ตอนที่ 19 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (19)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 19 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (19)

เมื่อการถ่ายทอดสดกำลังจะปิด จู่ ๆ สวี่หลิงอวิ๋นก็ส่งข่าวใหญ่ “ถ้าพวกเราสามารถกลับไปได้อย่างปลอดภัย ฉันก็ยินดีจะจับสลากผู้โชคดีหนึ่งร้อยคนที่จะได้รับมันเทศในมือของฉัน!”

เธอเขย่ามันเทศในมือแล้วยกยิ้มอ่อน “แน่นอนว่าฉันไม่ใช่พวกมาโซคิสม์ ฉันชอบคนที่ประจบฉัน! จุ๊บ!

หลังจากส่งจูบไปที่หน้าจอแล้ว สวี่หลิงอวิ๋นก็ปิดการถ่ายทอดสดอีกครั้ง

พริกเริ่มออกผลแล้ว

หัวใจของทุกคนก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

แต่จู่ ๆ ผู้ช่วยนายพลชาร์ลก็ได้รับรายงานจากทหารช่างว่า ในอีกสามวันข้างหน้าจะมีกองทัพใหญ่ของปลาหมึกยักษ์มาจากอีกด้านหนึ่งของดวงดาว หวังว่าท่านพลเอกจะใช้มาตรการป้องกันโดยเร็วที่สุด

กองทัพนั้นใหญ่แค่ไหนงั้นเหรอ? รู้แค่ว่ามีจุดสีแดงระยิบระยับอยู่เต็มหน้าจอ ซึ่งสัญญาณเตือนนี้สามารถเตือนความแข็งแกร่งของเอเลี่ยนได้ จึงเห็นได้ว่ามีเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ที่มีระดับไม่ต่ำกว่าแปดดาว

“นี่มันเป็นศึกใหญ่ซะแล้ว!” ชาร์ลยิ้มเจื่อน ๆ เขาทำได้แค่ไปรายงานให้ท่านพลเอกโอคาซีรู้เท่านั้น

“เข้าใจแล้ว”

ระดับแปดดาวเท่ากับกับความแข็งแกร่งของเขาเอง

การซ่อมแซมทางเชื่อมมิติใช้เวลาอีกสี่วัน แทบรอไม่ไหวแล้ว!

“เอาผลพริกจำนวนมากมาสร้างเป็นกับดักแล้วกระจายข่าว” ทุกคนเฝ้าระวังมากขึ้น

ผู้ช่วยชาร์ลพยักหน้าเห็นด้วย

สวี่หลิงอวิ๋นสังเกตเห็นว่าบรรยากาศภายในค่ายเปลี่ยนแปลงไปในทันที และทุกคนก็ดูเคร่งเครียดมากราวกับว่าจุดจบของโลกกำลังใกล้เข้ามา

“มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่เหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นขวางหน้าทหารไว้แล้วถาม

ทหารเอามือลูบใบหน้าของตน “ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจมีกองทัพใหญ่ของเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ เราไม่รู้ว่าจะต้านทานได้ไหวหรือเปล่า?”

กองทัพใหญ่เหรอ? สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่ากองทัพนี้มีเยอะขนาดไหน หากมีเยอะเกินไปพวกเขาก็อาจจะไม่สามารถรับมือกับมันได้

“เราไม่สามารถอพยพออกจากที่นี่ได้เหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นคิดในใจ แหล่งแร่พลังงานเหล่านี้มีค่ามากกว่าชีวิตมนุษย์งั้นหรือ? มันคุ้มค่าพอที่จะอยู่รอจนถึงวันที่ห้าเมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงใช่มั้ย?

แต่ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้! หากไม่สามารถเก็บแร่พลังงานไว้ได้ สุดท้ายพวกมันก็จะถูกเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์เหล่านั้นกินเข้าไปและความแข็งแกร่งของมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ต้องคิดหาวิธี…

“การได้ยินของเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์เหล่านี้เป็นยังไง? เราสามารถส่งเสียงดังเพื่อขับไล่พวกมันออกไปได้หรือไม่?”

