บทที่ 35 ขึ้นภูเขาอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 35 ขึ้นภูเขาอีกครั้ง

บทที่ 35 ขึ้นภูเขาอีกครั้ง

กู้เสี่ยวหวานตั้งใจจะเข้าไปข้างในตามเส้นทางก่อนหน้านี้ ซึ่งกู้หนิงอันไม่ได้ปริปากส่งเสียงใด และไม่ยอมปล่อยให้กู้เสี่ยวหวานเข้าไปคนเดียว ดังนั้นทั้งสองจึงเข้าไปพร้อมกัน

กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทีตกประหม่าแต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอของกู้หนิงอัน จึงคิดว่ายามที่เจออันตรายใดบนเส้นทางนี้ นางต้องบอกให้เขารับรู้ เมื่อเขาโตขึ้นเขาจะต้องดูแลครอบครัวนี้

กู้เสี่ยวหวานและกู้หนิงอันข้ามแม่น้ำตามเส้นทางที่พวกเขาเข้าไปเมื่อวาน กู้เสี่ยวหวานจับมือกู้หนิงอันก้าวเดินฉับไว ผืนป่าอุดมสมบูรณ์หนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ นางจับมือกู้หนิงอันไว้แน่น และกระซิบกับเขาเป็นครั้งคราวให้ระวังพื้นใต้ฝ่าเท้า

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ที่กู้เสี่ยวหวานพบในครั้งที่แล้ว เด็กหญิงกวาดสายไปรอบ ๆ ไม่มีป่าทึบในที่โล่ง แสงแดดสาดส่องความอบอุ่นลงมา พร้อมกับความรู้สึกสบายตา

กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าไม่มีทางเจอโสมหรือเห็ดหลินจือในที่โล่งอันเต็มไปด้วยวัชพืชในเวลาชั่วพริบตา โสมชอบสภาพแวดล้อมเย็นชื้น เห็ดหลินจือมักเกิดบนกิ่งก้านและใบไม้ที่ตายแล้ว พื้นที่โล่งกว้างแห่งนี้ไม่น่าจะมีสิ่งเหล่านั้น หากต้องการหาเห็ดหลินจือต้องเข้าไปลึกกว่านี้

กู้เสี่ยวหวานจ้องมองไปรอบด้าน ผ่านเส้นทางที่ล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ รอบพื้นที่โล่งแห่งนี้โอบล้อมด้วยป่า ตรงเข้าไปเป็นภูเขาลึกที่ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เคยย่างกรายเข้าใกล้

ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามีสัตว์ร้ายชนิดใด เพราะคนที่รู้เรื่องนี้ไม่มีสักคนที่มีชีวิตรอดออกมา

กู้เสี่ยวหวานตื่นเต้นเล็กน้อย ภูเขาลึกและป่าทึบที่ไร้ซึ่งร่องรอยผู้คนเหยียบย้ำคงมีพืชพรรณหายากหลากหลายสายพันธุ์ หากสามารถเก็บพืชได้หนึ่งหรือสองชนิดนำไปขายในเมือง นางก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในบ้านได้!

ด้วยแรงจูงใจอันแสนยิ่งใหญ่ แม้จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดความยากจน ไม่มีเงิน ไม่มีข้าว ไม่มีบะหมี่ ไม่มีเงินไปหาหมอก็ชนะ ตอนนี้เงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครอบครัว

กู้เสี่ยวหวานตัดสินใจเด็ดขาด ต่อให้มีภูเขาดาบและทะเลเพลิงอยู่ตรงหน้า นางก็จะต้องเข้าไป ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะทะลุมิติมา นางเคยมีประสบการณ์สำรวจป่าอเมซอนมาก่อน แม้แต่ป่าอเมซอนก็พิชิตมาแล้ว นางจึงไม่เชื่อว่าตนเองจะไม่สามารถเอาตัวรอดในป่าเล็ก ๆ แห่งนี้ได้!

“หนิงอัน ข้าจะต้องเข้าไปข้างใน เจ้าจะรอข้าอยู่ตรงนี้หรือว่าจะเข้าไปพร้อมกับข้า?” กู้เสี่ยวหวานถามความเห็นของกู้หนิงอัน

หากกู้หนิงอันหวาดกลัว นางสามารถเข้าไปคนเดียวได้

“ท่านพี่ ข้าจะเข้าไปกับท่าน” กู้หนิงอันเป็นเด็กฉลาด ตอนได้ยินเรื่องท่านป้าจางพูดเมื่อเช้า กู้หนิงอันก็สามารถเดาได้ว่าพี่สาวต้องการที่จะขึ้นเขาโดยเร็วที่สุด พี่สาวของเขาต้องการขึ้นเขาเพื่อหาโสมและเห็ดหลินจือนำไปแลกเงิน!

กู้หนิงอันจะยอมให้กู้เสี่ยวหวานไปเผชิญภยันตรายคนเดียวในป่าลึกได้อย่างไร เขาเลือกที่จะเข้าป่าไปกับกู้เสี่ยวหวานโดยไม่ต้องคิด

กู้เสี่ยวหวานมองกู้หนิงอันที่มีจิตใจอันแน่วแน่ด้วยสายตาชื่นชม “ตกลง ออกเดินทางกันเถอะ!”

