บทที่ 16 ยึดตำแหน่งที่คู่ควรมา

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 16 ยึดตำแหน่งที่คู่ควรมา

บทที่ 16 ยึดตำแหน่งที่คู่ควรมา

หญิงสาวคนหนึ่งอุทานว่า “ฉันเป็นคนแรก พระเจ้า โชคไม่ดีเลย”

ทุกคนต่างหันไปหาผู้โชคดี

ทีมงานตบมือและดึงความสนใจกลับมา “ฉันได้บอกกับทุกคนไปแล้ว ตอนนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าการถ่ายทำนี้จะถ่ายทอดสดแล้ว เริ่มเวลา 08.30 น. และปิดกล้องเวลา 22.00 น. พวกคุณควรใส่ใจกับพฤติกรรมในที่สาธารณะ รวมถึงห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกาย สวน ฯลฯ ห้องนอนและห้องสุขาถือเป็นที่ส่วนตัว ถ้าต้องการถ่ายทำ ทีมงานของรายการจะติดต่อคุณล่วงหน้า”

“ตอนนี้เอากระเป๋าไปเก็บก่อน และหลังจากคะแนนสเตจแรกจบลง หอพักจะถูกแบ่งตามเกรด”

“เอาล่ะ เข้าไปในสตูดิโอตามหมายเลข”

ซูโย่วอี๋คิดว่าการถ่ายทอดสดแบบนี้มันสมเหตุสมผลมาก คนที่ต้องการให้กล้องจับบ่อย ๆ ก็ไปแสดงตัวในพื้นที่สาธารณะ และคนที่ไม่ชอบให้สาธารณชนสอดแนมก็สามารถซ่อนตัวอยู่ในห้องได้

หลังจากที่หมายเลขก่อนหน้าเข้ามาแล้ว คนหมายเลขถัดไปต้องรอรับสัญญาณแจ้งจากทีมงานก่อนถึงจะเข้าไปได้

เฉินซีซีมองไปที่ซูโย่วอี๋และพูดว่า “พี่สาว ถ้าฉันจะเข้าไปแล้ว พี่ต้องมาหาฉันด้วยนะ”

เฉินซีซีไปที่ประตูแล้วหันกลับมามองอย่างคาดหวัง “อย่าลืมล่ะ”

ซูโย่วอี๋ยิ้ม ราวกับบอกเธอว่าไม่ต้องห่วง เธอคือภารกิจของฉัน ฉันต้องไปหาเธออยู่แล้ว

อีกไม่นานก็ถึงหมายเลขของซูโย่วอี๋

ภายใต้คำแนะนำของทีมงาน เธอเดินผ่านห้องโถงกว้างไปยังด้านหลังเวที

ประตูเล็กเปิดออกและมีแสงจ้าส่องออกมา

ซูโย่วอี๋หยุดที่ประตูเล็กครู่หนึ่ง

ตั้งแต่ก้าวเข้ามาที่นี่ ชีวิตของเธอก็ไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ทีมงานที่ประตูกำชับว่า “เข้าไปเร็ว”

ซูโย่วอี๋หายใจเข้าลึก ๆ และเดินออกจากความมืดไปสู่แสงสว่าง

เธอยืนอยู่บนเวทีโดยหันหน้าไปทางบันได ที่นั่งถูดจัดเป็นแบบพีรามิด โดยด้านบนสุดมีเพียงที่นั่งเดียวเท่านั้น

“โปรดนั่งในระดับที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับความสามารถของคุณ”

เสียงเตือนดังขึ้นในวิทยุสื่อสาร

เมื่อเฉินซีซีเห็นเธอ เธอยืนขึ้นและโบกมืออย่างมีความสุข แต่เด็กสาวไม่สามารถตะโกนออกไปได้

ขณะนี้มีผู้ชมการถ่ายทอดสดไม่มากนัก

[เธออ้วนมาก พระเจ้า อยากจะอ้วก]

[ฉันมาดูรายการนี้เพราะอยากดูคนสวย ๆ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องมาเห็นเหรอเนี่ย]

[ฮ่า ๆ ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่รอบสัมภาษณ์บอกว่าภายในเดือนนี้จะลดให้ได้ 50 กิโลกรัม แล้วก็คว้าโควตาเข้ามา อย่าว่าแต่อ้วนเลย ฉันรู้สึกว่าเธอจะไม่มีทักษะอะไรเลย]

