บทที่ 56 – ความบ้าคลั่งของไอออน

 

ในระหว่างนั้น.. ระหว่างที่เอวานสลบไป ดูเหมือนว่ารินนะจะสามารถบุกเข้ามายังเมืองแห่งวังวนได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง

ซึ่งก่อนที่เราจะดำเนินไปจนถึงจุดนั้น.. ก็คงต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านี้อีกสักหน่อย ช่วงเวลาที่อาโก้ลักพาตัวเอริเนียจนมาถึงเมืองนี้ได้

และเป็นเวลาที่มิวได้กำจัดหน่วยอีกาดำของเขาไปจนหมด.. ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามานั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เอวานหลับไป

มิวที่เริ่มตามหาเอริเนีย ผู้ซึ่งเป็นทั้งคนที่เธอต้องปกป้องและเป็นผู้มีพระคุณของเธอ หากไม่มีเด็กคนนั้นมิวก็คงจะสูญเสียพลังไปตลอดกาล

หากไม่มีเด็กคนนั้นมิวก็คงไม่มีเป้าหมายเหมือนตอนนี้.. แรกเริ่มเดิมทีเด็กคนนั้นอยู่กับมิวมาตลอดตั้งแต่เริ่มผจญภัยในโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่รู้จักนี้

คงเป็นเพราะบรรยากาศรอบตัว คงเป็นเพราะชื่อ คงเป็นเพราะอะไรหลายๆ อย่างที่มิวสัมผัสได้จากเธอคล้ายกับผู้กล้าเอริเนียที่ผนึกมิว

หากเป็นไปได้.. มิวก็แค่อยากเป็นเพื่อนกับผู้กล้าเอริเนียที่แบกรับความเจ็บปวดทุกอย่างเอาไว้ และพอมีคนที่คล้ายกันปรากฏตัวขึ้น

บางที.. มิวคงจะประทับใจไปโดยไม่รู้ตัว ไหนจะเรื่องที่เด็กน้อยคนนี้เป็นคนให้พลังที่มิวพึ่งเห็นค่ามันกลับมาอีก

ดังนั้นเอริเนียตัวน้อยในตอนนี้ ไม่ใช่แค่คนที่มิวถูกยัดเยียดให้ดูแล แต่เป็นคู่หูคนหนึ่ง คู่หูที่มิวต้องปกป้อง

ความโกรธของเธอต่อคนที่ลักพาตัวเพื่อนตัวน้อยของเธอไป มันไม่ได้ลดลงหลังจากเวลาผ่านไป มันกลับมากยิ่งขึ้น

ไม่แน่ใจเพราะอารมณ์ที่พลุกพล่านนี้ของมิวหรือเปล่า.. แต่อาณาเขตจิตมังกรแบบเรดาร์ของเธอนั้นขยายครอบคลุมไปทุกอย่างตลอดทั้งร้อยกิโล ถึงสองร้อยกิโลเมตรเลย..

เรียกได้ว่ามันกินพื้นที่ไปกว้างกว่าเดิมถึงสองเท่า.. แน่นอนว่าผลลัพธ์ก็คือทำให้สมองของมิวแทบจะลุกไหม้ตลอดเวลา

คนที่อยู่ข้างๆ อย่างเทรต้าที่เป็นคนค่อนข้างคุยกับคนอื่นง่ายังไม่กล้าจะรบกวนมิวในตอนนี้ที่เปิดเรดาร์ตลอดเวลา

เรดาร์จิตมังกรแม้จะหาได้กว้างกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ข้อเสียยังคงมีนั่นก็คือต้องใช้สมาธิมาก

เอาจริงก็ไม่ใช่ข้อเสียหรอก เพราะทุกการใช้อัตลักษณ์หรือพลังพิเศษต้องมีสมาธิกันทั้งนั้น มิวที่ไม่ต้องเพ่งสมาธิตอนใช้ตลอดเวลาที่ผ่านมา

ก็เพราะเธอไม่ใช่คน แต่ถ้ามีเงื่อนไขที่ซับซ้อนแบบเรดาร์จิตมังกรแล้วละก็ นั่นก็คงอีกเรื่อง.. ทั้งสองคนเคลื่อนที่ผ่านซากปรักหักพังที่ไม่รู้ว่ามันพังถล่มเพราะอะไร

“คุณมิวดูให้ความสำคัญกับเด็กคนนั้นมากจริงๆ เลยนะคะ”

“เรียกมิวเฉยๆ ก็ได้”

“อ้ะ.. ค่ะ งั้นเรียกฉันว่าเทรต้าเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”

“สาเหตุที่ฉันเป็นห่วงเด็กคนนั้นก็เพราะว่า…..”

