสองของเขาไม่เพียงสลบไสล แต่ยังเคี้ยวซองบุหรี่ที่อยู่ในปากอย่างเมามันอีกด้วย
นี่มันอะไรกัน?
“ลุงฉู่.. ช่วยไปเตรียมน้ำให้ผมที ผมต้องรีบเช็ดตัวให้คุณหนูสอง เพื่อที่เธอจะได้มีสติโดยเร็ว..”
หลินหนานไม่สนใจพ่อบ้านฉู่อีก หลังจากพูดจบ ก็รีบวิ่งแบกร่างของเย่เข่อเอ๋อเข้าไปในบ้านทันที
พ่อบ้านฉู่ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น และได้แต่รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก..
“นี่พระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตกหรือยังไง? ทำไมจู่ๆหมอนั่นถึงได้กล้าออกคำสั่งกับฉัน?”
แต่พ่อบ้านฉู่ก็ได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ และรีบเดินตามหลินหนานไปทันที ส่วนหลินหนานก็แบกร่างของเย่เข่อเอ๋อขึ้นไปชั้นสอง และเปิดประตูห้องนอนของเธอเข้าไป
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหนานได้เคยเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของเย่เข่อเอ๋อ เพราะก่อนหน้านี้หญิงสาวเอาแต่ออกกฏข้อห้ามมากมายกับเขา จนเขาแทบไม่เคยแม้แต่จะเดินผ่านห้องนอนของเธอ
แต่เมื่อได้เห็น.. หลินหนานก็อดที่จะประทับใจไม่ได้ ทุกอย่างภายในห้องล้วนเป็นสีชมพู ไม่ว่าจะเป็นผนังห้อง โต๊ะ ม่าน แม้กระทั่งเตียงก็ยังเป็นสีชมพู
“ที่แท้ก็สาวหวาน.. ไม่ได้ห้าวเหมือนนิสัยที่แสดงออกมาเลย!”
หลินหนานเดินตรงเข้าไป ก่อนจะโยนร่างหนักที่อึ้งของเย่เข่อเอ๋อลงไปบนเตียงนอนสีชมพู
ปัง!
เย่เข่อเอ๋อทำเสียงฮึดฮัด และบิดร่างไปมาอยู่บนเตียง แต่ช่างบังเอิญที่เสื้อสเวตเตอร์นั้นได้เปิดขึ้น จนเห็นหน้าท้องแบนราบ และสะดือกลมน่ารัก
หลินหนานถึงกับแอบกลืนน้ำลาย และกำลังโน้มกายลงไปหาร่างของหญิงสาว..
“ไอ้คนชั่วช้า.. แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”