[ความคิดเห็นข้างบน มันใจร้ายเกินไปไหม นี่มันเป็นการตลาดเท่านั้น]

[นี่เธอมาคัดเลือกศิลปินจริง ๆ เหรอ]

[เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ คุณเห็นไหมว่าฉันยังมีโอกาส]

ซูโย่วอี๋สังเกตไปที่ที่นั่ง มีทั้งหมดห้าแถวแบ่งเป็นห้าเกรด ยิ่งที่นั่งสูงเท่าไหร่ก็หมายถึงทักษะของคนนั่งต้องสูงมากเท่านั้น ปัจจุบันไม่มีผู้เข้าแข่งขันคนไหนนั่งตำแหน่งสูงสุด แถวที่สองมีเพียงสองคนและคนที่เหลือก็อยู่แถวด้านล่าง แต่จำนวนคนในสตูดิโอก็มากกว่าครึ่งแล้ว

ดูเหมือนว่าทุกคนจะสงบเสงี่ยมและรอบคอบขึ้น

จากการประเมินความสามารถของเธอเอง อย่างน้อยเธอก็สามารถนั่งในแถวที่สามได้

แต่เธอกลับเดินตรงไปที่แถวล่างซึ่งเป็นที่นั่งสุดท้ายที่เหลืออยู่

เฉินซีซีดึงเธออย่างตื่นเต้น “พี่สาว ฉันเห็นพี่มองไปที่ตำแหน่งด้านบน ฉันคิดว่าพี่จะทิ้งฉันไปแล้ว โชคดีจังที่พี่อยู่ที่นี่ แถวแรกของตำแหน่งด้านบนสุดมันใกล้กับอาจารย์มาก”

ได้เวลาชมการแสดงแล้ว

สุนัขจิ้งจอกหาว [ฉันไม่เข้าใจ ทำไมน้องสาวคนนี้ถึงติดคุณนัก ทั้งที่สวยออกขนาดนี้]

ซูโย่วอี๋ “…”

“ว้าว พี่สาวคนนี้สวยเกินไปแล้ว”

เฉินซีซีอุทานออกมา ซูโย่วอี๋จึงมองไปที่เวที บนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งสูงอย่างน้อย 170 เซนติเมตร สวมกระโปรงสั้นที่คลุมถึงสะโพก และมีสายรัดบริเวณเอว ซึ่งเสริมให้เอวของเธอดูคอดเล็กรับกับเรียวขายาวของเธอ

ด้วยลุคที่เย็นชาของสาวบนเวทีบอกได้คำเดียวว่าไม่เหมือนใครแน่นอน

[ผู้ชนะคนแรกในรอบชิงชนะเลิศภายในของ Silk Media ชื่ออะไรนะ]

[น้องสาวของฉัน อวี๋ชิงจ้าว ฉันต้องมานั่งกินบะหมี่ที่หน้าจอเพื่อมารอดูความสวยของเธอเลยนะ]

[ความงามของเธอนั้นช่างแข็งแกร่ง ไม่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ]

[โอกาสไม่ได้เดบิวต์เพียงแค่ 0.001%]

อวี๋ชิงจ้าว ไม่แม้แต่จะขยับคิ้วของเธอเมื่อมองไปยังที่นั่ง เธอเดินไปยังที่นั่งข้างบนสุดและนั่งลง

เธอมองสายตาสงสัย หยอกล้อ และอิจฉาของกลุ่มคนด้านล่าง

[พี่สาวมีพลังมาก]

[พี่สาวเท่มาก รักเธอ]

[แบบนี้มันหยิ่งไปหน่อย]

[เธอมั่นใจขนาดนี้ ฉันว่าเธอต้องนั่งอยู่ชั้นบนสุดแน่ ถ้าฉันมีความมั่นใจแบบนั้น ฉันคงน่าดึงดูดกว่าเธอแน่]

เฉินซีซีรู้สึกอิจฉาสายตาของอวี๋ชิงจ้าวจริงๆ “เมื่อไหร่ฉันจะมั่นใจได้เท่าเธอ”

สุนัขจิ้งจอกกล่าวว่า [ซู่จู่ ความชอบของเฉินซีซีที่มีต่ออวี๋ชิงจ้าวคือ 72 ซึ่งสูงกว่าคุณมาก]

ซูโย่วอี๋กลอกตาของเธอในความเงียบ ได้โปรดหยุดพูดอะไรที่น่าหมั่นไส้เถอะ

ในใจของเธอ เธอขยับร่างอ้วน ๆ เล็กน้อย และสุนัขจิ้งจอกก็หัวเราะจนตกลงไปในพื้นที่ของระบบ

