ตอนที่ 57 ป้อมปราการข้อมูล

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 57 – ป้อมปราการข้อมูล

ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว เหอเสี่ยวเสี่ยวนี่สรุปแล้วเป็นเทพเจ้าจากที่ไหน ถึงกับกล้าตั้งกลุ่มแชตนักท่องเวลาตรง ๆ เลยเหรอ

แต่ตัวเองเดาไว้ไม่ผิดเลย อีกฝ่ายเกาะกุมเทคโนโลยีบางอย่างของโลกภายในเอาไว้จริง ๆ แถมยังเอาไปลบข้อมูลตัวตนของตัวเองด้วย

แต่ระยะเวลาที่ทุกคนทะลุมิติก็สั้นขนาดนี้ เหอเสี่ยวเสี่ยวอาศัยอะไรถึงสามารถเกาะกุมเทคโนโลยีโลกภายในได้เร็วขนาดนี้ อีกฝ่ายหอบอุปกรณ์โลกภายในกลับมาได้สำเร็จเหรอ

อุปกรณ์ที่สามารถสร้างป้อมปราการข้อมูลจะต้องไม่ใช่เล็ก ๆ หรอกมั้ง หอบกลับมาได้ยังไงล่ะ

หรือว่า!

เหอเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้เป็นคนคนเดียวเลย

คนหนึ่งคนอยากจะแบกอุปกรณ์หนึ่งชิ้นยากมาก แต่คนหลาย ๆ คนทำงานร่วมกัน ทุกคนแบกชิ้นส่วนนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เหมือนว่าจะได้อยู่นะ

ชิ่งเฉินไม่ค่อยเข้าใจเทคโนโลยีข้อมูลเลย ดูท่าได้แต่ไปยังโลกภายในสอบถามเรื่องนี้กับหลี่ซูถงแล้ว

กลุ่มประเภทนี้เขาก็ไม่กล้าเข้าร่วม นอกเสียจาก…… เขาก็สามารถปิดบังตัวตน

เพราะในคลิปของเหอเสี่ยวเสี่ยวเพียงพูดว่าไม่มีคนนอกสามารถบุกรุก แต่กุญแจสำคัญอยู่ที่ตัวเหอเสี่ยวเสี่ยวสามารถได้รับข้อมูลของคนส่วนใหญ่โดยง่ายดาย

ระบบกลุ่มแชตก็คล้ายกับกรงดักปู ส่วนเหอเสี่ยวเสี่ยวก็คล้ายกับคนจับปูอลาสก้าคนหนึ่ง

เขาเพียงแค่ต้องนั่งอยู่ในเรือดักปูชื่อโจรเวลา* ลอยอยู่บนน่านน้ำทะเลทิศเหนือท่าเรือดัตช์ จากนั้นโยนกรงแต่ละกรงลงไปในท้องทะเลลึก รอพวกปูจักรพรรดิมุดเข้าไปก็พอ

ยามค่ำคืน ชิ่งเฉินโดดเรียนอีกครั้ง

เขาไปที่ร้านขนมหวานซื้อเค้กให้หลี่ถงอวิ๋นเป็นของขวัญ แล้วก็ซื้อผลไม้กับผักอีกหน่อย

ช่วงเวลานี้เจียงเสวี่ยช่วยเขาซักผ้าหลายครั้งแล้ว ตนเองไม่สามารถไปเป็นแขกในบ้านคนอื่นมือเปล่าเสมอ ๆ

หลังจากเข้าเขตที่พัก ชิ่งเฉินใช้สายตาสอดส่องไปทั่วหลายครั้งเหมือนไร้เรื่องไร้ราว ยืนยันว่าไม่มีปาปารัชชี่ซ่อนอยู่ที่ไหนจึงได้เดินเข้าทางเดิน

ปัจจุบันนี้เมืองลั่วมีนักท่องเวลาที่เปิดเผยแล้วสามสิบกว่าคน เจียงเสวี่ยเหมือนจะไม่สะดุดตาที่สุด ไม่ได้ดึงดูดความสนใจสักเท่าไหร่เลย

ตอนที่เคาะประตู ชิ่งเฉินได้ยินเสียงเฮของหลี่ถงอวิ๋นดังออกมาจากข้างในว่า “เป็นพี่ชิ่งเฉินมาแล้ว!”