พอมิวอยากจะตอบคำถามของเทรต้าเธอกลับนึกไม่ออกว่าจะตอบอย่างไร เพราะเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่เธอต้องการตามหาสาวน้อยคนนั้น

เพราะหน้าที่ที่เธอต้องดูแลเธอ ตามคำพูดของคาเอะ.. หรือเพราะเธอติดหนี้บุญคุณสาวน้อยคนนั้นกันแน่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน มันก็เป็นเรื่องที่พูดออกไปให้คนที่สามฟังได้ยากอยู่ดี.. แต่ถ้าหากถามในส่วนลึกจิตใจของเธอจริงๆ

คงเพราะมิวเป็นคนดี.. เธอไม่ใช่คนที่จะปล่อยเด็กที่อายุยังไม่ถึง 18 ตายไปได้.. ในโลกใบนี้คนมันเปราะบางมาก

คนมันตายง่ายเกินไป.. ในโลกที่มิวเคยอยู่มันปลูกฝังเธอมานั้นมันเป็นโลกที่เด็กอายุน้อยจะตายได้ง่ายเหมือนคนในโลกยุคนี้ไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควร

และหากนึกลึกลงไปอีกแม้แต่มิวเองก็ยังไม่รู้.. ตลอดที่มิวมาอยู่โลกใบนี้ คนที่เธออยู่ด้วยนานที่สุดก็คงไม่พ้นสาวน้อยเอริเนีย

เธอแค่ยืนอยู่เงียบๆ มองมิวเงียบๆ ไม่พูดไม่จา ไม่ทำอะไรแต่ก็ไม่เกะกะ เวลามิวต่อสู้เธอจะหลบไปอยู่ในจุดที่เหมาะที่สุดที่จะไม่รบกวนและไม่ต้องให้มิวเป็นห่วง

สำหรับมิวแล้วเด็กคนนั้นก็เหมือนกับน้องสาว.. น้องสาวคนกลางของเขานั่นแหละ หรืออาจจะเพราะเธอเป็นเพื่อนคนเดียวของมิวในโลกที่ไม่รู้จักแห่งนี้ก็ได้

“คงเป็นเพราะเธอคือเพื่อนของฉันนั่นแหละนะ”

“ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องมากหรอกนะ.. แต่ฉันได้ยินว่ามนุษย์โลกเป็นสิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัว ไม่สนใจพวกพ้อง หากถึงเวลาสามารถแม้กระทั่งหักหลังกันได้เลยไม่ใช่เหรอ”

“ในโลกนี้ก็คงจะเป็นแบบนั้นละมั้ง… แต่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้นสักหน่อย”

มิวตอบออกไปโดยไม่คิดอะไรมาก.. อีกอย่างเธอไม่ใช่มนุษย์แล้วน่ะนะในตอนนี้ แถมไม่ใช่คนของโลกใบนี้ด้วย

นอกจากนี้เธอยังไม่คิดว่าบนโลกทุกคนจะเป็นคนชั่วหมดด้วย… แต่ทว่าในตอนนั้นเองมิวก็หันขวับไปหาเทรต้า

“เอ้ะ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ?”

“หือ.. หมายถึงไม่สนใจพวกพ้องน่ะเหรอคะ?”

“ไม่ ที่บอกว่าฉันเป็นคนจากดาวโลกน่ะ.. เธอรู้ได้ยังไง?”

มิวขมวดคิ้ว คนในโลกแห่งหอคอยรู้ว่าตัวเองมาจากนอกโลกมันจะดีจริงๆ เหรอ นั่นคือสิ่งที่มิวกังวล

เพราะยังไงซะหน้าที่ของมิวคือต้องล้วงความลับบางอย่างจากนางตามคำสั่งของหอคอย เพื่อผ่านภารกิจ

ดังนั้นหากถูกมองว่าเป็นคนนอกโลกละก็คงไม่ต่างจากมนุษย์ต่างดาวหรือเอเลี่ยนนั่นแหละนะ พอเทรต้าโดนถามแบบนั้นเธอก็สะดุ้งเหมือนกัน

“อ้ะ.. นั่นก็เพราะ..”

เหมือนเธอก็พึ่งรู้ตัวและเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา เหมือนกับมีสายฟ้าแลบเข้าที่สมองของเธอ ทำให้เธอปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างได้

ตั้งแต่ต้น..

“อ้ะ คือเรื่องนั้นเพราะว่า— ระวัง!”