สวี่หลิงอวิ๋นไปหาโอคาซีแล้วแสดงความคิดเห็นของเธอ

แต่เธอกลับถูกผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะเยาะ” องค์หญิงสามคิดว่าพวกเราไม่เคยคิดแบบนั้นหรือไงครับ? ไม่ได้แน่นอน! ปลาหมึกยักษ์เหล่านั้นมีอวัยวะป้องกันอยู่ในหูของพวกมัน เมื่อเสียงจากภายนอกดังเกินไปพวกมันจะใช้สัญชาตญาณปิดเสียงโดยอัตโนมัติ แล้วมันจะถูกรบกวนด้วยเสียงได้ยังไงล่ะครับ?”

โอเค! ตัดจบแค่นี้!

“แล้วลักษณะอื่น ๆ ของปลาหมึกยักษ์พวกนี้ล่ะ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อสร้างปัญหาสักเล็กน้อยได้ไหม?”

“ใครพาองค์หญิงสามมาคิดแทนพวกเราเนี่ย?” ชาร์ลยังคงดูถูกและเย้ยหยันองค์หญิงสาม ผู้ชายคนนี้คงเปลี่ยนไม่ได้

สวี่หลิงอวิ๋นกลอกตาแล้วเหวี่ยงหมัดเข้ากระแทกชาร์ลเต็ม ๆ จนล้มลงกับพื้น

“ระวังปากหน่อยนะ ฮึ่ม!” การชกอย่างกะทันหันของสวี่หลิงอวิ๋นทำให้ชาร์ลตาพร่ามัว เขายืนขึ้นแล้วจ้องเขม็งมาที่เธอ สวี่หลิงอวิ๋นก็จ้องเขม็งไปที่เขาเหมือนกัน “ทำไม แกต้องการทำอะไรกับองค์หญิงคนนี้?”

ชาร์ลยืนนิ่งแล้วมองไปยังท่านพลเอกด้วยความไม่พอใจแต่ท่านพลเอกกลับเฉยเมยต่อเขาและยังตำหนิว่า “ต่อไปอย่าได้ดูหมิ่นองค์หญิงสามอีก ถ้ามีครั้งต่อไปอีกก็ทิ้งกองทัพของผมไปเถอะพลทหาร!”

เป็นครั้งแรกที่ชาร์ลได้รับการตำหนิจากท่านพลเอก เขาก้มหน้าลงราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ที่ถูกเจ้านายของมันตำหนิแล้วไปหลบขดตัวเป็นวงกลมอยู่ที่มุมห้อง

“องค์หญิงสาม โปรดบอกผมมาเถอะครับว่าท่านคิดยังไง” โอคาซีพูดอย่างสุภาพ

“หนวดของเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์นี่น่าจะไวต่อความรู้สึกมากใช่มั้ย?” สวี่หลิงอวิ๋นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เราสามารถโรยของมีคมอย่างตะปูบนพื้นได้มั้ย?”

“นั่น…” โอคาซีขมวดคิ้ว “อาจจะได้ครับ แต่เราไม่มีตะปูเยอะขนาดนั้น”

“ไม่เป็นไร เราทำเองได้นี่!”

สวี่หลิงอวิ๋นเอามือเท้าสะโพกของเธอ “บนดาวเคราะห์ต้องมีแร่เหล็กอยู่เสมอใช่มั้ย? ถึงแม้ว่าจะไม่มีแร่เหล็ก เราก็ยังสามารถหาก้อนหินได้ใช่มั้ย? การลับหินเหล่านี้ให้มีคมก็ควรจะได้ผลเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

“แน่นอนว่าทำได้ครับ!”

“ผสมกับผงพริกติดไฟของพวกเราแล้วละก็ หึหึ ฉันหวังว่าท่านสุภาพบุรุษเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ของเราคงจะไม่สบายใจนักหรอก!”