เธอเปิดประตูลดเสียงลงถามว่า “เพื่อนนักเรียนหลายคนนั้นของพี่ล่ะ”

“ไม่รู้ ไม่ต้องไปสนพวกเขา” ชิ่งเฉินหัวเราะแล้วลูบศีรษะเธอ

“รีบมาดูอวัยวะจักรกลใหม่ของแม่หนูเร็ว น่าดูมากเลย” หลี่ถงอวิ๋นดึงแขนเสื้อชิ่งเฉินเดินเข้าข้างใน

เจียงเสวี่ยเดิมทีกำลังทำอาหาร แต่กลายเป็นเป้าที่ถูกมุงดูอย่างจนแต้ม

สองแขนของเจียงเสวี่ยก่อนหน้านี้คล้ายกับเครื่องจักรกลที่เอาท่อเหล็กผสมกับเหล็กกล้ามาประกอบกันมากกว่า ทว่าตอนนี้เหมือนรูปลักษณ์แขนของมนุษย์มากกว่า

จุดเชื่อมของนิ้วมือ, ข้อมือ, ข้อศอกก็เชื่อมต่อกันอย่างแนบเนียน

ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างใคร่รู้ว่า “นี่เป็นของที่คุณซื้อใหม่เหรอครับ แบตเป็นไง”

“แบตเป็นสิบเท่าของอันก่อนหน้านี้ของฉัน” เจียงเสวี่ยยิ้มกล่าว “ฉันก็นับว่าค่อนข้างโชคคดีล่ะนะ ตัวตนโลกภายในที่ทะลุมิติไปก่อนนี้สองปีก่อนเคยช่วยชีวิตคนคนหนึ่ง อีกฝ่ายเป็นบุคคลใหญ่โตของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ ของพวกนี้ในตอนนี้ล้วนเป็นเธอแสดงความขอบคุณล่ะ”

ชิ่งเฉินมองหลี่ถงอวิ๋นเผิน ๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจ เด็กหญิงรีบดึงเขาออกจากห้องครัว “แม่รีบทำกับข้าวเถอะ หนูหิวแล้ว!”

“วางใจเถอะ จะเสร็จเดี๋ยวนี้แล้ว” เจียงเสวี่ยยิ้มตอบกลับไป

ช่วงเวลานี้ เธอร่าเริงขึ้นมาก เหมือนกับว่าทำอะไรล้วนไร้การควบคุมบังคับ ทุกสิ่งล้วนกำลังดีขึ้นมา

ในห้องนั่งเล่น หลี่ถงอวิ๋นกดเสียงลงต่ำกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน พี่ถามแม่หนูเรื่องพวกนี้นี่อยากจะเดาตัวตนของหนูเหรอ”

ชิ่งเฉินส่ายหน้า “เปล่า ฉันแค่ถามเรื่อยเปื่อย”

หลี่ถงอวิ๋นกลอกตา “พี่ชิ่งเฉิน พี่ยังไม่ได้บอกหนูเลยว่าที่โลกภายในพี่มีตัวตนเป็นอะไร”

“เดาไหม” ชิ่งเฉินไม่ได้ตั้งใจจะบอกเธอเลย

“หรือไม่เราสองคนมาแลกเปลี่ยนความลับกันปะคะ หนูบอกตัวตนของหนูกับพี่ พี่บอกของพี่กับหนู?” หลี่ถงอวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้มแฉ่ง

ชิ่งเฉินส่ายศีรษะอีกครั้ง “ไม่แลก”

อันที่จริงเขาทราบชัดอยู่แล้วว่าหลี่ถงอวิ๋นเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านรองกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยน

“น่าเบื่อ” หลี่ถงอวิ๋นนั่งบนโซฟาหน้างอ “พี่ต้องรู้ตัวตนของหนูแล้วแน่เลยสินะ แม้แต่กับเด็กน้อยก็ยังโกหก!”