แม้โสมและเห็ดหลินจือในป่าลึกจะเป็นแรงจูงใจขั้นสูงของนาง แต่กู้เสี่ยวหวานยังไม่ต้องการนำชีวิตของตนและน้องชายไปแลกกับเงินเพียงน้อยนิด

กู้เสี่ยวหวานตัดสินใจที่จะเข้าไปลึกอีกเล็กน้อย กวาดสายตาสำรวจโดยรอบ หากไม่เหมาะที่จะเดินเข้าไปจริง ๆ นางจะหันหลังกลับโดยไม่ลังเล

ทั้งสองจูงมือเดินผ่านพื้นที่โล่งรกร้างเต็มไปด้วยวัชพืช ช่วงเวลาที่เหยียบเข้าไปในผืนป่าหนาทืบ อากาศแสนอบอุ่นบนพื้นที่โล่งก็ถูกแทนที่ด้วยความเย็นแสนหนาวเหน็บ

ป่าแห่งนี้หนาทึบอย่างยิ่ง ต้นไม้สูงใหญ่ยืนต้นตระหง่านทับซ้อนเรียงรายจนแสงอาทิตย์ไม่อาจสาดส่องถึงด้านล่าง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พื้นที่เปียกชื้นจะต้องมีเห็ดหลินจือขึ้นเป็นจำนวนมาก

บังเอิญว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศภายในป่าจึงเย็นเยือก

กู้เสี่ยวหวานอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ ก้าวเดินไปด้านหน้าทีละก้าวอย่างระมัดระวัง

นางไม่กล้าส่งเสียงดัง ยิ่งเดินเข้าไปลึกเข้าไป ผืนป่าก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ต้นไม้บางส่วนเริ่มผลัดใบ อากาศเปียกชื้น หลายวันก่อนมีฝนตกลงมาหลายต่อหลายครั้ง ใบไม้จึงร่วงโรยทับซ้อนหนาเป็นกองพะเนิน

แสงแดดแผดเผาลงบนต้นไม้แห้งอันว่างเปล่า ความเหน็บหนาวและเปียกชื้นเมื่อครู่พลันจางหาย หลงเหลือเพียงความอบอุ่นจากแสงแดด

กู้เสี่ยวหวานก้มหน้าก้มตาหาโสมอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องและฝีเท้าเหยียบย่ำลงบนใบหญ้าดังขึ้น กู้เสี่ยวหวานกวาดสายตามองทั่วทุกสารทิศ แต่แล้วสิ่งที่พบเจอก็ทำให้นางรู้สึกพึงพอใจ ที่แท้มันคือไก่ป่าที่กำลังออกหากินนี่เอง

ครั้นกู้หนิงอันเห็นมัน เขาจึงชี้ไปที่ไก่ป่าด้วยความตื่นเต้น รู้สึกมีความสุขหาสิ่งใดเปรียบ

“ชู่” กู้เสี่ยวหวานส่งสัญญาณให้เขาเบาเสียงลง

ดูเหมือนว่าไก่ป่าตัวนี้กำลังหาอาหาร มันมุดหัวเข้าไปในกองใบไม้ ใช้เท้าคุ้ยเขี่ยอาหารออกมา กู้เสี่ยวหวานปลดกระบุงบนหลังอย่างเงียบเชียบ ถือมันเอาไว้ในมือ ก้าวเท้าเข้าไปหาไก่ตัวนั้นเชื่องช้า

ไม่รู้ว่าช่วงฤดูหนาวไก่ป่าจะอ่อนไหวกว่าเดิมหรือไม่ มันไม่รู้ตัวจนกระทั่งกู้เสี่ยวหวานกำลังจะขยับเข้าใกล้ตัวมัน เจ้าไก่ตัวนั้นจึงส่งเสียงร้องแหลม กระพือปีกบินพยายามหลบหนี

โอกาสตกอยู่กับกู้เสี่ยวหวานนานแล้ว ไก่ป่าที่กำลังจะตกอยู่ในกำมือ นางจะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร

กู้เสี่ยวหวานพุ่งตัวฉับไว ใช้ตะกร้าคลุมตัวไก่ป่าตัวนั้นเอาไว้ด้วยทักษะอันคล่องแคล่วและแม่นยำ ไก่ป่าตัวนั้นดิ้นรนหาทางหนีทีรอด ชนกระบุงจนเกิดแรงสั่นสะเทือน แต่โชคดีที่กู้เสี่ยวหวานออกแรงกดกระบุงจนแน่น ทำให้มันไม่อาจหนีรอดไปได้

ครั้นกู้หนิงอันเห็นไก่ป่าตัวนั้นจึงวิ่งวนไปมาอย่างดีใจ “ท่านพี่ยอดเยี่ยมที่สุด!”

กู้เสี่ยวหวานยังไม่ได้ตัดสินใจ นางขอให้กู้หนิงอันจับตะกร้าเอาไว้ เหลือช่องว่างเล็ก ๆ ให้สอดมือเข้าไปได้ หลังจากนั้นคว้าหมับเข้าที่ขาของไก่ตัวนั้น เมื่อจับได้จึงบอกให้กู้หนิงอันเปิดตะกร้า ใช้เชือกมัดมันเอาไว้ไม่ให้มันกระพือปีกได้อีก

กู้หนิงอันมองไก่ในตะกร้าซึ่งมีน้ำหนักเกือบสามชั่ง “ท่านพี่สุดยอดไปเลย!”

กู้เสี่ยวหวานสะบัดผมและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ น่าเสียดายที่ผมของนางมันเยิ้ม ทำให้มันสะบัดไม่ขึ้น นางจึงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เสี่ยวหวานเก่งมาก จับอาหารได้อีกแล้ว

ไหน ๆ ก็หาเห็ดหาโสมแล้ว หาฝักของต้นสบู่กลับไปด้วยก็ดีนะคะ จะได้มีสารซักล้างไว้ใช้อาบน้ำสระผมซักผ้า

ไหหม่า(海馬)