พวกทหารเข้าใจความคิดของสวี่หลิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว โอคาซีประกาศว่าเขาจะร่วมมือกับองค์หญิงสามอย่างเต็มที่เพื่อให้การปะทะครั้งนี้เสร็จสิ้นลง

จิตวิญญาณนักสู้ของทหารนั้นแน่วแน่ พวกเขาเป็นทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและเฝ้าติดตามท่านพลเอกโอคาซีผู้แข็งแกร่งที่ควบคุมกองกำลังของเขาอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะมองไม่เห็นอนาคต แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจในมือของพวกเขา

ก้อนหินทั้งหมดถูกทุบให้เป็นทรงกรวยแหลมแล้วทั้งหมดก็ถูกฝังอยู่ในหุบเขาลึก ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ปลาหมึกยักษ์กำลังมุ่งหน้ามา

ตราบใดที่พวกมันกล้าปีนขึ้นมา พวกมันจะต้องถูกเจาะรูทั่วร่างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วิธีนี้ได้ผลจริง ๆ เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์จำนวนมากถูกขวางกั้นไว้ที่ด้านหนึ่งของหุบเขา เมื่อทหารเห็นผลลัพธ์ พวกเขาก็ทำงานในมือได้เร็วยิ่งขึ้น ก้อนหินจึงถูกจัดการได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

หุบเขาสูงขนาดใหญ่นี้ถูกปกคลุมไปด้วยหินทรงกรวยที่แหลมคมเหล่านี้

ที่นั่นสวี่หลิงอวิ๋นได้เตรียมผงพริกและเตาไฟขนาดใหญ่ไว้รอเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ที่กำลังมา!

เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ระดับแปดดาวรับรู้ได้ถึงสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้า แต่มันก็ไม่ยอมหยุดและยังกระตุ้นให้พวกลูกสมุนปีนขึ้นไปที่หุบเขาแห่งนี้

สมุนผู้ภักดีเหล่านี้ไม่ลังเล แม้ว่าพวกมันจะถูกหินแหลมคมแทงทะลุหลังจากปีนขึ้นไปแต่พวกมันก็ไม่สนใจ

กองทัพของเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ที่ถูกสั่งการโดยราชาเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ระดับ 8 ดาวค่อยๆ ปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา ตอนนี้การทิ่มแทงร่างกายของพวกมันไม่ได้ผลอีกต่อไป ราชาเอเลียน 8 ดาวตัวนี้ค่อย ๆ ปีนขึ้นมา

ข้างหลังยังมีฝูงปลาหมึกยักษ์ที่ดูราวกับคลื่นทะเล

“ฉันแค่อยากจะบอกว่าดูเหมือนว่าพวกเราจะกวาดล้างพวกมันไปอย่างน้อย 2000-3000 ตัว คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีกองทัพใหญ่คอยตามหลังอีก!”

สวี่หลิงอวิ๋นรีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วเห็นว่ามีปลาหมึกยักษ์อีกอย่างน้อยหลายหมื่นตัวคอยตามหลังอยู่ พวกมันมีเยอะเกินไป! กับดักของพวกเรามีเพียงพอที่จะฆ่าได้แค่หนึ่งในสามเท่านั้น!

โอคาซีก็ตามเธอมาด้วย เครื่องจักรกลสีเงินขนาดใหญ่ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษบินเคียงข้างเครื่องจักรกลสีชมพู

“ดีมากแล้วครับ! อย่างน้อยพวกเราก็สามารถกำจัดพวกมันได้ถึงหนึ่งในสามโดยไม่มีผู้บาดเจ็บแม้แต่คนเดียว” โอคาซีปลอบเธอ

สวี่หลิงอวิ๋นยังคงผิดหวังเล็กน้อย เธอเพิ่งค้นพบอาหารและเป้าหมายชีวิตของเธอ ถ้าหญิงสาวตายที่นี่ เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะมีชาติหน้าอีกหรือไม่ และไม่รู้ด้วยว่าจะได้กินอาหารพวกนี้อีกหรือเปล่า!