ชิ่งเฉินยิ้มแล้ว “แต่เธอไม่ใช่เด็กน้อยทั่วไป”

เวลานี้ นอกประตูมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

หลี่ถงอวิ๋นกระโดดลงจากโซฟาไปเปิดประตู เธอเพียงเปิดประตูไม้ด้านใน แม้แต่ประตูทางเข้าเหล็กดัดตรงปากประตูยังไม่เปิด

เห็นแค่หวังอวิ๋นกับพวกยืนอยู่นอกประตู ยิ้มให้หลี่ถงอวิ๋นกล่าวว่า “สวัสดีจ้าสหายน้อย พวกเราเป็นเพื่อนนักเรียนของพี่ชิ่งเฉินของหนู สนิทกับเขามากเลย”

หลี่ถงอวิ๋นหันหน้ากลับไป “พี่ชิ่งเฉิน พี่กับพวกเขาสนิทกันไหม”

ยังไม่ทันที่ชิ่งเฉินจะตอบกลับไปเลย เธอก็หันหน้าไปกล่าวว่า “เขาบอกว่าไม่สนิท”

เสียงโครม ประตูบานนี้กั้นคนทั้งหลายเอาไว้ที่โลกข้างนอกอีกครั้ง

คนสี่คนยืนอยู่นอกประตูมองหน้ากันอย่างเซ็ง ๆ พวกเขาคิดไม่ถึงว่าตนเองถึงกับจะกินประตูปิดใส่หน้าเป็นหนที่สอง

เพราะอะไรชิ่งเฉินสามารถสนุกสนานกลมเกลียวกับครอบครัวนี้แต่ตนเองไม่ได้ล่ะ?!

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะพูดจา เจียงเสวี่ยผู้อ่อนโยนก็เปิดประตูออกมาใหม่ กล่าวด้วยสีหน้าลุแก่โทษว่า “สวัสดีค่ะ ขอโทษที่เด็กน้อยไม่รู้ความ พวกคุณคือเพื่อนบ้านที่มาใหม่สินะคะ โปรดรีบเข้ามา”

เจียงเสวี่ยสวมทีเชิ้ตแขนขาวสีขาว บนเอวผูกผ้ากันเปื้อนสีดำ ชุดนี้โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอออกมาทั้งหมด

ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหูเสี่ยวหนิวและพวกกลับเป็นมือของเจียงเสวี่ย

อันที่จริงก่อนที่เจียงเสวี่ยจะเปิดประตูก็ได้จงใจดึงแขนเสื้อมาปิดอย่างแน่นหนาแล้ว ปิดบังแขนของตัวเอง

แต่มือยังเผยออกสู่ภายนอก

สี่คนนี้ล้วนเป็นนักท่องเวลา แล้วก็เคยเห็นอวัยวะจักรกลมากมายในเมืองหมายเลข 7 แต่พวกเขารู้สึกตลอดเลยว่ามือของเจียงเสวี่ยกับอวัยวะจักรกลอื่น ๆ ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง

ตอนที่มาเยี่ยมเยือนถึงหน้าประตูก็ไม่สามารถจ้องมือของคนเขาไปเรื่อย ทั้งสี่คนเก็บสายตากลับมา

ขณะนี้หลี่ถงอวิ๋นนั่งบนโซฟาอย่างฉุนเฉียว ไม่มีสัญญาณว่าจะต้อนรับแขกเหรื่อเลยสักนิด