ในขณะที่เทรต้ากำลังจะหาเหตุผลมาอธิบายนั้นเอง แสงสีทองก็ว้าบผ่านหน้ามิวแบบกะทันหัน แต่เธอก็ดีดตัวถอยหลบออกจากจุดนั้น

ทำให้จุดนั้นกลายเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่.. คนที่ปรากฏตัวขึ้นตรงนั้นก็คือกลุ่มคนหลายคนประมาณสิบกว่าคนเห็นจะได้

หนึ่งในนั้นคือคนที่มิวคุ้นหน้าคุ้นตา.. แอเรียน คนที่เธอไปแย่งเทรต้ามาจากเขา ส่วนคนอื่นๆ ก็สวมชุดคล้ายกับแอเรียนกันหมด

แถมยังเปิดโหมดล่าสังหารกันทุกคน

“มิว ระวังไว้ชุดที่พวกนั้นใส่คือชุดนาโนเมทริกซ์.. ถึงจะไม่ได้ดีเท่าชุดนาโนควอนตัมของฉันแต่มันก็คือชุดที่ทรงพลังที่สุด”

“มันใช้สมการที่สามารถเปลี่ยนมวลให้กลายเป็นพลังงานได้ และสามารถหยิบพลังงานเหล่านั้นมาเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรได้หลายอย่าง”

“แถมยังเปิดโหมดที่อันตรายที่สุดในชุดด้วย”

หลังจากที่เทรต้าอธิบายให้มิวฟังด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบา เธอก็ไปตะโกนด่าแอเรียนด้วยความหงุดหงิดใจ

“เจ้าแอเรียนบ้า นี่แกพาคนเปิดโหมดล่าสังหารมากันสิบกว่าคน นี่แกคิดว่ามาล่ามังกรอยู่หรือไง”

แต่เพราะคำพูดของเทรต้าที่พูดลอยๆ เหมือนมิวจะสะดุ้งเล็กน้อย.. ก็เพราะเธอเป็นมังกรนี่น่า จะบอกว่ามาล่ามังกรก็คงไม่ผิดเท่าไหร่มั้ง

“เทรต้า.. เจ้ามัน…! กล้าพูดเรื่องแบบนั้นให้คนนอกฟังได้ยังไงห๊า?!”

“หุบปาก พวกนายพากันเปิดโหมดทำสงครามมากันเยอะขนาดนั้นคิดจะฆ่านางหรือไง นางไม่เกี่ยวข้องสักหน่อย”

“ก็เธอไม่ใช่เหรอที่ทำให้นางมาเกี่ยวด้วย”

“งี่เง่า เจ้าแอเรียนงี่เง่า”

“เฮ้อ.. ฉันเข้าใจแล้วเทรต้า ฉันจะช่วยเธอตามหาคนที่ว่านั่นเอง แถมยังเกลี้ยกล่อมพ่อเธอช่วยเธอด้วย แต่ก่อนอื่นเธอหลบออกมาจากตรงนั้นก่อน”

“ไม่ทำหรอก ถ้าฉันทำพวกนายก็โจมตีนางทันทีสิ”

มิวที่ฟังมาถึงจุดนี้ก็ถึงกับขมวดคิ้ว.. นี่มันเรื่องอะไรกันหว่า ฟังจากที่คุยกันแล้วอีกฝ่ายดูไม่เหมือนถูกไล่ล่าเท่าไหร่เลย

เหมือนถูกตามกลับบ้านซะมากกว่าด้วยซ้ำ…

แอเรียนที่เห็นว่าเทรต้าไม่มีท่าทีว่าจะหลบออกมา เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้น

“ฉันเดาว่าเธอคงตัดการเชื่อมต่อจากไอออนเพื่อป้องกันการสะกดรอยจากพวกเราใช่ไหม ในเมื่อตอนนี้ฉันเจอเธอแล้ว เธอไม่ลองเชื่อมต่อกับไอออนดูอีกรอบล่ะ”

“หมายความว่าไง…?”

“ลองดูสิ”

เทรต้าขมวดคิ้วแล้วก็ทำตามที่แอเรียนบอกทันที ไอออนไม่ได้มีหน้าที่จับเธอยัดเข้าตารางเพราะงั้นเธอไม่มีเรื่องต้องกลัวต่อการเชื่อมต่อกับไอออน

เมื่อชุดของเธอเชื่อมต่อกับไอออน ความคิดต่างๆ ของไอออนก็ไหลพรั่งเข้ามาสู่ความคิดของเธอราวกับน้ำป่าที่ไหลหลากจนเธอต้องตัดการเชื่อมต่อของเธอทันที

นี่มัน..เกิดอะไรขึ้นกับไอออน..

เกิดอะไรขึ้นกับ….คุณยายของเทรต้า?