น่าเสียดายที่กล้องส่องมาที่ซูโย่วอี๋อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

[ฮ่า ๆ ให้ตาย ยัยอ้วนนี่กลอกตาอีกแล้ว นี่คือทักษะเฉพาะตัวของเธอจริง ๆ]

[พี่สาวคุณผ่านจากการสัมภาษณ์สดด้วยเหรอ? ฉันได้ดูมันอยู่นะ ตอนเธอกลอกตา ฉันประทับใจมาก]

[คำถาม มีใครคิดบ้างว่าตอนกล้องเข้าไปใกล้ใบหน้าเธอ หน้าของเธอสวยมาก? พอผอมลงแล้วก็สวยดีนะ]

[ใช่!!]

ซูหยินสามารถหาเวลาดูการถ่ายทอดสดได้ เห็นหลายคนด่าว่าซูโย่วอี๋ว่าอ้วน เธอจึงตอบกลับด้วยความโกรธ

[ยัยอ้วน ยัยอ้วน ทั้งครอบครัวแกสิอ้วน ไม่รู้จักเคารพคนอื่นหรือไง? ผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่าซูโย่วอี๋]

[เอ๊ะ ยัยอ้วนจ้างแฟนคลับมาด้วยเหรอ?]

……

ผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าสิบคนเข้ามาครบแล้ว และหลังจากนั้นอาจารย์ก็เข้ามา

ผู้ชมทั้งหมดกรีดร้องเพราะเห็นดาราตัวเป็น ๆ

เฉินซีซีจับหูกระต่ายบนกระเป๋าแล้วย่อตัวลง “พี่สาวเอินจี พี่ชายซือเฉิน และก็ลุงจง”

ซูโย่วอี๋มองไปที่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ แล้วพูดว่า “มีอะไรเหรอ?”

เฉินซีซีส่ายหัวและปฏิเสธที่จะพูด

มีอาจารย์ทั้งหมดสี่คน ได้แก่ จงลี่ ครูสอนการร้องเพลง ซือเฉินครูสอนร้องเพลงเช่นเดียวกัน ฮันเอินจี ครูสอนเต้น และ แจ็ค ครูสอนแรป

และคนที่อาวุโสที่สุดคือ จงลี่ เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสในวงการเพลงป๊อปสมัยใหม่ ส่วนซือเฉิน แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มีพรสวรรค์ ซูโย่วอี๋ไม่สนใจเรื่องการแรป และไม่รู้จักแจ็คสักนิด แต่ฮันเอินจี เธอพอรู้จักอยู่บ้าง

ตั้งแต่วัยเด็ก ห้างหุ้นส่วนฮันได้ปรากฏตัวในภาคบันเทิงด้วยภาพลักษณ์ของที่ยอดเยี่ยมและเก่งกาจ

ซูหยินเคยกล่าวไว้ว่าลูกสาวคนโตของตระกูลฮัน ฮันเอินจี เป็นคนอารมณ์ร้ายและหยิ่งทระนง ดังนั้นซูโย่วอี๋จึงมีความประทับใจที่ไม่ดีกับเธอ

ฮันเอินจียังทำหน้าที่เป็นพิธีกรนอกเหนือจากการสอนในรายการนี้ด้วย เธอจึงขึ้นมายืนบนเวทีและพูดว่า “พวกคุณพอใจกับที่นั่งปัจจุบันของคุณไหม”

หญิงสาวที่กระตือรือร้นตะโกนตอบกลับ “ไม่พอใจ”

ฮันเอินจียิ้มอย่างมีเลศนัย “ถ้าอย่างนั้นก็มาแสดงความสามารถ และยึดตำแหน่งของพวกเขาคืนกันเถอะ”

“ก่อนการแสดง เรามีแขกรับเชิญรุ่นใหญ่มา”

[ไม่เคยได้ยินว่ามีเรื่องแบบนี้มาก่อน]

[ใหญ่แค่ไหน?]

[ดูเหมือนจะมีคนมาเพิ่มชั่วคราว ซึ่งไม่รวมอยู่ในการโฆษณาครั้งก่อน]

[ไม่ว่ายังไงก็ตาม พาลูกเอินจีของฉันไปด้วย]

คิ้วของลู่เซินขมวดแน่น และผู้ช่วยของเขาก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นของเจ้านายทันที