หวังอวิ๋นเข้าประตูมาก่อน เธอถามอย่างมีมารยาทว่า “ต้องเปลี่ยนรองเท้าเตะไหมคะ”

“ไม่ต้อง ๆ นั่งตามสบายเลยค่ะ ในบ้านไม่ได้มีรองเท้าแตะเยอะแยะขนาดนั้น” เจียงเสวี่ยตอบ “เสี่ยวอวิ๋น รีบรินชาให้แขก”

“ชิ” หลี่ถงอวิ๋นลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ

หูเสี่ยวหนิวสี่คนวางสิ่งของในมือแต่ละคนไว้บนโต๊ะกินข้าว หวังอวิ๋นซื้อตุ๊กตาหมีหนึ่งตัวมาให้หลี่ถงอวิ๋น ไป๋หว่านเอ๋อร์ซื้อของเล่นจากการ์ตูนเรื่อง PAW Patrol มาหนึ่งชิ้น จางเฉินเทียนเอาแชมเปญมาสองขวด ส่วนหูเสี่ยวหนิวมากับวิสกี้ในกล่องไม้

หูเสี่ยวหนิวยิ้มให้เจียงเสวี่ยกล่าวว่า “สวัสดีครับคุณ มาเยี่ยมที่บ้านครั้งแรกเอาของขวัญมาเล็กน้อย วิสกี้ขวดนี้ผมเอากลับมาจากประเทศเกาะเป็นพิเศษ ในตลาดน่าจะหาไม่ได้”

“งั้นก็แพงเกินไปแล้วค่ะ” เจียงเสวี่ยเอ่ยอย่างเกรงใจ “อันนี้พวกคุณเอากลับไปเถอะ พวกเราไม่เคยดื่มวิสกี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะดื่มยังไง ได้ยินว่าจุกจิกมากเลย เสี่ยวเฉิน คุณเคยดื่มวิสกี้ไหม”

ชิ่งเฉินนึกย้อนไปแล้วไม่ได้แกล้งทำเป็นจน ทว่าพูดตามความจริงว่า “เคยดื่มครับ ก่อนหน้านี้ในบ้านมีอยู่หนึ่งขวด ดูเหมือนว่าพ่อผมซื้อมาใช้ประดับทางเข้าบ้าน”

หูเสี่ยวหนิวสบโอกาส รีบหาหัวข้อร่วม เขาเอ่ยอย่างกระตือรือร้นว่า “คนเยอะแยะชอบเติมน้ำนิดหน่อยหรือว่าดื่มเพียว ๆ แต่ตอนนี้คนหนุ่มสาวฮิตวิธีดื่มที่เปิดกว้าง อย่างเช่นฉันชอบเติมชาเขียวใส่ในวิสกี้แล้วดื่มด้วยกัน นายล่ะ”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “งั้นฉันอาจจะมีจุดที่ไม่ค่อยเหมือนกับนาย ฉันชอบดื่มวิสกี้กับชาเขียว**”

หูเสี่ยวหนิว “???”

……………………….

*โจรเวลา (时光大盗) กูเกิลตัวจีนแล้วปรากฎว่าเป็นชื่อภาพยนตร์เรื่อง Time Bandits ชื่อไทยโจรเวลา ดูจากการเขียนแล้วคิดว่าผู้แต่งน่าจะไม่ได้บังเอิญแต่อ้างอิงถึงหนังแน่ ๆ (เท่าที่เห็นแผ่นภาพโปสเตอร์หนังมีเรือโจรสลัดเด่นเชียว แต่อ่านเรื่องย่อไม่เห็นพูดถึงเรือนี่เลย…..)

** ชาเขียวในที่นี่เป็นการเล่นคำของชิ่งเฉิน หมายถึง นังชาเขียวที่แปลว่าผู้หญิงที่ข้างนอกแอ๊บใสแต่ตัวจริงร้าย

ตอนที่ 58 – ผิดตั้งแต่เริ่มต้น